ส่งความรู้สึกโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม
เมื่อวานนี้ผมมีโอกาสได้ฟังเพลงบรรเลงเปียโนเพลงหนึ่ง ที่ถึงแม้ว่าท่วงทำนองของเพลงที่บรรเลงออกมาจะแฝงไปด้วยความเศร้าแต่ก็เป็นท่วงทำนองเพลงที่ผู้บรรเลงสามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างไพเราะจับใจเหลือเกิน จนสามารถสะกดผู้ฟังทั่วทั้ง คาร์เนกีฮอลล์ (Carnegie Hall) ให้ซึมซับไปกับท่วงทำนองเพลงรวมถึงตัวผมด้วย และเมื่อสังเกตลึกลงไปผมก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจอย่างมากที่ผู้บรรเลงเพลงเปียโนคนนั้นเป็น
ผู้พิการทางสายตา เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มากที่ผู้พิการทางสายตาจะมีความสามารถบรรเลงเพลงที่ไพเราะจับใจได้ถึงขนาดนี้ และเมื่อเสียงดนตรีจบลงเสียงปรบมือของผู้ฟังก็ดังกึกก้องไปทั่วทั้ง คาร์เนกีฮอลล์ (Carnegie Hall) เป็นเวลานาน เป็นความประทับใจที่สวยงาม ยิ่งใหญ่และสง่างามจนเกินบรรยายสำหรับคนๆหนึ่งที่สามารถจะขึ้นมายืนอยู่บนจุดนี้ได้ทั้งๆที่คนๆนั้นคือผู้พิการทางสายตา
Nobuyuki Tsujii เกิดเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2531 ที่กรุงโตเกียว ประเทศ ญี่ปุ่น ปัจจุบันอายุ 28 ปี เขาเป็นผู้พิการทางสายตามาตั้งแต่กำเนิด แต่ความบกพร่องทางสายตาของเขากลับกลายเป็นพรสวรรค์ที่ทำให้เขาสามารถเล่นเปียโนได้อย่างยอดเยี่ยม จนสามารถ
ชนะเลิศรางวัลเหรียญทองในการแข่งขันเปียโนอินเตอร์เนชั่นแนลVan Cliburn เมื่อปี 2009 กลายเป็นนักเปียโนฝีมือระดับโลกได้ในที่สุด
คุณแม่ของ Nobuyuki เริ่มสังเกตเห็นความพิเศษจากตัวเขาที่สนใจในเสียงดนตรีมาตั้งแต่ช่วงที่เขาอายุได้ 2 ขวบ จนเมื่อ Nobuyuki อายุได้ 4 ขวบ เขาก็มีโอกาสได้สัมผัสกับชีวิตการเล่นเปียโนเป็นครั้งแรก และ
จากการสนับสนุนของครอบครัวของเขาอย่างเต็มที่ ที่ไม่เคยมองว่าการเป็นผู้พิการทางสายตา คือข้อบกพร่องที่เป็นปมด้อยที่จะต้องเก็บเขาไว้แต่ในบ้านอย่างเงียบๆโดยไม่ปล่อยให้เขามีอิสระในการใช้ชีวิต ให้โลดแล่นไปตามจินตนาการ ตามความฝันที่เขาอยากจะเป็น Nobuyuki จึงถูกเลี้ยงดูเหมือนเด็กทั่วๆไป โดยมีเสียงเปียโนที่คอยช่วยเติมเต็มความฝันให้กับชีวิตของเขาเอง
ด้วยความบกพร่องทางสายตา Nobuyuki จึงต้องเรียนรู้และฝึกซ้อมการเล่นเปียโนจากการฟัง แต่ด้วยพรสวรรค์ที่มีอยู่ในตัวของเขาทำให้เขาสามารถจดจำตัวโน๊ตจากเสียง และลงคอร์ดเปียโนได้อย่างแม่นยำราวกับตาเห็น
แน่นอนว่ากว่าที่ Nobuyuki จะก้าวขึ้นมาเป็นนักเปียโนฝีมือระดับโลกได้ เขาต้องผ่านการเรียนรู้และการฝึกฝน อย่างยากลำบาก แต่ด้วยความพยายามและความอดทน ที่จะเดินไปตามความฝันของเขาทำให้เขาสามารถก้าวข้ามความบกพร่องทางร่างกายไปได้และเดินไปสู่จุดหมายได้ในที่สุด
Nobuyuki ไม่เคยได้สัมผัสกับความสวยงามของโลกใบนี้ด้วยสายตาของเขาเอง ความสวยงามที่เขาสัมผัสได้คือความรักความอบอุ่น ความเข้าใจของคนในครอบครัว และบุคคลรอบข้างของเขา ที่ช่วยหล่อหลอมให้หัวใจของเขาให้เป็นหัวใจที่สวยงามบริสุทธิ์
แม้ว่า Nobuyuki จะมีความบกพร่องทางร่างกาย แต่จิตใจของเขากลับไม่ได้พกพร่องไปตามสภาพร่างกายที่เกิดขึ้นกับตัวเขาเลย Nobuyuki ร่วมบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากสึนามิ และไว้อาลัยให้กับผู้สูญเสียผ่านท่วงทำนองเพลงที่เขาบรรเลงทั้งน้ำตา ณ. คาร์เนกีฮอลล์ (Carnegie Hall) เป็นที่ติดตาตรึงใจของผู้คนทั่วโลกที่ได้รับชมการแสดงนั้น
ภาพที่มา : www.rogovoyreport.com
สิ่งที่ Nobuyuki ได้แสดงออกมาให้ทุกคนได้เห็นนั้น คือสิ่งที่คนทั้งโลกสามารถสัมผัสได้ว่าเขาคือ
อัจฉริยะทางการดนตรีของโลก..ผ่านเสียงดนตรีที่กลั่นออกมาจากหัวใจที่บริสุทธิ์ของเขาเอง
แล้วท่านล่ะครับได้เรียนรู้อะไรจากเสียงที่กลั่นออกมาจากหัวใจของ Nobuyuki Tsujii บ้างรึปล่าวครับ
Nobuyuki Tsujii หลั่งน้ำตาขณะเล่นเปียนโน ที่คาร์เนกีฮอลล์ (CARNEGIE HALL) เพื่อไว้อาลัย ให้แก่ผู้ประสบภัยจากสึนามิวันที่ 11 มีนาคม 2011 ในประเทศญี่ปุ่น
Nobuyuki Tsuji กับเพลงประกอบภาพยนต์เรื่อง Kamisama no Karute ที่บรรเลงโดยเขาเอง
ตัวอย่างโฆษณาภาพยนต์ Touching the Sound: The Improbable Journey of Nobuyuki Tsujii เรื่องราวชีวิตของ Nobuyuki Tsujii
ส่งความรู้สึกโดย : คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม
เสียงจากหัวใจ Nobuyuki Tsujii : โดย คุณชายมะนาว..กับหุ้นสายสีลม
เมื่อวานนี้ผมมีโอกาสได้ฟังเพลงบรรเลงเปียโนเพลงหนึ่ง ที่ถึงแม้ว่าท่วงทำนองของเพลงที่บรรเลงออกมาจะแฝงไปด้วยความเศร้าแต่ก็เป็นท่วงทำนองเพลงที่ผู้บรรเลงสามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างไพเราะจับใจเหลือเกิน จนสามารถสะกดผู้ฟังทั่วทั้ง คาร์เนกีฮอลล์ (Carnegie Hall) ให้ซึมซับไปกับท่วงทำนองเพลงรวมถึงตัวผมด้วย และเมื่อสังเกตลึกลงไปผมก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจอย่างมากที่ผู้บรรเลงเพลงเปียโนคนนั้นเป็น ผู้พิการทางสายตา เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มากที่ผู้พิการทางสายตาจะมีความสามารถบรรเลงเพลงที่ไพเราะจับใจได้ถึงขนาดนี้ และเมื่อเสียงดนตรีจบลงเสียงปรบมือของผู้ฟังก็ดังกึกก้องไปทั่วทั้ง คาร์เนกีฮอลล์ (Carnegie Hall) เป็นเวลานาน เป็นความประทับใจที่สวยงาม ยิ่งใหญ่และสง่างามจนเกินบรรยายสำหรับคนๆหนึ่งที่สามารถจะขึ้นมายืนอยู่บนจุดนี้ได้ทั้งๆที่คนๆนั้นคือผู้พิการทางสายตา
Nobuyuki Tsujii เกิดเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2531 ที่กรุงโตเกียว ประเทศ ญี่ปุ่น ปัจจุบันอายุ 28 ปี เขาเป็นผู้พิการทางสายตามาตั้งแต่กำเนิด แต่ความบกพร่องทางสายตาของเขากลับกลายเป็นพรสวรรค์ที่ทำให้เขาสามารถเล่นเปียโนได้อย่างยอดเยี่ยม จนสามารถชนะเลิศรางวัลเหรียญทองในการแข่งขันเปียโนอินเตอร์เนชั่นแนลVan Cliburn เมื่อปี 2009 กลายเป็นนักเปียโนฝีมือระดับโลกได้ในที่สุด
คุณแม่ของ Nobuyuki เริ่มสังเกตเห็นความพิเศษจากตัวเขาที่สนใจในเสียงดนตรีมาตั้งแต่ช่วงที่เขาอายุได้ 2 ขวบ จนเมื่อ Nobuyuki อายุได้ 4 ขวบ เขาก็มีโอกาสได้สัมผัสกับชีวิตการเล่นเปียโนเป็นครั้งแรก และจากการสนับสนุนของครอบครัวของเขาอย่างเต็มที่ ที่ไม่เคยมองว่าการเป็นผู้พิการทางสายตา คือข้อบกพร่องที่เป็นปมด้อยที่จะต้องเก็บเขาไว้แต่ในบ้านอย่างเงียบๆโดยไม่ปล่อยให้เขามีอิสระในการใช้ชีวิต ให้โลดแล่นไปตามจินตนาการ ตามความฝันที่เขาอยากจะเป็น Nobuyuki จึงถูกเลี้ยงดูเหมือนเด็กทั่วๆไป โดยมีเสียงเปียโนที่คอยช่วยเติมเต็มความฝันให้กับชีวิตของเขาเอง
ด้วยความบกพร่องทางสายตา Nobuyuki จึงต้องเรียนรู้และฝึกซ้อมการเล่นเปียโนจากการฟัง แต่ด้วยพรสวรรค์ที่มีอยู่ในตัวของเขาทำให้เขาสามารถจดจำตัวโน๊ตจากเสียง และลงคอร์ดเปียโนได้อย่างแม่นยำราวกับตาเห็น
แน่นอนว่ากว่าที่ Nobuyuki จะก้าวขึ้นมาเป็นนักเปียโนฝีมือระดับโลกได้ เขาต้องผ่านการเรียนรู้และการฝึกฝน อย่างยากลำบาก แต่ด้วยความพยายามและความอดทน ที่จะเดินไปตามความฝันของเขาทำให้เขาสามารถก้าวข้ามความบกพร่องทางร่างกายไปได้และเดินไปสู่จุดหมายได้ในที่สุด
Nobuyuki ไม่เคยได้สัมผัสกับความสวยงามของโลกใบนี้ด้วยสายตาของเขาเอง ความสวยงามที่เขาสัมผัสได้คือความรักความอบอุ่น ความเข้าใจของคนในครอบครัว และบุคคลรอบข้างของเขา ที่ช่วยหล่อหลอมให้หัวใจของเขาให้เป็นหัวใจที่สวยงามบริสุทธิ์
แม้ว่า Nobuyuki จะมีความบกพร่องทางร่างกาย แต่จิตใจของเขากลับไม่ได้พกพร่องไปตามสภาพร่างกายที่เกิดขึ้นกับตัวเขาเลย Nobuyuki ร่วมบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากสึนามิ และไว้อาลัยให้กับผู้สูญเสียผ่านท่วงทำนองเพลงที่เขาบรรเลงทั้งน้ำตา ณ. คาร์เนกีฮอลล์ (Carnegie Hall) เป็นที่ติดตาตรึงใจของผู้คนทั่วโลกที่ได้รับชมการแสดงนั้น
สิ่งที่ Nobuyuki ได้แสดงออกมาให้ทุกคนได้เห็นนั้น คือสิ่งที่คนทั้งโลกสามารถสัมผัสได้ว่าเขาคือ