เราเข้ามานั่งรอน้องใน Lounge ของ King power แอบบอกก่อนไม่เคยรู้ว่าบัตรเคดิตไทยพาณิย์ของแฟนเป็น King power ทำให้ใช้สิทธิ์เข้าฟรีพร้อมผู้ติดตาม 2 ท่าน และสำหรับสมาชิก King power ก็เข้าได้นะคะ กินฟรีทุกเมนู ลุยเลย
พาชมบรรยากาศด้านในกัน พนักงานบริการดี มีห้องอาบน้ำด้านในด้วย ขอผ้าขนหนูกับเจ้าหน้าที่ได้เลย ข้อเสียนิดนึงตรงที่นั่งน้อยไปนิดเวลามีคนเข้ามาเยอะๆไม่มีที่นั่งกินเพียงพอ
[CR] เมื่อฉันแบกเป้ ตะลุยเมืองลอดช่อง " สิงคโปร์ " 3 คืน 4 วัน EP.1
วันนี้ได้โอกาสทำรีวิว แนะนำประเทศน่าเที่ยวอีกที่หนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านเรานัก นั้นคือประเทศสิงคโปร์ ออกตัวก่อนเลยว่าเป็นคนที่ไม่เก่งภาษานักแต่ลองอ่านรีวิวและการเดินทางด้วยตนเองที่สิงคโปร์ดูเหมือนไปไม่ยากนัก คิดว่าเอาน่าต้องลองดู เริ่มแรกเราจองตั๋วกันเลย ด้วยความที่ไม่ได้เตรียมซื้อตั๋วถูกไว้ช่วงโปร ทำให้ราคาตั๋วสายการบินประหยัดค่อนข้างสูง คนละ 5000 กว่าบาท เลยยอมจ่ายแพงอีกหน่อยนั่งการบินไทยรักคุณเท่าฟ้าค่าตั๋วประมาณ 6000+ นิดๆ ทริปนี้จะเรียกว่าเป็นทริปประหยัดก็คงยังไม่ได้ เดี่ยวจะพยายามสรุปค่าใช้จ่าย
ณ. สุวรรณภูมิ บ้านเฮา วันแรกเกือบตกเครื่องเพราะน้องสาวลืมเอาพาสปอร์ตมาด้วย ม๊ากับป๊ารีบกลับไปเอาให้ที่บ้านทันเวลาแบบเฉียดฉิวพนักงานเค้าเตอร์การบินไทยน่ารักแนะนำว่าใครที่มีเอกสารพร้อมเข้าไปเช็คอินรอด้านในก่อนนะคะ สำหรับน้องสาวเดี๋ยวพี่ดูแลให้เข้าทางด่วนพิเศษตามเข้าไปหาคะ เราเลยทำตามคำแนะนำของพนักงานให้น้องรอด้านนอกคนเดียว เพราะถ้าตกเครื่องจะได้ซื้อตั๋วใหม่แค่คนเดียวแล้วให้ตามมาที่หลัง
เราเข้ามานั่งรอน้องใน Lounge ของ King power แอบบอกก่อนไม่เคยรู้ว่าบัตรเคดิตไทยพาณิย์ของแฟนเป็น King power ทำให้ใช้สิทธิ์เข้าฟรีพร้อมผู้ติดตาม 2 ท่าน และสำหรับสมาชิก King power ก็เข้าได้นะคะ กินฟรีทุกเมนู ลุยเลย
พาชมบรรยากาศด้านในกัน พนักงานบริการดี มีห้องอาบน้ำด้านในด้วย ขอผ้าขนหนูกับเจ้าหน้าที่ได้เลย ข้อเสียนิดนึงตรงที่นั่งน้อยไปนิดเวลามีคนเข้ามาเยอะๆไม่มีที่นั่งกินเพียงพอ
กินข้าวเสร็จ น้องสาววิ่งหน้าตั้งเข้ามาหาเสียงหายใจแรงเพราะหล่อนตัวเล็กและกลัวตกเครื่องมากๆ วิ่งดุ๊กๆมาทันเวลา
และนี้เอง เรือบินลำนี้หละที่จะพาพวกเราไปสิงค์โปร์
ตลอดการเดินทางเราดูหนัง ฟังเพลงกันเพลินเชียว
ต่อด้วยเสริฟอาหารบนเครื่อง การบินไทย อาหารอร่อยถูกปากคนไทยอยู่แล้ว พี่แอร์คนสวยแจกผ้าห่มให้กินเสร็จเราก็นอนต่ออีกนิดเติมพลัง
ถึงแล้วจุดมุ่งหมายของเรา เมืองลอดช่อง ณ สนามบินชางงี
ตม. ที่นี้ไม่ค่อยเรื่องมากอะไรยิ้มแย้มต้อนรับนักท่องเที่ยว ( ฉันรู่ได้ไงเค้ายิ้มเค้าปิดปากอยู่ 555 ) เพียงแต่ต้องกรอกเอกสารเข้าเมืองให้เรียบร้อยก็ไม่มีปัญหา
ไปถึงแวะซื้อซิมส์การด์สำหรับโทรและใช้เน็ตเพื่อการท่องเที่ยวแบบไม่สะดุด
เน็ตพร้อมเปิดแผนที่แล้วเตรียมตะล่อนทัวส์กันเลย
การเดินทางที่นี้ใช้ บัตร EZ link เดินไปที่ซื้อที่ Counter โดยจะมีค่าบัตร 5 SGD และเติมเงินที่เราจะใช้เที่ยวไปในบัตรได้เลย... หมดแล้วก็เอาเงินไปหยอดตู้เติมเงินเข้าบัตรได้ง่ายๆ
รถไฟมาจอดแล้วจุดมุ่งแรกของเราคือ MRT Chinatown เพื่อไปที่พักในครั้งนี้ Beary Best โฮลเทลน่ารักอารมณ์มุ้งมิ้ง ฝรั่งแซ่บ แถมเดินเที่ยวหาของกินใกล้ๆ สถานีรถไฟฟ้าอยู่หน้า รร
ชมห้องพักกัน เราจองแบบห้องส่วนตัว นอน 3 คนไม่ได้นอนรวมกับคนอื่น ตกคืนละ 930 บาท/คน นอนสบายไม่แพ้ โรงแรมเลย ห้องน้ำรวมแต่สะอาด อาหารเช้าบริการตัวเอง แถมเสื้อผ้ายับมีที่รีดด้วยนะสบายยังกับอยู่บ้านปลอดภัย
พาเดินชมห้องนอนกัน ห้องน่านอนจริงๆ ใครเริ่มต้นแบกเป้เที่ยวพักที่นี้ได้เลย
พาชมทุกซอกทุกมุมของที่พักกันไปแล้ว วันแรกเราเที่ยวย่านไชน่าทาว์นกันดีที่เที่ยวแรกของเราวันนี้ใครมาก็ต้องแวะ
เข้าไปสักการะขอพรที่วัดพระเขี้ยวแก้ว :: เดินเท้า
ผ่านหน้าวัดเขี้ยว เราเดินมาถึงศูนย์อาหาร Maxwell แหล่งของกินอร่อยราคาประหยัด อยู่ฝั่งตรงข้ามวัดพอดี :: เดินเท้า
เมนูแรกที่เราจะชิม ตามรอยรีวิวชาวพันทิปมาเหมือนกัน ข้าวมันไก่สิงค์โปร์ รสชาติใช้ได้อาหารที่นี้จะรสไม่จัดแบบบ้านเรา สังเกตุว่าส่วนมากจะใช้ซีอิ้ว ปรุงอาหารแทนน้ำปลา และอาหารจะมีกลิ่นน้ำมันงาผสมอยู่หอมแปลกๆดี ส่วนเรื่องค่าเสียหายจำไม่ได้ชัดเจนราว 2.5-4 SG
อิ่มท้องแล้วเราไปเที่ยวที่สองกัน วัดศรีมาริอัมมันต์ สิงค์โปร์เป็นเมืองหลากเชื้อชาติจริงๆ วัดแขก และวัดจีน ก็อยู่รวมกันไม่ห่างกันมากนักความงามของศิลปะอินเดิยสะท้อนเอกลักษณ์ได้โดดเด่นและชวนมอง ::เดินเท้า
ถัดจากวัดแขกมาไม่ไกลเราเดินไปถ่ายรูปแลนมาค์อีกที่หนึ่งที่ชอบมีคนถ่ายรูปมาเยอะ red dot design awards ที่เราเรียกกันว่าตึกแดงนั้นหละ สีอาคารแดงทั้งตึก เป็นแนวยาวถ่ายรูปออกมาสวยมาก ::เดินเท้า
หลังจากเดินผ่านตึกแดงเราจะเจอสถานีรถไฟฟ้า จุดนี้เราจะไปที่ Merlion park กัน การเดินทางไม่ยากเลยดูแผนที่เส้นทางไปที่สถานี :: MRT - Raffles Place
เจ้าสิงโตน้อยป่วย ทำให้มีการปิดซ่อมแซมเราได้รูปมาเท่านี้เอง แต่ใครไม่ได้มาเหยียบที่นี้ถือว่ามาไม่ถึงสิงคโปร์นะ
จากจุดที่เราอยู่ มองไปฝั่งตรงข้ามจะเห็น มารีนาเบย์แซนส์ (Marina Bay Sands) คือรีสอร์ทขนาดใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ เราจะเดินไปเที่ยวกัน ::เดินเท้า
จากเจ้าสิงโตน้อยมาถึงตึกเรือ ...ไกลอะเดินกันเหนื่อยเชียวแต่ก็ได้เดินเล่นชมบรรยากาศช่วงเย็น มีคนออกกำลังกาย พาน้องหมาเดินเที่ยว เยอะแยะไปหมดทำให้พอหายเหนื่อยได้บ้าง :: เดินไกลจัง
มาถึงแล้วภายในตึกเรือแห่งนี้ จำลองบรรยากาศเมืองเวนิส และมีห้างค้าต่างๆมากมาย รวมถึงด้านบนจะเป็นห้องพักสุดหรู
เดินผ่านอาคารออกมา เราจะเจอที่หมายอีกที่ที่เราจะมาถ่ายรูป คือ garden by the bay มีการแสดงเสียง OCBC แสดงรอบละ 15 นาที เราชมรอบ 19.45 น
ขาเดินกลับ มองเห็น Singapore Flyer ชิงช้าสวรรค์ (Observation Wheels) ตั้งอยู่บริเวณริมปากอ่าวมาริน่า ด้วยความสูงเทียบเท่ากับอาคาร 42 ชั้น อยู่ริบๆไม่ได้แวะไปขึ้นเลยถ่ายรูปมาแทน ::เดินอีกแล้ว
หลังจากแวะถ่ายรูปแสงสีนานพอสมควรท้องเริ่มร้อง พวกเราเดินไปที่สถานีรถไฟฟ้า เพื่อกลับไปหาของอร่อยทานแถวไชน่าทาว์ :: รถไฟฟ้า
ร้านติ่มซำ เทกโป (Tak Po) ย่านไชนาทาวน์ อ่านตามรีวิวมีคนบอกอร่อย แต่เราชิมแล้วมันไม่อร่อยเท่าไหรนะ สั่งอะไรหมดเลยชิมเพียงบ้างเมนู ( ไม่ผ่านอะ ราคาแพงไป ) EP.2 เดี๋ยวพาไปแนะนำของกินถูกอร่อยไซน่าทาว์นแบบไม่ตามใคร ( ถูก ประหยัด อร่อย )
ปิดท้ายคำคืนนี้ด้วยอาหารโปรดที่นึกถึงทีไรก็อร่อยทุกครั้ง ถ้วยละ 1 SGD พรุ่งนี้เริ่มกันใหม่
สรุปผลวันนี้
เดินระยะทาง 18 กม
ค่าอาหารคนละ 10-15 SGD
ค่าที่พักคนละ 930 บาท/คืน/คน
ค่าตั๋วเครื่องบิน 6,000 บาท/คน
คะแนนที่พัก 8/10 ( บางทีอาหารเช้าหมดไว )
เที่ยววันแรกกันแล้วไปต่อวันที่ 2 ต่อเลยhttp://ppantip.com/topic/34840154
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น