-- หนึ่งวันฮาเฮ บ้านเพ ระยอง พัทยา --


วันหยุ๊ด วันหยุด
คำจำกัดความของวันหยุดสำหรับคนทำงานอย่างเรา
เมื่อวันหยุดมาถึงเราก็ต้องหาสถานที่คลายเครียดกันสักหน่อย
แต่วันหยุดของเรามันไม่ได้มีมากมายเหมือนคนอื่นสักเท่าไหร่
ซึ่งปกติวันหยุดของผมคงจะเหมือนคนอื่นทั่วๆไป เดินห้าง ดูหนัง และหาของกินอยู่ในห้าง
แต่วันนี้ขอไปไหนก็ได้ที่ไม่ใช่กรุงเทพ แต่ไม่ไกล แบบไปเช้า-เย็นกลับ มั่งละกัน
แต่การไปครั้งนี้ขอแบบสบายๆ ไม่ไกลมาก พูดขนาดนี้แล้วมันก็คงมีอยู่ไม่กี่ที่
ก่อนอื่นผมขอเล่าถึงเหตุผลของทริปนี้กันก่อนเลยว่ามันเกิดขึ้นมาได้ยังไง
เหตุมันเกิดจากคราวที่แล้วที่ผมได้โดดงานไปพัทยามาคนเดียว
ทำให้ผมเกิดความคิดที่ว่า มันต้องมีที่เที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับในแบบฉบับชิคๆแน่นอน
ว่าแต่ไอ้คำว่าชิคๆ นี่มันหมายถึงอะไรหว่า
ได้ยินเค้ามาก็เลยจำเค้ามาพูด ใครรูช่วยบอกผมหน่อนน่ะครับ



หลังจากวันหยุดมาถึงเราก็เริ่มแผนการพิชิตวันหยุด
ในแบบฉบับชิคๆ แบบไปเช้า-เย็นกลับ
กันเล๊ย!!!!!!


เราเริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพเวลา 09.10 น.
วันนี้แดดแรงหมือนกันแฮะ
ขนาดฟิมกระจกหน้าเรา 60 แสงแดดยังส่องเข้ามาทำให้เปิดแอร์ตั้งนานกว่าจะเย็น
ทริปนี้เราเลือกไประยอง บ้านเพ หาของทะเลแบบสดๆ กินกันดีกว่า
เราใช้เส้นทางเดียวกับที่ไปพัทยาโดยขึ้นมอเตอร์เวย์แล้วก็
ตรง ตรง ตรง และตรงอย่างเดียว

ตอนถ่ายรูปนี้ 10.45 น. พูดได้คำเดียวว่า
ถ้าเปิดกระจกแล้วจะรู้ว่าอากาศข้างนอกมันร้อนมาก
ขับไปเรื่อยๆ เมื่อเจอป้ายไประยองเลี้ยวซ้าย เราก็เลี้ยวไปโลด
หลังจากเลี้ยวมาก็ขอโดปคาเฟอีนสักแก้วเพื่อเติมพลังในการเดินทางต่ออีกเกือบชั่วโมง

ใช้เวลาอีกประมาณ 45 นาทีหลังจากที่เลี้ยวเข้ามา
เพื่อมุ่งหน้าสู่ท่าเรือบ้านเพ ระยอง

แต่กว่าจะมาถึงก็ปาเข้าไปเที่ยงละ
แต่ก่อนที่จะเริ่มเดินสายถ่ายรูป หาของกิน และเที่ยวแบบชิคๆ กัน
ก็ขอหาอาหารหลักมื้อกลางวันกันสักหน่อย
แต่ถ้าจะพูดถึงร้านอาหารที่บ้านเพ
พูดเลยว่าไม่รู้จะเลือกร้านไหน เพราะเยอะเหลือเกิน

หลังจากที่ขับรถวนไปวนมาสองสามรอบ
ทั้งหาดูเองและ Search หาข้อมูลจาก Google
เพื่อหาร้านกินข้าวเที่ยงกันเราก็ตัดสินใจไปร้านเจ๊ต่ายซีฟู้ด
ซึ่งเป็นร้านสุดท้ายที่ตั้งอยู่สุดของตลาดบ้านเพ
แต่เมื่อมาถึง โอ้โห คนจะเยอะไปไหน
เลยตัดสินใจเปลี่ยนร้านเพราะคนเยอะเหลือเกิน แต่ก็ขี้เกียจขับรถหาละ
เลยเลือกเอาสักร้านใกล้ๆ กัน
และเราก็ตัดสินใจเลือกร้านนี้กันเพราะคนไม่เยอะ

มองจากข้างนอกเข้าไปน่าจะวิวดีเหมือนกัน
ร้านวารีซีฟู้ด
เราไปดูบรรยากาศในร้านกัน
ตอนแรกก็เอ๊ะใจนิดนึง ตั้งแต่เดินเข้ามา ร้านก็ตั้งใหญ่ แต่คนเงียบขนาดนี้
คิดผิดมั้ยว๊า ที่เลือกร้านนี้


เมื่อเข้ามาถึงเจ้าของร้านนางน่ารักมาก แนะนำทุกอย่างทั้งมุมฮิตของร้าน
ที่ใครมาก็ต้องขอนั่งตรงนี้ อาหาร และของเด็ดของร้าน

เราเลือกนั่งมุมนี้ เพราะเห็นเกาะเสม็ดด้วยน่ะตัวเธอ
ดูบรรยากาศไปแล้วเราก็มาสั่งของกินกันดีกว่า
ด้วยนิสัยที่ไม่ชอบดูเมนู ก็ถามสิครับรออะไร
ว่าที่นี่เค้ามีอะไรเด็ดๆ กันบ้าง
เจ้าของร้านนางก็แนะนำ ปลากระพงทอดน้ำปลา พอเค้าพูดจบเราก็สวนทันไปว่า จัดไปพี่ 555
ได้มาละหนึ่งเมนู เมนูที่สองที่เค้าบอกคือ ทอดมันปลาอินทรี ที่นางการันตีว่าของนางไม่เหมือนที่อื่นแน่นอน ว่าแล้วก็เอามาลองอีกหนึ่ง
ว่าแล้วก็เอาอีกสักอย่าง มีเสียงจากโต๊ะข้างๆ เค้าสั่งผัดผักกูดน้ำมันหอย
ว่าแล้วก็น่ากินไม่เบา จัดไปอีกหนึ่งพี่ ตบท้ายด้วยข้าวผัดปูตามระเบียบจานกลางอีกหนึ่ง
หลังจากสั่งเสร็จเดี๋ยวผมพาไปดูมุมเก๋ๆของร้านระหว่างรออาหารกันน่ะครับ

จริงๆ ก็อยากนั่งมุมนี้น่ะดูไม่ร้อนแต่คิดว่าการสั่งอาหารโดยปกติของเรา
มันต้องไม่พอแน่ๆ 5555


ถ่ายรูปกับมุมเก่ๆ สักแปบไม่นาน
อาหารของเราก็มาแล้ว
เรามาดูเมนูแรกที่เราสั่งกันเลยดีกว่าว่าหน้าตาจะเด็ดตามที่เจ้าของร้านเค้า
บอกเรารึปล่าว

เมนูแรก ปลากระพงทอดน้ำปลา แว๊บแรกที่เห็นคือแบบเยิ้มมาก

เมนูที่สองทอดมันปลาอินทรี แต่อันนี้จริงเหมือนที่นางบอกคือไม่เหมือนร้านอื่น
เพราะมันกลม ไม่แบนๆ เหมือนคนอื่น 555

มาพร้อมน้ำจิ้มทอดมัน

เมนูที่สามของเราคือผัดผัดกูด
และเมนูสุดท้ายของเราคือข้าวผัดๆๆๆๆๆ

เมื่อทุกเมนูที่สั่งไปได้ครบ รอทำไมละครับ
ลุ๊ยยยยยยยย



หลังจากที่กินเสร็จจากความรู้สึกของผม
อาหารที่นี่ถือว่าโอเครเลย อร่อยทุกอย่าง โดยเฉพาะปลาทอด ไอ้น้ำเยิ้มๆที่เห็นตอนแรกคิดว่า
น้ำมันแต่ไม่ใช่มันคือน้ำราดที่มีรสแบบเค็มๆหวานๆ อร่อยมาก กับอีกทอดมันอีกอย่าง
ที่นี่เค้าเด็ดจริง  นี่ถ้ามาเย็นกว่านี้อีกหน่อย ผมคงนั่งยาวกันเลยคราบ อิอิอิ
กินข้าวไป ชมวิวไป จิ๊บเบียร์ไป ฟินสุดๆ เอาไว้ดอกาสหน้าน่ะเดี๋ยวมาใหม่ 555
หลังจากที่กินไปสักพักก็เริ่มอิ่ม มองดูนาฬิกา บ้าจริงนั่งอยู่นี่ชั่วโมงกว่า
พอๆเช็คบิลแล้วไปเที่ยวตลาด หามุมถ่ายรูปกันต่อดีกว่า




หลังจากเชคบิลออกมาจากร้านเราก็ไปตะลุยตลาดบ้านเพกันเลยดีกว่า

แต่พอเดินออกมาถึงป้ายทางเข้าเท่านั้นแหละ
ต้องขอยกธงขาวยอมแพ้กับแสงแดด และอากาศเมืองไทยกันแบบไม่มีข้อโต้แย้ง
เลยขอเปลี่ยนเป้าหมายจากการไปเดินตลาดบ้านเพเป็นตลาดร้อยเสา
ตลาดชื่อดังอีกที่ของบ้านเพซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน

ด้วยแดดที่โคตรจะร้อน ก็วนรถสิครับเพื่อหาที่จอดแบบใกล้ๆ
แต่เสียใจไม่มีที่ว่างเลย เอาว่ะจอดตรงนี้แหละ
เดินเข้าไปอีกนิดนึงก็คงไม่ดำไปกว่านี้แล้ว 555






หลังจากเดินเล่นดูของ ถ่ายรูปไปสักพักก็ต้องหาอะไรติดไม้ติดมือกลับขึ้นรถเพื่อเป็นเสบียง
ก่อนที่จะไปถึงสถานีต่อไปของเรากัน

จัดไป 2 ห่อ 555
เมื่อเดินเล่นอยู่พักนึงนี่ก็สี่โมงกว่าละเราก็ตัดสินไจว่าจะไปขับรถวนๆ
หาร้านข้าวเย็นแบบชิวๆ แถวๆระยองกันอีกสักมื้อดีกว่า
ไหนๆก็มาละ
แต่ระหว่างเดินออกมาเพื่อกลับรถ สายตาเราก็เหลือบไปเห็นรถขายไอศครีมมะพร้าวอ่อน
พอเห็นเท่านั้นแหละ รอทำไมละครับร้อนขนาดนี้ไปสิจัดไปอย่าช้า


ร้านขายไอศครีมเป็นรถมอไซต์ที่จอดอยู่หน้าตลาด
แต่พูดเลยว่ารสชาติแบบหวาน มัน มาก ที่สำคัญ 35 บาท เอง 555

หลังจากได้ของกินแล้วเราก็ขึ้นรถแล้วขับวนหาร้านข้าวเย็นของเรากันดีกว่า
พูดได้เลยว่าทริปวันหยุดนี้ทัพยากรเงินหมดไปแต่กับของกินล้วนๆ
กันเลยทีเดียว

หลังจากที่ขับรถวนไปสองสามรอบ Search หาข้อมูลสักพัก
เราก็ตัดสินใจโบกมือลาระยองแล้วไปจบด้วยกินข้าวดูตะวันตกดินที่พัทยากันดีกว่า
ร้านอะไรน่ะหรอที่เราจะไปกัน
ชื่อร้าน THE SKY GALLERY เป็นร้านที่ได้มาจากการ Search Google นั่นเอง 5555
ว่าแต่พัทยามันไม่มีอยู่ในแผนของเรานี่หว่า
แล้วมันโผล่มาได้ยังไง
แต่เมื่อตัดสินใจว่าจะไปแล้วก็เอา เราออกจากระยองตอนสี่โมงกว่าๆ เกือบห้าโมง

มุ่งหน้าสู่เขาพระตำหนัก พัทยา แล้วขับเข้าซอยทางด้านข้าง
ทางขึ้นไปจุดพัทยาเพื่อไปร้านอาหารที่จะไปกัน
แต่กว่าจะมาถึงก็จะหกโมงละ จะทันมั้ยจะครับท่าน
กับความตั้งใจที่ว่าจะมาดูพระอาทิตย์ตกดิน

5555 เกือบไม่ทัน แต่คุณพระอาทิตย์ครับ
ผมยังนั่งดูไม่ถึง 5 นาทีเลย ทำไมหายไปเร็วนักหละ เสียใจ


คือแบบแทบจะไม่ทันถ่ายูปด้วยซ้ำ
แต่ก็ยังได้มาน่ะ 555 ถึงแม้จะไม่สวยมากก็ตาม

แต่ด้วยเป็นวันหยุด ร้านเก๋ๆแบบนี้มีหรอที่คนจะน้อย
ระหว่างทางเดินเข้ามาที่โต๊ะ นึกว่าหนอน คนเยอะมากกกกก


ผมเลือกนั่งอีกโซนแต่ไม่ใช่อะไร
โซนที่เค้าฮิตๆ กันไม่มีนั่งจากภาพที่ผมให้ดูกันไป 555 พูดซะดูดี
หลังจากได้โต๊ะ ถ่ายรูป ก็จัดไปอาหารเย็นของเรา

พอตกดึกที่นี่เค้าก็จัดทางเดินเก๋ๆ เป็นอุโมงดวงดาวให้ลูกค้าได้ถ่ายรูปกัน

นั่งอยู่นี่สักพัก ดูนาฬิกา มันช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน
สองทุ่มกว่าๆละ คงต้องถึงเวลาที่จะโบกมือลาวันหยุดแบบชิคๆ ไปเช้า-เย็นกลับ
กันซะที