คุณจะอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้อย่างไร?

มีผู้หญิงสวยคนหนึ่งป่วยเป็นโรคหัวใจ วันนึงเกิดหัวใจวายขึ้นมา ญาติรีบพานำส่งโรงพยาบาล แพทย์ได้พยายามปั๊มหัวใจยื้อชีวิต แต่ไม่เป็นผล หล่อนได้สิ้นใจ แพทย์ได้ทำการตรวจจนแน่ใจว่าเสียชีวิตแล้วจริงๆ เช่น ไม่มีชีพจร หัวใจหยุดเต้น ม่านตาไม่ตอบสนอง แต่ที่น่าแปลกคือ สภาพร่างกายผิวหนังยังดูมีน้ำมีนวลเหมือนกับคนนอนหลับ ญาติเสียใจมากและยังไม่ยอมรับว่าหล่อนตายแล้วตราบใดที่ร่างกายยังไม่มีทีท่าว่าจะมีการเน่าสลายส่งกลิ่นเหม็นเกิดขึ้นและมีความหวังว่าหล่อนอาจฟื้นคืนชีพได้  ได้ขอร้องแพทย์ไม่ต้องฉีดฟอร์มาลีน และให้นำศพบรรจุในโลงแอร์ที่อุณหภูมิประมาณ 25 องศาเซลเซียส ยังไม่พอแค่นั้น ยังเอาโทรศัพท์มือถือที่ชาร์จแบ็ตจนเต็มใส่ในมือของผู้ตายลงไปในนั้นด้วย เผื่อว่าถ้าหล่อนฟื้นขึ้นมาไม่มีแรงถีบโลงหรือส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ก็ยังจะพอจะกดโทรศัพท์โชว์เบอร์มาหาได้ จนโลงศพได้ไปตั้งในศาลาวัดผ่านไป 2 คืนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งคืนสุดท้ายก่อนที่จะถูกทำพิธีฌาปนกิจ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา แต่ญาติกลับพากันกลัวและหวาดผวาจนไม่กล้ารับสาย เพราะตอนนั้นเชื่อว่ายังไงหล่อนก็ไม่ฟื้นแน่ๆ เพราะมันผ่านมาหลายวันแล้ว ร่างกายคงจะเน่าแล้วแน่ๆ คิดว่าโดนผีหลอกเข้าให้แล้ว เลยพากันปิดเครื่องเลย จนกระทั่งถึงเวลาจะนำโลงเข้าเมรุเผา ก็จะต้องเปิดฝาโลงออกก่อน ณ ตอนนั้น สิ่งที่ทำให้พวกญาติๆ แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองนั่นก็คือสภาพร่างกายของผู้หญิงคนนั้นกลับไม่ได้เน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็นแต่อย่างใด เพียงแต่ผิวหนังดูซีดเซียวเท่านั้นเอง และเหมือนโชคชะตายังเข้าข้างแบบเส้นยาแดงผ่าแปด เมื่อญาติคนหนึ่งได้หยิบเอามือถือจากมือผู้หญิงที่นอนในโลงมาตรวจสอบพบว่ามีการกดโทรออกนับสิบๆ ครั้งๆ จึงมั่นใจว่าหล่อนยังไม่ตาย จึงได้รีบนำตัวส่ง รพ.โดยด่วน แพทย์ตรวจวินิจฉัยแล้วพบว่าผู้หญิงคนนั้นหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย และได้รับการรักษาจนฟื้นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง นับว่าเป็นปาฏิหาริย์และความโชคดีในความโชครายของผู้หญิงรายนี้ ที่รอดพ้นจากมัจจุราชมาได้ ส่วนอนาคตจะเป็นยังไง จะมีชีวิตอยู่ต่ออีกนานแค่ไหน ก็สุดแท้แต่กรรม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่