คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
1. ว่าข้อเสียสองข้อนี้ จะทำให้ไม่ควรเป็นวิศวกรมั้ยคะ
ไม่เก่งคณิต ฟิสิกส์ แต่ถ้าน้องชอบพี่ก็เชื่อว่าเราจะสามารถศึกษา ฝึกทำโจทย์ได้ดี โดยไม่ท้อใจ หรืออึดอัด เพราะ 4ปีน้องจะเจอแต่คณิตและฟิสิกส์ เพราะในมหาลัยใช้พื้นฐานเด็กมอปปลายเยอะนะครับ สรุป ถ้าชอบก็ฝึกฝน ทำให้ดีที่สุดพอครับ ไม่น่าเป็นอุปสรรรค เพราะฝึกได้ถ้าใจรัก
2. ถ้ายังอยากจะเป็น จะมีกิจกรรมใดๆบ้าง ที่ทำตอนปิดเทอมที่จะสร้างให้ professionally เป็นวิศวกรที่ดีขึ้น
กิจกรรมเกือบทุกอย่างสามารถImprove ได้หมด การได้ทำงานรว่มกับผู้อื่นและแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ถึงจะไม่ได้โปรไฟล์นัก แต่ได้ทักษะการทำงานให้เป็นแน่นอน (แต่ต้องแบ่งเวลานะครับมันไม่สำคัญที่สุดแต่ก็มีบ้าง)
3. ภาษาที่สามที่จะจำเป็นอย่างมากกกกก ของวิศวกรโยธา และ เครื่องกล มีอะไรบ้างคะ
(กรณีได้ภาษาอังกฤษอยู่แล้ว) จะเป็น เยอรมัน จีน หรือ ญี่ปุ่น ดีคะ
จำเป็นสำหรับทุกสาขาอาชีพครับ ยิ่งภาษาอังกฤษถ้าเราเก่งก็สบายแล้วการทำงานพรีเซนงานส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ ยิ่งได้รู้ภาษาที่สามก็คงดีมากอาจเปิดโอกาสให้น้องได้นะครับในการทำงานที่สบายขึ้นหรือได้ไปดูงานต่างประเทศ แต่ต้องอยุ่ในบริษัทที่เห็นในความสามารถนี้ด้วยไม่งั้นคงสูญเปล่า แนะนำ เยอรมัน , *ญี่ปุ่น เป็นภาษาที่ 3
4. ปิดเทอมนี้จะเอาวิชาการให้แน่นเป็นพื้นฐานมหาลัยที่ดี จบมาเกรดจะได้ดีๆ หรือว่า ฝึกงานที่มันก็มีประโยชน์กับตัวเราแต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวิศวะเลย
แล้วแต่น้องเลยครับ ก็ทำทั้งสองอย่างเลยก็ดีครับ กลางวันทำงานเก็บตัง กลางคืนก็อ่านหนังสือให้พื้นฐานแน่นหรือจะศึกษาล่วงน้าก็ดีครับ แคลคูลัส ฟิสิกส์ และก็ภาษา ส่วนจะจบได้ไหมตรงนี้ยังตอบไม่ได้ คงต้องรอเราเข้าไปเรียนดูก่อน แต่ถ้าน้องภาษาดีก็มีชัยละครับ
จาก นิสิตปี 2 คณะวิศวะ
ไม่เก่งคณิต ฟิสิกส์ แต่ถ้าน้องชอบพี่ก็เชื่อว่าเราจะสามารถศึกษา ฝึกทำโจทย์ได้ดี โดยไม่ท้อใจ หรืออึดอัด เพราะ 4ปีน้องจะเจอแต่คณิตและฟิสิกส์ เพราะในมหาลัยใช้พื้นฐานเด็กมอปปลายเยอะนะครับ สรุป ถ้าชอบก็ฝึกฝน ทำให้ดีที่สุดพอครับ ไม่น่าเป็นอุปสรรรค เพราะฝึกได้ถ้าใจรัก
2. ถ้ายังอยากจะเป็น จะมีกิจกรรมใดๆบ้าง ที่ทำตอนปิดเทอมที่จะสร้างให้ professionally เป็นวิศวกรที่ดีขึ้น
กิจกรรมเกือบทุกอย่างสามารถImprove ได้หมด การได้ทำงานรว่มกับผู้อื่นและแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ถึงจะไม่ได้โปรไฟล์นัก แต่ได้ทักษะการทำงานให้เป็นแน่นอน (แต่ต้องแบ่งเวลานะครับมันไม่สำคัญที่สุดแต่ก็มีบ้าง)
3. ภาษาที่สามที่จะจำเป็นอย่างมากกกกก ของวิศวกรโยธา และ เครื่องกล มีอะไรบ้างคะ
(กรณีได้ภาษาอังกฤษอยู่แล้ว) จะเป็น เยอรมัน จีน หรือ ญี่ปุ่น ดีคะ
จำเป็นสำหรับทุกสาขาอาชีพครับ ยิ่งภาษาอังกฤษถ้าเราเก่งก็สบายแล้วการทำงานพรีเซนงานส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ ยิ่งได้รู้ภาษาที่สามก็คงดีมากอาจเปิดโอกาสให้น้องได้นะครับในการทำงานที่สบายขึ้นหรือได้ไปดูงานต่างประเทศ แต่ต้องอยุ่ในบริษัทที่เห็นในความสามารถนี้ด้วยไม่งั้นคงสูญเปล่า แนะนำ เยอรมัน , *ญี่ปุ่น เป็นภาษาที่ 3
4. ปิดเทอมนี้จะเอาวิชาการให้แน่นเป็นพื้นฐานมหาลัยที่ดี จบมาเกรดจะได้ดีๆ หรือว่า ฝึกงานที่มันก็มีประโยชน์กับตัวเราแต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวิศวะเลย
แล้วแต่น้องเลยครับ ก็ทำทั้งสองอย่างเลยก็ดีครับ กลางวันทำงานเก็บตัง กลางคืนก็อ่านหนังสือให้พื้นฐานแน่นหรือจะศึกษาล่วงน้าก็ดีครับ แคลคูลัส ฟิสิกส์ และก็ภาษา ส่วนจะจบได้ไหมตรงนี้ยังตอบไม่ได้ คงต้องรอเราเข้าไปเรียนดูก่อน แต่ถ้าน้องภาษาดีก็มีชัยละครับ
จาก นิสิตปี 2 คณะวิศวะ
แสดงความคิดเห็น
จบม.6 หยุดยาว เตรียมตัวเข้าเรียนวิศวะ(เครื่องกล, โยธา) ปี 1 อย่างไรดี
ขอแนะนำตัวนะคะ ตอนนี้กำลังรอเข้ามหาวิทยาลัย ม.6 จะหยุดยาวตั้งแต่กุมภา ถึง เปิดเทอมสิงหาคม
อยากจะใช้เวลาว่างให้มีประโยชน์ ก็เลยอยากจะมาถามทุกคนที่มีความรู้ ประสบการ์ณในสายวิศวะว่า จะใช้เวลาอย่างไรให้มีประโยชน์
คือ ขอบอกก่อนว่าเตรียมตัววิศวะในที่นี้คือ "อะไรก็ได้" ที่ทำให้ ประสบความสำเร็จในหน้าที่วิศวกร (สนใจ เครื่องกล, โยธา)
และอาจจะต่อยอดในการเป็นเจ้าของธุรกิจในอนาคตหลังจากการทำงานวิศวกรอิ่มตัว
คือไม่ได้ต้องการที่อยากเรียนวิชาการอย่างเดียว แต่อยากมีความรู้นอกห้องเรียนที่จะทำให้ประสบความสำเร็จด้วย
สิ่งที่ตอนนี้กำลังจะทำคือ สอนพิเศษ เป็น ติวเตอร์ เก็บเงินเข้าธนาคารปกติ และ ฝึกงานเกี่ยวกับการวิจัย และ รณรงค์การพัฒนาสมองเด็ก
(จริงๆ อยากฝึกงานด้านวิศวะ แต่ด้วยเพิ่งจบม6 และ ยังไม่มีความรู้มากนะ คงไม่มีบริษัทวิศวะที่ไหนให้ฝึกงาน หรือ ให้ไป observeเฉยๆ
เช่น job shadow ก็ตาม เลย
เลือกสิ่งที่ตัวเองสนใจ รองมาจากวิศวกรรมคือการพัฒนาด้านสังคม)
แต่ด้วย กิจกรรมสองอย่างนี้ก็แทบจะ กินเวลาทั้งหมดจนแทบไม่มีเวลาพักอยู่แล้ว เลยสงสัยกับตัวเองว่า ..
.
.
"มันจะทำให้เราเป็นวิศวกรที่ดีได้จริงๆเหรอ"
เลยลองคิดอีกแผน B ดู
คือ อัดเรียนปูพื้นฐานฟิสิกส์ เลข ใหม่ ฝึกโจทย์ๆ เรียนล่วงหน้าว่ามหาลัยเรียนอะไร เอาง่ายๆคือ ฝึกวิชาการ เลขฟิสิกส์ให้มากที่สุดที่จะเป็นพื้นฐานเข้ามหาวิทยาลัย และก็เรียนเพิ่มภาษาที่3
(บอกก่อนค่ะว่าตัวเองจะเรียนวิศวะอินเตอร์ และมีพื้นฐานภาษาอังกฤษที่ดีมากอยู่แล้วเลยไม่จำเป็นต้องเรียนเสริมอีก)
แต่ข้อเสียคือ
1 ความรู้ฟิสิกส์ และ คณิตศาสตร์ไม่ดีเท่าที่ควร
ถามว่าชอบมั้น ชอบเรียนมาก แต่ไม่ได้เก่งเป็นหัวกะทิ โดยเฉพาะเลข ตอนม.ปลายก็ขยันเรียนวิชานี้มมากค่ะ แต่ก็
พอถูๆไถๆไปได้ แต่ไม่เคยเก่งเป็นหัวกะทิ ใช้ความขยันลุยเป็นควายมากกว่าค่ะ แต่ชอบฟิสิกส์มาก และชอบเครื่องกล กลไก ชอบ logic
systematic ของวิศวะ ชอบ และเป็นคนขี้สงสัย อยากรู้ว่าอันนั้นทำงานยังไง โน่นเกิดมาได้อย่างไร อยากคิด innovation
ทางเทคโนโลยีที่ช่วยเหลือสังคมได้ และ ชอบสิ่งแวดล้อมของวิศวะ และอยากทำงานในโรงงาน อยากอยู่ตจว. เลยมั่นใจตั้งแต่ม.ต้น ว่าอยากจะเรียนวิศวะ
2 เพราะด้วยความที่ทั้งบ้านเป็นผู้หญิง มีคุณพ่อคนเดียว และ ไม่สนิทกับ ลุงๆ น้าๆ ญาติๆ คนไหน และไม่มีใครในครอบครัวหรือรู้จักที่เป็นวิศวกร เลยทักษะเชิงช่างถือว่าน้อยมาก จะให้ไปแกะพัดลม งัดแอร์ มุดท้องรถ บอกเลยทำไม่เป็น เพราะไม่มีโอกาสที่โคตรจะสอน แต่อยากลองทำมาก ถ้ามีโอกาส)
อยากถามทุกคนค่ะ
1. ว่าข้อเสียสองข้อนี้ จะทำให้ไม่ควรเป็นวิศวกรมั้ยคะ
2. ถ้ายังอยากจะเป็น จะมีกิจกรรมใดๆบ้าง ที่ทำตอนปิดเทอมที่จะสร้างให้ professionally เป็นวิศวกรที่ดีขึ้น
3. ภาษาที่สามที่จะจำเป็นอย่างมากกกกก ของวิศวกรโยธา และ เครื่องกล มีอะไรบ้างคะ
(กรณีได้ภาษาอังกฤษอยู่แล้ว) จะเป็น เยอรมัน จีน หรือ ญี่ปุ่น ดีคะ
4. ปิดเทอมนี้จะเอาวิชาการให้แน่นเป็นพื้นฐานมหาลัยที่ดี จบมาเกรดจะได้ดีๆ หรือว่า ฝึกงานที่มันก็มีประโยชน์กับตัวเราแต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวิศวะเลย
เข้าใจว่านับวันต่อจากนี้ การสมัครเข้ารับทำงานจะแข่งขันมากขึ้นทวีคูณ เลยอยากจะต้องทำตัวเองให้พร้อมที่สุดที่จะเป็นวิศวกรน่ะค่ะ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำทุกๆอย่างค่ะ ไม่ทราบถ้าพิมผิดอะไรอย่างไร ขอโทษด้วยนะคะ กระทู้แรกค่ะ
ปล. การสอบเข้าเสร็จหมดแล้วค่ะ คะแนนถึงแล้วกำลังรอสัมภาษณ์ เข้ามหาวิทยาลัยอินเตอร์ รัฐบาลค่ะ