อวสาน บี บางปะกง

เกิดอะไรขึ้น ทำไม่ใช้ชื่อจริงเขียนคอลัมน์แทนที่จะเป็นนามปากกา บี บางปะกง

'ซิโก้-เฮง' ผนึกกำลัง พาไทยไปบอลโลก
โดย วรเทพ มากโภคา 28 ก.พ. 2559
http://www.thairath.co.th/content/583128



การเปลี่ยน “ขั้ว” ของสมาคมลูกหนังไทย ที่ได้นายกฯ ป้ายแดง “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ุม่วง และทีมงานสภากรรมการชุดใหม่เข้ามาบริหารทำให้แฟนบอลต่างระริกระรี้มีความหวังว่าบอลไทยยุคสีกากี ที่พะยี่ห้อ “FAIR” นี่แหละวะ!

คือทาง “สว่าง” ที่จะนำพา “ฟุตบอลไทยไปฟุตบอลโลก” อย่างที่ทุกคนวาดฝันกันเอาไว้เสียที

โดยเฉพาะการนำเอา 2 ยอดโค้ชต่างยุค อย่าง “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล กับ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง มาทำงานร่วมกัน เชื่อว่าเป็นสิ่งที่แฟนลูกหนังทั้งหลายอยากเห็น



ที่สำคัญอยากจะรู้ว่าเมื่อคนนึงที่ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดปรมาจารย์แห่งวงการโค้ช มาทำงานแบ็กอัพในฐานะประธานพัฒนาเทคนิคที่เจ้าตัวหมายมั่นปั้นมือมาเนิ่นนาน

กับอีกคนที่เป็นยอดกุนซือขวัญใจมหาชน ที่มีแฟนๆหนุนหลังทั้งประเทศจากผลงานปลุกกระแสเรียก “ศรัทธา” ให้มวลมหาประชาบอลกลับมาเทใจเชียร์ขุนพลช้างศึกได้สำเร็จอีกครั้ง

เมื่อมารวมพลังกันจริงๆแล้ว ทีมชาติไทยของเราจะสาวเท้าก้าวทะยานไปข้างหน้าได้สักขนาดไหน?

ความจริงทั้ง “โค้ชเฮง” และ “ซิโก้” ไม่ได้ร่วมงานกันเป็นครั้งแรก แต่ทั้งคู่เคยสร้างความสำเร็จให้ทีมชาติร่วมกันมาแล้ว เมื่อครั้งทีมไทยไปคว้าเหรียญทองกีฬาซีเกมส์ เมื่อปี 1997 ที่จาการ์ตา อินโดนีเซีย โดยครั้งนั้น “เดอะเฮง” เป็นเฮดโค้ช ส่วน “ซิโก้”คือศูนย์หน้าจอมตีลังกา



แต่เส้นทางสายทีมชาติของทั้งคู่ต้องมาสิ้นสุดลง เมื่อ “ซิโก้” และเพื่อนซี้ อย่างตะวัน ศรีปาน กับดุสิต เฉลิมแสน ถอนตัวไม่ได้ร่วมทำศึกไทเกอร์คัพในปีถัดมาที่เวียดนาม ซึ่งเกิดเหตุการณ์อัปยศนักเตะอิเหนายิงเข้าประตูตัวเองทำให้ทีมไทยกลายเป็นจำเลยข้อหาไม่ยอมเล่นเต็มที่

และคนที่ต้องกลายเป็น “แพะ” รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็คือคนที่ชื่อ “วิทยา เลาหกุล” คนนี้นี่เอง!

หลายปีต่อมา “ซิโก้” กับ “โค้ชเฮง” โคจรมาร่วมงานกันอีกครั้ง ภายใต้ชายคาของทีม “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี แต่คราวนี้เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง มาในบทบาทกุนซือใหญ่ ส่วน “เฮงซัง” คือประธานเทคนิค แต่ทำงานกันได้แค่ปีเดียวก็แยกย้าย เพราะผลงานไม่เป็นไปตามเป้า

ดังนั้นการกลับมาประสานมือทำงานร่วมกันอีกครั้งให้กับประเทศชาติ ในยุคที่มีผู้นำเป็นถึงอดีต ผบ.ตร.ในคราวนี้ จึงเป็นที่จับตาอย่างยิ่ง

โดยโปรเจกต์แรกที่ “บิ๊กอ๊อด” มอบหมายให้ทั้งคู่ทำร่วมกันก็คือ การร่วมกันเขียนโรดแม็ป ระยะยาว 10 ปี ในการพัฒนาวงการลูกหนังและทีมชาติไทยให้ก้าวไปสู่ระดับโลก



“ผมมีการบ้านมอบให้ “ซิโก้” และ “โค้ชเฮง” ในฐานะประธานฝ่ายเทคนิคที่ดูแลวางโครงสร้างอะคาเดมี่และร่วมพัฒนาทีมชาติไทย โดยให้แต่ละคนทำแผนงานในสิ่งที่ตนเองจะต้องรับผิดชอบมาเสนอ โดยโค้ชเฮงจะต้องเขียนแผนงานอะคาเดมี่ที่รับผิดชอบมาจะทำอะไรบ้างในการพัฒนาเยาวชนไปสู่ทีมชาติ อีกทั้งผมต้องการให้โค้ชเฮงและซิโก้ร่วมกันเขียนแผนโรดแม็ป 10 ปีล่วงหน้า เพื่อที่จะวางแผนถึงอนาคตทีมชาติไทยใน 10 ปีข้างหน้าจะไปได้ไกลแค่ไหน เพื่อจะได้รู้แนวทางทำงานและเงินที่จะใช้ไปตามโรดแม็ปว่าจะต้องใช้มากแค่ไหน ซึ่งจากการได้พูดคุยกับผู้ใหญ่ที่ชื่นชอบฟุตบอล ทุกคนบอกถ้ามีโรดแม็ปชัดเจน ก็ยินดีสนับสนุนทุกด้านที่ทำได้” นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯกล่าวถึงภารกิจที่ทั้ง 2 โค้ชต้องรับไปดำเนินการ

ส่วนเรื่องของงบประมาณที่จะใช้ในโครงการโรดแม็ป 10 ปีนั้น ประมุขบอลไทยเผยว่า อาจจะต้องใช้เงินมหาศาลถึง 1,000 ล้านบาทก็เป็นได้เพื่อนำไปเสนอผู้ที่ต้องการสนับสนุนวงการลูกหนังไทยต่อไป

ซึ่งก็ต้องขอเป็นกำลังใจให้ “บิ๊กอ๊อด” ทำบิ๊กโปรเจกต์นี้ให้สำเร็จ โดยเฉพาะกับ “ทีมชาติ” ที่เปรียบเสมือนสินค้าหน้าโชว์รูม ถ้ารูปลักษณ์ผลงานออกมาดูดีมีทรวดทรง รับประกันว่าอะไรๆมันก็หอมหวานไปหมด

แต่หลังจากนี้เกิดทุกอย่างมันตรงกันข้าม

ท่านก็จงเตรียมใจไว้เถิดว่า “โรดแม็ป”ที่อยากจะเห็น

อาจไม่สะดวกโยธินอย่างที่ควรจะเป็น!!!


วรเทพ มากโภคา...เรื่อง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่