สวัสดีครับ ก่อนอื่นต้องขอเท้าความก่อนว่า จริงๆ แล้ว แพลนจะไป ฮอกไกโด ตอนช่วงเดือนมีนาคม 2559 เพราะตั๋วซื้อโปรโมชั่นตอนเปิดตัว Thai Airasia X บินไปลง New Chitose Airport (CTS) แต่เส้นทางบินนี้ดันถูกยกเลิกไปเสียก่อน พอช่วงปลายปี 58 ที่ผ่านมา ได้ทราบข่าว โปรโมชั่นของ Singapore Airline เส้นทางบินญี่ปุ่นจากเพจ อาแปะ
https://www.facebook.com/ArPaeDotCom/ ในราคาโปรโมชั่นมีเส้นทางหลักทุกเส้นทาง ยกเว้น CTS ครับ...
พอกดดูวัน เราจบที่ BKK-NRT-BKK via สิงคโปร์ สนนราคาที่ 13,xxx บาท รออะไรล่ะครับ รีบจอง แล้วไป Refund ตั๋ว Thai Airasia X สิครับ ทริปนี้จึงเกิด เดินทาง 13-20 กุมภาฯ ครับ ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
1. วันที่ 14 ก.พ. เป็นวันสุดท้ายที่มี Shirakawago light up (ซี่งเราต้องจองให้ทันทั้งๆที่หลายๆทัวร์เต็มไปหมดแล้ว)
2. เราออกจากญี่ปุ่นวันที่ 20 ก.พ. ถึงสิงคโปร์ตอนเช้ามืดวันที่ 21 และมีเวลาเปลี่ยนเครื่อง 6 ชม. ซึ่งแน่นอนเราจะออกไปกินข้าวมันไก่
3. 22 ก.พ. เป็นวันหยุดมาฆะบูชา ซึ่งเราต้องการกลับมาพัก เพราะคิดว่าเราคงวิ่งตามรถไฟอย่างหักโหม 55
4. (สำคัญสุด) ถ้าต้องการไป 7 วัน (จะใช้ JR all pass ได้เต็มลิมิต) 13-20 ก.พ. เป็นช่วงเดียว ทีได้ราคาโปรฯถูกที่สุด
แรงบันดาลใจของสถานที่ที่จะไปในทริปนี้มาจาก แผ่นพับของ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น
http://www.jnto.or.th
หวังว่าข้อมูลที่ผมรวบรวมไว้จะเป็นประโยชน์นะครับ...
Chapter 1 ก่อนเดินทาง ::
โจทย์ต่อมา คือ JR Pass ที่เราจะใช้เดินทางตลอดทริป ... เนื่องจากเป็นทริปที่ได้จากโปรโมชั่น และมีเวลาแพลนไม่มาก ประกอบกับค่าเงินเยนที่ขึ้นอย่างไม่เกรงใจมนุษย์โปรฯ(โมชั่น)อย่างเราเลย อีกทั้งพอเช็คดูแล้ว จะไม่มีงานท่องเที่ยวฯ ก่อนวันเดินทางของเราให้ไปสอย JR pass ราคาประหยัดได้เลย มีแต่โปรฯ นี้ของ JTB ร่วม JCB หักลบแล้ว เราจ่ายค่า JR pass ในราคา 8,250 บาท
[รูปจาก
https://www.facebook.com/JCBCardThailandTH]
ในช่วงที่ไปทางเราได้ศึกษาแล้วว่ามีเคมเปญเด็ดที่มนุษย์ล่าโปรฯ อย่างเราไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
- Hokkaido Premium Ticket เป็นตั๋วแทนเงินสดไว้สำหรับใช้ในร้านที่กำหนด เราสามารถซื้อสินค้าในราคา Tax free แล้วใช้ตั๋วนี้จ่าย เหมือนลด on top ไปอีก 40% เพราะตั๋วนี้จำหน่ายชุดละ 6,000 เยน แต่มีมูลค่า 10,000 เยน ตั๋วมีวันขายและวันหมดอายุตามที่รัฐบาลกำหนด ต้องจองไปก่อน
https://www.go-to-hokkaido.com
- มีบัตร JCB PREMO แจก ในบัตรมีเงิน 1,000 เยน ลงทะเบียนผ่านแอพ (มีคู่มือให้) แล้วนำเงินในบัตรใช้ซื้อของแทนเงินสดใน Lawson ได้
[ทั้ง Premium Ticket และ JCB PREMO ติดต่อรับได้ที่ CTS Airport ]
- ใช้บัตร JCB ที่ตึกม่วง Takeya ลด 10% จากราคา Tax free
ทั้งหมดนี้ติดตามข่าวได้จากลิงค์ด้านล่าง ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
https://www.facebook.com/hokkaidofanclub
https://www.facebook.com/JCBCardThailandTH/
https://www.facebook.com/Japanthaifanclub-171184692941905
ที่พัก ::
ในคืนแรก เราไปดู Light up ซึ่งจะกลับมาตอนดึก เราจึงเลือกพักที่ Takayama (Hida Takayama Washington Hotel Plaza) ข้อดีคือ ออกจากสถานีรถไฟข้ามถนนมาเจอเลย ห้องพักค่อนข้างเล็ก แต่ไม่ถึงกับอึดอัด สะอาด และอาหารเช้าของโรงแรมนี้ก็ดีงามเช่นกัน
ส่วนอีก 5 คืนที่เหลือ เราพักกับ Toyoko inn ทั้งหมด ประหยัด ใกล้สถานีรถไฟหลัก ไม่นอนรวม ห้องน้ำส่วนตัว ห้องได้มาตรฐานเดียวกันทุกสาขา มีอาหารเช้า(เค้าเคลมว่าเป็น Simple Japannese) และที่สำคัญ พัก 10 คืนฟรี 1 คืน สะสมได้ไม่หมดอายุ
http://www.toyoko-inn.com/eng/index.html อ้อ..ยังมีอีกอย่างเห็นป้ายข่าวในโรงแรมแว๊บๆว่า โรงแรมนี้เคยทำสถิติมีการจองห้องพักทุกสาขาที่เปิดบริการเต็มทุกห้อง 100% มาแล้ว สำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยพักที่นี่นะครับ...
ห้องพักที่นี่จะคล้ายๆ เรียกว่าเหมือนกันทุกสาขาเลยก็ว่าได้ มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบครับ สบู่ ยาสระผม ไดร์เป่าผม เครื่องทำน้ำอุ่น อ่างอาบน้ำ แปรงยาสีฟัน แอร์ ฮีทเตอร์ ทีวี ตู้เย็น โคมไฟ ถ้าห้องสูบบุหรี่ ก็จะมีเครื่องฟอกอากาศให้ในห้องด้วย ครบ!!
ส่วนอาหารเช้า หลักๆ จะมี
1. สลัดผัก
2. ข้าว (บางทีเป็นข้าวปั้น บางทีเป็นข้าวผัดซีอิ้ว,ข้าวผัดผงกะหรี่ หรือข้าวสวยธรรมดาก็มี)
3. กับข้าว (อันนี้ไม่รุ้จะเรียกว่าอะไรดี บางทีเป็นขนมจีบ บางทีเป็นไส้กรอก ลูกชิ้นไก่ ไข่หวาน)
4. ซุปมิโสะ
5. เครื่องดื่ม น้ำเปล่า น้ำส้ม ชา กาแฟ
6. ขนมปัง เนย แยม
Chapter 2 แพลน ::
เนื่องจากเราบินไปลงโตเกียวเราจึงค่อยๆ ขยับจากโตเกียวขึ้นมาวันละนิดๆ จนถึงฮอกไกโด แล้วบินจากฮอกไกโดลงมาทีนาริตะ เพื่อนั่งเครื่องกลับ โดยโปรโมชั่นของ Vanilla Air 4,990 Yen
โดยแพลนการเดินทางของเรามีดังนี้
1. หมู่บ้าน Shirakawago
2. ลิงแช่ออนเซ็นที่ Nagano
3. Zao Onsen
4. Hakodate
5. Asahikawa
6. Sounkyo
7. Otaru
8. Sapporo
และ 9. Singapore City เป็นของแถม
พร้อมแล้วเริ่มเดินทางครับ..
อาหารขาไป ปลาราดซอสกับมันบด, สลัดแซลมอนรมควัน และ เค้ก
ต่อด้วยมื้อดึกในเลานจ์ ที่ Changi International Airport เป็นไก่สะเต๊ะ อร่อยมากก
และได้เวลาเดินทางจากสิงคโปร์สู่นาริตะ SQ638 ไฟลท์นี้ประทับใจมาก ทั้งเครื่องใหม่มาก และไม่แปลกใจเลยที่ SQ ได้รางวัล Best Entertainment เจ๋งมาก จอใหญ่มาก หนังเยอะ Serviceดีมาก อาหารอร่อยมาก มันPerfect มากจริงๆนะ 555 ดูรูปเอาละกัน...
จอที่รีโมทบอกเวลาถึงโตเกียว
เมนูอาหาร-เครื่องดื่มที่จะเสิร์ฟ ในไฟลท์นี้
และแล้วอาหารว่างซีฟู้ดของผมก็มา เป็นอาหารคลีนประกอบด้วย ปลา กุ้ง และหอยเชล์ ( สาบานเถอะว่าเพิ่งอิ่มมาจาก Lounge)
main course เป็นข้าวผัดกุ้งกับฮะเก๋า
และ Adele ก็มากล่อมให้ฝันดีเจอกันเช้าวันวาเลนไทน์...
7.30 AM This is captain speaking, we are now landed at Tokyo Narita International Airport.
ชานเมืองโตเกียว,ภาพแรก..
ไม่น่าเชื่อว่าเราใช้เวลารับกระเป๋า, ผ่าน immigration, แลกตั๋ว JR pass และ จองรอบรถไฟ ในเวลาไม่ถึง 40 นาที
8.13AM นั่ง N'EX จาก Airport จากนาริตะมา โตเกียวเพื่อต่อไปยัง Toyama และ Takayama เราพยายามเลือกรถไฟให้เหลือเวลาเปลี่ยนรถไฟพอสมควร เผื่อเวลาแวะร้านสะดวกซื้อ และโอกาสที่รถไฟจะ Delay เป็นไปได้สูงในฤดูหนาว // เจ้าหน้าที่สถานีได้กล่าวไว้
เปลี่ยนรถไฟที่ Toyama
สถานีToyama //เช้าวาเลนไทน์
หลังจาก check-in ที่โรงแรม อาบน้ำเสร็จ เราก็รีบมาเคลียเรื่องตั๋วรถบัสที่จะไปดู light up ที่จองไว้
ส่วนการจัดงาน Shirakawago light up นั้นจะมีขึ้นในช่วงเดือน มค.- กพ. ทุกปี โดยจะจัดในคืนวันเสาร์ - อาทิตย์ ประกาศ จัดทั้งหมด 7 วัน ใช่ครับ 1 ปีมีแค่ 7 วัน และถ้านั่งรถบัสไปเที่ยวแบบเวลาปกติทั่วไป ก็จะไม่มีรอบรถในช่วง light up แน่นอน เพราะมันเป็นช่วงเวลาที่ไม่ปกติ ปีละ 7 วันเท่านั้น
http://www.takayama-gh.com.e.sk.hp.transer.com/ankinitour/shizen/lightup/index.html
การจองรถบัส Light up tour นั้น ทั่วไปมีอยู่ 3 แบบ คือ
1. นอนโรงแรม พร้อม บัสทัวร์ ซึ่งต้องซื้อพร้อมการจองผ่านโรงแรมนั้นๆ มีหลายที่ เลยครับ
http://tour.j-hoppers.com/shirakawago-lightup/
http://www.yokoso-japan.jp/en/69145.html?waad=GktiEFdv
http://www.isitetakayama.com/pg66.html
2.ซื้อแต่ แพคเกจทัวร์ จะมี 2 แบบ คือ รวมอาหาร 1 มื้อ กับไม่มีอาหาร แบบมีอาหารรถจะออกเร็วกว่า เพราะต้องเผื่อเวลาไปทานอาหาร
http://www.nouhibus.co.jp/english/index.html
http://www.japanican.com/en
//ทัวร์จะขึ้นในเว็บไซต์ช่วงเดือน ต.ค. เป็นต้นไป พร้อมวันจอง
3.ซื้อทัวร์จากหัวเมืองใหญ่ เช่น โตเกียว เกียวโต โอซาก้า นาโกย่า แต่จะแพง เพราะเดินทางไกลกว่า เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่มี JR pass หรือ เวลารถไฟไม่ได้มากกว่า
http://www.japanican.com/en
หรือถ้าทั้งหมดที่ว่านี้จองไม่ทัน คงต้อง taxi หรือไม่ก็ต้องเช่ารถขับไปเองละครับ ถ้าจองก่อนนานๆ ก็มีสิทธิ์เลือกตามใจชอบ แต่ถ้าจองใกล้ แบบผม ก็ต้องเลือกตามเวลาเริ่มทัวร์ (ตรงเวลาเป๊ะ) ว่า รถไฟในวันที่เราไปถึง สามารถขึ้นรถบัสทันไหม? และมีแบบเดียวที่ทัน ไม่มีสิทธิ์เลือกครับ คือ จองผ่าน nohi bus แบบไม่มีอาหาร รถออกเวลา 15.50 น. คนละ 4,420 เยน ไม่มีไกด์ ได้มาเพียง ตั๋วขึ้นรถ เบอร์รถ แผนที่ และเวลารถออก จองผ่าน
http://www.nouhibus.co.jp/english/index.html
ญี่ปุ่นอีกสักครั้งกับโปรฯสิงคโปร์แอร์ไลน์ วิ่งขึ้นรถไฟJRไปถึงฮอกไกโด เอาให้หนาวสะท้าน ตามสไตล์มนุษย์ล่าโปรฯ[Day1]
พอกดดูวัน เราจบที่ BKK-NRT-BKK via สิงคโปร์ สนนราคาที่ 13,xxx บาท รออะไรล่ะครับ รีบจอง แล้วไป Refund ตั๋ว Thai Airasia X สิครับ ทริปนี้จึงเกิด เดินทาง 13-20 กุมภาฯ ครับ ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
1. วันที่ 14 ก.พ. เป็นวันสุดท้ายที่มี Shirakawago light up (ซี่งเราต้องจองให้ทันทั้งๆที่หลายๆทัวร์เต็มไปหมดแล้ว)
2. เราออกจากญี่ปุ่นวันที่ 20 ก.พ. ถึงสิงคโปร์ตอนเช้ามืดวันที่ 21 และมีเวลาเปลี่ยนเครื่อง 6 ชม. ซึ่งแน่นอนเราจะออกไปกินข้าวมันไก่
3. 22 ก.พ. เป็นวันหยุดมาฆะบูชา ซึ่งเราต้องการกลับมาพัก เพราะคิดว่าเราคงวิ่งตามรถไฟอย่างหักโหม 55
4. (สำคัญสุด) ถ้าต้องการไป 7 วัน (จะใช้ JR all pass ได้เต็มลิมิต) 13-20 ก.พ. เป็นช่วงเดียว ทีได้ราคาโปรฯถูกที่สุด
แรงบันดาลใจของสถานที่ที่จะไปในทริปนี้มาจาก แผ่นพับของ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น http://www.jnto.or.th
หวังว่าข้อมูลที่ผมรวบรวมไว้จะเป็นประโยชน์นะครับ...
Chapter 1 ก่อนเดินทาง ::
โจทย์ต่อมา คือ JR Pass ที่เราจะใช้เดินทางตลอดทริป ... เนื่องจากเป็นทริปที่ได้จากโปรโมชั่น และมีเวลาแพลนไม่มาก ประกอบกับค่าเงินเยนที่ขึ้นอย่างไม่เกรงใจมนุษย์โปรฯ(โมชั่น)อย่างเราเลย อีกทั้งพอเช็คดูแล้ว จะไม่มีงานท่องเที่ยวฯ ก่อนวันเดินทางของเราให้ไปสอย JR pass ราคาประหยัดได้เลย มีแต่โปรฯ นี้ของ JTB ร่วม JCB หักลบแล้ว เราจ่ายค่า JR pass ในราคา 8,250 บาท
[รูปจากhttps://www.facebook.com/JCBCardThailandTH]
ในช่วงที่ไปทางเราได้ศึกษาแล้วว่ามีเคมเปญเด็ดที่มนุษย์ล่าโปรฯ อย่างเราไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
- Hokkaido Premium Ticket เป็นตั๋วแทนเงินสดไว้สำหรับใช้ในร้านที่กำหนด เราสามารถซื้อสินค้าในราคา Tax free แล้วใช้ตั๋วนี้จ่าย เหมือนลด on top ไปอีก 40% เพราะตั๋วนี้จำหน่ายชุดละ 6,000 เยน แต่มีมูลค่า 10,000 เยน ตั๋วมีวันขายและวันหมดอายุตามที่รัฐบาลกำหนด ต้องจองไปก่อน https://www.go-to-hokkaido.com
- มีบัตร JCB PREMO แจก ในบัตรมีเงิน 1,000 เยน ลงทะเบียนผ่านแอพ (มีคู่มือให้) แล้วนำเงินในบัตรใช้ซื้อของแทนเงินสดใน Lawson ได้
[ทั้ง Premium Ticket และ JCB PREMO ติดต่อรับได้ที่ CTS Airport ]
- ใช้บัตร JCB ที่ตึกม่วง Takeya ลด 10% จากราคา Tax free
ทั้งหมดนี้ติดตามข่าวได้จากลิงค์ด้านล่าง ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
https://www.facebook.com/hokkaidofanclub
https://www.facebook.com/JCBCardThailandTH/
https://www.facebook.com/Japanthaifanclub-171184692941905
ที่พัก ::
ในคืนแรก เราไปดู Light up ซึ่งจะกลับมาตอนดึก เราจึงเลือกพักที่ Takayama (Hida Takayama Washington Hotel Plaza) ข้อดีคือ ออกจากสถานีรถไฟข้ามถนนมาเจอเลย ห้องพักค่อนข้างเล็ก แต่ไม่ถึงกับอึดอัด สะอาด และอาหารเช้าของโรงแรมนี้ก็ดีงามเช่นกัน
ส่วนอีก 5 คืนที่เหลือ เราพักกับ Toyoko inn ทั้งหมด ประหยัด ใกล้สถานีรถไฟหลัก ไม่นอนรวม ห้องน้ำส่วนตัว ห้องได้มาตรฐานเดียวกันทุกสาขา มีอาหารเช้า(เค้าเคลมว่าเป็น Simple Japannese) และที่สำคัญ พัก 10 คืนฟรี 1 คืน สะสมได้ไม่หมดอายุ http://www.toyoko-inn.com/eng/index.html อ้อ..ยังมีอีกอย่างเห็นป้ายข่าวในโรงแรมแว๊บๆว่า โรงแรมนี้เคยทำสถิติมีการจองห้องพักทุกสาขาที่เปิดบริการเต็มทุกห้อง 100% มาแล้ว สำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยพักที่นี่นะครับ...
ห้องพักที่นี่จะคล้ายๆ เรียกว่าเหมือนกันทุกสาขาเลยก็ว่าได้ มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบครับ สบู่ ยาสระผม ไดร์เป่าผม เครื่องทำน้ำอุ่น อ่างอาบน้ำ แปรงยาสีฟัน แอร์ ฮีทเตอร์ ทีวี ตู้เย็น โคมไฟ ถ้าห้องสูบบุหรี่ ก็จะมีเครื่องฟอกอากาศให้ในห้องด้วย ครบ!!
ส่วนอาหารเช้า หลักๆ จะมี
1. สลัดผัก
2. ข้าว (บางทีเป็นข้าวปั้น บางทีเป็นข้าวผัดซีอิ้ว,ข้าวผัดผงกะหรี่ หรือข้าวสวยธรรมดาก็มี)
3. กับข้าว (อันนี้ไม่รุ้จะเรียกว่าอะไรดี บางทีเป็นขนมจีบ บางทีเป็นไส้กรอก ลูกชิ้นไก่ ไข่หวาน)
4. ซุปมิโสะ
5. เครื่องดื่ม น้ำเปล่า น้ำส้ม ชา กาแฟ
6. ขนมปัง เนย แยม
Chapter 2 แพลน ::
เนื่องจากเราบินไปลงโตเกียวเราจึงค่อยๆ ขยับจากโตเกียวขึ้นมาวันละนิดๆ จนถึงฮอกไกโด แล้วบินจากฮอกไกโดลงมาทีนาริตะ เพื่อนั่งเครื่องกลับ โดยโปรโมชั่นของ Vanilla Air 4,990 Yen
โดยแพลนการเดินทางของเรามีดังนี้
1. หมู่บ้าน Shirakawago
2. ลิงแช่ออนเซ็นที่ Nagano
3. Zao Onsen
4. Hakodate
5. Asahikawa
6. Sounkyo
7. Otaru
8. Sapporo
และ 9. Singapore City เป็นของแถม
พร้อมแล้วเริ่มเดินทางครับ..
อาหารขาไป ปลาราดซอสกับมันบด, สลัดแซลมอนรมควัน และ เค้ก
ต่อด้วยมื้อดึกในเลานจ์ ที่ Changi International Airport เป็นไก่สะเต๊ะ อร่อยมากก
และได้เวลาเดินทางจากสิงคโปร์สู่นาริตะ SQ638 ไฟลท์นี้ประทับใจมาก ทั้งเครื่องใหม่มาก และไม่แปลกใจเลยที่ SQ ได้รางวัล Best Entertainment เจ๋งมาก จอใหญ่มาก หนังเยอะ Serviceดีมาก อาหารอร่อยมาก มันPerfect มากจริงๆนะ 555 ดูรูปเอาละกัน...
จอที่รีโมทบอกเวลาถึงโตเกียว
เมนูอาหาร-เครื่องดื่มที่จะเสิร์ฟ ในไฟลท์นี้
และแล้วอาหารว่างซีฟู้ดของผมก็มา เป็นอาหารคลีนประกอบด้วย ปลา กุ้ง และหอยเชล์ ( สาบานเถอะว่าเพิ่งอิ่มมาจาก Lounge)
main course เป็นข้าวผัดกุ้งกับฮะเก๋า
และ Adele ก็มากล่อมให้ฝันดีเจอกันเช้าวันวาเลนไทน์...
7.30 AM This is captain speaking, we are now landed at Tokyo Narita International Airport.
ชานเมืองโตเกียว,ภาพแรก..
ไม่น่าเชื่อว่าเราใช้เวลารับกระเป๋า, ผ่าน immigration, แลกตั๋ว JR pass และ จองรอบรถไฟ ในเวลาไม่ถึง 40 นาที
8.13AM นั่ง N'EX จาก Airport จากนาริตะมา โตเกียวเพื่อต่อไปยัง Toyama และ Takayama เราพยายามเลือกรถไฟให้เหลือเวลาเปลี่ยนรถไฟพอสมควร เผื่อเวลาแวะร้านสะดวกซื้อ และโอกาสที่รถไฟจะ Delay เป็นไปได้สูงในฤดูหนาว // เจ้าหน้าที่สถานีได้กล่าวไว้
เปลี่ยนรถไฟที่ Toyama
สถานีToyama //เช้าวาเลนไทน์
หลังจาก check-in ที่โรงแรม อาบน้ำเสร็จ เราก็รีบมาเคลียเรื่องตั๋วรถบัสที่จะไปดู light up ที่จองไว้
ส่วนการจัดงาน Shirakawago light up นั้นจะมีขึ้นในช่วงเดือน มค.- กพ. ทุกปี โดยจะจัดในคืนวันเสาร์ - อาทิตย์ ประกาศ จัดทั้งหมด 7 วัน ใช่ครับ 1 ปีมีแค่ 7 วัน และถ้านั่งรถบัสไปเที่ยวแบบเวลาปกติทั่วไป ก็จะไม่มีรอบรถในช่วง light up แน่นอน เพราะมันเป็นช่วงเวลาที่ไม่ปกติ ปีละ 7 วันเท่านั้น
http://www.takayama-gh.com.e.sk.hp.transer.com/ankinitour/shizen/lightup/index.html
การจองรถบัส Light up tour นั้น ทั่วไปมีอยู่ 3 แบบ คือ
1. นอนโรงแรม พร้อม บัสทัวร์ ซึ่งต้องซื้อพร้อมการจองผ่านโรงแรมนั้นๆ มีหลายที่ เลยครับ
http://tour.j-hoppers.com/shirakawago-lightup/
http://www.yokoso-japan.jp/en/69145.html?waad=GktiEFdv
http://www.isitetakayama.com/pg66.html
2.ซื้อแต่ แพคเกจทัวร์ จะมี 2 แบบ คือ รวมอาหาร 1 มื้อ กับไม่มีอาหาร แบบมีอาหารรถจะออกเร็วกว่า เพราะต้องเผื่อเวลาไปทานอาหาร
http://www.nouhibus.co.jp/english/index.html
http://www.japanican.com/en
//ทัวร์จะขึ้นในเว็บไซต์ช่วงเดือน ต.ค. เป็นต้นไป พร้อมวันจอง
3.ซื้อทัวร์จากหัวเมืองใหญ่ เช่น โตเกียว เกียวโต โอซาก้า นาโกย่า แต่จะแพง เพราะเดินทางไกลกว่า เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่มี JR pass หรือ เวลารถไฟไม่ได้มากกว่า http://www.japanican.com/en
หรือถ้าทั้งหมดที่ว่านี้จองไม่ทัน คงต้อง taxi หรือไม่ก็ต้องเช่ารถขับไปเองละครับ ถ้าจองก่อนนานๆ ก็มีสิทธิ์เลือกตามใจชอบ แต่ถ้าจองใกล้ แบบผม ก็ต้องเลือกตามเวลาเริ่มทัวร์ (ตรงเวลาเป๊ะ) ว่า รถไฟในวันที่เราไปถึง สามารถขึ้นรถบัสทันไหม? และมีแบบเดียวที่ทัน ไม่มีสิทธิ์เลือกครับ คือ จองผ่าน nohi bus แบบไม่มีอาหาร รถออกเวลา 15.50 น. คนละ 4,420 เยน ไม่มีไกด์ ได้มาเพียง ตั๋วขึ้นรถ เบอร์รถ แผนที่ และเวลารถออก จองผ่าน http://www.nouhibus.co.jp/english/index.html