รีวิวหนังเรื่อง Son of Saul

[ReViEw Movie]
No spoil
>>> Son of Saul
เรื่องที่ 1 ประจำเดือน 2/2017
*หนังเรื่องนี้เป็นหนังนอกกระแส อาจเข้าโรงไม่นานเท่าไหร่ ถ้าอยากลองอยากให้รีบจองตั๋ว

สำหรับหนังเยอรมันแนวประวัติศาสตร์ ดราม่าผสมระทึกขวัญเรื่องนี้ล่ารางวัลมาได้อย่างอลังการงานสร้างสุดๆ คะแนนรีวิวของ IMDb ได้มาตั้ง 7.8 และก็ถือเป็นโชคดีที่ได้บัตรดูหนังรอบสื่อมา...

แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาเรียกได้ว่า 'ผิดหวัง' ผิดหวังแบบผิดหวังลงเหวสุดๆ ตู้มมมมมมม เอาจริงๆ คือค่อนข้าง 'ตั้งความหวัง' ไว้พอสมควร

ตัวแอดมินเองเคยดูหนังเรื่อง pan's labyrinth ซึ่งเป็นหนังที่เล่าเรื่องของสมัยสงครามโลกมาแล้วเหมือนกัน แต่อาจจะผสมความแฟนตาซีเข้าไปเล็กๆ ทำให้ค่อนข้างถูกโฉลกกับ pan's labyrinth แต่พอมาดู son of saul ทำให้รู้ว่า นี่สิหนังสงครามโลกของจริง!

บทหนังโคตรจะไร้ความเรียล เรียกได้ว่าไม่เมกเซ้นส์ หนังทั้งเรื่องตลอด 1 ชั่วโมง 45 นาทีเล่าแต่เรื่องของนักโทษสงครามหนุ่มสุดหล่อที่รู้สึกผูกพันธ์กับเด็กน้อยที่กำลังจะถูกทหารผ่าศพแล้วนำไปเผา พ่อพระเอกของเราจึงอยากช่วยทำพิธีศพให้เด็กน้อย แค่นี้!!

เราไม่รู้นะว่าทางประเทศเขา ศาสนาเขา เคร่งครัดเรื่องการทำพิธีอะไรแบบนี้มากขนาดไหน แต่คือเอ็งโดนจับมาเป็นนักโทษอยู่นะเว้ย!! เอ็งกล้าทำผิดกฏกองทัพเพื่อแค่ทำพิธีศพเรอะะะ!! โดนยิงกะบาลแตกได้ง่ายๆ เลยนะเห้ย!!! โคตรจะ ยิ้ม!

ยอมรับว่าดูเกือบจะไม่รู้เรื่องนะ ขนาดมีซับแล้ว แต่ซับไทยก็ยังแปลแบบทับศัพท์ เช่นคำว่า Sonderkommando ที่ในตัวหนังมันหมายถึง หน่วยพิเศษที่พระเอกแกทำงานอยู่ หรือคำว่า rubbi ซึ่งน่าจะหมายถึงพวกคนที่เป็นนักบวช คนสอนศาสนา ในซับมันเล่นแปลทับศัพ ซอนเดอร์คอมแมนโดงี้ รับบีงี้ คือคำบางคำถ้าคนไทยมันไม่รู้จักก็น่าจะทำดอกจันทร์หรือวงเล็บไว้หน่อย คือโอเคว่าดูๆ ไปน่าจะรู้เรื่องเองว่ามันแปลว่าอะไร แต่คือมันเป็นการเดาไง จะถูกป่าวก็ไม่รู้ 55555 มีความหมายไว้ให้ซักนิดนึงคงไม่เป็นไร

แต่มันก็ไม่ได้แย่ไปซะทั้งหมด สิ่งงามๆ ที่โคตรชอบสำหรับหนังเรื่องนี้ก็ยังมีอยู่บ้าง

เรื่องของมุมกล้องที่ผู้กำกับเลือกใช้คือดีงามสุดๆ ประมาณ 70% ของเรื่องกล้องซูมไปที่พ่อพระเอกหนุ่มของเราอย่างเดียว ให้อารมณ์เหมือนเราเดินตามพี่แกไปทุกๆ ที่ยังไงอย่างงั้น ทำให้บางอารมณ์ทำให้เราเข้าใจถึงฟิลลิ่งของพระเอกเพราะเราติดตามเขาอยู่ตลอดเวลา โฟกัสอาร์ตได้ใจมาก เรื่องมุมกล้องคือดีงามสุดๆ

สิ่งที่คิดว่าเป็นหัวใจหลักของหนังเลยสำหรับเราก็คือการแสดงให้เห็นถึงความลำบากของการเป็นนักโทษ เหมือนเราเป็นลูกไก่จิ๋วในกำมือพวกทหารเลย เขาสั่งอะไรก็ต้องทำ ขัดอะไรก็ไม่ได้ เขาจะตบหัว จะล้อเลียน เราก็ไม่มีสิทธิด่าไม่งั้นก็โดนยิงกบาลตาย แถมใช้งานได้ 2-3 เดือนก็โดนฆ่าล้างหมดอีกตะหาก ใช้ชีวิตไปวันๆ มาก รู้สึกถึงความหดหู่ที่ออกมาจากตัวนักโทษได้อย่างจริงจังสุดๆ

เอาเป็นว่าสำหรับเรา หนังเรื่องนี้อย่าดูเลยดีกว่า 55555 เอาแบบเข้าไปนั่งหน้าโง่ๆ โดยไม่ต้องหาข้อมูลหนัง เนื้อเรื่องย่อ ไม่ต้องเช็คฟีดแบ็ค ศึกษา อารมณ์เห็นโปสเตอร์แล้วยิ้มเจ๋งจองตั๋วเลย มีเฟลหนักนะแบบนี้ ถ้าอยากดูจริงๆ อยากให้ไปหาข้อมูล อ่านรีวิวอะไรให้ครบก่อน อาจจะทำให้เข้าใจในตัวหนังมากขึ้น แล้วอาจจะสนุกกว่าที่เราเจอก็ได้นะ อิอิ

5/10
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ไม่ใช่หนังเยอรมันค่ะ หนังฮังการี

คิดว่า จขกท ควรที่จะศึกษาข้อมูลก่อนดู จะได้ไม่ผิดหวังนะคะ
อย่างว่า เราไม่เคยอยู่ในประเทศที่กระทบต่อสงครามโลกโดยตรง เราจะไม่มีวันเข้าใจ เหมือนที่ จขกท ไม่เข้าใจอะแหละ

คิดว่า อาจจะไม่ตรงใจคุณมากกว่า แล้วศพเด็กคนนั้นเค้าคิดว่าเป็นศพลูกเค้านะ เค้าทำผิดกับลูกที่ผ่านมา เลยอยากล้างบาปด้วยการทำพิธีศพให้ลูกของเขา จะได้เข้าไปหาพระเจ้าได้อะ ก็คล้ายของไทยนะ ต่อให้โดนฆ่าตาย เราก็อยากจัดพิธีศพตามศาสนาให้เขา จริงไหม?
ไม่เข้าใจว่าดูหนังจบแล้วเข้าใจอะไรบ้าง ก่อนรีวิวควรศึกษาข้อมูลเยอะๆ นะคะ เดี๋ยวนี้เค้าแข่งกันเรื่อง content นะ

ฝากไว้ สวัสดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่