เมื่อใกล้ๆสินปี 58 เราและครอบครัวไปเที่ยวเขาใหญ่
ดองรูปไว้เกือบ 2 เดือน ได้เวลาหยิบมาตกแต่ง ขัดเกลา แล้วทำมินิรีวิวซะหน่อย
สวัสดีสิ้นปีแล้ว (มาช้าไปหน่อย) อย่ากระนั้นเลยไปเที่ยวกันดีกว่า
ทริปนี้ออกเดินทาง 27 ธันวาคม เป็นช่วงธันวาหน้าร้อนสุดๆ
ไปในทีมครอบครัว ครอบครัวที่มีพ่อแม่แก่ กับลูกๆโตนะ
เรื่องของเรื่องคือ ที่เขาใหญ่มีสวนน้ำเปิดใหม่ เราอยากไปโดนมาก
เลยชวนพ่อแม่ไป คือไร!!!ชวนพ่อแม่วัยใกล้เกษียรไป Senical World
ต้องเข้าใจนะ อารมณ์ประมาณว่าเป็นคนติดพ่อแม่ ไปไหนไปกันงี้
แผนการเดินทางครั้งนี้ ไปเล่นสวนน้ำ > พัก1คืน > เดินทางกลับ ถือเป็นอันจบทริป
เรียกได้ว่า วางแผนน้อย วางแผนน้อยมาก หรือไม่วางแผนเลย
อันที่จริงคือ รู้ๆกันอยู่ โซนนั้นที่กินที่เที่ยวเยอะ กะไปเลือกเอาข้างหน้าเลยทีเดียว
ขอเล่าไป อวดภาพบรรยากาศไป บางส่วนสแนปมาจากวีดีโอ
หรือถ้าอยากจะชมเป็นคลิปวีดีโอก็ดูได้ที่นี่เลยนะ
เริ่มกันเล้ย
ออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ เช้ามืด หรือยังไม่เช้าเลย
ถึงแล้ว Scenical world เกือบๆ 10 โมงโดยประมาณ
เช้าวันอาทิตย์ของช่วงสิ้นปี รถเยอะทีเดียว
สไลเดอร์สีเขียวอันใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่าเด่นหราอยู่ขนาดนั้นเรามาไม่ผิดแน่
แล้วก็รีบตรงไปซื้อตั๋ว
คืองี้นะ ใจเราอยากเข้าไปเล่นน้ำเลย เพราะอากาศวันนี้แบบร้อน ร้อนมาก
แต่มันมีโปรโมชั่นไง ซื้อสวนน้ำ+สวนสนุก ราคา(ผู้ใหญ่) 2000 บาท/คน
จากปกติ สวนน้ำ ราคา(ผู้ใหญ่) 890 บาท/คน + สวนสนุก ราคา(ผู้ใหญ่) 1,250 บาท/คน
ประหยัดไปตั้ง 140 บาทถ้วน ตัวเรางี้สนใจขึ้นมาทันที
แต่หันไปมองหน้าขุ่นแม่วัยใกล้เกษียรแล้วเกรงว่าจะไม่คุ้ม
เลยจัดแบบทางเลือก เข้าไปในส่วนสวนสนุกเฉยๆ 200 บาท/คน
ได้นั่งรถไฟ 1 รอบ และเครื่องดื่ม 1 รายการไม่เกิน 50 บาท อยากเล่นอะไรข้างในซื้อเพิ่มเลย (แน่นอนว่าไม่กล้าเล่นซักอย่าง)
ต้องติ๊ดแบบนี้ก่อนน้า จากนั้นเข้าไปลุยกันเลย
ก่อนอื่นพาพ่อแม่ไปนั่งรถไฟก่อน 1 รอบ
จากนั้นจะไปเล่น แล้วบอกพ่อขึ้นมาถ่ายรูปให้ด้วย (ดูเป็นลูกเลวอ่ะ)
อากาศเริ่มร้อน พ่อแม่ก็ไม่สนุกแล้ว งั้นแยกย้ายๆ ให้ไปแลกเครื่องดื่มเย็นๆ
ส่วนเราและน้อง เดินหน้าเล่นให้ครบ เว้นแต่อันไหนเปียกเราไม่เล่นนะ
แต่เด็ดสุดนี่ GX-Swing อันอื่นอาจจำชื่อไม่ได้ แต่อันนี้จำแม่นเลย
มุงมองท็อปวิวแบบนี้ ต้องแลกมาด้วยความหวาดเสียว 5 กะโหลก
ขอนอกเรื่องแป๊บ คือเราเข้าใจมาตลอดว่าตัวเองไม่กลัวความสูง ชอบมากเวลาขึ้นยอดดอย
แต่การที่เอาเราไปค้างไว้แบบนี้ ในองศาแบบนี้ ถึงกับอ่อนแรงเลยทีเดียว
ไปลองกันนะ ต้องลองเลย
จบไปโซนสวนสนุก
เวลาขณะนั้นบ่ายโมง
หิวสิคะหิว!!! ติ๊ดเข้าสวยน้ำ มองขวามือมีร้านอาหาร 1 ร้าน เข้าไปเลยค่ะ
เป็นร้านอาหารอิตตาเลียน นั่งลงปุ๊บ มองเมนู มองราคา มองหน้าพนักงาน
พนักงาน: นอกจากนี้เรายังมีอาหารในส่วนของ ข้าวมันไก่ ข้าวไข่เจียว และยำมาม่าค่ะ พร้อมผายมือออกไป
เรา: มองตามมือที่ผายออกไป อ๋อตรงซุ้มนั้นใช่มั้ยค่ะ
พนักงาน: ค่ะ แต่คุณลูกค้าสามารถสั่งมาทานในนี้ได้นะคะ เพราะช่วงเวลานี้ข้างนอกแดดร้อนมากเลยค่ะ
เรา: ดีจังเลยค่ะ
อาหารประเภท ข้าวมันไก่ ข้าวไข่เจียว ยำมาม่า ราคาอย่างล่ะ 60 บาท
ส่วนเครื่องดื่มก็น้ำเปล่า 20 บาท/ขวด น้ำอัดลม 40 บาท/แก้ว
กินข้าวอิ่มแล้ว ก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเช่าล็อกเกอร์เก็บสัมภาระ ราคา 150 บาท/ตู้ เข้าใจว่าได้ทั้งวันนะ
(ผ้าเช็ดตัวต้องผกมาเองถ้าไม่เอามาก็มีบริการให้เช่า ส่วนไดร์เป่าผมต้องผกมาเองมีปลั๊กให้เสียบ)
เพิ่มเติม: เวลาจะซื้อของ หรือใช้จ่ายภายในสวยน้ำนี้ รวมไปถึงสวนสนุกด้วยนะ
จะต้องเติมเงินผ่านสายรัดข้อมือนี้ แล้วเราไปติ๊ดๆซื้อของได้เลยสะดวกมาก
รวมถึงเช่าล็อกเกอร์นะ ติ๊ดเปิด ติ๊ดล็อคได้เลย
ขอพูดถึงในส่วนสไลเดอร์กันบ้าง มีมากมายหลากหลาย
แน่นอนว่ามันมีชื่อเรียก ซึ่งเราจำไม่ได้เหรก ขอเรียกตามสีของมันเลยล่ะกันนะ
เราขอเรียงลำดับจากหวาดเสียวน้อย ไปมากแล้วกัน ตามความเห็นของเรานะ
และเราแนะนำว่าควรเริ่มเล่นจากหวาดเสียวน้อยไปก่อน เพื่อความสนุกยิ่งๆขึ้นไปค่ะ
1. สีน้ำเงินมีทั้งแบบนั่งห่วงยางและนอน ความลาดชันมีน้อย นิ่มนวลอ่อนโยน เลยไม่ได้เสียกรี๊ดจากเราไป
แต่สไลเดอร์ในท่อมืดทำเราหวั่นใจอยู่นะ คือในนั้นมืดสนิทและยาวนานกว่าจะเจอแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
แบกห่วงยางขึ้นไปเองเลยค่ะ
ต่อมาเดิมข้ามทะเลมา ข้างๆกันเลย
2. สีฟ้าเหลือง ความสนุกเพิ่มขึ้นมาอีก
แนะนำให้เล่นอันนี้ก่อน เข้าไปหมุนๆวนแล้วถอยหลังลงมา
ตามด้วยอันนี้ มีจังหวะแอบใจหายเพราะนึกว่าตัวจะลอยหลุดออกไปซะแล้ว
หลังจากนั้นเดินไกลหน่อย ข้ามโซนสนามเด็กเล่นมาจะเจอกับ
3. สีเขียวเหลือง แบบนั่งห่วงยางเล่นทีละ 4 คน
โซนนี้มีลิฟต์คอยขนห่วงยางขึ้นให้ สบายแรงเดินตัวเบาขึ้นไปได้เลย
สีเขียวนี้อันหนึ่งจะเป็นกรวยใหญ่ๆ หมุนๆอยู่ครึ่งกรวยลงมา อันนี้ขุ่นแม่เรากรี๊ดหนักมาก
และสีเขียวอีกอันจะไหลลงเร็วกว่า มีองศาของการลาดเอียงที่เยอะกว่าสนุกเช่นกัน
4. สีชมพู ที่ทางสวนน้ำเคลมว่าสไลเดอร์ยาวที่สุด มีทั้งแบบนั่งห่วงยาง 2 คน และ 4 คน
มาถึงจุดนี้ เราก็ไม่แน่ใจนะว่าเราเลียงลำดับถูกมั้ยนะ
เพราะที่ผ่านมาเราหมดพลังกับการขึ้นบันไดไปเยอะมมาก แล้วอันสีชมพูนี้ต้องขนห่วงยางขึ้นไปเองด้วย
ซึ่งห่วงยางแบบนั่ง 4 คนนี้หนักเอาเรื่องอยู่นะ ทำเอาแขนขาอ่อนแรงเลยทีเดียว
แต่เราก็ว่าคุ้มค่านะ ความรู้สึกเหมือนอยู่ในเครื่องซักผ้า ลุ้นตลอดเส้นทางว่าจะหน้าคว่ำหัวขมำตีลังกามั้ย
และชมพูอีกอันเล่นที่ละ 2 คน อันนี้ไหลธรรมดา มองวิวชิวๆไป
น้ำแอบไหลน้อยนะ เราไปติดอยู่ในนั้นด้วยต้องกระดึ๊บๆออกมา 1 จังหวะ
แต่หักมุมตอนสุดท้าย เด้งแรงมากกว่าลงไปในสระ ตัวเรานี้หลุดออกมาจากห่วงยางเลย
บางทีก็อยากจัดลำดับอันนี้ไว้อันที่ 2 ต่อจากอันสีน้ำเงิน
แต่ก็นะเดินไกลกลับไปกลับมาเฉยๆ ถือซะว่าเอาไว้คลูดาวน์ละกัน
5. สไลเดอร์ที่ไม่ใช้ห่วงยางเล่น หน้าตาหลากหลายวางเรียงรายอยู่โซนเดียวกัน
เริ่มจากอันสีเหลือง นอนเอาขาลงมาธรรมดาๆ
แล้วก็แบบท่อสามอัน และอันสีเขียวอ่อนใช้บอร์ด นอนเอาหน้าลงมา
ส่วนแบบแคปซูน คือยืนอยู่แล้วพื้นด้านล่างเปิดออกแล้วไหลลงมาในท่อสีน้ำเงินอย่างรวดเร็ว
อันนี้พนักงานไม่แนะนำให้เราเล่น เพราะต้องถอดเสื้อเล่นเพื่อลดการเสียดสีด้วย
พอสัก 5 โมงเย็นพ่อแม่ก็เริ่มบ่นว่าหนาวกัน เลยไปอาบน้ำแต่งตัวกันก่อน
ส่วนเราและน้องก็ยืนคิดปรึกษากันว่าจะเล่นอะไรต่อดี ระหว่างนั้น
พนักงาน: สวัสดีครับคุณลูกค้า คุณลูกค้าเล่นโซนนี้หรือยังครับ พร้อมภายมือออกไป
เรา: อ้อ ยังเลยค่ะ กำลังคิดอยู่
พนักงาน: ผมแนะนำเลยครับ Kamikaze เลยครับ ถือบอร์ดขึ้นไปเลยครับ
เรา: อืมมม มันคืออันไหนค่ะ สีเขียวอ่อน หรือสีเหลือง หรืออันที่มี 3 ท่อ
พนักงาน: สีเขียวอ่อนครับ คุณลูกค้าจะเห็นมุมแบบทิ้งดิ่งเกือบ 90 องศาเลยครับ
เรา: โอเคค่ะ งั้นไปเล่นสีเหลืองก่อนดีกว่า
พนักงาน: โอ้ย Tumper มันเด็กมาเลยครับสูงไม่ถึง 120 ก็เล่นได้ งั้นพี่ไปเล่น Racer Wave ก็ได้ครับสนุกดี
เรา: โอเคค่ะ แนะนำอันสีเขียวโน๊ะ
ปล. พนักงานเค้าคิดว่าเราจะเรียกชื่อเครื่องเล่นแบบนั้นจริงๆเหร๋อ
ไม่ใช่อะไร คือจะบอกว่าพนักงานที่นี่รวมถึงที่สวนสนุกด้วยนะ
ส่วนใหญ่ที่เจอจะมีใจบริการ พูดจาสุภาพ ให้คำแนะนำลูกค้าตลอด ยิ้มแย้มแจ่มใสแม้ในวันที่อากาศร้อนๆสุด
อยู่กันจนกระทั่งสวนน้ำปิดกันเลยทีเดียว (ปิด 18.00 น.)
ก็นั่นล่ะค่ะคุณผู้ชม เห็นรอยยิ้มของขุ่นพ่อที่ทำงานหนักมาทั้งปี
ได้ยินเสียงกรี๊ดๆของขุ่นแม่ที่ดูแลคนทั้งบ้านมาตล๊อด มันก็มีความสุขแล้วเน๊าะๆ
แถมๆ ทางผ่านกลับที่พักเราแวะทานมื้อเย็นที่ร้าน "ครัวกำนัน" ร้านอยู่ริมถนนธนรัชน์เลย
ขออภัยจริงๆ ด้วยความหิวไม่มีรูปอาหารเลย
แต่จะบอกกะหล่ำผัดน้ำปลาถูกปากบ้านเรามากๆ และกินไป 5-6 อย่าง
จ่ายไปไม่เกิน 800 บาท คุ้มค่าโภชนาการมากๆ
สำหรับการรีวิวนี้ก็จบลงเพียงเท่านี้
ขอบคุณสำหรับการรับชมนะคะ ยินดีสำหรับคำแนะนำและการแลกเปลี่ยนต่างๆ
สุดท้ายขอให้มีความสุขกับการท่องเที่ยวที่กำลังจะเกิดขึ้นกันนะคะ ^^
[CR] เที่ยว Scenical World แบบฉบับครอบครัว
ดองรูปไว้เกือบ 2 เดือน ได้เวลาหยิบมาตกแต่ง ขัดเกลา แล้วทำมินิรีวิวซะหน่อย
สวัสดีสิ้นปีแล้ว (มาช้าไปหน่อย) อย่ากระนั้นเลยไปเที่ยวกันดีกว่า
ทริปนี้ออกเดินทาง 27 ธันวาคม เป็นช่วงธันวาหน้าร้อนสุดๆ
ไปในทีมครอบครัว ครอบครัวที่มีพ่อแม่แก่ กับลูกๆโตนะ
เรื่องของเรื่องคือ ที่เขาใหญ่มีสวนน้ำเปิดใหม่ เราอยากไปโดนมาก
เลยชวนพ่อแม่ไป คือไร!!!ชวนพ่อแม่วัยใกล้เกษียรไป Senical World
ต้องเข้าใจนะ อารมณ์ประมาณว่าเป็นคนติดพ่อแม่ ไปไหนไปกันงี้
แผนการเดินทางครั้งนี้ ไปเล่นสวนน้ำ > พัก1คืน > เดินทางกลับ ถือเป็นอันจบทริป
เรียกได้ว่า วางแผนน้อย วางแผนน้อยมาก หรือไม่วางแผนเลย
อันที่จริงคือ รู้ๆกันอยู่ โซนนั้นที่กินที่เที่ยวเยอะ กะไปเลือกเอาข้างหน้าเลยทีเดียว
ขอเล่าไป อวดภาพบรรยากาศไป บางส่วนสแนปมาจากวีดีโอ
หรือถ้าอยากจะชมเป็นคลิปวีดีโอก็ดูได้ที่นี่เลยนะ
เริ่มกันเล้ย
ออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ เช้ามืด หรือยังไม่เช้าเลย
ถึงแล้ว Scenical world เกือบๆ 10 โมงโดยประมาณ
เช้าวันอาทิตย์ของช่วงสิ้นปี รถเยอะทีเดียว
สไลเดอร์สีเขียวอันใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่าเด่นหราอยู่ขนาดนั้นเรามาไม่ผิดแน่
แล้วก็รีบตรงไปซื้อตั๋ว
คืองี้นะ ใจเราอยากเข้าไปเล่นน้ำเลย เพราะอากาศวันนี้แบบร้อน ร้อนมาก
แต่มันมีโปรโมชั่นไง ซื้อสวนน้ำ+สวนสนุก ราคา(ผู้ใหญ่) 2000 บาท/คน
จากปกติ สวนน้ำ ราคา(ผู้ใหญ่) 890 บาท/คน + สวนสนุก ราคา(ผู้ใหญ่) 1,250 บาท/คน
ประหยัดไปตั้ง 140 บาทถ้วน ตัวเรางี้สนใจขึ้นมาทันที
แต่หันไปมองหน้าขุ่นแม่วัยใกล้เกษียรแล้วเกรงว่าจะไม่คุ้ม
เลยจัดแบบทางเลือก เข้าไปในส่วนสวนสนุกเฉยๆ 200 บาท/คน
ได้นั่งรถไฟ 1 รอบ และเครื่องดื่ม 1 รายการไม่เกิน 50 บาท อยากเล่นอะไรข้างในซื้อเพิ่มเลย (แน่นอนว่าไม่กล้าเล่นซักอย่าง)
ต้องติ๊ดแบบนี้ก่อนน้า จากนั้นเข้าไปลุยกันเลย
ก่อนอื่นพาพ่อแม่ไปนั่งรถไฟก่อน 1 รอบ
จากนั้นจะไปเล่น แล้วบอกพ่อขึ้นมาถ่ายรูปให้ด้วย (ดูเป็นลูกเลวอ่ะ)
อากาศเริ่มร้อน พ่อแม่ก็ไม่สนุกแล้ว งั้นแยกย้ายๆ ให้ไปแลกเครื่องดื่มเย็นๆ
ส่วนเราและน้อง เดินหน้าเล่นให้ครบ เว้นแต่อันไหนเปียกเราไม่เล่นนะ
แต่เด็ดสุดนี่ GX-Swing อันอื่นอาจจำชื่อไม่ได้ แต่อันนี้จำแม่นเลย
มุงมองท็อปวิวแบบนี้ ต้องแลกมาด้วยความหวาดเสียว 5 กะโหลก
ขอนอกเรื่องแป๊บ คือเราเข้าใจมาตลอดว่าตัวเองไม่กลัวความสูง ชอบมากเวลาขึ้นยอดดอย
แต่การที่เอาเราไปค้างไว้แบบนี้ ในองศาแบบนี้ ถึงกับอ่อนแรงเลยทีเดียว
ไปลองกันนะ ต้องลองเลย
จบไปโซนสวนสนุก
เวลาขณะนั้นบ่ายโมง
หิวสิคะหิว!!! ติ๊ดเข้าสวยน้ำ มองขวามือมีร้านอาหาร 1 ร้าน เข้าไปเลยค่ะ
เป็นร้านอาหารอิตตาเลียน นั่งลงปุ๊บ มองเมนู มองราคา มองหน้าพนักงาน
พนักงาน: นอกจากนี้เรายังมีอาหารในส่วนของ ข้าวมันไก่ ข้าวไข่เจียว และยำมาม่าค่ะ พร้อมผายมือออกไป
เรา: มองตามมือที่ผายออกไป อ๋อตรงซุ้มนั้นใช่มั้ยค่ะ
พนักงาน: ค่ะ แต่คุณลูกค้าสามารถสั่งมาทานในนี้ได้นะคะ เพราะช่วงเวลานี้ข้างนอกแดดร้อนมากเลยค่ะ
เรา: ดีจังเลยค่ะ
อาหารประเภท ข้าวมันไก่ ข้าวไข่เจียว ยำมาม่า ราคาอย่างล่ะ 60 บาท
ส่วนเครื่องดื่มก็น้ำเปล่า 20 บาท/ขวด น้ำอัดลม 40 บาท/แก้ว
กินข้าวอิ่มแล้ว ก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเช่าล็อกเกอร์เก็บสัมภาระ ราคา 150 บาท/ตู้ เข้าใจว่าได้ทั้งวันนะ
(ผ้าเช็ดตัวต้องผกมาเองถ้าไม่เอามาก็มีบริการให้เช่า ส่วนไดร์เป่าผมต้องผกมาเองมีปลั๊กให้เสียบ)
เพิ่มเติม: เวลาจะซื้อของ หรือใช้จ่ายภายในสวยน้ำนี้ รวมไปถึงสวนสนุกด้วยนะ
จะต้องเติมเงินผ่านสายรัดข้อมือนี้ แล้วเราไปติ๊ดๆซื้อของได้เลยสะดวกมาก
รวมถึงเช่าล็อกเกอร์นะ ติ๊ดเปิด ติ๊ดล็อคได้เลย
ขอพูดถึงในส่วนสไลเดอร์กันบ้าง มีมากมายหลากหลาย
แน่นอนว่ามันมีชื่อเรียก ซึ่งเราจำไม่ได้เหรก ขอเรียกตามสีของมันเลยล่ะกันนะ
เราขอเรียงลำดับจากหวาดเสียวน้อย ไปมากแล้วกัน ตามความเห็นของเรานะ
และเราแนะนำว่าควรเริ่มเล่นจากหวาดเสียวน้อยไปก่อน เพื่อความสนุกยิ่งๆขึ้นไปค่ะ
1. สีน้ำเงินมีทั้งแบบนั่งห่วงยางและนอน ความลาดชันมีน้อย นิ่มนวลอ่อนโยน เลยไม่ได้เสียกรี๊ดจากเราไป
แต่สไลเดอร์ในท่อมืดทำเราหวั่นใจอยู่นะ คือในนั้นมืดสนิทและยาวนานกว่าจะเจอแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
แบกห่วงยางขึ้นไปเองเลยค่ะ
ต่อมาเดิมข้ามทะเลมา ข้างๆกันเลย
2. สีฟ้าเหลือง ความสนุกเพิ่มขึ้นมาอีก
แนะนำให้เล่นอันนี้ก่อน เข้าไปหมุนๆวนแล้วถอยหลังลงมา
ตามด้วยอันนี้ มีจังหวะแอบใจหายเพราะนึกว่าตัวจะลอยหลุดออกไปซะแล้ว
หลังจากนั้นเดินไกลหน่อย ข้ามโซนสนามเด็กเล่นมาจะเจอกับ
3. สีเขียวเหลือง แบบนั่งห่วงยางเล่นทีละ 4 คน
โซนนี้มีลิฟต์คอยขนห่วงยางขึ้นให้ สบายแรงเดินตัวเบาขึ้นไปได้เลย
สีเขียวนี้อันหนึ่งจะเป็นกรวยใหญ่ๆ หมุนๆอยู่ครึ่งกรวยลงมา อันนี้ขุ่นแม่เรากรี๊ดหนักมาก
และสีเขียวอีกอันจะไหลลงเร็วกว่า มีองศาของการลาดเอียงที่เยอะกว่าสนุกเช่นกัน
4. สีชมพู ที่ทางสวนน้ำเคลมว่าสไลเดอร์ยาวที่สุด มีทั้งแบบนั่งห่วงยาง 2 คน และ 4 คน
มาถึงจุดนี้ เราก็ไม่แน่ใจนะว่าเราเลียงลำดับถูกมั้ยนะ
เพราะที่ผ่านมาเราหมดพลังกับการขึ้นบันไดไปเยอะมมาก แล้วอันสีชมพูนี้ต้องขนห่วงยางขึ้นไปเองด้วย
ซึ่งห่วงยางแบบนั่ง 4 คนนี้หนักเอาเรื่องอยู่นะ ทำเอาแขนขาอ่อนแรงเลยทีเดียว
แต่เราก็ว่าคุ้มค่านะ ความรู้สึกเหมือนอยู่ในเครื่องซักผ้า ลุ้นตลอดเส้นทางว่าจะหน้าคว่ำหัวขมำตีลังกามั้ย
และชมพูอีกอันเล่นที่ละ 2 คน อันนี้ไหลธรรมดา มองวิวชิวๆไป
น้ำแอบไหลน้อยนะ เราไปติดอยู่ในนั้นด้วยต้องกระดึ๊บๆออกมา 1 จังหวะ
แต่หักมุมตอนสุดท้าย เด้งแรงมากกว่าลงไปในสระ ตัวเรานี้หลุดออกมาจากห่วงยางเลย
บางทีก็อยากจัดลำดับอันนี้ไว้อันที่ 2 ต่อจากอันสีน้ำเงิน
แต่ก็นะเดินไกลกลับไปกลับมาเฉยๆ ถือซะว่าเอาไว้คลูดาวน์ละกัน
5. สไลเดอร์ที่ไม่ใช้ห่วงยางเล่น หน้าตาหลากหลายวางเรียงรายอยู่โซนเดียวกัน
เริ่มจากอันสีเหลือง นอนเอาขาลงมาธรรมดาๆ
แล้วก็แบบท่อสามอัน และอันสีเขียวอ่อนใช้บอร์ด นอนเอาหน้าลงมา
ส่วนแบบแคปซูน คือยืนอยู่แล้วพื้นด้านล่างเปิดออกแล้วไหลลงมาในท่อสีน้ำเงินอย่างรวดเร็ว
อันนี้พนักงานไม่แนะนำให้เราเล่น เพราะต้องถอดเสื้อเล่นเพื่อลดการเสียดสีด้วย
พอสัก 5 โมงเย็นพ่อแม่ก็เริ่มบ่นว่าหนาวกัน เลยไปอาบน้ำแต่งตัวกันก่อน
ส่วนเราและน้องก็ยืนคิดปรึกษากันว่าจะเล่นอะไรต่อดี ระหว่างนั้น
พนักงาน: สวัสดีครับคุณลูกค้า คุณลูกค้าเล่นโซนนี้หรือยังครับ พร้อมภายมือออกไป
เรา: อ้อ ยังเลยค่ะ กำลังคิดอยู่
พนักงาน: ผมแนะนำเลยครับ Kamikaze เลยครับ ถือบอร์ดขึ้นไปเลยครับ
เรา: อืมมม มันคืออันไหนค่ะ สีเขียวอ่อน หรือสีเหลือง หรืออันที่มี 3 ท่อ
พนักงาน: สีเขียวอ่อนครับ คุณลูกค้าจะเห็นมุมแบบทิ้งดิ่งเกือบ 90 องศาเลยครับ
เรา: โอเคค่ะ งั้นไปเล่นสีเหลืองก่อนดีกว่า
พนักงาน: โอ้ย Tumper มันเด็กมาเลยครับสูงไม่ถึง 120 ก็เล่นได้ งั้นพี่ไปเล่น Racer Wave ก็ได้ครับสนุกดี
เรา: โอเคค่ะ แนะนำอันสีเขียวโน๊ะ
ปล. พนักงานเค้าคิดว่าเราจะเรียกชื่อเครื่องเล่นแบบนั้นจริงๆเหร๋อ
ไม่ใช่อะไร คือจะบอกว่าพนักงานที่นี่รวมถึงที่สวนสนุกด้วยนะ
ส่วนใหญ่ที่เจอจะมีใจบริการ พูดจาสุภาพ ให้คำแนะนำลูกค้าตลอด ยิ้มแย้มแจ่มใสแม้ในวันที่อากาศร้อนๆสุด
อยู่กันจนกระทั่งสวนน้ำปิดกันเลยทีเดียว (ปิด 18.00 น.)
ก็นั่นล่ะค่ะคุณผู้ชม เห็นรอยยิ้มของขุ่นพ่อที่ทำงานหนักมาทั้งปี
ได้ยินเสียงกรี๊ดๆของขุ่นแม่ที่ดูแลคนทั้งบ้านมาตล๊อด มันก็มีความสุขแล้วเน๊าะๆ
แถมๆ ทางผ่านกลับที่พักเราแวะทานมื้อเย็นที่ร้าน "ครัวกำนัน" ร้านอยู่ริมถนนธนรัชน์เลย
ขออภัยจริงๆ ด้วยความหิวไม่มีรูปอาหารเลย
แต่จะบอกกะหล่ำผัดน้ำปลาถูกปากบ้านเรามากๆ และกินไป 5-6 อย่าง
จ่ายไปไม่เกิน 800 บาท คุ้มค่าโภชนาการมากๆ
สำหรับการรีวิวนี้ก็จบลงเพียงเท่านี้
ขอบคุณสำหรับการรับชมนะคะ ยินดีสำหรับคำแนะนำและการแลกเปลี่ยนต่างๆ
สุดท้ายขอให้มีความสุขกับการท่องเที่ยวที่กำลังจะเกิดขึ้นกันนะคะ ^^
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น