The Trend is your Friend but The Market is not.
สำหรับนักเทคนิคอลแล้ว จะได้ยินประโยคนี้อยู่บ่อยๆ

เพราะถ้าเราซื้อขายตามแนวโน้มแล้ว
เราจะมีโอกาสทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ

ไม่ว่าจะเป็นการซื้อเมื่อราคาหุ้นเป็น Uptrend
หรือจะเป็นการ Short Selling ในขณะที่ราคาหุ้นเป็น Downtrend
หรืออาจใช้ DW, Option, TFEX เข้ามาช่วยทำกำไรในขณะที่ตลาดเป็นแนวโน้มขาลงก็ได้

แต่ปัญหาที่นักเทคนิคอลมือใหม่ มักถามบ่อยๆ ก็คือ

1. เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าตอนนี้ราคาหุ้นอยู่ในแนวโน้มอะไร
2. แล้วเราจะหาจังหวะเข้าซื้อในช่วงราคาไหนดี

สำหรับคำถามแรก “เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าตอนนี้ราคาหุ้นอยู่ในแนวโน้มอะไร”
วิธีง่ายๆ ที่สามารถบอกเราได้ว่าราคาอยู่ในแนวโน้มอะไรก็คือ

1. วิเคราะห์จาก "เส้น Trend Line"
2. วิเคราะห์จาก "เส้นแนวรับแนวต้าน"
3. วิเคราะห์แนวโน้มจาก "ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่"

เพียง 3 ข้อ เราก็สามารถบอกได้แล้วว่า
"ราคาหุ้นในขณะนี้อยู่ในแนวโน้มอะไร"

ซึ่งได้เคยยกตัวอย่างจากกราฟราคาหุ้น BCP เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา ดังนี้

1. ราคาหุ้นเคลื่อนที่แบบ Sideway
มีแนวรับ ประมาณ 28 บาทต่อหุ้น
และ มีแนวต้าน ประมาณ 30 บาทต่อหุ้น

2. ราคาจะเคลื่อนที่ในกรอบของ แนวรับ แและ แนวต้าน
แสดงว่า ในช่วงนี้ ราคากำลังเคลื่อนที่ในแนวนอน (Sideway)

3. MACD ตัดเส้น Signal ขึ้น
แต่ เส้น RSI 14 ยังไม่เคลื่อนที่ผ่านเส้น OBL/OSL ที่ระดับ 50
ในกรณีนี้ ยังมีความเสี่ยงที่ ราคาอาจจะวกกลับลงมาที่แนวรับ

แต่เมื่อดูจาก เส้นของ EMA ทั้ง 3 เส้นแล้ว
ราคายังอยู่ในแนวโน้มลง ( EMA เป็น Lagging indicator )

ส่วนการเคลื่อนที่ของราคา แสดงให้เห็นว่าเคลื่อนที่ในกรอบมาสักพักนึงแล้ว
มีโอกาสที่ ราคา จะหยุดการเคลื่อนที่ในแนวโน้มลงที่เกิดขึ้นก่อนหน้า และ เปลี่ยนมาเป็นเคลื่อนที่ในแนวนอน

และมีโอกาสที่ ราคาจะเกิด Upward Breakout (สูงกว่า 30 บาท)
จากนั้น จะค่อยๆเปลี่ยนไปเป็นแนวโน้มขึ้น

อ้างอิงจากกระทู้เดิม http://ppantip.com/topic/34809869
รายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม & เคดิตข้อมูล https://www.facebook.com/tasimplifieds?_rdr=p