http://www.matichon.co.th/news/47360 (มีภาพสะเทือนใจ)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ เวลา 10.30 น. ที่ทำการเขตห้ามล่าสัตว์ป่าดอยพระบาท อ.เมืองปาน จ.ลำปาง นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และ พล.ต.วิจักษณ์ สิริบรรสพ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี จ.ลำปาง ได้รุดตรวจสอบ และรับทราบรายงานเกี่ยวกับกรณีที่พบกวางป่า หรือที่เรียกว่ากวางม้า ซึ่งเป็นกวางตัวใหญ่ น้ำหนักมากถึง 200 กิโลกรัม สูงประมาณ 2 เมตร ถูกพรานล่าสัตว์ป่ายิงในเขตป่าของห้ามล่าสัตว์ป่าดอยพระบาท ก่อนที่กวางจะหนีตายออกมาถึงหมู่บ้านนิคม เขต 15 ต.ทุ่งฝาย อ.เมือง จ.ลำปาง เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาพักรักษาไว้ที่ทำการเขตล่าสัตว์ป่าดอยพระบาท เพื่อทำการรักษา เนื่องจากกวางได้รับบาดเจ็บถูกยิงเข้าที่สะโพก และต้นขาหลังซ้าย 2 นัด คณะสัตวแพทย์ได้ทำการผ่ากระสุนออกไปแล้ว 1 นัด ยังคงเหลือในจุดที่ลึกอีก 1 นัด ซึ่งทางคณะสัตวแพทย์จะได้ประเมินร่างกายกวางว่า จะมีความพร้อมในการผ่าตัดหรือไม่ นอกจากนี้ บริเวณกีบขาหน้าด้านขวา ที่ได้หลุดออกมาทั้งสองข้าง เนื่องจากในขณะที่วิ่งหนีคงตะกุยมาตลอดทาง ก็เป็นบาดแผลที่น่าห่วง และอาจจะมีปัญหาติดเชื้อ รวมถึงกวางได้นอนอยู่ตลอดเวลาหลังอาการทรุดลง ทำให้น่าห่วงมากยิ่งขึ้น เพราะกวางเป็นสัตว์ที่มี 2 กระเพาะ หากนอนนานๆ จะทำให้ระบบภายในไม่สู้ดี โดยสภาพอาการในวันนี้ กวางได้ถูกนำไปมัดไว้ในป่าของที่ทำการ เพื่อให้อยู่ห่างจากคน โดยยังคงตื่นตระหนก และกลัวคนที่จะเดินเข้าใกล้
โดย นายภานุเทพ วงศ์วาร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปาง ได้รายงานว่า กวางที่พบตัวนี้เป็นกวางตัวผู้ รูปร่างใหญ่สมบูรณ์ ซึ่งตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังสืบเสาะแหล่งที่มา เนื่องจากพื้นที่ป่าใน จ.ลำปาง ตั้งแต่ในอดีต จะไม่มีกวางชนิดนี้อาศัยอยู่ หรือหากเข้ามาอาศัยใหม่ก็จะต้องอยู่รวมกันเป็นฝูงไม่ได้อยู่สันโดษตัวเดียว และจากการข่าวที่ผ่านมาก็ไม่เคยพบกวางชนิดนี้มาก่อนใน จ.ลำปาง ดังนั้น ตัวนี้จึงเป็นการพบเป็นตัวแรก อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นว่า อาจจะเป็นกวางที่ได้รับการอนุญาตให้เพาะเลี้ยง และเกิดหลุดออกมาหรือไม่ จึงจะได้เร่งตรวจสอบต่อไป
“สำหรับในพื้นที่ จ.ลำปาง ขณะนี้นอกจากกวางที่พบแล้ว ทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปาง ยังได้รับรายงานว่า พื้นที่ป่าแนวรอยต่อของ ต.แม่มอก อ.เถิน จ.ลำปาง และ อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย พบสัตว์ป่าสงวน ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง จำนวน 2 ชนิด พึ่งเข้ามาอาศัยอยู่จากผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ ได้แก่ กระทิง และวัวแดง โดยสัตว์ป่าทั้ง 2 ชนิด ได้อาศัยอยู่ในป่าในลักษณะเป็นฝูง อยู่กันแบบครอบครัว สำหรับพื้นที่ป่าดังกล่าวนั้น ยังไม่ได้รับการประกาศให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ ดังนั้น จะได้เสนอต่อกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ขอให้เป็นเขตป่าห้ามล่าสัตว์ป่า เพื่อหวังคุ้มครองสัตว์ป่าสงวนเหล่านี้ไว้”
นอกจากนี้ บริเวณแนวป่าเทือกเขาดอยผาเมือง ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง ซึ่งเป็นเขาสูงกั้นระหว่าง จ.ลำปาง และ จ.ลำพูน รวมถึงแนวเขาที่ยาวยังเชื่อมต่อ จ.เชียงราย และเชียงใหม่ ด้วย เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า พบควายที่เลี้ยงไว้ตามแนวป่าเขตบ้านโป่งยาง อ.แม่ทา จ.ลำพูน ถูกกัดที่ต้นคอจนตาย ก่อนที่จะถูกสัตว์กัดกินที่บริเวณขา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เป็นเสือโคร่งที่กัดกินควายของชาวบ้านที่เลี้ยงเป็นปล่อยไว้ตามแนวป่า ซึ่งจากการตรวจสอบรอยเท้าพบว่าน่าจะเป็นเสือพ่อ แม่ ลูก ซึ่งมีรอยเท้าทั้งใหญ่ และเล็ก โดยรอยเท้าเสือที่ใหญ่วัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้ประมาณ 15 เซนติเมตร คาดว่าจะเป็นเสือที่มีขนาดลำตัวใหญ่ และน้ำหนักกว่า 200 กิโลกรัม ทั้งนี้ จากสัตว์ป่าที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ จ.ลำปาง หลากหลายชนิดนี้ ถือว่าเป็นสิ่งบ่งชี้ถึงสภาพป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์อย่างมาก
ด้าน นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรักษากวางตัวนี้ให้ดีที่สุด เพื่อรักษาชีวิตไว้ และสั่งให้ตรวจสอบเส้นทางที่มาของกวางตัวนี้ ว่าเป็นกวางป่า หรือกวางที่มาจากการเพาะเลี้ยง แต่เบื้องต้นต้องรักษาชีวิตกวางให้ได้ก่อน เมื่อรักษาหายแล้ว และกวางมีสภาพที่ดีขึ้น ก็ขอให้นำกวางตัวนี้ส่งไปยังสถานีเพาะเลี้ยงกวางที่แม่ลาว จ.เชียงราย เพราะจะดูแลกวางได้ดีกว่า เนื่องจากหากปล่อยเข้าป่าไป และอยู่ตามลำพัง อาจจะตกเป็นเป้าของพรานป่าทำการล่าอีก และกวางตัวนี้อาจจะไม่มีชีวิตรอดอยู่ในป่าได้ต่อไป ส่วนผู้ที่เข้าไปล่าสัตว์ป่า และยิงกวางตัวนี้ ตนเองได้สั่งการให้เข้าไปสืบสวน และตามจับกุมตัวมาให้ได้ และขอประกาศเตือนว่า หากใครเข้าไปล่าสัตว์ป่า โดยเฉพาะสัตว์ป่าสงวนคุ้มครอง และสัตว์ป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์จะต้องถูกดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด หากถูกจับกุมได้
ข่าว.. ลำปางตะลึงเสือ กระทิง วัวแดง เข้ามาพักพิงเขตรอยต่อจว. หลังพบมีกวางใหญ่ถูกยิง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ เวลา 10.30 น. ที่ทำการเขตห้ามล่าสัตว์ป่าดอยพระบาท อ.เมืองปาน จ.ลำปาง นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และ พล.ต.วิจักษณ์ สิริบรรสพ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี จ.ลำปาง ได้รุดตรวจสอบ และรับทราบรายงานเกี่ยวกับกรณีที่พบกวางป่า หรือที่เรียกว่ากวางม้า ซึ่งเป็นกวางตัวใหญ่ น้ำหนักมากถึง 200 กิโลกรัม สูงประมาณ 2 เมตร ถูกพรานล่าสัตว์ป่ายิงในเขตป่าของห้ามล่าสัตว์ป่าดอยพระบาท ก่อนที่กวางจะหนีตายออกมาถึงหมู่บ้านนิคม เขต 15 ต.ทุ่งฝาย อ.เมือง จ.ลำปาง เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาพักรักษาไว้ที่ทำการเขตล่าสัตว์ป่าดอยพระบาท เพื่อทำการรักษา เนื่องจากกวางได้รับบาดเจ็บถูกยิงเข้าที่สะโพก และต้นขาหลังซ้าย 2 นัด คณะสัตวแพทย์ได้ทำการผ่ากระสุนออกไปแล้ว 1 นัด ยังคงเหลือในจุดที่ลึกอีก 1 นัด ซึ่งทางคณะสัตวแพทย์จะได้ประเมินร่างกายกวางว่า จะมีความพร้อมในการผ่าตัดหรือไม่ นอกจากนี้ บริเวณกีบขาหน้าด้านขวา ที่ได้หลุดออกมาทั้งสองข้าง เนื่องจากในขณะที่วิ่งหนีคงตะกุยมาตลอดทาง ก็เป็นบาดแผลที่น่าห่วง และอาจจะมีปัญหาติดเชื้อ รวมถึงกวางได้นอนอยู่ตลอดเวลาหลังอาการทรุดลง ทำให้น่าห่วงมากยิ่งขึ้น เพราะกวางเป็นสัตว์ที่มี 2 กระเพาะ หากนอนนานๆ จะทำให้ระบบภายในไม่สู้ดี โดยสภาพอาการในวันนี้ กวางได้ถูกนำไปมัดไว้ในป่าของที่ทำการ เพื่อให้อยู่ห่างจากคน โดยยังคงตื่นตระหนก และกลัวคนที่จะเดินเข้าใกล้
โดย นายภานุเทพ วงศ์วาร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปาง ได้รายงานว่า กวางที่พบตัวนี้เป็นกวางตัวผู้ รูปร่างใหญ่สมบูรณ์ ซึ่งตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังสืบเสาะแหล่งที่มา เนื่องจากพื้นที่ป่าใน จ.ลำปาง ตั้งแต่ในอดีต จะไม่มีกวางชนิดนี้อาศัยอยู่ หรือหากเข้ามาอาศัยใหม่ก็จะต้องอยู่รวมกันเป็นฝูงไม่ได้อยู่สันโดษตัวเดียว และจากการข่าวที่ผ่านมาก็ไม่เคยพบกวางชนิดนี้มาก่อนใน จ.ลำปาง ดังนั้น ตัวนี้จึงเป็นการพบเป็นตัวแรก อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นว่า อาจจะเป็นกวางที่ได้รับการอนุญาตให้เพาะเลี้ยง และเกิดหลุดออกมาหรือไม่ จึงจะได้เร่งตรวจสอบต่อไป
“สำหรับในพื้นที่ จ.ลำปาง ขณะนี้นอกจากกวางที่พบแล้ว ทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปาง ยังได้รับรายงานว่า พื้นที่ป่าแนวรอยต่อของ ต.แม่มอก อ.เถิน จ.ลำปาง และ อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย พบสัตว์ป่าสงวน ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง จำนวน 2 ชนิด พึ่งเข้ามาอาศัยอยู่จากผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ ได้แก่ กระทิง และวัวแดง โดยสัตว์ป่าทั้ง 2 ชนิด ได้อาศัยอยู่ในป่าในลักษณะเป็นฝูง อยู่กันแบบครอบครัว สำหรับพื้นที่ป่าดังกล่าวนั้น ยังไม่ได้รับการประกาศให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ ดังนั้น จะได้เสนอต่อกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ขอให้เป็นเขตป่าห้ามล่าสัตว์ป่า เพื่อหวังคุ้มครองสัตว์ป่าสงวนเหล่านี้ไว้”
นอกจากนี้ บริเวณแนวป่าเทือกเขาดอยผาเมือง ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง ซึ่งเป็นเขาสูงกั้นระหว่าง จ.ลำปาง และ จ.ลำพูน รวมถึงแนวเขาที่ยาวยังเชื่อมต่อ จ.เชียงราย และเชียงใหม่ ด้วย เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า พบควายที่เลี้ยงไว้ตามแนวป่าเขตบ้านโป่งยาง อ.แม่ทา จ.ลำพูน ถูกกัดที่ต้นคอจนตาย ก่อนที่จะถูกสัตว์กัดกินที่บริเวณขา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เป็นเสือโคร่งที่กัดกินควายของชาวบ้านที่เลี้ยงเป็นปล่อยไว้ตามแนวป่า ซึ่งจากการตรวจสอบรอยเท้าพบว่าน่าจะเป็นเสือพ่อ แม่ ลูก ซึ่งมีรอยเท้าทั้งใหญ่ และเล็ก โดยรอยเท้าเสือที่ใหญ่วัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้ประมาณ 15 เซนติเมตร คาดว่าจะเป็นเสือที่มีขนาดลำตัวใหญ่ และน้ำหนักกว่า 200 กิโลกรัม ทั้งนี้ จากสัตว์ป่าที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ จ.ลำปาง หลากหลายชนิดนี้ ถือว่าเป็นสิ่งบ่งชี้ถึงสภาพป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์อย่างมาก
ด้าน นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรักษากวางตัวนี้ให้ดีที่สุด เพื่อรักษาชีวิตไว้ และสั่งให้ตรวจสอบเส้นทางที่มาของกวางตัวนี้ ว่าเป็นกวางป่า หรือกวางที่มาจากการเพาะเลี้ยง แต่เบื้องต้นต้องรักษาชีวิตกวางให้ได้ก่อน เมื่อรักษาหายแล้ว และกวางมีสภาพที่ดีขึ้น ก็ขอให้นำกวางตัวนี้ส่งไปยังสถานีเพาะเลี้ยงกวางที่แม่ลาว จ.เชียงราย เพราะจะดูแลกวางได้ดีกว่า เนื่องจากหากปล่อยเข้าป่าไป และอยู่ตามลำพัง อาจจะตกเป็นเป้าของพรานป่าทำการล่าอีก และกวางตัวนี้อาจจะไม่มีชีวิตรอดอยู่ในป่าได้ต่อไป ส่วนผู้ที่เข้าไปล่าสัตว์ป่า และยิงกวางตัวนี้ ตนเองได้สั่งการให้เข้าไปสืบสวน และตามจับกุมตัวมาให้ได้ และขอประกาศเตือนว่า หากใครเข้าไปล่าสัตว์ป่า โดยเฉพาะสัตว์ป่าสงวนคุ้มครอง และสัตว์ป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์จะต้องถูกดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด หากถูกจับกุมได้