ผมมีแมวอยู่ 5 ตัว ตัวแม่ชื่อ นำโชค ส่วนตัวลูก ชื่อ กำไร กับ มีโอ และเศรษฐีแล้วก็มีลูกเลี้ยงชื่อ ลูกเผือก (เป็นแมวที่หลงมาอยู่ด้วย) ทั้งหมดเป็นแมวตัวเมียอยู่ด้วยกันตั้งแต่ตัวลูกเล็ก ๆ พอลูก ๆ โตขึ้น นำโชคก็ไม่ค่อยอยู่ที่ร้าน พอลูก ๆ อายุได้สัก 4 เดือน เศรษฐีก็หายไป (น่าจะถูกอุ้มไปเพราะเขาเป็นแมวชอบคน ชอบให้อุ้ม) ที่ร้านส่วนใหญ่ก็เลยเหลือกันอยู่แค่ 3 ตัว ลูกเผือกจะอายุมากกว่าอีก 2 ตัว ประมาณ 1 เดือน เลยติดสัดก่อน ก็เลยพาไปทำหมัน ต้องโกนขน ที่ร้านยุงเยอะ ก็กลัวว่ายุงจะกัดลูกเผือก เลยว่าจะพาไปฉีดวัคซีนรวม แต่ก็ไม่อยากฉีดตัวเดียวกลัวอีก 2 ตัวน้อยใจ แล้วอีกอย่างช่วงนั้นกำไรก็ชอบเที่ยวด้วย (คงใกล้ติดสัด) ก็เลยกลัวยุงกัดเขาด้วย หลังจากลูกเผือกทำหมันสัก 3 สัปดาห์ก็เลยพาไปฉีดวัคซีนกันทั้ง 3 ตัว ฉีดวัคซีนเสร็จ ลูกเผือกป่วยไป 2 วัน (ผลจากวัคซีน) ส่วนกำไรกับมีโอไม่เป็นอะไร อยู่มาได้สัก 1 สัปดาห์ กำไรก็ป่วย ตัวร้อน นอนซมทั้งวัน ผมก็ชะล่าใจคิดว่าป่วยธรรมดา เพราะเขาเคยป่วยแล้วก็หายเอง ไม่ได้พาไปหาหมอ (แล้วช่วงนั้นก็อาการเปลี่ยน ๆ ด้วย บวกกับกำไรชอบหนีเที่ยวกลางคืน ก็เลยคิดว่าตากน้ำค้างแล้วป่วย) พอวันที่สองเห็นไม่ดีขึ้นก็กินให้ยาฆ่าเชื้อที่เคยได้จากร้านหมอตอนนำโชคป่วย อาการก็ไม่ดีขึ้น ตัวยังร้อนอยู่ วันที่ 3 ก็สองจิตสองใจว่าจะพาไปหาหมอดีหรือเปล่า แต่ก็คิดว่ากำไรคงไม่เป็นไรมาก เลยให้กินยาลดไข้ตอนเช้า พอสาย ๆ กำไรตัวเย็น ก็ดีใจ คิดว่ารักษาถูกทางแล้ว ตอนเย็นก็เลยให้ยาฆ่าเชื้อกับยาลดไข้อีกครั้งหนึ่ง
มาตอนเช้า กำไรย้ายที่นอน แต่ยังนอนไม่ลุกขึ้นเลย ผมก็ยังไม่รู้สึกอะไร คิดว่านอนซมเหมือนวันแรก ๆ ที่เขาป่วย พอตอนสัก 9 โมงเช้า ลางเริ่มไม่ดี กำไรร้องเรียก ก็เลยดึงตัวเขาออกมาจากใต้โต๊ะ กำไรตัวเย็นเฉียบเลย ก็รีบพาไปหาหมอ แต่สายเกินไปแล้ว กำไรเจาะเลือดใส่สายน้ำเกลือไม่ได้ หมอหาเส้นเลือดไม่เจอ ความดันเลือดต่ำมาก ปากซีดไม่มีสีดเลือด หมอฉีดยาบำรุงให้แล้วบอกรอ ปราฏิหาริย์ ก็เลยพากำไรกลับมาร้าน อยู่ได้สักพักกำไรก็ค่อย ๆ หายใจลำบากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วก็ยังร้องเรียกให้ช่วย สุดท้ายกำไรก็จากผมไป
ก่อนที่กำไรจะป่วย เขามีอาการขนลุก ๆ แล้วก็กินน้อยลง ผมก็ไม่ได้คิดอะไรคิดว่าเขาติดสัด เพราะเป็นช่วงใกล้ติดสัดพอดี ตอนเอาไปหาคุณหมอฉีดวัคซีนก็เล่าอาการคุณหมอ แต่คุณหมอก็ไม่ทราบว่ากำไรเป็นอะไร ส่วนตอนป่วยเขามีอาการหน้าบวม ๆ พอสักวันที่สองมีอาการเหมือนหอบ ๆ หลังจากกำไรจากไป ผมก็มาวิเคราะห์ว่าผมพลาดตรงไหน แมวที่ผมรักถึงต้องจากผมไป
ข้อแรก กำไรมีอาการติดเชื้อ (คุณหมอบอกว่าน่าจะเป็นพยาธิ) มาตั้งแต่ตอนที่เขาขนลุก ๆ แล้ว แต่ผมไม่รู้ แต่ภูมิต้านทานของเขายังต้านไหว เขาก็เลยไม่ป่วย
ข้อสอง การเอาแมวไปฉีดวัคซีนทำให้ภูมิต้านทานของแมวต่ำลง (ก่อนที่จะสร้างภูมิ) เชื้อที่อยู่ในตัวกำไรก็เลยแสดงอาการ เขาจึงป่วย แต่ผมก็ยังโง่ ไม่ยอมพาเขาไปหาหมอ จนต้องเสียเขาไป ถ้าผมไม่พาเขาไปฉีดวัคซีน หรือพาไปหาหมอให้เร็วตอนที่เขาเริ่มป่วย เขาก็คงไม่ต้องตายเพราะผม
สิ่งที่สอนผมจากเรื่องนี้
1. ถ้าจะพาแมวไปฉีดวัคซีนป้องกัน ควรฉีดตั้งแต่แมวยังเล็ก (ปรึกษาคุณหมอ) อย่ารอให้โตจนใกล้ติดสัด เพราะช่วงนั้นแมวจะเที่ยวไม่ค่อยได้พักผ่อน การฉีดวัคซีนทำให้ภูมิต้านทานเขาต่ำในช่วงแรก ๆ เพราะจะค่อย ๆ สร้างภูมิ บวกกับเขาติดเที่ยว อาจจะติดโรคมาจากข้างนอก และไม่ค่อยได้พักผ่อน เขาจะเป็นโรคได้ง่าย
2. ถ้าแมวมีอาการป่วย 2 วันแล้วอาการไม่ดีขึ้นอย่างชัดเจน หรือดูทรง ๆ ให้รีบพาไปพบคุณหมอทันที
3. แต่ถ้าแมวป่วยแล้วมีอาการหน้าบวม ๆ หรือหอบ ๆ ไม่ต้องรอ 2 วันครับ ให้พาไปพบคุณหมอทันที เพราะอาการหอบหรือหายใจถี่ ๆ หมายถึง เขาหายใจไม่ค่อยสะดวก
4. ถ้าแมวมีอาการขนตั้ง ๆ ท้องแฟ่บ ๆ แสดงว่าเขาติดเชื้ออะไรบางอย่างมา ควรพาไปตรวจเลือด
5. บางทีการหวังดีของเรา (คนเลี้ยง) ก็อาจจะทำร้ายแมวที่เรารักได้ เหมือนเรื่องของผมนี้ ถ้าผมไม่เอาเขาวัคซีน กำไรก็คงไม่ต้องตาย
6. จำไว้ว่า ถ้าเขาป่วย เขาพบแพทย์เร็วเท่าไร โอกาสในการรักษาหายและรอดชีวิตก็จะมากขึ้น
“ความสุขเหมือนเหรียญที่ลอยอยู่บนน้ำ มันง่ายมากที่เหรียญจะจม” ถึงผมจะรู้ว่า กำไรเขาไม่โกรธผม ที่เป็นต้นเหตุให้เขาต้องตาย เพราะผมรักเขามาก แต่ผมก็ทุกข์ใจอย่างที่สุด คิดถึงเขามาก ๆ อย่าประมาทหรือชะล่าใจเหมือนผมนะครับ จะได้ไม่ต้องเสียแมวที่รักไป แมวเป็นสัตว์ตัวเล็ก พลังงานสะสมเขาน้อยครับ ให้ป่วยหลาย ๆ วัน ยังไงก็ไม่ดีต่อเขาแน่ ๆ เคสของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน ประเมินสถานการณ์ให้ดีนะครับ จะได้ไม่ต้องเสียแมวเหมือนผม
แมวผมตาย เพราะผม เสียใจมาก ๆ
มาตอนเช้า กำไรย้ายที่นอน แต่ยังนอนไม่ลุกขึ้นเลย ผมก็ยังไม่รู้สึกอะไร คิดว่านอนซมเหมือนวันแรก ๆ ที่เขาป่วย พอตอนสัก 9 โมงเช้า ลางเริ่มไม่ดี กำไรร้องเรียก ก็เลยดึงตัวเขาออกมาจากใต้โต๊ะ กำไรตัวเย็นเฉียบเลย ก็รีบพาไปหาหมอ แต่สายเกินไปแล้ว กำไรเจาะเลือดใส่สายน้ำเกลือไม่ได้ หมอหาเส้นเลือดไม่เจอ ความดันเลือดต่ำมาก ปากซีดไม่มีสีดเลือด หมอฉีดยาบำรุงให้แล้วบอกรอ ปราฏิหาริย์ ก็เลยพากำไรกลับมาร้าน อยู่ได้สักพักกำไรก็ค่อย ๆ หายใจลำบากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วก็ยังร้องเรียกให้ช่วย สุดท้ายกำไรก็จากผมไป
ก่อนที่กำไรจะป่วย เขามีอาการขนลุก ๆ แล้วก็กินน้อยลง ผมก็ไม่ได้คิดอะไรคิดว่าเขาติดสัด เพราะเป็นช่วงใกล้ติดสัดพอดี ตอนเอาไปหาคุณหมอฉีดวัคซีนก็เล่าอาการคุณหมอ แต่คุณหมอก็ไม่ทราบว่ากำไรเป็นอะไร ส่วนตอนป่วยเขามีอาการหน้าบวม ๆ พอสักวันที่สองมีอาการเหมือนหอบ ๆ หลังจากกำไรจากไป ผมก็มาวิเคราะห์ว่าผมพลาดตรงไหน แมวที่ผมรักถึงต้องจากผมไป
ข้อแรก กำไรมีอาการติดเชื้อ (คุณหมอบอกว่าน่าจะเป็นพยาธิ) มาตั้งแต่ตอนที่เขาขนลุก ๆ แล้ว แต่ผมไม่รู้ แต่ภูมิต้านทานของเขายังต้านไหว เขาก็เลยไม่ป่วย
ข้อสอง การเอาแมวไปฉีดวัคซีนทำให้ภูมิต้านทานของแมวต่ำลง (ก่อนที่จะสร้างภูมิ) เชื้อที่อยู่ในตัวกำไรก็เลยแสดงอาการ เขาจึงป่วย แต่ผมก็ยังโง่ ไม่ยอมพาเขาไปหาหมอ จนต้องเสียเขาไป ถ้าผมไม่พาเขาไปฉีดวัคซีน หรือพาไปหาหมอให้เร็วตอนที่เขาเริ่มป่วย เขาก็คงไม่ต้องตายเพราะผม
สิ่งที่สอนผมจากเรื่องนี้
1. ถ้าจะพาแมวไปฉีดวัคซีนป้องกัน ควรฉีดตั้งแต่แมวยังเล็ก (ปรึกษาคุณหมอ) อย่ารอให้โตจนใกล้ติดสัด เพราะช่วงนั้นแมวจะเที่ยวไม่ค่อยได้พักผ่อน การฉีดวัคซีนทำให้ภูมิต้านทานเขาต่ำในช่วงแรก ๆ เพราะจะค่อย ๆ สร้างภูมิ บวกกับเขาติดเที่ยว อาจจะติดโรคมาจากข้างนอก และไม่ค่อยได้พักผ่อน เขาจะเป็นโรคได้ง่าย
2. ถ้าแมวมีอาการป่วย 2 วันแล้วอาการไม่ดีขึ้นอย่างชัดเจน หรือดูทรง ๆ ให้รีบพาไปพบคุณหมอทันที
3. แต่ถ้าแมวป่วยแล้วมีอาการหน้าบวม ๆ หรือหอบ ๆ ไม่ต้องรอ 2 วันครับ ให้พาไปพบคุณหมอทันที เพราะอาการหอบหรือหายใจถี่ ๆ หมายถึง เขาหายใจไม่ค่อยสะดวก
4. ถ้าแมวมีอาการขนตั้ง ๆ ท้องแฟ่บ ๆ แสดงว่าเขาติดเชื้ออะไรบางอย่างมา ควรพาไปตรวจเลือด
5. บางทีการหวังดีของเรา (คนเลี้ยง) ก็อาจจะทำร้ายแมวที่เรารักได้ เหมือนเรื่องของผมนี้ ถ้าผมไม่เอาเขาวัคซีน กำไรก็คงไม่ต้องตาย
6. จำไว้ว่า ถ้าเขาป่วย เขาพบแพทย์เร็วเท่าไร โอกาสในการรักษาหายและรอดชีวิตก็จะมากขึ้น
“ความสุขเหมือนเหรียญที่ลอยอยู่บนน้ำ มันง่ายมากที่เหรียญจะจม” ถึงผมจะรู้ว่า กำไรเขาไม่โกรธผม ที่เป็นต้นเหตุให้เขาต้องตาย เพราะผมรักเขามาก แต่ผมก็ทุกข์ใจอย่างที่สุด คิดถึงเขามาก ๆ อย่าประมาทหรือชะล่าใจเหมือนผมนะครับ จะได้ไม่ต้องเสียแมวที่รักไป แมวเป็นสัตว์ตัวเล็ก พลังงานสะสมเขาน้อยครับ ให้ป่วยหลาย ๆ วัน ยังไงก็ไม่ดีต่อเขาแน่ ๆ เคสของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน ประเมินสถานการณ์ให้ดีนะครับ จะได้ไม่ต้องเสียแมวเหมือนผม