ตอนสมัย ม.ปลาย ผมควบคุมความฝันได้ ( Lucid dreaming )

ตอนสมัย ม.ปลาย ผมควบคุมความฝันได้ ( Lucid dreaming ) เพื่อนๆคนไหนเป็นเหมือนผมบ้างครับ แชร์ประสบการณ์กันได้นะครับ ^^

นี่เป็นกระทู้แรกเลยครับ ไม่เคยตั้งกระทู้เองเลย เลยอยากลองแบ่งปันประสบการณ์ให้เพื่อนๆได้อ่านกันครับ

ปล. ขอบคุณกระทู้  http://ppantip.com/topic/34835697/comment52    ทำให้นึกถึงเรื่องอดีตจนไปสู่การนำมาเล่าให้เพื่อนๆฟังครับ

ขออนุญาตเล่าให้เพื่อนๆฟังจากประสบการณ์ตรงเลยนะครับ
สำหรับคนที่กำลังเป็นอยู่หรืออยากจะลองทำ Lucid dreaming บ้าง
แต่เดี๋ยวก่อน ก่อนจะเล่าให้ฟังขอบอกว่าผู้เขียนไม่ได้บ้าหรือเป็นโรคจิตนะครับ มีสติสัมปชัญญะดีทุกประการ และทั้งหมดเกิดขึ้นจริงๆไม่ได้แต่งขึ้นแต่ประการใด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ

            ตามนิยามของทฤษฎีฝรั่ง Lucid dreaming หรือการควบคุมความฝัน https://www.gotoknow.org/posts/91444   เป็นการที่เราจะระลึกถึงอยู่เสมอว่าเรากำลังฝันอยู่ และเราสามารถทำอะไรก็ได้ในความฝันของเราเช่น บินขึ้นไปบนฟ้าและเราสามารถรู้สึกถึงความสดชื่นบนท้องฟ้าเหมือนกับได้บินขึ้นไปจริงๆ ถามว่าดีไหม ตอบว่าดีมากๆครับ แต่มีข้อเสียไหม มีครับและในบางครั้งน่ากลัวกว่าที่คิด ในส่วนของผมขอแบ่งเป็น Part นะครับกลัวมันเยอะและค่อนข้างซับซ้อน ขอเริ่มเล่าเลยนะครับ


Part 1
ตัวผมเองเกิดภาวะ Lucid dreaming ครั้งแรกเมื่อตอนเรียน ม.4-ปี.1 (2545-2548) รวมระยะเวลา3ปีเศษ เกิดขึ้นกับผมหลายสิบครั้ง แต่ละครั้งความถี่ของการเกิดจะห่างกันตั้งแต่ 3 วันเกิดครั้งนึง ไปจนถึง 3 เดือนถึงจะเกิดขึ้นครั้งนึง ผมไม่สามารถนอนหลับแล้วบังคับให้มันเกิดวันนี้หรือพรุ่งนี้ได้ แต่ถ้ามันเกิดขึ้นมันจะเกิดความรู้สึกนั้นเองครับ


แรกๆมาบ่อยครับ ทุกๆ 3-5วันเกิดขึ้นครั้งหนึ่ง บินไปบินมาตามบ้าน ตามอ่างเก็บน้ำ(แค่กระโดดพุ่งขึ้นฟ้านึกจะบินสามารถบินได้สบายๆครับ) รู้สึกสดชื่นมีความสุขมากๆครับ วันไหนได้วิ่งจะเหนื่อยเหมือนวิ่งจริงๆ ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าจะเกิดภาวะนี้นานเท่าไหร่ในการฝันแต่ละครั้ง เริ่มจาก5นาทีไปจนถึงเป็นชั่วโมง!!  

หากผมวิ่งขึ้นเขา20นาที จะรู้สึกว่าผมวิ่งขึ้นเขาจริงๆ20นาทีครับ ตื่นขึ้นมาจะเหงื่อแตกพลั่กๆ
แต่หากผมโดนเตะ ผมจะรู้สึกเจ็บเหมือนโดนเตะจริงๆครับ นั่นล่ะคือข้อเสียครับ!!

ครั้งหนึ่งผมฝันว่านั่งอยู่ท้ายรถกระบะไปกับใครก็ไม่รู้4-5คน ในฝันเป็นตอนกลางคืน รถกำลังจะไปถึงแยกบายพาสบ้านวังยาว จว.มหาสารคาม  ขณะนั้นคนที่นั่งมาด้วยบอกว่าจะไปฉี่ เลยเข้าห้องน้ำตรงทางแพร่งหัวมุมถนน(ที่จริงไม่มี) ผมไม่ปวด แต่เข้าไปในห้องน้ำด้วย สักพักมีใครก็ไม่รู้เอามือยาวๆมารัดตัวผมไว้(มือผู้หญิง) หายใจไม่ออกทรมานมาก ทำยังไงก็ดิ้นไม่หลุด การหยิกตัวเองหรือเอาหัวโขกเสาปูนไม่ทำให้คุณตื่นนะครับเมื่อคุณเข้าภาวะนี้แล้ว แม้กระทั่งฝันว่าจมน้ำ คุณจะจมลงไปชนิดหายใจไม่ออกน้ำท่วมปอด หรือบินไปสูงเกินไปจนติดอยู่ข้างบนทุกอย่างมืดสนิทเหมือนอยู่ในอีกมิติในหนังเรื่อง Interstella แบบนั้นล่ะครับ ร้องไห้น้ำตาไหล สวดมนต์อยู่เป็นชั่วโมงจนค่อยๆตกลงมาถึงจะตื่นได้

ขอสรุปใน Part แรกนะครับ
เมื่อเข้าสู่ภาวะ Lucid dreaming สิ่งที่จะเกิดกับคุณมี2แบบคือ
1.พลังเหนือมนุษย์ จะโดดตึกบินไปไหนก็ได้ดั่งใจในฝันด้วยความเร็วสูง ผมเคยโดดตึก4ชั้นโชว์ในฝัน แต่ไม่ตายและนั่งคุยกันอยู่เป็นชม.กับคนในฝัน
2.พลังเท่ามนุษย์ทั่วไป หากโดนเตะต่อย บีบคอ คุณจะเจ็บเหมือนโดนจริงๆและบังคับให้ตื่นไม่ได้ คุณจะหยั่งรู้และค้างอยู่ในความฝันนานตราบเท่าที่คุณจะตื่น (ผมเคยช็อคครั้งนึงเมื่อฝันว่าตัวเองอยู่กลางสนามเด็กเล่นที่กว้างมากและไม่มีใครอยู่ในนั้นนอกจากผู้หญิงผมยาวไม่มีหน้า พอเธอหันมาเท่านั้นแหละครับ ผมช็อคค้างอยู่นานเลย เหมือนโดนสะกด)  
แต่ก็มีข้อดีนะครับ ข้อดีคือถ้าคุณไปกอดใคร ไปทำอนาจารกับใคร คุณจะรู้สึกเหมือนได้กอดคนจริงๆ มันก็ดีตรงนี้แหละครับ หัวเราะ




Part 2 พัฒนาการของ Lucid dreaming

จากที่ Part1 จะเห็นได้ว่า ครั้งแรกๆที่ผมฝัน ไม่ว่าจะดีหรือร้ายจะไม่สามารถควบคุมให้ตัวเองตื่นหรือทำอะไรได้เลย อยู่ดีๆก็ตื่นกำลังคุยสนุกเลยหรือบางครั้งนานและจะค้างเติ่งอยู่ในความฝัน ดังนั้น หากคุณเริ่มเกิดภาวะนี้รีบๆทำก่อนจะตื่นนะครับ
มันเกิดขึ้นหลายครั้งเสียจนรู้วิธีควบคุมความรู้สึกของร่างกายให้ตื่นหรือไม่ให้ตื่นได้ ฝันทุกครั้งผมมีการวิเคราะห์ความฝันและเตรียมตัวในฝันครั้งถัดไปอยู่เสมอ  

และเมื่อคุณชำนาญสักนิดแล้วคุณจะสามารถสนทนาตอบโต้กับคนในฝันได้ครับ (คำตอบจะไม่เหมือนกับในความฝันทั่วไป) คือมันไม่ไร้สาระและไม่ออกทุ่งครับ เช่นคุณขอเบอร์คน ถ้าฝันปกติ คุณจะได้เบอร์มา2หลัก ไม่ก็เต็มหน้าจอ แต่ถ้าคุณขอเบอร์ในภาวะ Lucid คุณจะได้ตัวเลขครบ 10 หลักเป๊ะๆ เป็นต้นครับ

----มีครั้งหนึ่งผมฝันว่า ผมอยู่ข้างๆสถานีตำรวจ ผมยืนอยู่ริมฟุตบาทถนน อยู่ดีๆก็รู้สึกว่าเรากำลังฝันอยู่ นั่นล่ะ ฝั่งตรงข้ามมีร้านขายหนังสือ ผมวิ่งข้ามไปร้านขายหนังสือ

***ทุกครั้งที่เกิด Lucid dreaming เมื่อไปเจอใครผมจะถามวันเดือนปีคนในฝันทุกครั้งครับ เพื่อนๆที่เป็นลองทำแบบผมได้นะครับ***

ผมเริ่มถามเจ้าของร้านขายหนังสือถึงวันเดือนปีขณะนั้น
เขาตอบมาว่า วันที่ 1 เมษายน 2563 !!
ผมเริ่มคิดแล้วว่า อ้าว มันเป็นอนาคตนี่นา งั้นร้านหนังสือต้องมีหนังสือพิมพ์ฉบับตรวจล็อตเตอร์รี่วันที่ 16 เมษายน 2546 แน่นอน (1ในทฤษฎีของผมคือการฝันคือการทำนายอนาคตครับ(อ่านประวัติศาสตร์มาเวลากษัตริย์ไทยโบราณทรงพระสุบิณเห็นนู่นนี่นั่นสามารถทำนายบ้านเมืองได้ อะไรแบบนี้ครับ เลยลองดู)   หากเราคุยกับคนที่อยู่ในอนาคตได้ เราก็จะล่วงรู้อนาคตกาลเป็นแน่)
แล้วผมก็ขอดูหนังสือพิมพ์ฉบับตรวจล็อตเตอร์รี่วันที่ 16 เมษายน 2546 (ในเวลาปัจจุบันคือ 1 เมษายน 2546 ครับ)
ไม่นานเจ้าของร้านก็เอาออกมาให้ดูครับ เป็นเลข 6 หลัก แม่เจ้า!!
ผมขอกระดาษกับเจ้าของร้านเพื่อจดแล้วกลับมาบ้านทันที!!!
พอจดเสร็จตื่นมา อ้าว มันเอากลับมาไม่ได้ครับ!! เลยไม่รู้ว่า มันถูกจริงหรือเปล่า

***ครั้งนั้น skill ยังไม่ดีครับ คือรู้ตัวว่าฝัน แต่คิดไม่ถึง ขอกระดาษจดนึกว่าจะเอาติดตัวมาได้ เลยพลาด นำไปสู่การทดลองขั้นต่อไปครับ***

-----คราวนี้รู้แล้วว่าตัวเองนำกระดาษหรืออะไรก็ตามออกมาด้วยไม่ได้ เลยต้องจำอย่างเดียวครับ จำๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ฝันครั้งต่อมาห่างกันไม่นานครับ ฝันว่าอยู่ รร แห่งหนึ่ง ที่จว ผม (เหมือนรร ประถมที่ผมเคยเรียนมาก่อนแต่มันไม่ใช่ที่นักเรียนเป็นเด็กโตแล้ว) เป็นช่วงเวลาพักเที่ยง ฝนตกปรอยๆ อากาศเย็นยะเยือก ผมเดินเข้ามาในโรงเรียน รร นี้ในฝันผมเห็นแต่เด็กผู้หญิงไม่มีนักเรียนชายเลย ยูนิฟอร์ม เสื้อแขนยาวสีขาวผูกเหมือนเนคไทสั้นๆสีแดง กระโปรงลายสก็อต   ผมเดินไปเรื่อยๆ ไม่มีใครสนใจผม (ถ้าใครเกิดภาวะแบบนี้แรกๆแล้วเข้ามาคงจะไม่กล้าเดินเข้าไป เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าไม่ใช่คน บรรยากาศมันน่ากลัวครับ)  
ถึงทุกคนท่าเดินแปลกๆเดินช้าๆ แต่มีเด็กคนหนึ่งมองและยิ้มให้ผม สาวน้อยหน้าตาใช้ได้(อายุประมาณ15-16)  ผมเลยกวักมือเรียก น้องแกวิ่งมาหาผม ผมถามเธอว่าชื่ออะไร (ผมจำไม่ได้)   ผมบอกชื่อเธอ เราก็คุยกับสักพัก   เธอบอกผมว่าพักเที่ยงตอนนี้ใกล้ออดดังแล้ว สักพักผมก็บอกเค้าว่านี่เราฝันอยู่นะ เดี๋ยวเราจะตื่นแล้วนะ    ผมเลยถือโอกาสพิสูจน์ทฤษฎีเลยครับ ขอเบอร์เธอ!!

เธอให้เบอร์ผม เธอบอกเอากระดาษมาจด ผมรู้ทันเลยบอกว่าบอกมาเลยเราไม่เอากระดาษจดหรอก มันเอากลับไปไม่ได้  ผมจำๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆใส่หัว แล้วออดก็ดังแล้วเราก็แยกจากกัน  แล้วผมก็รู้สึกสลึมสลือแล้วก็ตื่น  

พอตื่นขึ้นมาผมโทรหาสาวคนนั้นเลยครับ (ใจนึงไม่กล้าโทร ถ้าบอกว่าได้เบอร์จากในฝันเดี๋ยวเค้าหาว่าบ้า)
และแน่นอน เบอร์9หลัก(สมัยนั้น) โทรไปก็ไม่รู้ว่าจะติดหรือเปล่า หรือโทรไปอาจจะเป็นผช  ไม่ก็คนแก่ มีเปอร์เซนต์น้อยมากที่จะเป็นเด็กหญิงอายุ15-16
พอผมกดโทร ตื๊ดๆๆๆๆ เป็นผญ รับสายครับ พอผมว่า "ไม่ทราบว่านี่ใครพูดอยู่ครับ"  คำแรกที่เธอพูดคือ "นี่เอ็งมาอำเราทำไมว้า"
เธอนึกว่าผมเป็นเพื่อนโทรไปแกล้ง  สุดท้ายก็เล่าให้ฟังเธอก็หัวเราะ แต่ไม่ว่าผมบ้าเลยนะ(หรืออาจจะคิดในใจ) 555

เธอบอกว่าเธออยู่เชียงใหม่ เรียน รร อะไรนี่แหละครับผมจำไม่ได้ T_T  ชั้นปวส   ผมนี้อึ้งเลยครับ (ไปค้นดูกูเกิ้ลสถาบันที่เธอบอกเสื้อแขนยาว ผูกเนคไทสั้นๆสีแดง (จำไม่ได้ครับว่าที่ไหน ใครอยู่เชียงใหม่บอกด้วยน้า) คล้ายๆกับที่เห็นในฝันเลยครับ

จากนั้นมาเวลาผมจะตื่นผมจะรู้ล่วงหน้าประมาณ10วินาทีเพื่อบอกลา และสามารถตื่นขึ้นมาแล้วเข้าไปฝันต่อเรื่องเดิมได้อีกต่างหากครับ (ห้ามขยับตัวเมื่อตื่นและทดลองหลายครั้งต้องเป็นท่าตะแคงเท่านั้น ไม่รู้ว่าทำไม) ไม่ใช่ครั้งสองครั้ง ทุกครั้งที่เกิด Lucid dreaming ครับ

สรุป Part 2 นะครับ
-ตอนที่เป็นแรกๆ ทำอะไรไม่ได้มาก อยู่ดีๆก็ตื่น ยังไม่ได้พูดกันเลย หลังๆควบคุมไม่ให้ตื่นก็ได้ สามารถพูดคุยกับคนข้างในฝันนั่งคุยกันได้นานจนอยากจะตื่นเมื่อไหร่ก็ทำได้ และก่อนจะตื่นมันจะมีสัญญาณบอกก่อนเสมอ ที่นานที่สุดผมแต่งกลอนได้เป็นบทเลยครับ
-หากฝันร้ายรุนแรงมากๆ(โดนบีบคอ มีดปาดคอ รถชนอะไรแบบนี้)หรือโดนพันธนาการไว้จากใครก็ไม่รู้  ผมมีวิธีถ้าหยิกตัวเอง หรือเอาหัวโขกเสาปูนมันจะไม่ตื่นคุณหลับลึกเกินไป เจ็บหัวเปล่าๆ ให้เกร็งกรามฟันล่างทำจนหน้าสั่นเลยครับ ตื่นแน่นอน (ไม่รู้ใช้กับผีอำได้ไหม) ลองดูนะครับ

ว่าจะมีแค่ 2Part พอดีเหลืออีกเรื่องที่อยากจะเล่าให้ฟังครับ ขอเป็น Part3 ละกันครับ
Part 3 เป็น Part สุดท้ายนะครับ เป็นบทสรุป จะทะลุลึกลงไปอีกระดับนะครับ จนถึงครั้งสุดท้ายที่เกิดครับ  เดี๋ยวมาเขียนต่อนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่