ถึงคุณที่ขับ New ISUZU MU-7 สีบรอนซ์
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 4 โมงเย็นกว่าๆ ระหว่างเดินทางกลับจากจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งแฟน จขกท เป็นคนขับ เราเดินทางกันทั้งหมด 5 คน โดยใช้เส้นทางสายเพชรเกษมกำลังมุ่งหน้าเข้าบางแค โดยบริเวณที่เกิดเหตุนั้น จขกท ไม่แน่ใจว่าเป็นแยกอะไรนะคะ ซึ่งมี 2 เลนส์ฝั่งซ้ายเป็นสัญญาณไฟเขียว แต่เลนขวาสุดเป็นสัญญาณไฟแดง ซึ่งรถของ จขกท ขับตามหลัง คุณพี่ Taxi คันหนึ่ง (ที่อยู่เลนกลางค่ะ) ซึ่ง Taxi คันนี้อาจจะไม่ชำนาญเส้นทางเท่าไรนักหรืออาจจะติดอะไรสักอย่างที่ทำให้พี่ Taxi คั้นหน้านั้นจอดเลนกลางและไม่ยอมขยับ ซึ่งรถของ จขกท ก็บีบแตรให้พี่ Taxi ย้ายไปเลนขวาแทนเพราะตอนนั้นเป็นสัญญาณไฟเขียวแล้ว ซึ่งในขณะนั้นเองรถด้านหลัง จขกท ก็บีบแตรไล่เช่นกัน สักพัก พี่ Taxi ก็ขับหลีกให้ ** รถของ จขกท เป็นรถอีกค่ายนึงซึ่งมีความสูงไล่เลี่ยกับ Isuzu MU7 – ซึ่งน่าจะเป็นอีกสาเหตุนึงที่ทำให้เขาเข้าใจผิดจนเกิดตุการณ์ดังต่อไปนี้ขึ้น :
พอเลยสัญญาณไฟเขียวนั้นมา เราก็ขับปกติชิดมาเลนขวา ซึ่งการจราจรวันนั้นก็ใช้ความเร็วปกติตามวิถีของถนนกรุงเทพที่ไม่ได้โล่งเท่าไรนัก แต่เราก็ยังได้ยินเสียงบีบแตรยาวๆจากข้างหลังตามมาอีก สักพักก็มีรถ Isuzu MU7-new สีบรอนซ์ ซึ่งเขาน่าจะหงุดหงิดโมโหจากเหตุการณ์เมื่อสักครู่ที่กินเวลาไม่ถึง2 นาที เขาบีบแตรยาวๆตามหลังรถเรามา แล้วเบี่ยงเข้าเลนซ้ายเพื่อที่จะขับปาดหน้ารถ จขกท อีกครั้งอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นวินาทีที่อันตรายมากๆ โชคดีที่แฟนเราไม่ได้ขับเร็ว ยังสามารถใช้สติชะลอรถ สักพักเขาก็ขับออกไปเข้าเลนซ้ายสุดอีกครั้งเป็นการจบความสนองทางอารมณ์
สิ่งที่อยากจะบอกคือ การขับรถบนถนนคุณควรใช้สติให้มากขึ้นนะคะ
เหตุการณ์เมื่อวาน เราไม่ใช่คันต้นเหตุที่ทำให้คุณไปถึงที่หมายล่าช้าเพียงแค่ 1-2 นาที ถึงใช่...คุณก็ไม่ควรใช้อารมณ์บนท้องถนนที่ทำให้เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ และอาจจะทำให้อีกหลายชีวิตบาดเจ็บหรือถึงขั้นเสียชีวิตได้ คุณสามารถขับรถได้แต่ควรใช้ “วุฒิภาวะทางอารมณ์” ขับไม่ใช่ “อารมณ์” หากวันนึงคุณไปเจออีกคันที่เขาอาจจะไม่มีสติพอเหมือนกับคุณล่ะคะ? เป็นห่วงสวัสดิภาพของคนใช้รถท่านอื่นบ้างเถอะค่ะ
ถึงคุณที่ขับNew Isuzu MU-7 สีบรอนซ์
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 4 โมงเย็นกว่าๆ ระหว่างเดินทางกลับจากจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งแฟน จขกท เป็นคนขับ เราเดินทางกันทั้งหมด 5 คน โดยใช้เส้นทางสายเพชรเกษมกำลังมุ่งหน้าเข้าบางแค โดยบริเวณที่เกิดเหตุนั้น จขกท ไม่แน่ใจว่าเป็นแยกอะไรนะคะ ซึ่งมี 2 เลนส์ฝั่งซ้ายเป็นสัญญาณไฟเขียว แต่เลนขวาสุดเป็นสัญญาณไฟแดง ซึ่งรถของ จขกท ขับตามหลัง คุณพี่ Taxi คันหนึ่ง (ที่อยู่เลนกลางค่ะ) ซึ่ง Taxi คันนี้อาจจะไม่ชำนาญเส้นทางเท่าไรนักหรืออาจจะติดอะไรสักอย่างที่ทำให้พี่ Taxi คั้นหน้านั้นจอดเลนกลางและไม่ยอมขยับ ซึ่งรถของ จขกท ก็บีบแตรให้พี่ Taxi ย้ายไปเลนขวาแทนเพราะตอนนั้นเป็นสัญญาณไฟเขียวแล้ว ซึ่งในขณะนั้นเองรถด้านหลัง จขกท ก็บีบแตรไล่เช่นกัน สักพัก พี่ Taxi ก็ขับหลีกให้ ** รถของ จขกท เป็นรถอีกค่ายนึงซึ่งมีความสูงไล่เลี่ยกับ Isuzu MU7 – ซึ่งน่าจะเป็นอีกสาเหตุนึงที่ทำให้เขาเข้าใจผิดจนเกิดตุการณ์ดังต่อไปนี้ขึ้น :
พอเลยสัญญาณไฟเขียวนั้นมา เราก็ขับปกติชิดมาเลนขวา ซึ่งการจราจรวันนั้นก็ใช้ความเร็วปกติตามวิถีของถนนกรุงเทพที่ไม่ได้โล่งเท่าไรนัก แต่เราก็ยังได้ยินเสียงบีบแตรยาวๆจากข้างหลังตามมาอีก สักพักก็มีรถ Isuzu MU7-new สีบรอนซ์ ซึ่งเขาน่าจะหงุดหงิดโมโหจากเหตุการณ์เมื่อสักครู่ที่กินเวลาไม่ถึง2 นาที เขาบีบแตรยาวๆตามหลังรถเรามา แล้วเบี่ยงเข้าเลนซ้ายเพื่อที่จะขับปาดหน้ารถ จขกท อีกครั้งอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นวินาทีที่อันตรายมากๆ โชคดีที่แฟนเราไม่ได้ขับเร็ว ยังสามารถใช้สติชะลอรถ สักพักเขาก็ขับออกไปเข้าเลนซ้ายสุดอีกครั้งเป็นการจบความสนองทางอารมณ์
สิ่งที่อยากจะบอกคือ การขับรถบนถนนคุณควรใช้สติให้มากขึ้นนะคะ
เหตุการณ์เมื่อวาน เราไม่ใช่คันต้นเหตุที่ทำให้คุณไปถึงที่หมายล่าช้าเพียงแค่ 1-2 นาที ถึงใช่...คุณก็ไม่ควรใช้อารมณ์บนท้องถนนที่ทำให้เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ และอาจจะทำให้อีกหลายชีวิตบาดเจ็บหรือถึงขั้นเสียชีวิตได้ คุณสามารถขับรถได้แต่ควรใช้ “วุฒิภาวะทางอารมณ์” ขับไม่ใช่ “อารมณ์” หากวันนึงคุณไปเจออีกคันที่เขาอาจจะไม่มีสติพอเหมือนกับคุณล่ะคะ? เป็นห่วงสวัสดิภาพของคนใช้รถท่านอื่นบ้างเถอะค่ะ