อยากให้ตั้งชื่อลีกภาษาไทย เราต้องสร้างความเป็นเอกลักษณ์ของลีก เหมือนลีกชื่อดังของโลก
Premier League ---> อังกฤษ
Bundesliga ---> เยอรมัน
La Liga ---> สเปน
Serie A ---> อิตาลี
Ligue 1 ---> ฝรั่งเศส
Premira Liga ---> โปรตุเกส
Eredivisie ---> เนเธอร์แลนด์
Belgian Pro League ---> เบลเยี่ยม
Liga MX ---> เม็กซิโก
Brazileirao ---> บราซิล
สังดกตลีกหลักๆของโลกล้วนแล้วแต่มีชื่ออันเป็นเอกลักษณ์ของลีกเอง
สหพันธ์ คือ ชื่อภาษาไทย ซึ่งตรงกับคำภาษาอังกฤษว่า League
โดยตามผมคิดไว้มีดังต่อไปนี้
1. ตั้งชื่อเป้น สหพันธ์ ก , สหพันธ์ ข , สหพันธ์ ค และสหพันธ์ ง โดยที่เปลี่ยนอีกอย่างนึงจะสามารถได้ค่าลิขสิทธิ์มากขึ้นโดยให้เป็นลีกอาชีพ มี 18 ทีมเท่ากันเพื่อความยุติธรรมต่อทุกสหพันธ์ (ตอนแรกขอให้เป็นสหพันธ์ ก กับ สหพันธ์ ข แล้วค่อยเพิ่มทีมในสหพันธ์ ค และสหพันธ์ ง ทีหลัง) มีบริษัทเป็นของตัวเอง และมีการให้สโมสรในสหพันธ์มีหุ้นในสหพันธ์แล้วให้ดูแลกันเอง โดยสมาคมอย่างน้อยก็ต้องมีหุ้นเพื่อเอาเงินจากการหุ้นไปให้ลีกรองและลีกสมัครเล่น รวมทั้งเป็นเงินให้แก่ทีมชาติ สมาคมจะไม่มาดูแลสหพันธ์ แต่สมาคมจะไปดูแลลีกภูมิภาคเหมือนกับของต่างประเทศ เนื่องจากลีกภูมิภาคคือลีกสมัครเล่นที่ต้องการเงินเพื่อทำทีม
ตัวอย่างของบริษัทภายในลีก
สหพันธ์ ก ---> บริษัท สหพันธ์ ก จำกัด (มหาชน)
สหพันธ์ ข ---> บริษัท สหพันธ์ ข จำกัด (มหาชน)
สหพันธ์ ค ---> บริษัท สหพันธ์ ค จำกัด (มหาชน)
สหพันธ์ ง ---> บริษัท สหพันธ์ ง จำกัด (มหาชน)
โดยมีกฏของแต่ละลีกดังต่อไปนี้
1.1 สหพันธ์ ก ข ค และ ง มีการเพลย์ออฟชิงแชมป์ 4 ทีมที่ดีสุด เจอกันแบบไขว้ อันดับ 1 เจอกับอันดับ 4 และอันดับ 2 เจอกับอันดับ 3 โดยใช้สนามกลางตัดสินจนถึงรอบชิงชนะเลิศ และให้ตกชั้น 4 ทีม
2. การที่จะสามารถขึ้นสู่ลีกอาชีพ มีเพียงอย่างเดียวคือการผ่านคลับไลเซนต์ของเอเฟซี ไม่อย่างนั้นไม่สามารถขึ้นสู่ลีกอาชีพได้ นอกจากนี้ยังต้องทำคอยตรวจสอบให้สโมสรในสหพันธ์ให้ได้รับการผ่านคลับไลเซนต์ของเอเอฟซี ไม่เช่นนั้นต้องมีบทลงโทษถ้าฝ่าฝืนกฎข้อนี้ ไม่ว่าจะเป็นปรับเงิน หรือหนักสุดคือตกชั้นกลับไปลีกภูมิภาคอีกครั้ง ส่วนการผ่านคลับไลเซนต์ของสหพันธ์ ก นั้นสามารถผ่อนปรนกฏได้จนถึง สหพันธ์ ข ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีสิทธิ์เลื่อนชั้นไปสหพันธ์ ก
3.ในเมื่อมี สหพันธ์ ก ข ค และ ง แล้วขอให้พระราชทานถ้วยพระราชทาน ประเภท ก ข ค และ ง เป็นถ้วยของสหพันธ์นั้น ตามความประสงค์ให้มีการแบ่งดิวิชั่น นอกจากนี้ขอให้พระราชทานถ้วย ควีนส์คัพ ซึ่งเป็นถ้วยพระราชทานที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเป็นถ้วยฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดของโลก มาเป็นถ้วยที่อยู่ตำแหน่งเดียวกับถ้วยพระราชทาน ก ในปัจจุบัน เพื่อความศักดิ์สิทธิ์ของถ้วยนี้ โดยนำเอาแชมป์ถ้วยพระราชทาน ก มาแข่งกับแชมป์เอฟเอคัพ มาเจอกันที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน และให้เอฟเอคัพใช้สนามกลางอย่างศุภชลาสัยเป็นสนามตัดสินแชมป์เอฟเอคัพ
4. ขอให้มีกฏเพิ่มเติมอีกอย่างคืออยากให้มีชาเลนจ์ โดยแจกบัตรชาเลนจ์ให้โค้ชคนละ 3 ใบ ถ้าเกิดมีการผิดพลาดจริง จะได้บัตรคืน แต่ถ้าชาเลนจ์แล้วอีกทีมไม่มีความผิด จะถูกริดบัตรทันที เหมือนของเทควันโด้ แต่ต่างตรงที่มี 3 ใบเท่ากับสิทธิ์ของการลงตัวสำรองนั้นเอง
ส่วนใครแนะนำอะไร ขอลองแสดงความคิดเห็นดูครับ
ผมขอเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับไทยลีกครับ
Premier League ---> อังกฤษ
Bundesliga ---> เยอรมัน
La Liga ---> สเปน
Serie A ---> อิตาลี
Ligue 1 ---> ฝรั่งเศส
Premira Liga ---> โปรตุเกส
Eredivisie ---> เนเธอร์แลนด์
Belgian Pro League ---> เบลเยี่ยม
Liga MX ---> เม็กซิโก
Brazileirao ---> บราซิล
สังดกตลีกหลักๆของโลกล้วนแล้วแต่มีชื่ออันเป็นเอกลักษณ์ของลีกเอง
สหพันธ์ คือ ชื่อภาษาไทย ซึ่งตรงกับคำภาษาอังกฤษว่า League
โดยตามผมคิดไว้มีดังต่อไปนี้
1. ตั้งชื่อเป้น สหพันธ์ ก , สหพันธ์ ข , สหพันธ์ ค และสหพันธ์ ง โดยที่เปลี่ยนอีกอย่างนึงจะสามารถได้ค่าลิขสิทธิ์มากขึ้นโดยให้เป็นลีกอาชีพ มี 18 ทีมเท่ากันเพื่อความยุติธรรมต่อทุกสหพันธ์ (ตอนแรกขอให้เป็นสหพันธ์ ก กับ สหพันธ์ ข แล้วค่อยเพิ่มทีมในสหพันธ์ ค และสหพันธ์ ง ทีหลัง) มีบริษัทเป็นของตัวเอง และมีการให้สโมสรในสหพันธ์มีหุ้นในสหพันธ์แล้วให้ดูแลกันเอง โดยสมาคมอย่างน้อยก็ต้องมีหุ้นเพื่อเอาเงินจากการหุ้นไปให้ลีกรองและลีกสมัครเล่น รวมทั้งเป็นเงินให้แก่ทีมชาติ สมาคมจะไม่มาดูแลสหพันธ์ แต่สมาคมจะไปดูแลลีกภูมิภาคเหมือนกับของต่างประเทศ เนื่องจากลีกภูมิภาคคือลีกสมัครเล่นที่ต้องการเงินเพื่อทำทีม
ตัวอย่างของบริษัทภายในลีก
สหพันธ์ ก ---> บริษัท สหพันธ์ ก จำกัด (มหาชน)
สหพันธ์ ข ---> บริษัท สหพันธ์ ข จำกัด (มหาชน)
สหพันธ์ ค ---> บริษัท สหพันธ์ ค จำกัด (มหาชน)
สหพันธ์ ง ---> บริษัท สหพันธ์ ง จำกัด (มหาชน)
โดยมีกฏของแต่ละลีกดังต่อไปนี้
1.1 สหพันธ์ ก ข ค และ ง มีการเพลย์ออฟชิงแชมป์ 4 ทีมที่ดีสุด เจอกันแบบไขว้ อันดับ 1 เจอกับอันดับ 4 และอันดับ 2 เจอกับอันดับ 3 โดยใช้สนามกลางตัดสินจนถึงรอบชิงชนะเลิศ และให้ตกชั้น 4 ทีม
2. การที่จะสามารถขึ้นสู่ลีกอาชีพ มีเพียงอย่างเดียวคือการผ่านคลับไลเซนต์ของเอเฟซี ไม่อย่างนั้นไม่สามารถขึ้นสู่ลีกอาชีพได้ นอกจากนี้ยังต้องทำคอยตรวจสอบให้สโมสรในสหพันธ์ให้ได้รับการผ่านคลับไลเซนต์ของเอเอฟซี ไม่เช่นนั้นต้องมีบทลงโทษถ้าฝ่าฝืนกฎข้อนี้ ไม่ว่าจะเป็นปรับเงิน หรือหนักสุดคือตกชั้นกลับไปลีกภูมิภาคอีกครั้ง ส่วนการผ่านคลับไลเซนต์ของสหพันธ์ ก นั้นสามารถผ่อนปรนกฏได้จนถึง สหพันธ์ ข ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีสิทธิ์เลื่อนชั้นไปสหพันธ์ ก
3.ในเมื่อมี สหพันธ์ ก ข ค และ ง แล้วขอให้พระราชทานถ้วยพระราชทาน ประเภท ก ข ค และ ง เป็นถ้วยของสหพันธ์นั้น ตามความประสงค์ให้มีการแบ่งดิวิชั่น นอกจากนี้ขอให้พระราชทานถ้วย ควีนส์คัพ ซึ่งเป็นถ้วยพระราชทานที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเป็นถ้วยฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดของโลก มาเป็นถ้วยที่อยู่ตำแหน่งเดียวกับถ้วยพระราชทาน ก ในปัจจุบัน เพื่อความศักดิ์สิทธิ์ของถ้วยนี้ โดยนำเอาแชมป์ถ้วยพระราชทาน ก มาแข่งกับแชมป์เอฟเอคัพ มาเจอกันที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน และให้เอฟเอคัพใช้สนามกลางอย่างศุภชลาสัยเป็นสนามตัดสินแชมป์เอฟเอคัพ
4. ขอให้มีกฏเพิ่มเติมอีกอย่างคืออยากให้มีชาเลนจ์ โดยแจกบัตรชาเลนจ์ให้โค้ชคนละ 3 ใบ ถ้าเกิดมีการผิดพลาดจริง จะได้บัตรคืน แต่ถ้าชาเลนจ์แล้วอีกทีมไม่มีความผิด จะถูกริดบัตรทันที เหมือนของเทควันโด้ แต่ต่างตรงที่มี 3 ใบเท่ากับสิทธิ์ของการลงตัวสำรองนั้นเอง
ส่วนใครแนะนำอะไร ขอลองแสดงความคิดเห็นดูครับ