ฟุตบอลบุรีรัมย์มีจุดเด่นที่ระบบเพรสซิ่งซึ่งจะเหมือนกับพวกญี่ปุ่นและเกาหลี ทำไมบุรีรัมย์ถึงต่อสู้กับเขาในระดับเอเชียได้ก็เพราะมีระบบที่คล้ายกันในการเพรสซิ่งทำลายเกมส์คู่ต่อสู้ และฉวยโอกาสที่คู่ต่อสู้ผิดพลาดแล้วจู่โจม  จะเห็นได้ว่าเวลาเมืองทองได้ลูกบุรีรัมย์จะเข้าบีบเพรสซิ่งทำลายเกมส์ แต่พอบุรีรัมย์ได้ลูกเมืองทองจะยืนคุมโซนคอยสกัดปล่อยให้บุรีรัมย์เซตเกมส์บุกใส่อย่างง่ายดาย ถ้าเป็นแบบนี้ชาตินี้ก็ไม่มีทางเอาชนะบุรีรัมย์ได้
   สิ่งที่เมืองทองต้องแก้ไข ( รวมทั้งสโมสรไทยลีกอื่น ๆ หากอยากสู้กับบุรีรัมย์ )
1  เล่นบอลแบบ One Touch ฟุตบอลจังหวะเดียว รับ ส่ง ด้วยความแม่นยำ ( ขอให้ไปดูคลิบที่ทีมชาติไทยต่อบอลทำเกมส์แล้วตีเสมอ อีรัก ได้ในลูกที่สอง )
ระบบนี้จะหลีกเลี่ยงจากการเพรสซิ่งได้ แต่ต้องฝึกกันด้วยความชำนาญ รู้ใจกัน
2  หันกลับมาใช้ระบบ เพรสซิ่ง สู้ (ขอให้ไปดูคลิบที่ U23ญี่ปุ่นเจอกับU23เกาหลีเหนือที่ผ่านมาในรายการชิงแชมป์เอเชียคัดไปโอลิมปิก จะเห็นว่าเมื่อระบบเพรสซิ่งเจอกันจะทันกันและทำอะไรกันไม่ค่อยได้ จนกระทั่งญี่ปุ่นมาได้ประตูชัยจากลูกเตะมุม ( Set Piece )
     การที่ คุณเนวิน บอกว่างูเหลือมกับเชือกกล้วยนั้น ผมว่าแกพูดให้ฟังดูดีมากกว่าและรักษาน้ำใจแฟนบอลเมืองทอง เพราะคำนี้มันน่าจะหมายถึง ทีม 2 ทีมที่เล่นสูสีกันแล้วอีกทีมไม่สามารถเอาชนะได้ แต่นี่ไม่มีคำว่าสูสีเลย  ส่วนลึกในจิตใจของแกรู้อยู่ว่าเด็กแกไม่มีคำว่าแพ้ แกถึงให้สัมภาษณ์ก่อนแข่งอย่างมั่นใจทุกครั้ง ( ผมขอย้ำอีกทีว่าไม่ใช่งูเหลือมกับเชือกกล้วยครับ แต่เป็นระบบทีมต่างหากที่สู้กันไม่ได้ )

ปล. ผมไม่ใช่ติ่งบุรีรัมย์หรือเมืองทองเพียงแต่วิเคราะห์ไปตามสิ่งที่เห็นเท่านั้น แค่อยากเห็นเกมส์บิ๊กแมตช์ในลีกบ้านเราที่มีคุณภาพกว่านี้เท่านั้นจริง ๆ ครับ