เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาได้ เราได้มาเป็นคณะขึ้นไฟท์นกแอร์เที่ยวบิน กระบี่-ดอนเมือง เวลา 16.10 น. และได้โหลดกระเป๋าเข้าเครื่องสแกนพอถึงเคาเตอร์ก็ได้เช็คสัมภาระและโหลดเข้าไปกลุ่ม ซึ่งแบ่งสติ๊กเกอร์เป็นสามชุด เรื่องมีอยู่ว่ามีกระเป๋าของคนๆหนึ่ง ที่เผลอลืมเอาโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ True 4G ที่ยังไม่ปิดเครื่อง และกระเป๋าเงินอยู่ในกระเป๋าออกมาเก็บไว้กับตัว แล้วก็เข้าเคาท์เตอร์นกแอร์ให้โหลดสัมภาระใต้ท้องเครื่อง จนกระทั่งถึงที่ท่าอากาศยานดอนเมือง และรับสัมภาระคืนพอได้กระเป๋าพึ่งนึกได้ว่า เผลอลืมเอาของที่ว่าออก

พอเปิดกระเป๋าค้นสิ่งที่หายไปก็คือ โทรศัพท์มือถือดังกล่าว และ ธนบัตรรวมกันเกือบ 300 บาท หายไปจากกระเป๋าเงิน (เจ้าของบอกว่าแน่ๆ เป็นแบงค์ 100 2 ใบกับแบงค์ 20 2-3 ใบ แต่เหรียญไม่ได้เอาไป)
พอโทรไปก็ดับเครื่อง และพอสืบถามไปก็รู้ว่า น่าจะจะหายไประหว่างหลังส่งกระเป๋าโหลดจนถึงได้ที่ดอนเมือง

         จากนั้นก็เดินไปหาเจ้าหน้าที่ที่ชั้น 3 เพื่อร้องเรียน พนง.ได้แต่บอกว่า “ปกติเราไม่แนะนำให้เอาของมีค่าไว้ในกระเป๋าที่จะเข้าเครื่องโหลด” เรามากันอีกสองคน จึงถามกลับว่า “เข้าใจครับ แต่ไม่เข้าใจอย่างหนึ่งคือ ทำไมพนง.จึงถือวิสาสะเปิดกระเป๋าผู้โดยสารได้ และเอาของผู้โดยสารไป” พนง. จึ่งเงียบและรอให้ พนง.จาก G ขึ้นมา จากนั้นก็แล้วเชิญให้เราลงไป เราก็ถามว่า “ตรงนี้ไม่ได้หรอครับ?” พนง. ก็หน้าเสียนิดหนึ่ง แล้วเชิญลงไป เพื่อแจ้งคำร้องเรียน พนง.ก็บอกประโยคเดิม พอถามกลับ ก็ตอบไม่ได้ แต่ตอบกลับมาว่า “คือเราไม่มีกล้องวงจรปิดที่ดูการทำงานของพนง. ขณะทำงานอยู่ตลอดทาง” เราเลยถามกลับว่า “ขณะโหลดกระเป๋าเข้าเครื่อง คือเป็นเจ้าหน้าที่นกแอร์ใช่หรือไม่” พนง.ตอบ “ใช่ครับ ทั้งนี้จะเป็น ส่วนกลาง หรือ outsource ก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าจากกระบี่น่าจะเป็น  outsource” สรุปแค่ว่าได้แค่ลงบันทึกว่า ของหาย และให้ contact ไป จนป่านนี้ไม่ตอบกลับมา

         อยากถามว่า นกแอร์จะรับผิดชอบต่อการกระทำที่เกิดขึ้นได้อย่างไร? ทำไมพนง.คุณถึงถือวิสาสะเปิดกระเป๋าลูกค้าหยิบของไป หรือต้องมีหลักฐานก่อน