ทริปนี้เป็นทริปสั้นๆค่ะ  สองวันหนึ่งคืนที่ระนอง ตั้งใจจะไปดำน้ำที่เกาะ cock' comb เป็นทะเลฝั่งพม่า โดยจองเป็นวันเดย์ทริป อีกวันไม่มีแพลนค่อยไปคิดต่อเอาข้างหน้า เริ่มต้นทริปที่สายใต้ใหม่ นั่งรถทัวร์ไปลงที่สถานีขนส่งระนอง แล้วจะมีรถสองแถวที่ทัวร์จัดให้มารับไปที่ท่าเรือแกรนด์อันดามัน พอถึงท่าเรือก็ไปที่จุดเช็คอิน แล้วยื่นเอกสารทำเรื่องผ่านแดน จัดแจงฝากของเปลี่ยนเสื้อผ้าล้างหน้าล้างตาแล้วไปหาของกินที่ทัวร์จัดไว้ให้ มีโจ้กกับขนมปัง ก่อนจะลงเรือ

ที่ท่าเรือ


นั่งเรือไปไม่นานก็ถึงเกาะเกือกม้า เกาะนี้ไม่มีอะไรมากแวะจอดถ่ายรูป สีน้ำทะเลเขียวใสเชียว


นั่งเรือไปอีกไม่นานเราก็ถึงจุดดำน้ำจุดแรก คือเกาะดอกไม้
ที่นี่มีดอกไม้ทะเลเยอะสมชื่อ และมีดอกไม้ทะเลที่ไหนก็ต้องมีปลาการ์ตูนที่นั่น




ดาวมงกุฏหนาม


หอยมือเสือ

และที่เซอร์ไพรส์มากคือเจอฉลามหูดำด้วย (รูปอาจไม่ค่อยชัดนะคะ)


หลังจากดำน้ำที่จุดแรก จุดต่อไปคือเกาะ Dunkin เราแวะกินข้าวเที่ยงที่นี่ค่ะ หาดทรายขาวและสงบดี




มีรอยเท้าเต่าที่ขึ้นมาวางไข่ด้วย


หลังกินข้าวเสร็จเราก็ไปที่ไฮไลท์ของทริป คือเกาะ Cock' comb หรือเกาะหัวใจมรกต ซึ่งมองจากข้างล่างไม่เห็นเป็นรูปหัวใจหรอกค่ะ ต้องมองจากล้องมุมสูง เราต้องดำน้ำเข้าไปภายใน แต่ที่ไฮไลท์จริงๆอยู่ที่ปากทางเข้า ปะการังสวยมากค่ะ มีทั้งกัลปังหา แต่ถ่ายรูปมาไม่ชัดเพราะน้ำตรงนี้ค่อนข้างลึก ถ้ามีกล้องดีๆ คงจะเจ๋งมากเลยค่ะ








หนวดนี้คือหนวดกุ้งลอบเตอร์ค่ะ ตัวมันซ่อนอยู่ข้างใน

ฝูงปลาเล็กๆ พออยู่เป็นกลุ่มใหญ่ๆก็ดูตระการตาดี

ปลาปั๊กเป้าค่ะ หาเจอมั้ย


ภายในเกาะค่ะ



ดำน้ำจุดที่สามค่ะ เป็นจุดสุดท้ายแล้วคือเกาะย่านเชือก ลืมบอกไปว่าเราว่ายน้ำไม่เป็นค่ะ แต่มีคนของทัวร์ลากเราไปค่ะ ถ้าให้ดำเองคงลอยกลับเรือไม่ได้ค่ะ






ปลานกแก้วกับปะการังสีม่วง

เจอหนอนฉัตรเยอะมาก เราชอบมาก สีสวยเป็นปุยๆน่ารักดี




นีโม่และดอกไม้ทะเลก็เยอะ



และที่เซอไพรส์ (อีกแล้ว) เจอปลาสิงโตด้วยค่ะ ไม่คิดว่าดำน้ำตื้นก็จะเจอ



หลังดำน้ำเสร็จแวะที่โรงแรมแกรนด์อันดามันคลับ ที่ฝั่งพม่าแวะอาบน้ำและกินข้าวเย็นก่อนข้ามฝั่งกลับระนอง
วิวพระอาทิตย์ตกดินที่ห้องอาหารค่ะ


หลังจากกลับถึงฝั่งเข้าไปเชคอินที่ๆพักเรียบร้อย ได้ข่าวว่าวันนี้มีถนนคนเดิน(เค้าบอกว่ามีทุกวันเสาร์) ก็จึงเดินไปถนนคนเดิน จากที่พักไปถนนคนเดินก็ไกลอยู่ ประมาณ 2 กม.ได้ เดินไปถามทางไปเรื่อย ถือซะว่าเดินเล่น ที่จริงแถวๆถนนคนเดินมีที่พักอยู่เยอะค่ะ แต่จองไม่ทัน

เด็กน้อย

แวะกินขนมจีน เครื่องเคียงเยอะดี ที่ขาดไม่ได้เลยคือใบเหลียง


จบทริปวันแรกไปแล้วก็อาบน้ำนอนคือหลับสนิทมาก แพลนวันที่สองเป็นแบบไม่รีบเร่ง อย่างที่บอกยังไม่คิดมาแบบเบ็ดเสร็จ คงเน้นเดินเที่ยว เดินหาของกินไปเรื่อยๆค่ะ ตื่นเช้ามา(ถือว่าสาย)เดินไปกินโรตีบังกี อยู่ห่างจากที่พัก 1.2 กม. แล้วเดินกลับมาอาบน้ำเชคเอ้าท์ ออกจากที่พัก เอาของไปฝากไว้ที่ท่ารถ (กลับรถรอบสองทุ่ม) ระหว่างนั้นจึงคิดว่าลองไปเดินสะพานปลาเล่นดูดีไหม๊ เห็นมีป้ายบอกทาง จึงได้โบกสองแถวไป พอไปถึงแค่นั้นแหละ จึงได้ถามตัวเองว่ามาทำไม T_T แล้วจึงนั่งรถกลับไปตั้งหลักที่ตลาดสด มีท่ารถไปกะเปอร์ แต่เราไปไม่ถึงกะเปอร์เพราะคิดว่าเวลาคงไม่พอ จึงได้ถามทางไปภูเขาหญ้า มีรถสองแถวที่จะกะเปอร์ผ่าน ป้าที่นั่งรถสองแถวไปด้วยก็ใจดีบอกว่าเดี๋ยวป้าบอกคนรถให้ว่าจอดที่ไหน
ตลาดยามเช้า เรารู้สึกว่าระนองเป็นเมืองเล็กๆ แต่มีตลาดเยอะมาก

แยกนี้ที่เดินผ่าน

และเรามาทำอะไรที่สะพานปลา ซึ่งมีแต่คนงานนั่งคัดปลา และกลิ่นที่อบอวน

ภูเขาหญ้ากับแดดตอนบ่ายสองโมง





แล้วก็นั่งรถสองแถวกลับมาที่เมืองระนอง ในใจอยากไปดูพระอาทิตย์ตกที่เขาฝาชี แต่กลัวไม่ทันรถ จึงเดินเล่นๆแถวๆนี้เพื่อฆ่าเวลา
ที่ตลาดสดมีรถสองแถวจอดอยู่มากมาย ค่ารถสองแถวไปเขาหญ้า ไป-กลับ 36 บาท

ป้ายร้านค้าที่นี่ส่วนใหญ่จะมีสองภาษา


แล้วก็เดินขึ้นไปที่ศาลากลางหลังเก่าของเมืองระนอง อยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ

แล้วก็เจอกับตัวนี้


กลับลงมาที่พระราชวังรัตนรังสรรค์


เดินไปเรื่อยๆ


จบทริปที่โรตรีหน้าท่ารถ อันนี้เป็นโรตีแกงเขียวหวาน คืออร่อยมาก


ระนองเป็นเมืองเล็กๆน่ารักดีค่ะ คนทีนี่ก็น่ารัก  ถ้าได้มาแล้วจะหลงรัก

ปล. อีกนิดหนึ่ง ปิดทริปที่วัดอรุณแล้วกันค่ะ พอดีนั่งรถมาถึง กทม ตอนเช้ามืด ก็เลยไปนั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นที่วัดอรุณ แล้วเดินเล่นที่พระนครซักหน่อย