กระทู้นี้ขอปรึกษาเรื่องกฏหมายจากผู้รู้และระบายค่ะ
เรื่องยาวนิดนะคะ เพราะต้องการให้เห็นภาพที่สุดค่ะ
เริ่มค่ะ ^^
เราซื้อบ้านและย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้ได้ 2 ปีละค่ะ เป็นบ้านหลังแรกที่ซื้อเอง เป็นบ้านเดี่ยวอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรขนาด 70 ตรว.ในอำเภอเมือง จังหวัดป. เป็น2ปีของทรหดอดทนค่ะ อดทนได้บ้างไม่ได้บ้างต่อ มนุษย์ขยันแหกปาก บ้านเราหลักๆอยู่กัน 3 คนพ่อแม่ลูกค่ะ สามีทำงาน เราป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก ในขณะที่คู่กรณีที่อยู่บ้านตรงข้าม อยู่กันหลักๆ5คน (มีคนแก่60 ,วัย30กลางๆ-30ปลายๆอย่างละคน,วัยรุ่นชาย1,เด็กเล็ก1) ตอนแรกๆที่ย้ายมาก็ดีค่ะ บรรยากาศดี แต่พอผ่านไปได้ไม่กี่เดือน
เพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามก็เริ่มแสดงอภินิหาร(ด้านเลว)ค่ะ วัยรุ่นชาย(ที่ไม่เรียนหนังสือ) เกิดว่างมากกกกกกกเลยชวนเพื่อนวัยรุ่นชายมา1ฝูงถ้วน มากระทำการตั้งวง… ตรงบริเวณที่บ้านอื่นเค้าเรียกว่าที่จอดรถ(ในรั้วบ้านเค้า) แต่บ้านนางเรียกว่า ลานกิจกรรมและวางของ แล้วรถก็จอดไว้ข้างนอก ฝั่งตรงข้ามบ้านเราค่ะ ตั้งวงกันเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แน่นอน…บ้านเรารับไปเต็มๆ ตั้งแต่เวลา 11 โมง-เที่ยงคืน แล้วอย่าคิดว่าเวลาอื่นเราจะได้พักหูนะ คนบ้านนี้แค่นั่งอยู่ใกล้กันแท้ๆก็ตะโกนคุยกันเป็นกิจวัตร มีทั้งเสียงเด็กกรีดร้อง มีทั้งเสียงแม่เด็กแหกปากเอ็ดลูก ไหนจะเสียงรถมอไซค์เดี๋ยวขี่เข้าขี่ออก(อยู่บ้านเดียว) เป็นอย่างนี้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดใดๆ…..เป็นวงจรอุบาทว์ที่เราต้องเจอทุกวัน จะบ้าค่ะ จะบ้า แล้วพลังเสียงของแต่ละตน ดังทะลุทะลวงประตูหน้าต่างจ้า ถึงจะปิดทุกที่ก็ยังได้ยินว่ามันคุยอะไรกัน
ในขณะที่บ้านอื่นค่อนข้างมีมารยาทดี-ดีมาก เวลาเพื่อนหรือญาติพี่น้องบ้านเรามาเห็นสิ่งที่เกิด ทุกคนพูดเป็นสียงเดียวกันว่า “ซวยอิ๊บอ๋าย” คือทั้งหมู่บ้านที่เราอยู่เป็นบ้านเดี่ยว50-60 หลังคาเรือน เค้าอยู่กันดีๆค่ะ มีมารยาท รู้จักเกรงใจเพื่อนบ้าน แต่มีแหวกแนวแบบนี้มาหลังเดียวจริงๆค่ะ เราก็ทนจนกระทั่งเกือบปีค่ะ
จนวันนึงมันไม่ไหว วง…เริ่มทำการแหกปากตั้งแต่เกือบเที่ยงวัน มาซาๆเสียงเอาตอนประมาณเกือบ 2 ทุ่ม เราก็เห้อออ คิดว่าจะได้อยู่บ้านตัวเองแบบสบายหูบ้าง ปล่าววววววค่า มีเสียงแม่เด็กและเด็กดังข้ามฟากมา เป็นเสียงกรีดร้องของแม่เด็กว่า “กรีดดดด อย่าวิ่งออกไปสิลูกเดี๋ยวลื่นนนน” และแหกปากบ่นๆคุยๆอยู่ไปเรื่อยๆๆๆๆ จน3ทุ่มครึ่ง ก็เริ่มมีวง…มาอีก ตอนนี้ความอดทนเรามันขาดดัง ปึง เลยค่ะท่านนนน เรากระโกนด่าไปแบบขาดสติและปิดประตูดังปัง ผลคือ เสียงเบาลง (ไม่กี่ชั่วโมง) แล้วเราก็ได้เข้านอน แทบจะเป็นคืนแรกในเกือบปีที่ได้นอนแบบเบาเสียง เช้าวันรุ่งขึ้น เราก็ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเราตามปกติ แต่มีสายตาอาฆาตจากบ้านตรงข้าม และมีเสียงด่าลอยๆแบบไม่ระบุชื่อจากวง… มาค่ะ และยังคงแหกปากดังสนั่นเหมือนเคยๆ แต่เราก็ทำตัวปกติ ผ่านไปอีกหลายเดือน ทนค่ะทนจนกระทั่ง วันนึงประมาณปลายๆปีที่แล้ว เราทำด้านๆเข้าไปคุยกับ หญิงวัย60 ของบ้านนี้ค่ะ ก็เบาลงและวง…ก็หายไปบ้างพักนึงค่ะ คือดีใจค่ะแต่คุณรู้ไหม ความดีใจนี้มันมีความหลอนอยู่ค่ะ คือทุกวันที่อยู่บ้าน เวลามีรถมอไซค์ขี่เข้าซอยมา เราจะรีบผละออกจากทุกสิ่งที่เราทำอยู่ แล้วไปชะโงกดูว่า เป็นรถของหนึ่งในวง…หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ก็กลับมาทำงานอย่างอื่นอย่างสบายใจ แต่ถ้าใช่ก็จะออกอาการกังวล กลัวว่าเวลาอันแสนสงบที่มีอยู่น้อยนิดจะหมดไป
แต่ตอนนี้…. มันกลับมาอีกแล้วค่า เป็นมาได้อาทิตย์นึงแล้ว มันกลับมาคราวนี้ เราเริ่มต้นด้วยการโทรเรียกตำรวจที่รู้จักกัน มาดูลาดเลา แกฟังจากที่เราเล่าให้ฟังหลังจากที่แกกลับไป แกก็ได้แนะนำว่า ต้องแจ้งศูนย์ดำรงธรรม เราว่าจะลองดู เพราะการกลับมาคราวนี้ของมันมี การวางแผนมาอย่างดี คือ มีคนดูต้นทาง และคอยระวังตัวมากขึ้น พอรถตำรวจก็กลับมาเสียงดัง ตอนนี้เราเริ่มคิดถึงการฟ้องศาลแล้ว เพราะเราไม่ต้องการจะทนกับพฤติกรรมซ้ำซาก และเราได้รับผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจมามากพอจากเห็นแก่ตัวเยอะแล้ว ลูกเราเป็นเด็กพิเศษที่ขี้โรคค่ะ การพักผ่อนอย่างมีคุณภาพจึงสำคัญมากพอๆกับสิทธิในการอยู่บ้านของตัวเราเองอย่างสงบ หลายครั้งที่ตอนเค้านอนมักจะสะดุ้งตื่นเพราะเสียงเอะอะหรือสียงสตาร์ทรถมอไซค์คันใหญ่ๆที่อีวง…ขี่มา เราเองก็เครียดมาก จนเริ่มรู้สึกประสาทๆไปเลย
ที่เล่ามาทั้งหมดมีจุดประสงค์ที่จะถามผู้รู้ค่ะว่า ถ้าสุดๆจริงๆคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วเราจะฟ้องร้องได้ไหม ,จะคุ้มไหม แล้วต้องเตรียมอะไรบ้าง นอกจากเงิน
ป.ล. ไม่มีล็อคอินเป็นของตัวเอง ใช้ของคนอื่นค่ะ
ป.ล.2 ไม่รู้ว่าแท็กได้ถูกต้องหรือเปล่า
ป.ล. 3 "แหกปาก"เป็น ขั้นกว่าของคำว่าตะโกน จึงเป็นคำที่เหมาะสมกับครอบครัวนรกนี้ที่สุด
สุดจะทน! อยากจะฟ้องร้องเพื่อนบ้านนรกแตกแ..กปากสนั่น ต้องทำอย่างไร
เรื่องยาวนิดนะคะ เพราะต้องการให้เห็นภาพที่สุดค่ะ
เริ่มค่ะ ^^
เราซื้อบ้านและย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้ได้ 2 ปีละค่ะ เป็นบ้านหลังแรกที่ซื้อเอง เป็นบ้านเดี่ยวอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรขนาด 70 ตรว.ในอำเภอเมือง จังหวัดป. เป็น2ปีของทรหดอดทนค่ะ อดทนได้บ้างไม่ได้บ้างต่อ มนุษย์ขยันแหกปาก บ้านเราหลักๆอยู่กัน 3 คนพ่อแม่ลูกค่ะ สามีทำงาน เราป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก ในขณะที่คู่กรณีที่อยู่บ้านตรงข้าม อยู่กันหลักๆ5คน (มีคนแก่60 ,วัย30กลางๆ-30ปลายๆอย่างละคน,วัยรุ่นชาย1,เด็กเล็ก1) ตอนแรกๆที่ย้ายมาก็ดีค่ะ บรรยากาศดี แต่พอผ่านไปได้ไม่กี่เดือน
เพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามก็เริ่มแสดงอภินิหาร(ด้านเลว)ค่ะ วัยรุ่นชาย(ที่ไม่เรียนหนังสือ) เกิดว่างมากกกกกกกเลยชวนเพื่อนวัยรุ่นชายมา1ฝูงถ้วน มากระทำการตั้งวง… ตรงบริเวณที่บ้านอื่นเค้าเรียกว่าที่จอดรถ(ในรั้วบ้านเค้า) แต่บ้านนางเรียกว่า ลานกิจกรรมและวางของ แล้วรถก็จอดไว้ข้างนอก ฝั่งตรงข้ามบ้านเราค่ะ ตั้งวงกันเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แน่นอน…บ้านเรารับไปเต็มๆ ตั้งแต่เวลา 11 โมง-เที่ยงคืน แล้วอย่าคิดว่าเวลาอื่นเราจะได้พักหูนะ คนบ้านนี้แค่นั่งอยู่ใกล้กันแท้ๆก็ตะโกนคุยกันเป็นกิจวัตร มีทั้งเสียงเด็กกรีดร้อง มีทั้งเสียงแม่เด็กแหกปากเอ็ดลูก ไหนจะเสียงรถมอไซค์เดี๋ยวขี่เข้าขี่ออก(อยู่บ้านเดียว) เป็นอย่างนี้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดใดๆ…..เป็นวงจรอุบาทว์ที่เราต้องเจอทุกวัน จะบ้าค่ะ จะบ้า แล้วพลังเสียงของแต่ละตน ดังทะลุทะลวงประตูหน้าต่างจ้า ถึงจะปิดทุกที่ก็ยังได้ยินว่ามันคุยอะไรกัน
ในขณะที่บ้านอื่นค่อนข้างมีมารยาทดี-ดีมาก เวลาเพื่อนหรือญาติพี่น้องบ้านเรามาเห็นสิ่งที่เกิด ทุกคนพูดเป็นสียงเดียวกันว่า “ซวยอิ๊บอ๋าย” คือทั้งหมู่บ้านที่เราอยู่เป็นบ้านเดี่ยว50-60 หลังคาเรือน เค้าอยู่กันดีๆค่ะ มีมารยาท รู้จักเกรงใจเพื่อนบ้าน แต่มีแหวกแนวแบบนี้มาหลังเดียวจริงๆค่ะ เราก็ทนจนกระทั่งเกือบปีค่ะ
จนวันนึงมันไม่ไหว วง…เริ่มทำการแหกปากตั้งแต่เกือบเที่ยงวัน มาซาๆเสียงเอาตอนประมาณเกือบ 2 ทุ่ม เราก็เห้อออ คิดว่าจะได้อยู่บ้านตัวเองแบบสบายหูบ้าง ปล่าววววววค่า มีเสียงแม่เด็กและเด็กดังข้ามฟากมา เป็นเสียงกรีดร้องของแม่เด็กว่า “กรีดดดด อย่าวิ่งออกไปสิลูกเดี๋ยวลื่นนนน” และแหกปากบ่นๆคุยๆอยู่ไปเรื่อยๆๆๆๆ จน3ทุ่มครึ่ง ก็เริ่มมีวง…มาอีก ตอนนี้ความอดทนเรามันขาดดัง ปึง เลยค่ะท่านนนน เรากระโกนด่าไปแบบขาดสติและปิดประตูดังปัง ผลคือ เสียงเบาลง (ไม่กี่ชั่วโมง) แล้วเราก็ได้เข้านอน แทบจะเป็นคืนแรกในเกือบปีที่ได้นอนแบบเบาเสียง เช้าวันรุ่งขึ้น เราก็ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเราตามปกติ แต่มีสายตาอาฆาตจากบ้านตรงข้าม และมีเสียงด่าลอยๆแบบไม่ระบุชื่อจากวง… มาค่ะ และยังคงแหกปากดังสนั่นเหมือนเคยๆ แต่เราก็ทำตัวปกติ ผ่านไปอีกหลายเดือน ทนค่ะทนจนกระทั่ง วันนึงประมาณปลายๆปีที่แล้ว เราทำด้านๆเข้าไปคุยกับ หญิงวัย60 ของบ้านนี้ค่ะ ก็เบาลงและวง…ก็หายไปบ้างพักนึงค่ะ คือดีใจค่ะแต่คุณรู้ไหม ความดีใจนี้มันมีความหลอนอยู่ค่ะ คือทุกวันที่อยู่บ้าน เวลามีรถมอไซค์ขี่เข้าซอยมา เราจะรีบผละออกจากทุกสิ่งที่เราทำอยู่ แล้วไปชะโงกดูว่า เป็นรถของหนึ่งในวง…หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ก็กลับมาทำงานอย่างอื่นอย่างสบายใจ แต่ถ้าใช่ก็จะออกอาการกังวล กลัวว่าเวลาอันแสนสงบที่มีอยู่น้อยนิดจะหมดไป
แต่ตอนนี้…. มันกลับมาอีกแล้วค่า เป็นมาได้อาทิตย์นึงแล้ว มันกลับมาคราวนี้ เราเริ่มต้นด้วยการโทรเรียกตำรวจที่รู้จักกัน มาดูลาดเลา แกฟังจากที่เราเล่าให้ฟังหลังจากที่แกกลับไป แกก็ได้แนะนำว่า ต้องแจ้งศูนย์ดำรงธรรม เราว่าจะลองดู เพราะการกลับมาคราวนี้ของมันมี การวางแผนมาอย่างดี คือ มีคนดูต้นทาง และคอยระวังตัวมากขึ้น พอรถตำรวจก็กลับมาเสียงดัง ตอนนี้เราเริ่มคิดถึงการฟ้องศาลแล้ว เพราะเราไม่ต้องการจะทนกับพฤติกรรมซ้ำซาก และเราได้รับผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจมามากพอจากเห็นแก่ตัวเยอะแล้ว ลูกเราเป็นเด็กพิเศษที่ขี้โรคค่ะ การพักผ่อนอย่างมีคุณภาพจึงสำคัญมากพอๆกับสิทธิในการอยู่บ้านของตัวเราเองอย่างสงบ หลายครั้งที่ตอนเค้านอนมักจะสะดุ้งตื่นเพราะเสียงเอะอะหรือสียงสตาร์ทรถมอไซค์คันใหญ่ๆที่อีวง…ขี่มา เราเองก็เครียดมาก จนเริ่มรู้สึกประสาทๆไปเลย
ที่เล่ามาทั้งหมดมีจุดประสงค์ที่จะถามผู้รู้ค่ะว่า ถ้าสุดๆจริงๆคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วเราจะฟ้องร้องได้ไหม ,จะคุ้มไหม แล้วต้องเตรียมอะไรบ้าง นอกจากเงิน
ป.ล. ไม่มีล็อคอินเป็นของตัวเอง ใช้ของคนอื่นค่ะ
ป.ล.2 ไม่รู้ว่าแท็กได้ถูกต้องหรือเปล่า
ป.ล. 3 "แหกปาก"เป็น ขั้นกว่าของคำว่าตะโกน จึงเป็นคำที่เหมาะสมกับครอบครัวนรกนี้ที่สุด