การทำ land mark" ปลูกเป็นธรรมชาติ หรือสร้างอะไร บางทีต้องใช้การคิดและมองอนาคต กันเป็นสิบปี เช่นปลูกต้นชมพูพันธ์ทิป

กระทู้สนทนา
การทำ land mark"   ปลูกเป็นธรรมชาติ หรือสร้างอะไร บางทีต้องใช้การคิดและมองอนาคต กันเป็นสิบปี  เช่นปลูกชมพูพันธ์ทิป


ที่   เกษตรศาสตร์กำแพงแสน   ที่มีต้นชมพูพันทิพย์  ปลูกเป็นแนวยาวจนเหมือนซากุระ

ซึ่งตอนเด็กๆผมก็นึกว่ามันคือ ต้นซากุระเหมือนกัน


อาจจะเป็นการวางแผนปลูก  หรือ  บังเอิญปลูกต้นไม้แบบเดียวกัน

แล้วต่อมาพอมันโตก็เลยเป็นจุดการท่องเที่ยวไปเลย..


... สะท้อนว่า การสร้าง  การปลูกอะไร  มันต้องคิด ต้องใช้การวางแผน

ไม่ใช่ว่ามีเงินจะเสกมันขึ้นมาได้เลย


อย่างสนามบิน   รถไฟรางคู่  ไม่ทำวันนั้น  วันนี้สิบปีผ่านไปค่าก่อสร้างมันสูงหลายเท่าตัว


การผลิต นักศึกษาในภาควิชาต่างๆก็เหมือนกัน   ผลิตตามแนวยุทธศาสตร์ชาติ
แต่....  แต่ๆๆ  แต่   ยุทธศาสตร์ชาติไทย  มันค่อนข้างจะ  ไม่มีทิศทาง  สะเปะสปะ


และอีกอย่าง  คือเรามันแต่ทะเลาะเรื่องผลประโยชน์ที่จะเข้ากระเป๋าตนเอง

ถ้าทำโครงการนี้มันดี  แต่ตัวเองไม่ได้กิน พอเปลี่ยนรัฐบาลก็ล้มมันซะเลย.


ทำให้เราไม่ได้มีระบบสาธารณูปโภค หรือ แลนด์มาร์ค ใหม่ๆ   ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มมากกว่าปัจจุบัน


เพราะบางอย่างใช้งบสูง รัฐคงต้องลงทุนเอง..




ปล.  มีที่นึง  ใน  กทม.   ที่จะไปเที่ยวชมได้ คือ

อโมงค์ลอด  แยก   มไห นรก   .......
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่