เป็นสองนักเขียนที่ผมไม่เคยสัมผัสงานของพวกเขามาก่อนเลย แต่วันนี้ก็ได้มีโอกาสซื้อ E-book ผ่าน App มาอ่านเผื่อจะได้ติดตามผลงานอื่นๆของทั้งคู่ต่อไป
เริ่มจาก"อาคม" โดยคุณชลนิล
รูปแบบการเขียนฉับไว เข้าประเด็นโดยเร็วแบบไม่โยกโย้ ใช้คำสร้างภาพได้ชัดเจนมาก บรรยายอารมณ์"หลุดพ้นจากสภาวะธรรมชาติ"ได้น่าสนใจ การดำเนินเรื่องนั้นเหมือนนั่งฟังคนเล่าเรื่องรวดเดียวจบไม่หยุดพัก เป็นนิยายที่คล้ายจำลองภาพยนตร์มาเป็นตัวอักษร
สิ่งที่หยุดผมไม่ให้ชอบนิยายเรื่องนี้ไปมากขึ้นคือ เนื้อเรื่องที่ทำท่าว่าจะไปไหนได้อีกไกลที่สุดก็วนกลับมาเป็นพายเรือในอ่างเสียหลายรอบ ก่อนจะหาทางไปต่อได้ เรียกง่ายๆว่าจำเจ
ถึงแม้จะบรรยายอารมณ์"หลุดพ้น"ได้ดี แต่อารมณ์ดาษๆทั่วไปแบบรักโลภ โกรธ หลงยังถ่ายทอดออกมาได้ไม่ถึงแก่น อ่านแล้วยังรู้สึกครึ่งๆกลางๆอยู่ มิติตัวละครก็ค่อนข้างตื้นเขินไม่มีชีวิตชีวา จับต้องความรู้สึก อารมณ์ตัวละครไม่ได้ลึกซึ้งอย่างที่ต้องการ ยกเว้นฟังตามที่คนเขียนเล่าและอ่านผ่านๆไป
รูปลักษณ์การเขียนอย่างนี้เหมาะจะแปลงเป็นบทละคร(ตามข่าวที่ออกมา)ที่สุดแล้ว ง่ายดี ไม่ต้องตีความ ไม่มีเนื้อเรื่องตัวละครอะไรต้องเข้าใจความหมายถ่องแท้ให้วุ่นวาย
ต่อด้วยเรื่อง"นางชฎา"ของคุณภาคีนัย"
โอ้ว นี้มันคืองานเขียนสำเร็จรูปเพื่อเตรียมการถูกซื้อเอาไปทำเป็นหนัง ละครแต่เริ่มเขียนในมุ้ง
คุณค่าในการอ่านเชิงวรรณศิลป์ นิยาย วรรณกรรม มีน้อยมาก เอาเทคนิคการเล่าเรื่องในภาพยนตร์มาใช้ในการเขียนนิยายแทน ความเป็นนิยายมันก็ไม่เหลืออะไร
หลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นจุดขายได้ในจอภาพแต่ไร้ซึ่งเหตุผลและคำตอบในโลกของนิยายมีเกลื่อนกลาดไปหมดในหนังสือเล่มนี้
ผู้เขียนถนัดแต่จะใช้ชั้นเชิงหักเล่นกับเนื้อเรื่องเพียงอย่างเดียวจริงๆ เอาแต่ผลักดันตัวละครไปตามคิวตัวเองโดยไม่สนความสมจริงของกฎธรรมชาติ ความเป็นปุถุชนเท่าไหร่
มันคืองานขายไอเดียอย่างเดียวล้วนๆ ไม่ได้มีฝีมือมาผสมเลย
ความรู้สึกหลังอ่านนิยายเรื่องอาคมและนางชฎา
เป็นสองนักเขียนที่ผมไม่เคยสัมผัสงานของพวกเขามาก่อนเลย แต่วันนี้ก็ได้มีโอกาสซื้อ E-book ผ่าน App มาอ่านเผื่อจะได้ติดตามผลงานอื่นๆของทั้งคู่ต่อไป
เริ่มจาก"อาคม" โดยคุณชลนิล
รูปแบบการเขียนฉับไว เข้าประเด็นโดยเร็วแบบไม่โยกโย้ ใช้คำสร้างภาพได้ชัดเจนมาก บรรยายอารมณ์"หลุดพ้นจากสภาวะธรรมชาติ"ได้น่าสนใจ การดำเนินเรื่องนั้นเหมือนนั่งฟังคนเล่าเรื่องรวดเดียวจบไม่หยุดพัก เป็นนิยายที่คล้ายจำลองภาพยนตร์มาเป็นตัวอักษร
สิ่งที่หยุดผมไม่ให้ชอบนิยายเรื่องนี้ไปมากขึ้นคือ เนื้อเรื่องที่ทำท่าว่าจะไปไหนได้อีกไกลที่สุดก็วนกลับมาเป็นพายเรือในอ่างเสียหลายรอบ ก่อนจะหาทางไปต่อได้ เรียกง่ายๆว่าจำเจ
ถึงแม้จะบรรยายอารมณ์"หลุดพ้น"ได้ดี แต่อารมณ์ดาษๆทั่วไปแบบรักโลภ โกรธ หลงยังถ่ายทอดออกมาได้ไม่ถึงแก่น อ่านแล้วยังรู้สึกครึ่งๆกลางๆอยู่ มิติตัวละครก็ค่อนข้างตื้นเขินไม่มีชีวิตชีวา จับต้องความรู้สึก อารมณ์ตัวละครไม่ได้ลึกซึ้งอย่างที่ต้องการ ยกเว้นฟังตามที่คนเขียนเล่าและอ่านผ่านๆไป
รูปลักษณ์การเขียนอย่างนี้เหมาะจะแปลงเป็นบทละคร(ตามข่าวที่ออกมา)ที่สุดแล้ว ง่ายดี ไม่ต้องตีความ ไม่มีเนื้อเรื่องตัวละครอะไรต้องเข้าใจความหมายถ่องแท้ให้วุ่นวาย
ต่อด้วยเรื่อง"นางชฎา"ของคุณภาคีนัย"
โอ้ว นี้มันคืองานเขียนสำเร็จรูปเพื่อเตรียมการถูกซื้อเอาไปทำเป็นหนัง ละครแต่เริ่มเขียนในมุ้ง
คุณค่าในการอ่านเชิงวรรณศิลป์ นิยาย วรรณกรรม มีน้อยมาก เอาเทคนิคการเล่าเรื่องในภาพยนตร์มาใช้ในการเขียนนิยายแทน ความเป็นนิยายมันก็ไม่เหลืออะไร
หลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นจุดขายได้ในจอภาพแต่ไร้ซึ่งเหตุผลและคำตอบในโลกของนิยายมีเกลื่อนกลาดไปหมดในหนังสือเล่มนี้
ผู้เขียนถนัดแต่จะใช้ชั้นเชิงหักเล่นกับเนื้อเรื่องเพียงอย่างเดียวจริงๆ เอาแต่ผลักดันตัวละครไปตามคิวตัวเองโดยไม่สนความสมจริงของกฎธรรมชาติ ความเป็นปุถุชนเท่าไหร่
มันคืองานขายไอเดียอย่างเดียวล้วนๆ ไม่ได้มีฝีมือมาผสมเลย