ดูต้นฉบับได้ที่ : http://www.dexspace.co/event-experience-samsung-galaxy-unpacked-2016/

ปฏิเสธไม่ได้แล้วว่างานเปิดตัวมือถือแต่ละค่ายสำคัญแค่ไหนในยุคนี้
นอกจากจะโชว์ฟีเจอร์ใหม่ของมือถือตัวท็อปว่าทำอะไรได้บ้างแล้ว
ยังเป็นงานโชว์ Vision และ Direction ที่แต่ละบริษัทจะทำในแต่ละปีอีกด้วย
เพราะอิทธิพลของการใช้มือถือทำให้โลกเราเปลี่ยนไปอย่างมากในระยะเวลาไม่กี่ปี
ดังนั้นมาดูกันว่า ในปีนี้ค่ายอย่าง Samsung จะมีอะไรมาให้ตื่นเต้นกันบ้าง
โดยบล็อคนี้อาจจะไม่ได้สนใจเรื่องสเป็คของสินค้ามากนัก เพราะเว็บอื่นน่าจะลงกันหมดแล้ว
เราจะโฟกัสในเรื่องประสบการณ์ที่ได้รับจากการ Presentation ของ Samsung
และหนทางข้างหน้า ว่า Samsung จะมีทิศทางอย่างไรในโลกมือถือ



1.เวที 360 องศา ไม่รู้จะแอบสื่อว่า VR ตัวใหม่มองได้ 360 หรือเปล่า
ฉากเปิด Presentation หลังจากจบ Video เปิดงานปีนี้เจ๋งมากครับ
เพราะจัดเวทีแบบ 360 องศา มีกล่องใบยักษ์ครอบเวทีอยู่ตรงกลาง
หลังจาก Video จบ กล่องก็เปิดขึ้นทั้งสี่ด้าน มีจอล้อมรอบอยู่ด้านบน
ข้อเสียของเวที 360 องศาคือ คนดูจะไม่ได้สบตาคนพูดเท่าไหร่นัก
อาจจะต้องดูจากจอด้านบนแทนสำหรับคนที่อยู่ด้านหลังและด้านข้าง
แต่การเปิดตัวให้อลังการแบบนี้จะทำให้อารมณ์คนดูตื่นเต้น และรู้สึกสนใจในงานมากขึ้น
เป็นการเปิด Presentation ที่ดีมากๆ งานนึง



2.การวางลำดับ Presentation อย่างดี
ปีนี้ลำดับการ Presentation เป็นดังนี้ครับ

– D.J. Koh [President of Mobile Communications Business] ที่มาถึงก็ให้ใส่แว่น เปิดคลิป S7 โดยไม่ต้องลีลาอะไรมากเลย ไม่ต้องเอากราฟยอดขายมาโชว์แบบแอปเปิลเลย
– Justin Denison [Vice President, Product Strategy and Marketing at Samsung Electronics America] ถัดจากการเปิดตัว ดีเทลต่างๆ ก็ให้ฝรั่งคนนี้เป็นคนพูดแบบจัดเต็ม ฟังชัด อะไรใหม่ อะไรไม่ใหม่ อะไรดีกว่าไอโฟน เทียบกันไปตรงๆ เป็นปีที่พูดได้เคลียร์และชัดดีครับ
– Tim Sweeney [Founder of Epic Games] ขึ้นมาโชว์กราฟฟิกของเกมส์มือถือแบบใหม่ ที่อลังการงานสร้างเวอร์ๆ ตามสูตรการเปิดตัวมือถือที่ต้องขายตลาดเกมส์หน่อย
– แล้วเชิญคุณ D.J. ขึ้นมาอีกรอบ รอบนี้ขาย Vision ทั้งหมดของ Samsung เลยครับ เป็น Part ที่สำคัญมากในสายตาผม
– Pranav Mistry [Vice President Research] มาขาย Project Beyond และของใหม่อย่าง Samsung Gear 360 มีจอไว้มอง Content แบบ Gear VR มานานแล้ว ต้องมีกล้องไว้ถ่าย Content ด้วย
– และ Mark Zuckerberg มาโชว์การจับมือครั้งใหญ่กับ Samsung ปิดงาน

ที่ชื่นชมคือ ปีนี้ Head of Mobile แม้จะเป็นคนเกาหลีเองมาเป็นคนบรรยาย
แต่ก็เป็นภาษาอังกฤษที่พอจะฟังรู้เรื่องพอสมควร สัมผัสได้ว่าเป็น Part ที่อยากให้หัวหน้าใหญ่มาถ่ายทอด Vision ของ Samsung ด้วยตัวเอง
และใน Part แบบที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษชัดๆ อย่างตอนแนะนำฟีเจอร์หลักของ S7
ก็ใช้ Justin Denison พนักงานในอเมริกามาเป็นคนอธิบาย ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องภาษาเลย

สำหรับปีนี้ใช้ Concept : Present คนเดียว
บางปีจ้างพิธีกรดังๆ มา บางปีก็ใช้พิธีกรคู่ สลับบทไปมา
ส่วนตัวคิดว่าประสบการณ์การฟังของปีนี้ง่ายกว่ากันเยอะ
สำหรับงาน Presentation การออกแบบที่ดีที่สุดก็คงไม่มีอะไรนอกเหนือไปกว่า
การสื่อสารที่รู้เรื่อง แม้ภาษาจะเป็นอุปสรรคบ้างของบริษัทที่แม่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ
แต่สำหรับ Samsung ปีนี้ ก็สัมผัสได้ถึงความเนี้ยบดี สื่อสารได้รู้เรื่องชัดเจน
พูดตรงสไลด์ Content ครบ อารมณ์ชัด มาแนวสุขุม หรูๆ เท่ๆ ใช้เวลา 1 ชั่วโมงเป๊ะๆ เลยทีเดียว




3.ประสบการณ์คนฟัง กับ แว่น Gear VR 2 รอบ และ Surprise จากคุณชายมาร์ค
ปีนี้เป็นปีเริ่มต้น VR อย่างแท้จริง
สังเกตจากสิ่งใกล้ตัวคืองาน TME ที่สิริกิติ์​ที่ผ่านมา
มือถือเรือธงจากจีนเกือบทุกค่ายแถม VR ให้ด้วยตอนซื้อ
Samsung ที่มี Gear VR อยู่แล้วจะมาเปิดตัวแบบธรรมดาๆ ได้อย่างไร
ดังนั้นเลยทำการเปิดตัวในงานโดยการเอา VR วางไว้ให้กับทุกคนที่เข้าร่วมงาน
นอกจากนี้ยังมีการปล่อยแอพ Unpacked 360 View app
ไว้ชมการถ่ายทอดสดทางบ้านสำหรับคนที่มี Gear VR อยู่แล้วด้วย
ตอนกำลังจะเปิด Video เปิดตัว Galaxy S7 พิธีกรก็บอกให้ทุกคนใส่แว่น
และโชว์กราฟฟิคอลังการก่อนจะเปิดตัวมือถือเรือธงประจำปี
มีข้อสังเกตนิดหน่อยคือ จะมีการประกาศให้ใส่และถอดแว่น อาจจะรู้สึกขัดๆ บ้าง
Samsung ไม่ใช่เจ้าแรกที่ทำแบบนี้ เพราะปีที่แล้ว การเปิดตัว One Plus Two ก็มีการใช้แว่นแบบนี้ผ่านแอพ OnePlus 2 Launch เหมือนกัน

ไฮไลท์มันเกิดหลังจากการเปิดตัว Samsung Gear 360 Camera กล้องรอบทิศทางตัวใหม่
ก็ลองให้คนดูใส่แว่นอีกรอบ เพื่อดู Video ที่ถ่ายมาจากกล่องตัวนี้
เมื่อดูเสร็จ ผมก็สงสัยว่าทำไมคราวนี้ไม่บอกให้ถอด ให้คนดูถอดเอง
พอถอดเท่านั้นแหละ เจอมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก รออยู่บนเวทีเรียบร้อย
ถือเป็นเซอร์ไพรส์เล็กๆ ที่ทำให้คนในงานรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอีกรอบ
การใช้ VR และออกแบบความเซอร์ไพรส์ในงาน
จะเป็นเทคนิคใหม่ๆ คนดูรู้สึกพิเศษ
แม้ว่าจะไม่ใช่แบรนด์แรกที่ทำ แต่การยึดความทรงจำแรกให้ได้ก่อน
เมื่อไหร่ที่คนคิดถึง VR คนก็อาจจะนึกถึง Samsung เป็นรายแรกๆ



4.เราทำทุกอย่างไปหมดแล้ว เหลืออะไรให้เราทำได้อีก
มาสวนทางกับหลายเจ้า ที่พยายามจะโชว์สิ่งใหม่ๆ
แต่ Samsung ออกสินค้าทุกอย่างมานานแล้ว ครบทุกไลน์การผลิตแล้ว
เลยไม่มีอะไรมาเปิดตัวมากนัก นอกจากกล้อง Samsung Gear 360
ดังนั้น การ Presentation จึงไม่มีการกั๊ก แต่รีบเปิดตัวมือถือเลยทันที ตั้งแต่เริ่มเปิดตัว
Process ของการ Presentation จึงรีบขายฟังก์ชั่นมือถือ
โชว์สเป๊คใหม่แบบเบาๆ อะไรเทียบกับคู่แข่งอย่างไอโฟนได้ ก็ทำสไลด์มาเทียบ
แล้วจบ มาเริ่ม Part ที่น่าสนใจมากๆ ได้แก่การอธิบายถึงแนวทางใหม่ของซัมซุง
นั่นคือการใช้โมเดล Products Services และ Partners

ที่มันน่าสนใจอยู่ตรง Partners นี่แหละครับ
โลกธุรกิจไม่มีมิตรแท้ และศัตรูที่ถาวร
ทั้งๆ ที่ใช้แอนดรอยด์ Samsung ไม่ค่อยจะเอ่ยถึง OS ที่ตัวเองใช้บนเวทีเลยในหลายๆ ปี
ความพยายามในหลายปีที่ผ่านมาที่พยายามจะบิ้ว Ecosystem ของตัวเองขึ้นมาไม่สำเร็จสักที
แอพหลายตัวต้องถูกปิดไปเพราะคนยังใช้แอพของกูลเกิลมากกว่าแอพ Samsung อยู่ดี
แต่ครั้งนี้กับเห็นความพยายามครั้งใหม่ ที่เหมือนจะวางตัวเองเป็นผู้ทำ Products
และค่อยสนับสนุนให้เกิด Services ใหม่ๆ กับ Partners มากขึ้น

ทั้งเรื่องการเชื่อมโยง Samsung PAY กับธนาคารต่างๆ ทั่วโลก
การจับมือกับค่ายเกมส์เกือบทุกค่ายเพื่อช่วยพัฒนาเกมส์ใหม่ๆ
การใช้ Samsung Knox ในการเพิ่ม Security และ Privacy ของ Service ต่างๆ ในอนาคตให้เข้ากับมือถือมากขึ้น เช่นการใช้มือถือ Connect กับรถยนต์อย่างสมบูรณ์แบบผ่าน Gadget ใหม่อย่าง Samsung Connect Auto ที่เปิดตัวก่อนงาน
และยังมี Partner อีกจำนวนมาก ในการสร้างสิ่งต่างๆ ร่วมกับ Samsung ให้เหนือไปกว่ามือถือธรรมดา




และ Partners ที่สำคัญจนต้องให้พื้นที่ Slide ใหญ่โตจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก
การแทรก Logo ของ Google และ Facebook มาอยู่บนเวที samsung ในฐานะพันธมิตร
การตัดสินใจ ฆ่าไม่ได้ก็เป็นมิตรเลยและกันกับ Google
แลกการแลก Content และ App ในส่วน VR กับ Facebook
อาจจะเป็นกลยุทธ์ใหม่ที่พร้อมจะโตไปพร้อมๆ กันดีกว่าพยายามโตด้วยตัวคนเดียวมานานก็ได้

ในมุมของคนเขียนข่าวที่ต้องการเอาข้อมูลมือถือไปขายให้กับผู้บริโภคอาจจะรู้สึกเบื่อ
เมื่อ Samsung ไม่เอาทุกฟีเจอร์มาเปิดตัวบนเวที
แต่ให้รู้เอาเองตอนลองตัว Demo เช่น Live Photo เวอร์ชั่น Samsung
แต่สำหรับคนที่สนใจ Vision ของ Samsung ในอนาคต ผมว่างานนี้เห็นอะไรเยอะมากเลยจริงๆ