สวัสดีค่ะ เราฉันเป็น นักศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต เรียนภาคเสาร์-อาทิตย์
ใช่ค่ะตามหัวข้อที่เราตั้งเลย เราถูกตัดเกรด D
เรื่องมีอยู่ว่า ....
วันหนึ่งประมาณ 3-4 ทุ่ม เวลาเราไม่แน่ใจจำไม่ได้ อาจารย์ผู้ชายคนหนึ่ง เขาได้ทักเฟสบุ๊คมาชวนเราออกไปกินข้าว ซึ่งเราก็ปฎิเสธไป อ้างไปต่างๆนาๆ ว่าลดความอ้วน กินแล้ว อิ่มแล้ว แกก็ตื้อนิดๆ ซึ่งตอนนั้นเราก็ไมได้สนใจและไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเพราะแกก็ชวนเด็กไปทั่ว จนวันเสาร์เรามาเรียน เราได้เล่าให้เพื่อนๆฟัง ( อ่อ เราลืมบอกไปว่าอาจารย์ผู้ชายท่านนี้ เขามีรูปร่างอ้วนดำมาก ) เราก็เอามาเล่าในกลุ่มเพื่อนๆ เล่าไปขำไป บางคำก็อาจจะพูดแรงไปด้วยมั่ง เราพูดกับเพื่อนว่า " อาจารย์ทักมาชวนไปกินข้าววะ ใครจะไปว๊ะ ดูรูปร่างสภาพน่าตาแกดิ " ซึ่งมันก็ผ่านไปจนเราก็ไม่ได้คิดอะไร จนถึงช่วงสอบกลางภาค คะแนนเราออกมา ค่อนข้างดี มี A B B+ แต่เหลืออีก 1วิชาที่เกรดยังไม่ออกซึ่งเราก็ไม่ได้คาดหวังอะไรว่าจะต้องได้เกรดA พอถึงวันที่เกรดวิชาสุดท้ายออก เห้ย D ว๊ะ D มาได้ไงวะ !!! เราค่อนข้างงงกับเกรดที่ออกมา หรือตูจะโง่จริงๆ เราคิดไปต่างๆนาๆ (เราไม่ได้เป็นเด็กเรียนเก่งอะไร แต่เราก็พอมั่นใจว่าเราก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้น ยิ่งเป็นวิชาที่เรามั่นใจว่าพอทำได้ มันยิ่งทำให้เราสับสน ติดอยู่ในหัวตลอดว่า D มันมาได้ไง ) ใช่ค่ะ วิชาสุดท้ายที่เกรดออกมาเป็นวิชาของอาจารย์ผู้ชายท่านนั้น
เราปล่อยวันเวลาผ่านไป ไม่ได้คิดถึงเรื่องที่เราไม่ไปกินข้าวกับอาจารย์หรือที่เราว่าอาจารย์ จนช่วงเดือน พฤศจิกายน 2558 เราไปศึกษาดูงานที่ต่างจังหวัด ซึ่งเป็น ช่วงที่เรารู้ข่าวมาว่า อาจารย์ผู้ชายท่านนี้ปล่อยเกรด A ให้กับเด็กที่ยอมหลับนอนด้วย เราไม่เชื่อรีบล๊อกอินเข้ารหัสเด็กคนนั้นเพื่อไปดูให้เห็นกับตา ว่าเห้ยแกยอมปล่อยเกรดจริงหรอ สรุปว่าจริงค่ะ เด็กคนนั้นได้เกรด A ไป และเรื่องของเด็กคนนั้นที่ยอมรับนอนเพื่อแลกเกรดอันนี้จริงค่ะ เราเคยเห็นด้วยตาตัวเอง เพื่อนๆทุกคนในห้องรู้กันทุกคน เราถึงได้มานั่งคิดทบทวนเรื่องที่เราปฎิเสธเรื่องไปกินข้าว แถมยังไปว่าแกให้เพื่อนฟังอีก เอ๊ะ หรือมีคนเอาไปฟ้อง มันต้องใช่แน่ๆ เพราะด้วยความที่เราปากค่อนข้างหมา บวกกับเป็นคนเสียงดัง ตอนที่เราพูดมันมีกลุ่มอีเด็กที่ยอมหลับนอนกับอาจารย์ ยืนอยู่ด้วย เราจึงไปปรึกษาที่ปรึกษาเรา เล่าเรื่องทุกอย่างให้อาจารย์ที่ปรึกษาเราฟัง อาจารย์ให้เราเขียนคำร้องขอตรวจสอบคะแนนสอบ
ซึ่งเราก็ทำตามคำแนะนำทุกอย่าง
อาจารย์ที่ปรึกษาเราตรวจดูคะแนนเก็บ คะแนนการเข้าเรียน คะแนนสอบไฟนอล เต็ม 40 ซึ่งเราได้ 30 ซึ่งมันก็ OK
คะแนนสอบปลายภาค เต็ม 60 ซึ่งเราคาดคะเนไว้ว่า เราน่าจะได้คะแนนประมาณ 20 นิดๆ ซึ่งเมื่อเอาคะแนนเก็บ 30+20 ได้คะแนน 50 นิดๆ ก็ตกอยุ่ในเกรด D พอดี ซึ่งเรางงว่า คะแนนเต็ม 60 เราทำได้แค่ 20นิดๆ จริงหรอ เราทั้งเครียดทั้งงง ทั้งสับสน ว่าเราทำได้แค่นี้จริงๆหรอ เราโง่ขนาดนั้นเลยหรอ เรารีบต่อสายหาอาจารย์ที่ปรึกษาแจ้งอาจารย์ ให้ดูคะแนนสอบของเพื่อนในกลุ่มเดียวกับเราที เพราะเราติวมาด้วยกันเคำตอบน่าจะคล้ายๆกัน อาจารย์ที่ปรึกษาเราไปดูตามคำบอกของเรา และสิ่งที่ได้เจอคือ คำตอบเหมือนกัน แต่ของเพื่อนมีคะแนน ของเราได้ O ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มเข้าทาง เริ่มกระจ่างแล้ว เราน้ำตาแตกเลยไม่คิดว่าจะโดนกับตัวเอง เรื่องแบบนี้ ทำไมอาจารย์ทำกับเด็กได้ลง
จนเรื่องเริ่มแดงขึ้นมา เรายืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ...
วันหนึ่ง อาจารย์นัดคุ่ยพร้อมหน้ากับอาจารย์ผู้ชายคนนั้น เราได้เผชิญหน้ากันจะๆ อาจารย์ผู้ชายยังไม่รู้ว่าเราพอรู้เรื่องคะแนนแล้ว แต่อาจารย์ที่ปรึกษาเราบอกเราให้เงียบไปก่อน เริ่มการสนทนา ตอบโต้กันไปว่า อาจารย์ผู้ชายยืนยันว่าตัวเอง ตรวจข้อสอบและให้คะแนน ตามความเป็นจริงแล้ว พร้อมทั้งพูดว่าเรา ประมาณว่าเราโง่เอง ไม่ตั้งใจเรียน ไม่เคยช่วยเพื่อทำงานกลุ่ม ทำพูดต่างๆโถ้เข้ามาดูซะเหมือนว่าเราเป็นคนผิด พร้อมทั้งตั้งคำถามทิ้งไว้ให้เราตอบว่า อาจารย์ผู้ชาย : ถ้าผมไม่ได้ทำอะไรผิดจริงคุณมีอะไรมารับผิดชอบไหม ?
เราเงียบไม่ตอบโต้อะไรทำสมือนว่าเรายังไม่รู้คะแนนตัวเอง อาจารย์ผู้ชายพูดรอบสองยังยืนยันว่าตัวเองไม่ผิด
อาจารย์ผู้ชาย : ถ้าผมทำผิดผมพร้อมจะยอมลาออก แล้วคุณละ มีอะไรมารับผิดชอบไหม
รอบนี้เราไม่เงียบ พูดสวนกลับทันที่ ว่า ถ้าหนูผิดหนูก็ขอลาออกเหมือนกัน !!
เราเริ่มน้ำตาไหล เริ่มพูดจาเถียง จนอาจารย์ท่านอื่นๆที่มาร่วมฟัง บอกว่า งั้นเอาไว้แค่นี้ก่อน ให้เรากลับไปศึกษาข้อมูลว่า นักศึกษาต้องทำขั้นตอนอย่างไรบ้างในการยื่นเรื่องร้องเรียนต่อไป ซึ่งเราก็แยกย้าย จนเวลาผ่านไปเกือบอาทิตย์
อาจารย์ที่ปรึกษาเราแจ้งเรามาว่า อาจารย์ฝ่ายวิชาการต้องการพูดคุ่ยตกลงกับเรา
เราเดินเข้าไปหาอาจารย์ฝ่ายวิชาการในห้อง เริ่มการพูดคุ่ยกัน ท่านให้เหตุผลกับเรามาว่า
อาจารย์ฝ่ายวิชาการ : จะปัดจากเกรด D มาให้เราเป็นเกกรด C แต่ให้เราจบเรื่องไว้แค่นี้อย่าเอาเรื่องอาจารย์ผู้ชายท่านนั้นต่อ
เรา : อาจารย์ค่ะ หนูอยากได้เกรดตามความเป็นจริง เกรดตามความสามารถหนูจริงๆ
อาจารย์ฝ่ายทะเบียน : ขึ้นได้เท่านี้ เธอจะเอามากกว่านี้ไม่ได้ถ้าเด็กคนอื่นรู้ เด็กก็มาขอขึ้นกันง่ายๆหมดนะซิ (แล้วนี่หนูผิดอะไรในใจแอบคิดนะเห้อออ )
ซึ่งเราก็อธิบายไปว่า : ถ้าเหตุการณ์แบบนี้มันไปตกอยู่กับเด็กที่ไม่กล้าพูดไม่กล้าเรียกร้อง หรือไปตกอยู่กับเด็กที่เรียนไม่ค่อยเก่งจริงๆ เรื่องแบบนี้ก็คงเงียบ คงไม่เป็นเรื่องเป็นราวแบบนี้
อาจารย์ฝ่ายวิชาการให้เหตุผลกับเราต่ออีกว่า : อาจารย์ผู้ชายท่านนี้แค่ลืมลงคะแนนให้เรา เอง คิดดูนะว่าเราเอาเรื่องอาจารย์ อาจารย์ต้องตกงาน เธอไม่กลัวบาปหรอ เธอรู้สึกดีหรอ เธอไม่ละอายแก่ใจหรอ อย่าเอาแค่ความสะใจสิ เราต้องเข้าใจอาจารย์ท่านนั้นด้วย
เห้ยย แค่ หรอ แค่!!!!! หรอค่ะอาจารย์ แล้วจะให้หนูเข้าใจว่ายังไงละค่ะ ทำกับเด็กแบบนี้ เห้อออ หนูต้องสงสารไหมมมมมมมมมม !!!
อาจารย์ฝ่ายวิชาการ : ถ้าเธอจะยื่นเรื่องไปไม่จบ เท่ากับว่าเธอไม่เห็นหัวอาจารย์ท่านอื่นๆ แล้วต่อไปนี้ใครจะกล้าตรวจข้อสอบเธอ เธอไมเชื่อมั่นใจอาจารย์ที่นี้เลยใช่ไหม พูดไปบลาๆ ตกลงตามที่อาจารย์เสนอเกรดไปให้นะ "
เรา : งั้นหนูขอกลับไปปรึกษาผู้ปกครองก่อน
อาจารย์ฝ่ายวิชาการ : นี่เธออายุเท่าไหร่แล้ว เรียนป.ตรี นะไม่ใช่อนุบาล ตัดสินใจเองไม่เป็นหรอ ถึงเธอจะยื่นเรื่องไปยังไง มันก็ต้องผ่านอาจารย์อยู่ดี ถ้าอย่างงั้นก็เอาตามที่เสนอไป
เรา : เล่าเรื่องชวนไปกินข้าว แล้วก็เล่าตามความจริงว่าเราได้มีการพูดว่าอาจารย์ท่านนี้จริงเรื่องรูปร่างและหน้าตาของอาจารย์
อาจารย์ : มีหลักฐานไหมว่าอาจารย์เขาชวนจริง (ซึ่งเราไม่มีแล้วเราได้ลบออกไปแล้วเพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น) เอาตามที่อาจารย์เสนอให้แล้วกันนะ ...
เราได้แต่เอออ่อ ตามน้ำไปตอนอยู่ในห้อง เพราะยิ่งเถียงเรายิ่งดูแย่ คืออาจารย์ฝ่ายวิชาการ แกพยายามยัดเยียดให้เอาตามที่แกเสนอมาอะ ซึ่งเราก็ไม่เข้าใจว่าทำไม คำพูดต่างๆที่อาจารย์พูดมา มันเหมือนเป็นการเข้าข้างกันอะ
จนถึงวันนี้ เรื่องราวจะจบยังไง เราไม่รู้เลยว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว ที่เรายื่นคำร้องไปจะไปถึงไหน T_T
ขอคำแนะนำทุกๆคนด้วยค่ะ เราพยายามหาวิธีการกู้แชทใน facebook เพื่อที่จะเอามาเป็นหลักฐานว่าคงไม่ใช่เพราะแค่ว่าลืมลงคะแนนให้ใช่ไหม เราว่ามันต้องมีเรื่องนั้นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแน่นอน เพราะทำไมถึงลืมลงคะแนนเรา มันดูจงใจไปไหม
ได้เกรด D เพราะไม่เล่นด้วยกันอาจารย์ ตลกสิ้นดี !!
ใช่ค่ะตามหัวข้อที่เราตั้งเลย เราถูกตัดเกรด D
เรื่องมีอยู่ว่า ....
วันหนึ่งประมาณ 3-4 ทุ่ม เวลาเราไม่แน่ใจจำไม่ได้ อาจารย์ผู้ชายคนหนึ่ง เขาได้ทักเฟสบุ๊คมาชวนเราออกไปกินข้าว ซึ่งเราก็ปฎิเสธไป อ้างไปต่างๆนาๆ ว่าลดความอ้วน กินแล้ว อิ่มแล้ว แกก็ตื้อนิดๆ ซึ่งตอนนั้นเราก็ไมได้สนใจและไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเพราะแกก็ชวนเด็กไปทั่ว จนวันเสาร์เรามาเรียน เราได้เล่าให้เพื่อนๆฟัง ( อ่อ เราลืมบอกไปว่าอาจารย์ผู้ชายท่านนี้ เขามีรูปร่างอ้วนดำมาก ) เราก็เอามาเล่าในกลุ่มเพื่อนๆ เล่าไปขำไป บางคำก็อาจจะพูดแรงไปด้วยมั่ง เราพูดกับเพื่อนว่า " อาจารย์ทักมาชวนไปกินข้าววะ ใครจะไปว๊ะ ดูรูปร่างสภาพน่าตาแกดิ " ซึ่งมันก็ผ่านไปจนเราก็ไม่ได้คิดอะไร จนถึงช่วงสอบกลางภาค คะแนนเราออกมา ค่อนข้างดี มี A B B+ แต่เหลืออีก 1วิชาที่เกรดยังไม่ออกซึ่งเราก็ไม่ได้คาดหวังอะไรว่าจะต้องได้เกรดA พอถึงวันที่เกรดวิชาสุดท้ายออก เห้ย D ว๊ะ D มาได้ไงวะ !!! เราค่อนข้างงงกับเกรดที่ออกมา หรือตูจะโง่จริงๆ เราคิดไปต่างๆนาๆ (เราไม่ได้เป็นเด็กเรียนเก่งอะไร แต่เราก็พอมั่นใจว่าเราก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้น ยิ่งเป็นวิชาที่เรามั่นใจว่าพอทำได้ มันยิ่งทำให้เราสับสน ติดอยู่ในหัวตลอดว่า D มันมาได้ไง ) ใช่ค่ะ วิชาสุดท้ายที่เกรดออกมาเป็นวิชาของอาจารย์ผู้ชายท่านนั้น
เราปล่อยวันเวลาผ่านไป ไม่ได้คิดถึงเรื่องที่เราไม่ไปกินข้าวกับอาจารย์หรือที่เราว่าอาจารย์ จนช่วงเดือน พฤศจิกายน 2558 เราไปศึกษาดูงานที่ต่างจังหวัด ซึ่งเป็น ช่วงที่เรารู้ข่าวมาว่า อาจารย์ผู้ชายท่านนี้ปล่อยเกรด A ให้กับเด็กที่ยอมหลับนอนด้วย เราไม่เชื่อรีบล๊อกอินเข้ารหัสเด็กคนนั้นเพื่อไปดูให้เห็นกับตา ว่าเห้ยแกยอมปล่อยเกรดจริงหรอ สรุปว่าจริงค่ะ เด็กคนนั้นได้เกรด A ไป และเรื่องของเด็กคนนั้นที่ยอมรับนอนเพื่อแลกเกรดอันนี้จริงค่ะ เราเคยเห็นด้วยตาตัวเอง เพื่อนๆทุกคนในห้องรู้กันทุกคน เราถึงได้มานั่งคิดทบทวนเรื่องที่เราปฎิเสธเรื่องไปกินข้าว แถมยังไปว่าแกให้เพื่อนฟังอีก เอ๊ะ หรือมีคนเอาไปฟ้อง มันต้องใช่แน่ๆ เพราะด้วยความที่เราปากค่อนข้างหมา บวกกับเป็นคนเสียงดัง ตอนที่เราพูดมันมีกลุ่มอีเด็กที่ยอมหลับนอนกับอาจารย์ ยืนอยู่ด้วย เราจึงไปปรึกษาที่ปรึกษาเรา เล่าเรื่องทุกอย่างให้อาจารย์ที่ปรึกษาเราฟัง อาจารย์ให้เราเขียนคำร้องขอตรวจสอบคะแนนสอบ
ซึ่งเราก็ทำตามคำแนะนำทุกอย่าง
อาจารย์ที่ปรึกษาเราตรวจดูคะแนนเก็บ คะแนนการเข้าเรียน คะแนนสอบไฟนอล เต็ม 40 ซึ่งเราได้ 30 ซึ่งมันก็ OK
คะแนนสอบปลายภาค เต็ม 60 ซึ่งเราคาดคะเนไว้ว่า เราน่าจะได้คะแนนประมาณ 20 นิดๆ ซึ่งเมื่อเอาคะแนนเก็บ 30+20 ได้คะแนน 50 นิดๆ ก็ตกอยุ่ในเกรด D พอดี ซึ่งเรางงว่า คะแนนเต็ม 60 เราทำได้แค่ 20นิดๆ จริงหรอ เราทั้งเครียดทั้งงง ทั้งสับสน ว่าเราทำได้แค่นี้จริงๆหรอ เราโง่ขนาดนั้นเลยหรอ เรารีบต่อสายหาอาจารย์ที่ปรึกษาแจ้งอาจารย์ ให้ดูคะแนนสอบของเพื่อนในกลุ่มเดียวกับเราที เพราะเราติวมาด้วยกันเคำตอบน่าจะคล้ายๆกัน อาจารย์ที่ปรึกษาเราไปดูตามคำบอกของเรา และสิ่งที่ได้เจอคือ คำตอบเหมือนกัน แต่ของเพื่อนมีคะแนน ของเราได้ O ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มเข้าทาง เริ่มกระจ่างแล้ว เราน้ำตาแตกเลยไม่คิดว่าจะโดนกับตัวเอง เรื่องแบบนี้ ทำไมอาจารย์ทำกับเด็กได้ลง
จนเรื่องเริ่มแดงขึ้นมา เรายืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ...
วันหนึ่ง อาจารย์นัดคุ่ยพร้อมหน้ากับอาจารย์ผู้ชายคนนั้น เราได้เผชิญหน้ากันจะๆ อาจารย์ผู้ชายยังไม่รู้ว่าเราพอรู้เรื่องคะแนนแล้ว แต่อาจารย์ที่ปรึกษาเราบอกเราให้เงียบไปก่อน เริ่มการสนทนา ตอบโต้กันไปว่า อาจารย์ผู้ชายยืนยันว่าตัวเอง ตรวจข้อสอบและให้คะแนน ตามความเป็นจริงแล้ว พร้อมทั้งพูดว่าเรา ประมาณว่าเราโง่เอง ไม่ตั้งใจเรียน ไม่เคยช่วยเพื่อทำงานกลุ่ม ทำพูดต่างๆโถ้เข้ามาดูซะเหมือนว่าเราเป็นคนผิด พร้อมทั้งตั้งคำถามทิ้งไว้ให้เราตอบว่า อาจารย์ผู้ชาย : ถ้าผมไม่ได้ทำอะไรผิดจริงคุณมีอะไรมารับผิดชอบไหม ?
เราเงียบไม่ตอบโต้อะไรทำสมือนว่าเรายังไม่รู้คะแนนตัวเอง อาจารย์ผู้ชายพูดรอบสองยังยืนยันว่าตัวเองไม่ผิด
อาจารย์ผู้ชาย : ถ้าผมทำผิดผมพร้อมจะยอมลาออก แล้วคุณละ มีอะไรมารับผิดชอบไหม
รอบนี้เราไม่เงียบ พูดสวนกลับทันที่ ว่า ถ้าหนูผิดหนูก็ขอลาออกเหมือนกัน !!
เราเริ่มน้ำตาไหล เริ่มพูดจาเถียง จนอาจารย์ท่านอื่นๆที่มาร่วมฟัง บอกว่า งั้นเอาไว้แค่นี้ก่อน ให้เรากลับไปศึกษาข้อมูลว่า นักศึกษาต้องทำขั้นตอนอย่างไรบ้างในการยื่นเรื่องร้องเรียนต่อไป ซึ่งเราก็แยกย้าย จนเวลาผ่านไปเกือบอาทิตย์
อาจารย์ที่ปรึกษาเราแจ้งเรามาว่า อาจารย์ฝ่ายวิชาการต้องการพูดคุ่ยตกลงกับเรา
เราเดินเข้าไปหาอาจารย์ฝ่ายวิชาการในห้อง เริ่มการพูดคุ่ยกัน ท่านให้เหตุผลกับเรามาว่า
อาจารย์ฝ่ายวิชาการ : จะปัดจากเกรด D มาให้เราเป็นเกกรด C แต่ให้เราจบเรื่องไว้แค่นี้อย่าเอาเรื่องอาจารย์ผู้ชายท่านนั้นต่อ
เรา : อาจารย์ค่ะ หนูอยากได้เกรดตามความเป็นจริง เกรดตามความสามารถหนูจริงๆ
อาจารย์ฝ่ายทะเบียน : ขึ้นได้เท่านี้ เธอจะเอามากกว่านี้ไม่ได้ถ้าเด็กคนอื่นรู้ เด็กก็มาขอขึ้นกันง่ายๆหมดนะซิ (แล้วนี่หนูผิดอะไรในใจแอบคิดนะเห้อออ )
ซึ่งเราก็อธิบายไปว่า : ถ้าเหตุการณ์แบบนี้มันไปตกอยู่กับเด็กที่ไม่กล้าพูดไม่กล้าเรียกร้อง หรือไปตกอยู่กับเด็กที่เรียนไม่ค่อยเก่งจริงๆ เรื่องแบบนี้ก็คงเงียบ คงไม่เป็นเรื่องเป็นราวแบบนี้
อาจารย์ฝ่ายวิชาการให้เหตุผลกับเราต่ออีกว่า : อาจารย์ผู้ชายท่านนี้แค่ลืมลงคะแนนให้เรา เอง คิดดูนะว่าเราเอาเรื่องอาจารย์ อาจารย์ต้องตกงาน เธอไม่กลัวบาปหรอ เธอรู้สึกดีหรอ เธอไม่ละอายแก่ใจหรอ อย่าเอาแค่ความสะใจสิ เราต้องเข้าใจอาจารย์ท่านนั้นด้วย
เห้ยย แค่ หรอ แค่!!!!! หรอค่ะอาจารย์ แล้วจะให้หนูเข้าใจว่ายังไงละค่ะ ทำกับเด็กแบบนี้ เห้อออ หนูต้องสงสารไหมมมมมมมมมม !!!
อาจารย์ฝ่ายวิชาการ : ถ้าเธอจะยื่นเรื่องไปไม่จบ เท่ากับว่าเธอไม่เห็นหัวอาจารย์ท่านอื่นๆ แล้วต่อไปนี้ใครจะกล้าตรวจข้อสอบเธอ เธอไมเชื่อมั่นใจอาจารย์ที่นี้เลยใช่ไหม พูดไปบลาๆ ตกลงตามที่อาจารย์เสนอเกรดไปให้นะ "
เรา : งั้นหนูขอกลับไปปรึกษาผู้ปกครองก่อน
อาจารย์ฝ่ายวิชาการ : นี่เธออายุเท่าไหร่แล้ว เรียนป.ตรี นะไม่ใช่อนุบาล ตัดสินใจเองไม่เป็นหรอ ถึงเธอจะยื่นเรื่องไปยังไง มันก็ต้องผ่านอาจารย์อยู่ดี ถ้าอย่างงั้นก็เอาตามที่เสนอไป
เรา : เล่าเรื่องชวนไปกินข้าว แล้วก็เล่าตามความจริงว่าเราได้มีการพูดว่าอาจารย์ท่านนี้จริงเรื่องรูปร่างและหน้าตาของอาจารย์
อาจารย์ : มีหลักฐานไหมว่าอาจารย์เขาชวนจริง (ซึ่งเราไม่มีแล้วเราได้ลบออกไปแล้วเพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น) เอาตามที่อาจารย์เสนอให้แล้วกันนะ ...
เราได้แต่เอออ่อ ตามน้ำไปตอนอยู่ในห้อง เพราะยิ่งเถียงเรายิ่งดูแย่ คืออาจารย์ฝ่ายวิชาการ แกพยายามยัดเยียดให้เอาตามที่แกเสนอมาอะ ซึ่งเราก็ไม่เข้าใจว่าทำไม คำพูดต่างๆที่อาจารย์พูดมา มันเหมือนเป็นการเข้าข้างกันอะ
จนถึงวันนี้ เรื่องราวจะจบยังไง เราไม่รู้เลยว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว ที่เรายื่นคำร้องไปจะไปถึงไหน T_T
ขอคำแนะนำทุกๆคนด้วยค่ะ เราพยายามหาวิธีการกู้แชทใน facebook เพื่อที่จะเอามาเป็นหลักฐานว่าคงไม่ใช่เพราะแค่ว่าลืมลงคะแนนให้ใช่ไหม เราว่ามันต้องมีเรื่องนั้นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแน่นอน เพราะทำไมถึงลืมลงคะแนนเรา มันดูจงใจไปไหม