หลังจากได้ของไม่นานผมก็รีบไปซื้อ Red dot ที่สะพานเหล็กทันทีครับ และก็ได้มาจนได้ จนในที่สุด กล้องผมก็มีสภาพแบบนี้ครับ.......
ผมใช้ 6D ต่อเข้ากับ 400mm F2.8 ที่ยืมมาจากร้านต้นไม้ครับ บวกกับขาตั้ง Manfrotto
และนี่คือหน้าตา Red dot siht ที่ผมซื้อมาครับ
หลายคนคงจะงงว่า แล้วมันเกี่ยวไรกับกล้องถ่ายรูปละ? ผมจะอธิบายให้ฟังครับ
สำหรับท่านที่ใช้เลนส์เทเล สมมุติว่าเลนส์นั้นช่วงมันไกลมากๆๆๆๆๆๆๆ การที่เราจะหาวัตถุที่ต้องการจะโฟกัสนั้นมันจะยากมากๆ ต้องควานหากันยกใหญ่ บางคนต้องบิดซูมเข้าซูมออก บางคนใช้เลนส์แบบที่ผมใช้ คือระยะเดียว ก็หากันยาวๆเลยครับฮ่าๆๆๆๆ แต่ถ้ามี Red dot ก็แค่ปรับจุดเล็งให้ตรงกับจุดโฟกัสในกล้อง แค่นี้ก็เอาจุดเล็งมาเล็งที่วัตถุ เหมือนเวลาเล็งศัตรูแล้วก็กดชัตเตอร์ เท่านี้ก็ได้แล้วครับ ไม่ต้องมาควานหาให้เสียเวลาเปล่า อาจจะทำให้พลาดช็อตสำคัญๆได้ในสถาณการณ์ฉุกเฉิน
เอาละงั้นมาลองใช้งานกันครับ!!
อย่างแรกก็คือหาวัตถุก่อนครับว่าเราจะถ่ายตรงไหน ระยะช่วงไหน ผมเล็งไปที่ปลั๊กไฟครับ
และไปมองในช่อง Viewfinder และตั้งศูนย์เล็งของRed dotให้ตรงกับจุดโฟกัสของกล้องถ่ายรูปครับ มห้ตรงกันนะครับ
หมายเหตุ!!!! ในภาพจะเห็นว่าในRed dotผมเล็งไปที่ปลั๊กไฟ แต่ทำไมในViewfinderจุดโฟกัสมันดันไปอยู่ข้างล่างของปลั๊กตรงหนวดกุ้งที่ใช้มันสายละ? จะบอกว่าระยะมันจะส่งผลต่อความคลาดเคลื่อนของศูนย์เล็งครับ หากเราตั้งศูนย์เล็งในระยะไกลๆ พอมาโฟกัสวัตุใกล้ๆ ก็ต้องยกศูนย์เล็งเหนือเป้าหมายนิดนึง (คล้ายๆเวลาใช้ปืนสไนเปอร์อ่ะครับ ยิ่งศัตรูอยู่ไกล ก็ควรกะเล็งเหนือๆหัวเป้าหมายเพื่อให้กระสุนมันถูกหัวเป้าหมาย แต่ในกลางถ้านรูปจะตรงกันข้ามครับ ยิ่งใกล้ก็ยิ่งกะระยะขึ้นไปอีก ตรงนี้อาจจะยาก แต่ความเคยชินมันจะช่วยให้อะไรๆมันง่ายขึ้นครับ ^_^)
และก็กดถ่ายแช้ะเข้าให้!!!!
เท่านี้ก็เป็นการสำเร็จครับผม
หากไม้ใช้ขาตั้งถ่าย เจ้าRed dot ตัวนี้ก็ยังมีความสำคัญอยู่นะครับ ถ้าคุณแบกเลนส์เทเลพร้อมกล้องที่น้ำหนักพอๆกับเรือไททานิค ไปตลอดเวลาคงมีอาการปวดเมื่อยแน่นอนครับ ยิ่ง400mm F2.8 ด้วยนะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ การจะยกกล้องพร้อมโคตรเลนส์เทเลมาถ่ายมองในช่อง Viewfinder คงต้องใช้พละกำลังอย่างมหาศาลแน่นอนครับ ถ้าใช้Red dotก็ไม่ต้องยกสูงระดับหัวเรา และไม่ต้องยื่นหน้ามองหาวัตถุให้เหนื่อย หลายๆคนเปิด Liveview แต่ผมมองว่ามันไม่ถนัดสักเท่าไหร่ แถมช้าอีกด้วยครับ ยิ่งเจออะไรไวๆ ก็อย่างที่กล่าวมาข้างบนเลยครับ
เดินที่ผมใช้กับ 17-40 นะครับ คงจะงงไม่น้อย ที่ใช้มันกับเลนส์ไวด์!?!?!!??!?! แต่ส่วนตัวผมก็มองว่ามันจำเป็นนะ อย่างเวลาเจอเหตุการณ์ที่มันกระทันหันก็ยังใช้ได้อยู่ จะให้ยกกล้องมามอง Viewfinder มาก็คงจะลำบากครับ หลายๆคนอาจจะไม่ถนัดหรือเห็นด้วยกับไอเดียนี้ แต่สำหรับผมซึ่งค่อยข้างบ้าพลังพอสมควร จึงพอใจอยู่พอสมควรครับ ผมแค่อยากจะเสนอไอเดียอะไรแปลกๆใหม่ๆ ถึงแม้มันอาจจะไม่ค่อยได้เรื่องได้ราวก็ตามครับฮ่าๆๆๆๆๆๆ
ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้นะครับ ขอบคุณครับ
[CR] (รีวิว) Red dot sight อุปกรณ์ที่หลายๆคนไม่ค่อยรู้จักสำหรับการถ่ายรูป
Red dot sight ที่ทุกคนนึกถึงมันก็จะเป็นแบบนี้ครับ
และค่าย Olympus ก็ได้เอาเทคโนโลยีนี้มาใช้กับกล้องถ่ายรูป
ตอนแรกที่ผมเห็นนั้นผมชอบมากๆครับ แต่กล้องผมนั้นใช้Canonจะซื้อตัวเล็งของOlympusมาก็แพงอีก กลัวซื้อมาจะไม่คุ้มเอา ผมเองก็เคยเล่นบีบีกันมาก่อน วันนึงผมก็นึกมาว่า ถ้าเอาRed dot sight ที่ผมเคยใช้ติดปืนของผม มาติดกับกล้องของผมละ? มันก็เหมือนกับ Olympus เลยสิ ไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย ผมก็เลยลองไปหาลายละเอียดใน Google ดู ปรากฎว่าผมเจอจริงๆครับ กล้อง DSLR สามารถติด Red dot sight ได้ครับ ขอแค่มี Hotsohe ที่มีรางติด Red dot sight เหมือนกับปืนก็ได้แล้ว และไปเจอมันวางขายอยู่ใน ebay แต่ราคาแพงมากครับ 800 กว่าบาท สั่งจากฮ่องกงครับ ในไทยไม่มีขายเลย ผมเลยสั่งไปและก็ได้ของอีกอาทิตย์ต่อไปครับ
หน้าตามันเป็นอย่างงี้ครับ เจ้า Hotsohe ที่ว่านั่น
หลังจากได้ของไม่นานผมก็รีบไปซื้อ Red dot ที่สะพานเหล็กทันทีครับ และก็ได้มาจนได้ จนในที่สุด กล้องผมก็มีสภาพแบบนี้ครับ.......
ผมใช้ 6D ต่อเข้ากับ 400mm F2.8 ที่ยืมมาจากร้านต้นไม้ครับ บวกกับขาตั้ง Manfrotto
และนี่คือหน้าตา Red dot siht ที่ผมซื้อมาครับ
หลายคนคงจะงงว่า แล้วมันเกี่ยวไรกับกล้องถ่ายรูปละ? ผมจะอธิบายให้ฟังครับ
สำหรับท่านที่ใช้เลนส์เทเล สมมุติว่าเลนส์นั้นช่วงมันไกลมากๆๆๆๆๆๆๆ การที่เราจะหาวัตถุที่ต้องการจะโฟกัสนั้นมันจะยากมากๆ ต้องควานหากันยกใหญ่ บางคนต้องบิดซูมเข้าซูมออก บางคนใช้เลนส์แบบที่ผมใช้ คือระยะเดียว ก็หากันยาวๆเลยครับฮ่าๆๆๆๆ แต่ถ้ามี Red dot ก็แค่ปรับจุดเล็งให้ตรงกับจุดโฟกัสในกล้อง แค่นี้ก็เอาจุดเล็งมาเล็งที่วัตถุ เหมือนเวลาเล็งศัตรูแล้วก็กดชัตเตอร์ เท่านี้ก็ได้แล้วครับ ไม่ต้องมาควานหาให้เสียเวลาเปล่า อาจจะทำให้พลาดช็อตสำคัญๆได้ในสถาณการณ์ฉุกเฉิน
เอาละงั้นมาลองใช้งานกันครับ!!
อย่างแรกก็คือหาวัตถุก่อนครับว่าเราจะถ่ายตรงไหน ระยะช่วงไหน ผมเล็งไปที่ปลั๊กไฟครับ
และไปมองในช่อง Viewfinder และตั้งศูนย์เล็งของRed dotให้ตรงกับจุดโฟกัสของกล้องถ่ายรูปครับ มห้ตรงกันนะครับ
หมายเหตุ!!!! ในภาพจะเห็นว่าในRed dotผมเล็งไปที่ปลั๊กไฟ แต่ทำไมในViewfinderจุดโฟกัสมันดันไปอยู่ข้างล่างของปลั๊กตรงหนวดกุ้งที่ใช้มันสายละ? จะบอกว่าระยะมันจะส่งผลต่อความคลาดเคลื่อนของศูนย์เล็งครับ หากเราตั้งศูนย์เล็งในระยะไกลๆ พอมาโฟกัสวัตุใกล้ๆ ก็ต้องยกศูนย์เล็งเหนือเป้าหมายนิดนึง (คล้ายๆเวลาใช้ปืนสไนเปอร์อ่ะครับ ยิ่งศัตรูอยู่ไกล ก็ควรกะเล็งเหนือๆหัวเป้าหมายเพื่อให้กระสุนมันถูกหัวเป้าหมาย แต่ในกลางถ้านรูปจะตรงกันข้ามครับ ยิ่งใกล้ก็ยิ่งกะระยะขึ้นไปอีก ตรงนี้อาจจะยาก แต่ความเคยชินมันจะช่วยให้อะไรๆมันง่ายขึ้นครับ ^_^)
และก็กดถ่ายแช้ะเข้าให้!!!!
เท่านี้ก็เป็นการสำเร็จครับผม
หากไม้ใช้ขาตั้งถ่าย เจ้าRed dot ตัวนี้ก็ยังมีความสำคัญอยู่นะครับ ถ้าคุณแบกเลนส์เทเลพร้อมกล้องที่น้ำหนักพอๆกับเรือไททานิค ไปตลอดเวลาคงมีอาการปวดเมื่อยแน่นอนครับ ยิ่ง400mm F2.8 ด้วยนะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ การจะยกกล้องพร้อมโคตรเลนส์เทเลมาถ่ายมองในช่อง Viewfinder คงต้องใช้พละกำลังอย่างมหาศาลแน่นอนครับ ถ้าใช้Red dotก็ไม่ต้องยกสูงระดับหัวเรา และไม่ต้องยื่นหน้ามองหาวัตถุให้เหนื่อย หลายๆคนเปิด Liveview แต่ผมมองว่ามันไม่ถนัดสักเท่าไหร่ แถมช้าอีกด้วยครับ ยิ่งเจออะไรไวๆ ก็อย่างที่กล่าวมาข้างบนเลยครับ
เดินที่ผมใช้กับ 17-40 นะครับ คงจะงงไม่น้อย ที่ใช้มันกับเลนส์ไวด์!?!?!!??!?! แต่ส่วนตัวผมก็มองว่ามันจำเป็นนะ อย่างเวลาเจอเหตุการณ์ที่มันกระทันหันก็ยังใช้ได้อยู่ จะให้ยกกล้องมามอง Viewfinder มาก็คงจะลำบากครับ หลายๆคนอาจจะไม่ถนัดหรือเห็นด้วยกับไอเดียนี้ แต่สำหรับผมซึ่งค่อยข้างบ้าพลังพอสมควร จึงพอใจอยู่พอสมควรครับ ผมแค่อยากจะเสนอไอเดียอะไรแปลกๆใหม่ๆ ถึงแม้มันอาจจะไม่ค่อยได้เรื่องได้ราวก็ตามครับฮ่าๆๆๆๆๆๆ
ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้นะครับ ขอบคุณครับ