นั่งรถไฟไทย ไปต่อรถทัวร์กัมพูชา แบกเป้..ไปสัมผัสมนต์เสน่ห์เมืองพระตะบอง

อารมณ์อยากนั่งรถไฟเที่ยวเกิดขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วน
อยากนั่งรถไฟแต่ไม่รู้จะไปไหน เพราะรถไฟไทยทุกเส้นทางนั่งมาหมดแล้ว แต่ก็มีบางเส้นทางที่ยังนั่งไม่ครบทุกขบวน
แล้วก็คิดถึง ข.279 ขึ้นมาทันที ผมเคยนั่งรถไฟสายอรัญฯ จากต้นทางสถานีกรุงเทพถึงปลายทางสถานีอรัญประเทศมาหลายครั้งแล้ว แต่ไปกับ ข.275 ทุกครั้ง ยังไม่เคยไปกับ ข.279 เลย
ไม่ยากกับการตัดสินใจ พรุ่งนี้ผมจะนั่งรถไฟไป อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว กับรถธรรมดา ข.279

ระหว่างเก็บของ เอาเสื้อผ้าหยูกยาลงกระเป๋าสะพายสีดำใบโปรด พลันความคิดก็บรรเจิดและเตลิดเปิดเปิงไปไกลมาก
"เอาพาสปอร์ตไปด้วย เผื่อข้ามไปเขมร"
โยนเสื้อยืดใส่เป้เพิ่มไปอีกสองตัว กางเกงไม่ต้อง แค่กางเกงยีนส์ตัวที่นุ่งไปตัวเดียวก็ใช้ได้หลายวันอยู่
ค้นลิ้นชักโต๊ะหาแบงค์ดอลลาร์ เคยแลกไว้แล้วใช้ไม่หมด แต่ก็ไม่ได้แลกคืน เจออยู่ 136 ดอลลาร์ น่าจะพอใช้สบายๆ ไม่ต้องแลกเพิ่ม

แต่ปัญหาอยู่ตรงกล้องถ่ายรูปนี่แหละครับ
ไม่สามารถเอากล้อง Sony a330 ตัวเก่งของผมไปใช้งานได้ ลืมแท่นชาร์จไว้ที่บ้านราชบุรี การที่จะไปเอาก็น่าจะไม่ใช่ทางออกที่ดี
เดินไปเคาะประตูห้องลูกสาว ขอยืมกล้องถ่ายรูปไปใช้สำหรับทริปนี้
เป็นอันเรียบร้อย ภาพประกอบรีวิวชุดนี้จึงเป็นภาพที่ถ่ายจากกล้อง Fuji X-T10 กล้องที่ผมไม่คุ้นเคย แต่ก็ไม่มีปัญหาตลอดการใช้งาน

วันแรกของการเดินทาง วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559
ออกบ้านสายๆ แบบว่าไม่รีบร้อน รถไฟ ข.279 จะออกจากสถานีกรุงเทพ 13.05 ไปทันถมเถ เวลาเหลือเฟือ
นั่งรถประจำทางจากบ้านไปแวะกินข้าวหมูแดง ที่ตรอกโรงหมู หน้าวัดไตรมิตร แล้วก็เดินข้ามคลองผดุงกรุงเกษมไปสถานีรถไฟกรุงเทพ
เพิ่งจะ 11.40 ไปยื่นบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อขอรับตั๋วโดยสารฟรี กับรถธรรมดา ข.279 ระบุปลายทางว่าลงสถานีอรัญประเทศ


ข.279 ออกชานชาลา 9 วันนี้ได้ กซข.1217 ทำขบวน ริ้วขบวน 4 คัน กซข.1217+กซข.1103ข.+กซข.1113+กซข.1111


ออกจากสถานีกรุงเทพตามเวลา ผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่งตั้งแต่ออกสถานีต้นทาง และก็มีขึ้นตามสถานีรายทาง มักกะสัน-คลองตัน-หัวหมาก จนถึงสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา ที่มีคนลงมากพอสมควร แต่ก็มีคนขึ้นไม่น้อยเหมือนกัน
ความหนาแน่นของผู้โดยสารเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งในการถ่ายรูป แถมขบวนนี้เป็น กซข. ไม่เหมือน บชส.ที่หน้าต่างกว้างกว่า ชะโงกหน้าต่างออกไปถ่ายรูปได้สะดวกกว่า และเวลารถจอดรอหลีกก็ไม่สามารถวิ่งลงไปข้างล่างได้ ต้องอาศัยถ่ายจากหน้าต่างรถ ยิ่งเป็นช่วงบ่ายๆ แดดร้อนเปรี้ยง ความอยากถ่ายรูปบันทึกการเดินทางก็เลยลดน้อยลงไปเยอะ



บ่ายสามโมง เข้าราง 2 จอดรอหลีก ข.282 ที่สถานีชุมทางคลองสิบเก้า
ข.279 ถึงสถานีชุมทางคลองสิบเก้า ช้า 16 แต่ ข.282 เข้าตามเวลา


สถานีปราจีนบุรี ช้า 28 มีผู้โดยสารลงและขึ้นที่สถานีปราจีนบุรีมากอยู่เหมือนกัน


ออกจากสถานีพระปรง ผู้โดยสารเริ่มเบาบางลงบ้างแล้ว


ห้าโมงกว่าแล้ว แดดข้างนอกเริ่มคลายความร้อนแรงลง บรรยากาศเหมาะกับการถ่ายรูป แต่ก็มีอุปสรรคกับลูกกรงเหล็กตรงหน้าต่างนี่แหละ ผมนั่งคันแรกหน้าสุดหลังห้องขับพอดี



ผู้โดยสารเริ่มลงตามสถานีรายทางมากขึ้น แต่ห้องโดยสารของรถคันที่ 1 ก็ยังคงมีผู้โดยสารอีกเป็นจำนวนไม่น้อย


สถานีบ้านแก้ง ช้า 45 / สถานีศาลาลำดวน ช้า 45 / สถานีสระแก้ว ช้า 48 /




ดวงอาทิตย์กำลังจะตก ก่อนถึงสถานีวัฒนานคร


สถานีวัฒนานคร ช้า 55


ออกจากสถานีวัฒนานครก็ทำเวลาคืนได้เล็กน้อย
15/02/2559 ข.279 ทำขบวนโดย กซข.1217 ก็พาผมมาถึงปลายทางสถานีอรัญประเทศ เมื่อเวลา 18.25 ช้า 50


ผู้โดยสารต่างก็เดินออกไปหลังสถานี เพื่อต่อรถไปยังจุดหมายของแต่ละคน
เห็นฝรั่งหลายคนยืนจับกลุ่มต่อรองราคากับรถรับจ้างที่หลังสถานี เดาว่าพวกเขาคงจะไปประเทศกัมพูชา เหมือนที่ผมกำลังจะไป แต่ไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะข้ามด่าน ตม.คืนนี้ หรือไปนอนค้างโรงแรมแถวๆชายแดน
แต่ผมตั้งใจแล้วว่า คืนนี้ผมจะนอนที่ตัวเมืองอรัญประเทศ พรุ่งนี้เช้าค่อยนั่งรถไปด่านฯ
ก็เลยเดินจากหลังสถานีกลับมาด้านหน้าสถานี มาถ่ายรูปสถานีอรัญประเทศยามค่ำอีก 2-3 รูป

ห้องจำหน่ายตั๋วปิดแล้ว รอเปิดอีกครั้งพรุ่งนี้เช้า เพื่อบริการตั๋วฟรีกับผู้โดยสารที่จะเดินทางเที่ยวล่องกับ ข.280


กซข.1111 จอดรอที่จะเป็นคันนำ ทำขบวน 280 กลับสู่กรุงเทพมหานคร กำหนดออกจากต้นทางสถานีอรัญประเทศพรุ่งนี้ 06.40


คืนนี้ผมจะนอนค้างที่อรัญประเทศ พรุ่งนี้จะเดินทางเข้ากัมพูชา (แต่จะไปตรงไหนของกัมพูชาก็ยังไม่รู้/ยังไม่ได้คิด)
ก็เลยเดินตามรางรถไฟ เดินนับไม้หมอนมาจนถึงทางตัดทางหลวงหมายเลข 348 ถนนที่จะไปอำเภอตาพระยา
จุดหมายคือจะไปนอนที่โรงแรม Station One โรงแรมนี้ทำเลดีมาก อยู่ริมทางรถไฟ อยู่หลังสถานีขนส่ง บรรยากาศน่านอนจริง
ผมเคยนอนมาหลายครั้งแล้ว ตั้งแต่สมัยยังเป็นชื่อเดิมคือ โรงแรมอรัญเมอร์เมด แต่หลังจากเปลี่ยนชื่อเป็น Station One ยังไม่เคยนอน
มาถึงทางหลวง 348 ก็เดินข้ามถนน พอข้ามถนนก็ถึงทางเข้าโรงแรมเลย

มองไปทางซ้ายมือ เห็นร้านอาหารริมทางอยู่ร้านหนึ่ง ตัดสินใจฝากท้องมื้อเย็นไว้กับร้านนี้แหละ
เส้นใหญ่ผัดซิอิ๊วหนึ่งจาน ราคา 40 บาท น้ำแข็งฟรี



อิ่มแล้วก็เดินเข้าไป Check in ที่โรงแรม ตั้งใจว่าจะนอนตากแอร์โรงแรมให้เต็มอิ่ม ไม่ออกมาเดินเล่นอีกแล้ว
โรงแรม Station One ค่าห้องคืนละ 900 บาท (มีค่ามัดจำ 300 บาท จะคืนให้ตอน Check out)
สภาพของโรงแรมมีการปรับปรุงดีขึ้นพอสมควร โดยเฉพาะ Lobby และ Counter Reception สวยขึ้นผิดหูผิดตา



ห้องนอนดูดีขึ้น มีการปรับปรุงใหม่ น่านอนกว่าเมื่อก่อนเยอะ (จำได้ว่าราคา 900 เท่าเดิม)


คืนนี้นอนค้างที่อำเภออรัญประเทศ โรงแรมเดิมในชื่อใหม่ พรุ่งนี้เช้าผมจะข้ามแดนไปกัมพูชา
นอนหลับ-ฝันดี
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่