[ReViEw Movie]
No spoil
>>> Her (2013)
เรื่องที่ 2 ประจำเดือน 2/2016
เคยได้ยินมาว่าหนังเรื่องนี้ควรค่าแก่การไปดูในวันวาเลนไทน์สำหรับคนโสดไร้คู่ วันอาทิตย์ที่ 14/2 เลยอยากจัดซักหน่อย ว่าผลที่ได้ออกมาจะเป็นยังไงบ้าง...กับการนั่งดูหนัง 2 ชั่วโมงเล็กๆ เรื่องนี้โดยไม่ได้อ่านคำโปรยหนังอะไรใดๆ มาก่อนเลย
อยากบอกว่าหนังเรื่องนี้คือที่สุดของหนังแห่งความ 'เหงา' ปกติไม่ใช่คนเซ้นสิทีฟ แต่หนังเรื่องนี้ให้ใจเต็มๆ ค่ะ ทั้งทำนองเพลง แสง สี เสียง มุมกล้อง โฟกัสกล้องตามตึก รถรา ท้องถนน ให้ความรู้สึกว่าเรายืนอยู่ตามลำพังท่ามกลางผู้คนที่ขวักไขว่ไปมา ให้ความรู้สึกว่าเราคือใคร? เราเกิดมาทำไม? มันคืออารมณ์ที่เหมือนกับว่าสุดท้ายแล้วก็มีแค่ 'ตัวเรา' ที่จะต้องอยู่กับ 'ตัวเรา' อ้างว้างแบบไร้ขอบเขตมากๆ
น่าเสียดายที่ตอนดูไม่ได้อยู่เงียบๆ คนเดียว ทำให้อาจจะไม่ค่อยได้ฟิลที่เหงาแบบเต็มๆ ไปซะเท่าไหร่ แต่ยอมรับว่าหนังสื่อความหมายอะไรหลายๆ อย่างออกมาได้ดีจริงๆ ระหว่างดูไม่ค่อยเท่าไหร่ มีเพียงบางฉากที่ค่อนข้างประทับใจ แต่จุดไคล์แม็กซ์มันคือหลังจากดูจบเนี่ยแหละ พอดีใส่หูฟังครอบหูใหญ่ๆ ดูด้วย พอหนังจบถึงกับต้องนั่งนิ่งๆ มีความเงียบเข้าปกคลุมอยู่ซักพัก มันรู้สึกเคว้งจริงๆ นะ ถ้าจะเอาแบบโหดๆ นั่งเปิดเพลง The moon song ฟังไปด้วยหลังจากหนังจบเลยค่ะ แล้วคุณจะรู้เลยว่าความเหงาที่แท้จริงมันมีอยู่ในตัวทุกคนนี่แหละ
คนแคสพระเอกดีมาก เหมาะมาก สายตาพี่แกดูเหงาจริงๆ ยิ่งตอนที่คุยกับสาว OS ทุกฉากรู้สึกได้เลยถึงความสุข ความเศร้า ตอนที่เปิดใจเล่าอะไรหลายๆ อย่างให้กันเป็นฉากที่ถือว่าดีสำหรับเรานะ
อยากให้ดูจริงๆ เรื่องนี้ สนับสนุนเต็มที่
จริงๆ ไม่ค่อยได้เห็นหนังโรแมนติกเรื่องไหนได้คะแนน IMDb เยอะมากเท่าไหร่นะ แต่เรื่องนี้ได้ไปถึง 8/10 เลยทีเดียว!
8/10
ด้วยรักและเคารพมาก
รีวิวหนังเรื่อง Her (2013)
No spoil
>>> Her (2013)
เรื่องที่ 2 ประจำเดือน 2/2016
เคยได้ยินมาว่าหนังเรื่องนี้ควรค่าแก่การไปดูในวันวาเลนไทน์สำหรับคนโสดไร้คู่ วันอาทิตย์ที่ 14/2 เลยอยากจัดซักหน่อย ว่าผลที่ได้ออกมาจะเป็นยังไงบ้าง...กับการนั่งดูหนัง 2 ชั่วโมงเล็กๆ เรื่องนี้โดยไม่ได้อ่านคำโปรยหนังอะไรใดๆ มาก่อนเลย
อยากบอกว่าหนังเรื่องนี้คือที่สุดของหนังแห่งความ 'เหงา' ปกติไม่ใช่คนเซ้นสิทีฟ แต่หนังเรื่องนี้ให้ใจเต็มๆ ค่ะ ทั้งทำนองเพลง แสง สี เสียง มุมกล้อง โฟกัสกล้องตามตึก รถรา ท้องถนน ให้ความรู้สึกว่าเรายืนอยู่ตามลำพังท่ามกลางผู้คนที่ขวักไขว่ไปมา ให้ความรู้สึกว่าเราคือใคร? เราเกิดมาทำไม? มันคืออารมณ์ที่เหมือนกับว่าสุดท้ายแล้วก็มีแค่ 'ตัวเรา' ที่จะต้องอยู่กับ 'ตัวเรา' อ้างว้างแบบไร้ขอบเขตมากๆ
น่าเสียดายที่ตอนดูไม่ได้อยู่เงียบๆ คนเดียว ทำให้อาจจะไม่ค่อยได้ฟิลที่เหงาแบบเต็มๆ ไปซะเท่าไหร่ แต่ยอมรับว่าหนังสื่อความหมายอะไรหลายๆ อย่างออกมาได้ดีจริงๆ ระหว่างดูไม่ค่อยเท่าไหร่ มีเพียงบางฉากที่ค่อนข้างประทับใจ แต่จุดไคล์แม็กซ์มันคือหลังจากดูจบเนี่ยแหละ พอดีใส่หูฟังครอบหูใหญ่ๆ ดูด้วย พอหนังจบถึงกับต้องนั่งนิ่งๆ มีความเงียบเข้าปกคลุมอยู่ซักพัก มันรู้สึกเคว้งจริงๆ นะ ถ้าจะเอาแบบโหดๆ นั่งเปิดเพลง The moon song ฟังไปด้วยหลังจากหนังจบเลยค่ะ แล้วคุณจะรู้เลยว่าความเหงาที่แท้จริงมันมีอยู่ในตัวทุกคนนี่แหละ
คนแคสพระเอกดีมาก เหมาะมาก สายตาพี่แกดูเหงาจริงๆ ยิ่งตอนที่คุยกับสาว OS ทุกฉากรู้สึกได้เลยถึงความสุข ความเศร้า ตอนที่เปิดใจเล่าอะไรหลายๆ อย่างให้กันเป็นฉากที่ถือว่าดีสำหรับเรานะ
อยากให้ดูจริงๆ เรื่องนี้ สนับสนุนเต็มที่
จริงๆ ไม่ค่อยได้เห็นหนังโรแมนติกเรื่องไหนได้คะแนน IMDb เยอะมากเท่าไหร่นะ แต่เรื่องนี้ได้ไปถึง 8/10 เลยทีเดียว!
8/10
ด้วยรักและเคารพมาก