จองโรงแรมกับ ag... แล้วถูกแฮคบัตรเครดิต อ่านเป็นอุทาหรณ์

จองโรงแรมกับ อะโ.... ระวังโดนแฮคข้อมูลบัตรเครดิต
ยาวหน่อยนะคะ แต่ควรอ่านค่ะ เป็นอุทาหรณ์นะคะ จะได้ระวังตัว

เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า เรามีโปรแกรมไปญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 23-30 มกรา 2559 (ที่เพิ่งผ่านมานี้เอง)  เราทำการจองโรงแรมผ่านเว็บ ag...ที่ทุกคนรู้จักกันดี

ทั้งทริปเราจองผ่าน ag...แค่ 1 คืนเท่านั้น คือ คืนวันที่ 24/1/59 ที่เหลือจองผ่านเว็บของโรงแรมญี่ปุ่นโดยตรงเลยเพราะส่วนมากจะราคาถูกกว่าจองผ่าน ag...
วันที่เราทำการจองคือเดือนกันยายน 2558 แต่ในเว็บเขียนไว้ว่า จองวันนี้แต่ชำระเงินวันที่ 21 มกราคม 2016 (คือ 3 วันก่อนวันเข้าพัก ระบบจะทำการตัดยอดค่าใช้จ่ายจากบัตรเครดิตของเราอัตโนมัติ)
จนกระทั่ง  วันที่ 7/1/59 เราเริ่มวิตกไปเองว่า กลัวจะไม่ได้ห้องพักเพราะยังไม่ได้จ่ายเงิน ก็เลยโทรไปที่ ag...เพื่อให้เค้าตัดเงินเราไปเลย จะได้แน่ใจว่ามีห้องพักแน่ๆ
เราโทรไป มีพนักงานชายท่านนึงรับสาย เราก็แจ้งความประสงค์จะให้ตัดยอดค่าใช้จ่ายไปเลย พนักงานชายคนนั้นก็เลยขอเลขที่บัตรเครดิต วันหมดอายุ และเลข 3 ตัวหลังบัตร เราก็ให้ไป แต่ในใจก็ตะหงิดๆ แต่ก็ปล่อยผ่านไปไม่ได้อะไร (ทำไมโง่นัก หืออ)

จากวันที่จ่ายค่าโรงแรมไป เหตุการณ์ก็ปกติดี จนกระทั่งวันที่ 24/1/59 คือวันที่เราเข้าพักโรงแรมที่ญี่ปุ่น ที่เราจองกับ ag...
คืนนั้นเรากำลังสุยข้าวอยู่ แม่ของเราก็ call line มา เสียงตื่นเต้น ถามว่าเราเอาบัตรเครดิตไปรูดอะไรที่ญี่ปุ่นหรือเปล่า เราก็บอกว่าเปล่า ยังไม่ได้ใช้เลย บัตรอยู่ในกระเป๋าคาดเอวเนี่ยแม่!! (คือเราพกบัตรเครดิตมาด้วยแต่เจตนาคือจะไม่ใช้เพราะเราแลกเงินไปได้เรทถูกคือ 28 บาท แต่ตอนเราไปมันจะ 31 แล้ว)
แม่เราก็เลยบอกว่า ธนาคารโทรหาเราไม่ติด เพราะเราถอดซิมไทยออก แล้วใช้ซิมเนต sugoiแทน ธนาคารก็เลยโทรหาเบอร์อ้างอิงที่เราให้ไว้ตอนทำบัตรเครดิต
แม่เราก็เลยสั่งอายัติบัตรเครดิตเราไป แต่มันไม่ทันแล้วไง คนร้ายมันเอาบัตรเราไปซื้อบัตรทรูมันนี่+paysbuyในเนตซะเกลี้ยงเลย ยอด 33000 กว่าบาท

เราสุยข้าวอยู่ญี่ปุ่นอย่างเอร็ดอร่อย ถึงกับอิ่มกินไม่ลง ธนาคารให้เราเขียนใบปฏิเสธการใช้เงิน เราก็ทำตาม
พอเรากลับไทย เราก็ไปแจ้งความ ธนาคารให้รายละเอียดของคนร้ายมาเพราะมันเอาไปซื้อทรูมันนี่ในเนต มันมีเบอร์โทรคนร้ายอยู่ เบอร์มันลงทะเบียนชื่อ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ซึ่งเราคิดว่าคนร้ายก็คงเอาบัตรใครที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มาลงทะเบียนแน่แท้ มันคงไม่โง่เอาตัวมันหรอก แล้วตอนนี้เบอร์นี้ก็โทรไม่ติดละจ้าาา
เลข ip คอมพิวเตอร์เครื่องที่คนร้ายใช้ สืบรู้ว่าอยู่กรุงเทพ แค่นั้น
ธนาคารกรุงเทพบอกให้เราไปฟ้องจับคนร้ายเอง ส่วนหนี้นั้นเราต้องจ่าย (โถ...ชีวิตเปื้อนหนี้)

ช่องสีแดงๆคือรายการที่คนร้ายเอาไปใช้


นี่คือใบแจ้งความกับพี่ตำรวจ




ที่เล่ามาทั้งหมดบางคนอาจสงสัยว่า ทำไมถึงมาปรักปรำเว็บจองโรงแรม ag...ทั้งที่ก็ไม่มีหลักฐาน
คือ..จะพูดไงดี ..เหตุการณ์ทุกอย่างมันอำนวยให้คิดเป็นแบบนั้น คิดเป็นแบบอื่นไม่ได้เลย
1. เราเพิ่งทำบัตรเครดิตมาได้ประมาณ 9 เดือน / เป็นใบแรกและใบเดียว

2. ตั้งแต่เรามีบัตรเครดิต เราไม่เคยเอาออกจากห้องนอนของเราเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ไม่เคยไปรูดซื้อน้ำมัน ตามห้างอะไรไม่เคย เพราะจุดประสงค์คือเอาไว้จองตั๋วเครื่องบินเท่านั้น

3. ตั้งแต่ทำบัตรเครดิตมา เราซื้อสินค้าผ่านเนตไปทั้งหมด 3 อย่าง
คือ 1.ตั๋วเครื่องบินแอร์เอเชีย 2.ซิมเนตสุโก้ย 3.จองโรงแรมกับเว็บag...1คืน

เหมือนคนร้ายมันรู้ความเคลื่อนไหวของเรา ว่าวันนี้เราไม่อยู่เพราะเราจองโรงแรมที่ญี่ปุ่น
มันก็เลยจัดการซื้อทรูมันนี่ในเนตซะเลย บาทเดียวมันก็ไม่เหลือให้ คิดดู๊!!

ตัดประเด็นคนที่บ้านเราได้เลยค่ะ บ้านเราเป็นบริษัทขายรถจักรยานยนต์ มีทั้งหมด 4 สาขา
บ้านที่เราอยู่ อยู่กัน3คน เรา ป๊า แม่  อ้อ... มีแม่บ้านพม่าอีก 1 คน พู่ทามะชะ (พูดไทยไม่ชัด)

ซึ่งคอมพิวเตอร์เราอยู่ในห้องนอน ห้องนอนมีเราเข้าได้แค่คนเดียว ไม่อนุญาติให้แม่บ้านเข้าไปได้
และล๊อคห้องทุกวัน คอมก็ล๊อครหัส จึงตัดประเด็นที่บ้านทิ้งไปได้เลย

เพราะฉนั้นคนที่รู้ข้อมูลบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัวของเราก็มีแค่คนเดียว คือพนักงานชาย ag...คนนั้น
เราโทรไปที่ag...พนักงานรับสาย เราเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้ฟัง และเราขอเทปบันทึกการสนทนาในวันนั้น
วันที่พนักงานเค้าถามเลขที่บัตรเครดิตของเราทั้งหมด

แต่พนักงานที่รับสายบอกว่า หากเป็นการตัดยอดออนไลน์ ทางag...จะไม่ได้บันทึกการสนทนาไว้ เพื่อความปลอดภัยของลูกค้า
(เค้าอาจกลัวพนักงานมากรอเทปฟังเลขที่บัตรเครดิตย้อนหลังมั้ง)
แต่ถ้ามันจดไว้ล่ะ?? อย่างเคสเรา เรามั่นใจ 99.99 ว่าใช่แน่นอน ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยแน่ใจอะไรขนาดนี้มาก่อนจริงๆค่ะ

ทีแรกเราก็งง ว่าบัตรเครดิตของเราสมัครบริการ verify by visa ไว้ที่เบอร์โทรศัพท์ของเรา
เวลาเราซื้อของในเนต เช่นตั๋วเครื่องบิน มันจะมีรหัส OTP มาให้ แล้วเราต้องเอา OTPไปกรอกยืนยันในเว็บที่เราซื้อของถึงจะซื้อได้

แล้วทีนี้คนร้ายเอาไปซื้อได้ไง???

ง่ายๆเลยคือ  คนร้ายเอาข้อมูลบัตรของเราทั้งหมดไปทำการเปลี่ยนเบอร์ verifyใหม่ เป็นเบอร์ของมันจ้าาา  
เราจึงโทรไปถามธนาคารกรุงเทพว่า การที่จะเปลี่ยนเบอร์ verifyทำได้ง่ายๆเลยเหรอ
ไม่ต้องส่งรหัสมายืนยันที่เบอร์เดิมที่เคยลงทะเบียนไว้เหรอคะ

ธนาคารบอกว่า จะไม่มีการส่งรหัสไปยืนยันไปที่เบอร์เก่า
แต่ถ้ากรอกข้อมูลบัตรถูกต้อง + ข้อมูลส่วนตัวเราอีกนิดหน่อย และตอบคำถามที่เราตั้งเอาไว้ ก็จะสามารถเปลี่ยนเบอร์verify ได้เลย
ซึ่งตอนนี้ตัวเราเองยังนึกไม่ออกเลยว่าคำถามที่ตั้งเอาไว้คืออะไร เหอะๆๆ แต่คงจะเป็นอะไรที่ตอบง่ายแน่นอนเลย เฮ้อออ โมโหตัวเอง

จึงอยากมาเตือนเพื่อนๆทุกคนดังนี้ค่ะ
1. ใครที่จะทำการจองโรงแรมผ่านเว็บag... กรุณาอย่าไปให้พนักงานเป็นคนตัดยอดให้ แต่ควรให้คอมพิวเตอร์ตัดยอดไปเอง
จะปลอดภัยที่สุดค่ะ เกิดเหตุการณ์แบบนี้จับมือใครดมไม่ได้เลยจริงๆ พูดไปบางคนไม่เข้าใจก็จะว่าเราเลินเล่อเองแล้วไปโทษคนอื่น หึๆๆ

2. เลขบัตรเครดิต 3 ตัวหลังบัตร กรุณาจำหรือจดเอาไว้ เสร็จแล้วขูดทิ้งไปเลยค่ะ
ถ้ามีคนเอาเลขบัตร วันหมดอายุ เลข3ตัวหลังบัตร ของเราไป มันไปซ์้อของในเนตได้เลยค่ะ มีแสนหมดแสน มีล้านหมดล้าน !!


เรื่องที่อยากถามขอความช่วยเหลือ
1. เกิดกรณีแบบนี้ เราต้องจ่ายค่าบัตรเครดิตมั้ยคะ มันเสียด๊ายเสียดายเงินอะค่ะ
ไม่ได้ใช้เองแต่ต้องไปชดใช้แทนโจร เงิน 33000 ทำอะไรได้ตั้งเยอะอ่ะ เสียดายสุดๆ

2. ถ้าทางตำรวจเค้าจับคนร้ายไม่ได้ เราจะทำยังไง?? วันนี้เพิ่งโทรหาร้อยเวรที่รับเรื่องก็ดูเหมือนจะไม่ได้เรื่อง  20 วันแล้ว พี่ยังไม่ทำอะไรให้เลยค่ะ ทำไมพี่ทำงานหวานเย็นขนาดนี้คะ แถมพูดประมาณว่า ดำเนินคดีไปก็ไม่ได้อะไร คดีแบบนี้มันตามสืบยาก อะไรอย่างงี้ ฮานาก้าาาาา


หวังว่าจะเป็นอุทาหรณ์ในการใช้บัตรเครดิตของทุกท่านที่ได้อ่านนะคะ // ขอบคุณค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่