สวัสดีครับ....เข้าเรื่องเลยนะครับ หัวกระทู้ทั้ตั้งถามเพียงเพื่อต้องการทรรศนคติจากมุมมองของคนอื่นๆ ว่ามีมุมมองในเรื่องนีกยังไง ครูกับนักเรียน ความรักที่เกิดขึ้นภายในใจแต่ไม่มีโอกาสที่จะแสดงมันออกมาได้เลย เพราะสิ่งที่เอามาเดิมพันคืออนาคตทั้งชีวิตของเรา
ผมเป็นข้าราชการครูครับ ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการนะครับ ผมชื่อเต้ยครับ(นามสมมติ) เป็นคนที่ตั้งใจสอน ชอบสไตล์สอนแบบอ.มหาลัย รูปร่างหน้าตาจัดว่าเกณฑ์ดี(ฮ่าๆ มองบน) สูงๆแน่นๆ ผิวสองสี หล่อแบบไทยๆ (ก็นึกถึงเต้ย พงศกรละกันครับ) เป็นคนค่อนข้างคิดเร็ว ทำเร็ว พูดเร็วครับ และรู้ตัวเองตั้งแต่เด็กๆว่าเราต้องเป็นเกย์แน่ๆ แต่ไม่มีใครทราบเรื่องนี้เลยครับ จิงๆก็ไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชายจริงๆจังๆนะ ผมสอนอยู่รร.มัธยมชื่อดังทางภาคใต้ พอจบปุ๊บก็บรรจุปั๊บแล้วได้รับมอบหมายให้สอนม.6 เด็กที่โตที่สุด เฮี้ยว เกรียน แต่ก็มีภาวะความเป็นผู้ใหญ่มากที่สุด แน่นอนวัยของเราไม่ห่างกัน ความสนิทสนมจึงเกิดขึ้น ด้วยช่องว่างระหว่างวัยที่น้อยและการจัดการเรียนการสอนที่เอื้อต่อการเรียนรู้แบบเป็นกันเอง ไม่ปิดกันความคิด ทรรศนะใดๆครับ มีไรนร.ก็ถามอย่างไม่เขินอาย สอนให้เขาอยู่กับเหตุผล และสนับสนุนเชาในสิ่งที่ถูกต้อง เข้าเรื่องเลยนะครับ ในรุ่นม.6ที่ผมสอนมีนักเรียนคนนึงชื่อ ตี๋ (ก็นามสมมติอีกนั่นแหละ ตี๋เป็นคนหล่อครับ จัดว่าหล่อมากเป็นนายแบบดาราได้เลย หน้าตาแป้นแล้นตี๋เกาหลีจัดฟัน ส่วนสูง 180 กว่า ๆ ครั้งแรกที่เจอตี๋ผมตกอยู่ในอาการประหม่าครับ ต้องพูดต้องสอนนร.ที่หน้าตาดีย่อมตกอยู่สภาวะแบบนี้ ครูใหม่ๆจะรู้ดี ด้วยออร่าของนร.คนนี้เข้าตาผม จนพูดถูกๆผิดๆ ยิ่งเป็นครูใหม่ๆอะไรๆก็ใหม่หมด ประหม่ามากครับ แต่หลัจากนั้นไม่นาน ทุกอยางก็เข้าที่เข้าทางครับ ตี๋ก็เหมือนนร.คนนึงที่ไม่ได้พิเศษอะไร เวลาจะทำสร้างความเคยชินให้กับเราเองครับ ขอออกตัวก่อนเลยนะครับว่าผมรักศิษย์ทุกคนเท่าๆกัน ขึ้นอยู่พฤติกรรมของนร.ด้วยว่าจะประพฤติตนอย่างไรให้น่ารักของครูบาอาจารย์ ขนาดพ่อแม่ยังรักลูกไม่เท่ากันเลย นับประสาอะไรเนาะ) เมื่อการเรียนการสอนเริ่มชินมือ ชีวิตครูหนุ่มก็ดำเนินไปอย่างราบรื่นภายใต้การยึดจรรยาบรรณทางวิชาชีพอย่างเคร่งครัด ทุกครั้งที่สอนตี๋จะมานั่งหน้า ตั้งใจเรียนมากๆ ตี๋เป็นเด็กทะเล้นครับ ชอบพูดชอบแซว มีมุกมาเล่นกับครูตลอดๆ ล้วนแล้วแต่เป็นมุกแป้ก ครูเองก็ไม่ยอมแพ้ เมื่อไหร่ที่ถูกโยนมุก ครูจะส่งกลับอย่างทันท่วงที เป็นที่มาของเสียงโห่ในห้องเรียนเสมอๆ และดำเนินแบบนี้มาจนถึงท้ายเทอมต้นของปีการศึกษา ในขณะที่ผมกำลังทำเกรดนักเรียน มีข้อความแจ้งเตือนในกล่องข้อความแชท และเรื่องราวความไขว้เขวในหัวใจของผมก็เริ่มตรงนี้แหละครับ
ตี๋.."ดีครับครู"
ครูเต้ย.."ครับ ว่าไง"
ตี๋.."คะแนนผมเป็นไงมั่งครับครู"
ครูเต้ย.."ตัดแล้ว ขาดไป 2 คะแนน "
ตี๋.."โหยครู ปัดๆไปเหอะ 2 คะแนนเองครับ"
ครูเต้ย.."ไม่ได้หรอก 2 คะแนนนี่มาจากการหารตั้งแสนล้านคะแนนนะ"
ตี๋.."....."
ครูเต้ย.."ครูทำงานก่อนนะ"
ตี๋.."โหย ครู ถ้าผมอยู่บ้านนะผมไปหาครูเลยเนี๊ย ตอนนี้ผมมาสอบที่กทม."
ครูเต้ย.."อ้าว ทำไงดี"
ตี๋.."ถือว่าเป็นคะแนนจิตพิสัยก็แล้วนะครับ นะนะนะ" (พร้อมส่งรูปเซลฟี่ตัวเองยิ้มแป้นแล้นมาให้)
ครูเต้ย..(คิดในใจ เห้ยยยยย น่ารักกกกกกกกก แต่พิมพ์ไปว่า) "ไม่ได้หรอกครับ ถ้าให้ตี๋ ครูก็ต้องให้คนอื่นๆด้วย"
ตี๋.."ไม่ก็ไม่ครับ ผมล้อเล่น แค่อยากชวนครูคุยเฉยๆ ;) "
ครูเต้ย.."ไหนว่าไปสอบ ถ้าว่างมากกก็เตรียมตัวสอบนะ ครูจะทำงานละครับโชคดีกับการสอบครับ" (ผมฝืนใจตัวเองมากๆเพราะไม่อยากให้เขาได้ใจ
คำถามแรก...."ถ้าเพื่อนๆเป็นครู เพื่อนจะเพิ่มคะแนนให้ตี่มั๊ย? เด็กที่ตั้งใจเรียน ส่งงานตรงเวลา เอาใจใส่งานและการสอบทุกครั้ง มีมารยาทเคารพครูอาจารย์ (ไม่นับเรื่องแซว) และเมื่อสอนเรื่องไหนไปก็ถามตี๋มักกลับไปทบทวนหาเรื่องต่อยอดจากสิ่งที่เรียน ทำให้การสอนของครูมีประสิทธฺภาพมากๆ กับคะแนน 2 คะแนนที่จะเปลี่ยนเกรดของเขา กำหนดอนาคตเขา และจะติดตัวเขาไปตลอดชีวิต เพื่อนจะเพิ่มคะแนนให้ตี่มั๊ย"....
...........หลังจากปิดภาคเรียนเราก็ไม่ได้คุยกันอีก จนกระทั่งวันเปิดเทอมและรับผลการเรียน และเข้าสู๋การเรียนในภาคเรียนที่สอง...............
คาบแรกของการสอนห้องตี๋ในภาคเรียนที่สองคงหนีไม่พ้นการถกกันประเด็นเรื่องคะแนนในวิชาต่างๆของนร.รวมไปถึงวิชาผมด้วย
ตี๋.."ครูครับทำไมผมได้เกรด 4 วิชาครูละครับ ไหนครูว่า 78 ไม่ใช่หรอ"
ครูเต้ย.."ครูไม่ได้บอกนะ ครูบอกว่าขาดสองคะแนน แล้วตี๋ได้เท่าไหร่"
ตี๋.."82ครับ"
ครูเต้ย.."อื้ม ก็ขาดไปสองคะแนน จะได้ 82 ไง"
ตี๋.."โหยยยยยย ครูอะะะะะะะะ อย่าให้ถึงทีผมนะครับ"
ครูเต้ย.."ทำไม จะทำไรครู "
ตี๋.."ครูคอยดูเองละกัน"
...ใช่ครับ ผมเพิ่มคะแนนให้ตี๋ ตี๋ได้ 78 จริงๆ แต่ผมไม่อยากให้เค้าคิดว่าผมช่วยเขา ถ้าผมให้แค่ 2 คะแนน ผมก็จะไม่มีเหตุผลที่แย้งเขาได้ เลยเพิ่มอีก 2 เพราะผมพิจารณาแล้วว่าคะแนน 80และ82 ก็คือเกรดสี่เท่ากันนั่นเอง...
ผมยังมีอีกหลายๆเหตุการณ์ ซึ่งในตอนนี้เวลาก็เดินทางมาถึงปลายภาคของเทอมอีกแล้วครับ มีเรื่องราวอีกหลายๆเรื่อง เหตุการณ์ที่ผ่านๆที่จะมาเล่าให้ฟัง เพื่อให้เพื่อนที่ร่วมชะตากรรมเดียวกับผมได้เห็นมุมมองทางออกของชีวิต ฮ่าๆ ผมขอตั้งชื่อตอนนี้ว่า 'ครูครับขออัพเกรด'ละกันนะครับ ตอนนี้ถึงคาบสอนห้องตี๋แล้ว ผมต้องไปสอนก่อน แล้วจะมาเล่าตอนที่สองให้ฟัง เป็นเหตุการณ์ที่ต่อจากตอนครูครับขออัพเกรด ตอนที่สองคงต้องตั้งชื่อตอนไว้ล่วงหน้าว่า "ครูครับจับ(ใจ)ผมมั๊ย"
สิ่งที่ผมทำนี่ถูกหรือผิด ถ้าเป็นเพื่อนๆจะทำยังไง เลือกทำตามหัวใจของตัวเองหรือความถูกต้อง (ครูชายกับนักเรียนชาย)
ผมเป็นข้าราชการครูครับ ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการนะครับ ผมชื่อเต้ยครับ(นามสมมติ) เป็นคนที่ตั้งใจสอน ชอบสไตล์สอนแบบอ.มหาลัย รูปร่างหน้าตาจัดว่าเกณฑ์ดี(ฮ่าๆ มองบน) สูงๆแน่นๆ ผิวสองสี หล่อแบบไทยๆ (ก็นึกถึงเต้ย พงศกรละกันครับ) เป็นคนค่อนข้างคิดเร็ว ทำเร็ว พูดเร็วครับ และรู้ตัวเองตั้งแต่เด็กๆว่าเราต้องเป็นเกย์แน่ๆ แต่ไม่มีใครทราบเรื่องนี้เลยครับ จิงๆก็ไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชายจริงๆจังๆนะ ผมสอนอยู่รร.มัธยมชื่อดังทางภาคใต้ พอจบปุ๊บก็บรรจุปั๊บแล้วได้รับมอบหมายให้สอนม.6 เด็กที่โตที่สุด เฮี้ยว เกรียน แต่ก็มีภาวะความเป็นผู้ใหญ่มากที่สุด แน่นอนวัยของเราไม่ห่างกัน ความสนิทสนมจึงเกิดขึ้น ด้วยช่องว่างระหว่างวัยที่น้อยและการจัดการเรียนการสอนที่เอื้อต่อการเรียนรู้แบบเป็นกันเอง ไม่ปิดกันความคิด ทรรศนะใดๆครับ มีไรนร.ก็ถามอย่างไม่เขินอาย สอนให้เขาอยู่กับเหตุผล และสนับสนุนเชาในสิ่งที่ถูกต้อง เข้าเรื่องเลยนะครับ ในรุ่นม.6ที่ผมสอนมีนักเรียนคนนึงชื่อ ตี๋ (ก็นามสมมติอีกนั่นแหละ ตี๋เป็นคนหล่อครับ จัดว่าหล่อมากเป็นนายแบบดาราได้เลย หน้าตาแป้นแล้นตี๋เกาหลีจัดฟัน ส่วนสูง 180 กว่า ๆ ครั้งแรกที่เจอตี๋ผมตกอยู่ในอาการประหม่าครับ ต้องพูดต้องสอนนร.ที่หน้าตาดีย่อมตกอยู่สภาวะแบบนี้ ครูใหม่ๆจะรู้ดี ด้วยออร่าของนร.คนนี้เข้าตาผม จนพูดถูกๆผิดๆ ยิ่งเป็นครูใหม่ๆอะไรๆก็ใหม่หมด ประหม่ามากครับ แต่หลัจากนั้นไม่นาน ทุกอยางก็เข้าที่เข้าทางครับ ตี๋ก็เหมือนนร.คนนึงที่ไม่ได้พิเศษอะไร เวลาจะทำสร้างความเคยชินให้กับเราเองครับ ขอออกตัวก่อนเลยนะครับว่าผมรักศิษย์ทุกคนเท่าๆกัน ขึ้นอยู่พฤติกรรมของนร.ด้วยว่าจะประพฤติตนอย่างไรให้น่ารักของครูบาอาจารย์ ขนาดพ่อแม่ยังรักลูกไม่เท่ากันเลย นับประสาอะไรเนาะ) เมื่อการเรียนการสอนเริ่มชินมือ ชีวิตครูหนุ่มก็ดำเนินไปอย่างราบรื่นภายใต้การยึดจรรยาบรรณทางวิชาชีพอย่างเคร่งครัด ทุกครั้งที่สอนตี๋จะมานั่งหน้า ตั้งใจเรียนมากๆ ตี๋เป็นเด็กทะเล้นครับ ชอบพูดชอบแซว มีมุกมาเล่นกับครูตลอดๆ ล้วนแล้วแต่เป็นมุกแป้ก ครูเองก็ไม่ยอมแพ้ เมื่อไหร่ที่ถูกโยนมุก ครูจะส่งกลับอย่างทันท่วงที เป็นที่มาของเสียงโห่ในห้องเรียนเสมอๆ และดำเนินแบบนี้มาจนถึงท้ายเทอมต้นของปีการศึกษา ในขณะที่ผมกำลังทำเกรดนักเรียน มีข้อความแจ้งเตือนในกล่องข้อความแชท และเรื่องราวความไขว้เขวในหัวใจของผมก็เริ่มตรงนี้แหละครับ
ตี๋.."ดีครับครู"
ครูเต้ย.."ครับ ว่าไง"
ตี๋.."คะแนนผมเป็นไงมั่งครับครู"
ครูเต้ย.."ตัดแล้ว ขาดไป 2 คะแนน "
ตี๋.."โหยครู ปัดๆไปเหอะ 2 คะแนนเองครับ"
ครูเต้ย.."ไม่ได้หรอก 2 คะแนนนี่มาจากการหารตั้งแสนล้านคะแนนนะ"
ตี๋.."....."
ครูเต้ย.."ครูทำงานก่อนนะ"
ตี๋.."โหย ครู ถ้าผมอยู่บ้านนะผมไปหาครูเลยเนี๊ย ตอนนี้ผมมาสอบที่กทม."
ครูเต้ย.."อ้าว ทำไงดี"
ตี๋.."ถือว่าเป็นคะแนนจิตพิสัยก็แล้วนะครับ นะนะนะ" (พร้อมส่งรูปเซลฟี่ตัวเองยิ้มแป้นแล้นมาให้)
ครูเต้ย..(คิดในใจ เห้ยยยยย น่ารักกกกกกกกก แต่พิมพ์ไปว่า) "ไม่ได้หรอกครับ ถ้าให้ตี๋ ครูก็ต้องให้คนอื่นๆด้วย"
ตี๋.."ไม่ก็ไม่ครับ ผมล้อเล่น แค่อยากชวนครูคุยเฉยๆ ;) "
ครูเต้ย.."ไหนว่าไปสอบ ถ้าว่างมากกก็เตรียมตัวสอบนะ ครูจะทำงานละครับโชคดีกับการสอบครับ" (ผมฝืนใจตัวเองมากๆเพราะไม่อยากให้เขาได้ใจ
คำถามแรก...."ถ้าเพื่อนๆเป็นครู เพื่อนจะเพิ่มคะแนนให้ตี่มั๊ย? เด็กที่ตั้งใจเรียน ส่งงานตรงเวลา เอาใจใส่งานและการสอบทุกครั้ง มีมารยาทเคารพครูอาจารย์ (ไม่นับเรื่องแซว) และเมื่อสอนเรื่องไหนไปก็ถามตี๋มักกลับไปทบทวนหาเรื่องต่อยอดจากสิ่งที่เรียน ทำให้การสอนของครูมีประสิทธฺภาพมากๆ กับคะแนน 2 คะแนนที่จะเปลี่ยนเกรดของเขา กำหนดอนาคตเขา และจะติดตัวเขาไปตลอดชีวิต เพื่อนจะเพิ่มคะแนนให้ตี่มั๊ย"....
...........หลังจากปิดภาคเรียนเราก็ไม่ได้คุยกันอีก จนกระทั่งวันเปิดเทอมและรับผลการเรียน และเข้าสู๋การเรียนในภาคเรียนที่สอง...............
คาบแรกของการสอนห้องตี๋ในภาคเรียนที่สองคงหนีไม่พ้นการถกกันประเด็นเรื่องคะแนนในวิชาต่างๆของนร.รวมไปถึงวิชาผมด้วย
ตี๋.."ครูครับทำไมผมได้เกรด 4 วิชาครูละครับ ไหนครูว่า 78 ไม่ใช่หรอ"
ครูเต้ย.."ครูไม่ได้บอกนะ ครูบอกว่าขาดสองคะแนน แล้วตี๋ได้เท่าไหร่"
ตี๋.."82ครับ"
ครูเต้ย.."อื้ม ก็ขาดไปสองคะแนน จะได้ 82 ไง"
ตี๋.."โหยยยยยย ครูอะะะะะะะะ อย่าให้ถึงทีผมนะครับ"
ครูเต้ย.."ทำไม จะทำไรครู "
ตี๋.."ครูคอยดูเองละกัน"
...ใช่ครับ ผมเพิ่มคะแนนให้ตี๋ ตี๋ได้ 78 จริงๆ แต่ผมไม่อยากให้เค้าคิดว่าผมช่วยเขา ถ้าผมให้แค่ 2 คะแนน ผมก็จะไม่มีเหตุผลที่แย้งเขาได้ เลยเพิ่มอีก 2 เพราะผมพิจารณาแล้วว่าคะแนน 80และ82 ก็คือเกรดสี่เท่ากันนั่นเอง...
ผมยังมีอีกหลายๆเหตุการณ์ ซึ่งในตอนนี้เวลาก็เดินทางมาถึงปลายภาคของเทอมอีกแล้วครับ มีเรื่องราวอีกหลายๆเรื่อง เหตุการณ์ที่ผ่านๆที่จะมาเล่าให้ฟัง เพื่อให้เพื่อนที่ร่วมชะตากรรมเดียวกับผมได้เห็นมุมมองทางออกของชีวิต ฮ่าๆ ผมขอตั้งชื่อตอนนี้ว่า 'ครูครับขออัพเกรด'ละกันนะครับ ตอนนี้ถึงคาบสอนห้องตี๋แล้ว ผมต้องไปสอนก่อน แล้วจะมาเล่าตอนที่สองให้ฟัง เป็นเหตุการณ์ที่ต่อจากตอนครูครับขออัพเกรด ตอนที่สองคงต้องตั้งชื่อตอนไว้ล่วงหน้าว่า "ครูครับจับ(ใจ)ผมมั๊ย"