ทริปนี้ เกิดเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา อาจจะล่าช้าไปหน่อยนะคะ แฮ่ๆ จริงๆ
เราคิดว่าจะไม่เขียนรีวิวทริปนี้แล้วนะ แต่มันก็อดไม่ได้ เพราะเรื่องราวดีๆ ได้เกิดขึ้นในทริปนี้เยอะมาก
เรื่องของเรื่อง เราตั้งใจจะเริ่มต้นทริปนี้ด้วยการนั่งรถไฟไปกับเพื่อน แต่สุดท้ายก็โดนเพื่อนเท และช่วงปลายปี ยังโดนส่งไปทำงานที่ภาคใต้อีกต่างหาก
เราเลยหมั่นไส้ ตัดสินใจไปคนเดียวและเดินทางโดยรถตู้จากหาดใหญ่แ-่งเลย
ทริปคนเดียวเปลี่ยวๆ แต่ไม่เปลี่ยวปล่าวของเราก็เริ่มขึ้น
เราเริ่มต้นจากการจองตั๋วรถตู้ หาดใหญ่-ปีนัง 1 ขา ไปไม่กลับ (หมายถึงกลับทางอื่น)
ปกติรถตู้จะราคา 400 บาท หากซื้อไป-กลับ จะ 700 บาท แต่เนื่องจากช่วงเทศกาล เลยเพิ่มราคาเป็น 450 บาท (เราคิดเองนะ)
มีรถแล้ว เราก็ต้องวางแผนหาที่นอนต่อ เราตั้งใจจะนอนปีนัง 2 คืน เค้าท์ดาวน์เสร็จเราจะนั่งรถต่อไปคาเมรอนไฮแลนด์นอนที่นั่น 2 คืน
และกลับไทยโดยเครื่องบินจากกัวลาลัมเปอร์มาดอนเมือง
งงมั๊ย??? ดูชีวิตเรายุ่งเนอะ ฮ่าๆๆๆๆ
เอาเลย จองที่พักกันเลยจ่ะ
นี่คือที่พักในปีนัง 2 คืน อยู่ที่ถนนมนตรี บอกรถตู้ได้ รถตู้ไปส่งถึงที่
ถนนมนตรีใกล้กับ love lane ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักของจอร์จทาวน์เพราะมีเซเว่น (คิดเองอีกแล้ว)
สำหรับที่พักที่ คาเมรอนฯ นั้น เราเลือกพักที่ทานาราตะ ซึ่งจะไกลจากแหล่งท่องเที่ยว เพราะแหล่งท่องเที่ยวจะอยู่บรินซาง
แต่เป็นแหล่งกิน และสถานีขนส่งของคาเมรอน เพื่อความสะดวกในการใช้ชีวิต
การเที่ยวคนเดียว สิ่งที่สิ้นเปลืองมากคือค่าที่พัก เพราะเราจะไม่มีคนหาร 5555
เวลาเราไปคนเดียว เรามักจะเลือกโฮสเทล เพื่อความประหยัด
แต่สิ่งสำคัญของการเลือกโฮสเทลนั้นคือ บางที่ถูกจริง แต่พักรวมหลายเตียง เราก็คิดว่ามันแพงนะ
เราจะเลือกที่ๆ พักรวม 4-6 เตียง จะได้ไม่วุ่นวายเกินไป
เพราะฉะนั้น ราคานี้ถือว่าโอเคมากๆ สำหรับเรา
ส่วนตั๋วเครื่องบินขากลับนั้น เราจองตั๋วสายการบินพี่สิงโตในราคาพันนิดๆ จากกัวลาฯ ไปดอนเมืองเลยค่ะ
สรุปแล้ว ตอนนี้ เรามีตั๋วไป มีที่พัก และมีตั๋วกลับแล้ว
การเดินทางไปต่างประเทศคนเดียวพร้อมกับภาษาอังกฤษสกิลเด็กประถมยังล้อของเรา
ได้เริ่มขึ้นแล้วววววววว
วันที่ 30 ธันวาคม 2558
เราออกเดินทางจากหาดใหญ่เวลาบ่าย 3 ครึ่ง เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาล รถเลยเยอะ ที่ตม. คนก็เยอะ
เราเลยไปถึงปีนังประมาณ 2 ทุ่มกว่า แต่เวลาของปีนังคือ 3 ทุ่มครึ่ง
นี่คือหน้าตาของที่พัก
เมื่อไปถึง คุณลุงเจ้าของที่พักบอกว่า เตียงที่เราจองเป็นห้องรวมนะ จะย้ายไปอยู่หอหญิงมั๊ย มันว่างอยู่
(ตอนเราจองตอนแรก เราจองกับเพื่อนๆ พอยกเลิกของเพื่อนไปเราเลยลืมย้ายประเภทหอพัก)
เราเลยโอเค สุดท้าย เราก็ได้นอนหอพักหญิงห้องรวม 4 เตียง แต่เรานอนคนเดียว สบายใจไปสิ
เมื่อจัดแจงเก็บของเสร็จแล้ว เรากะจะเดินสำรวจแถวๆ นั้นดุ เราหยิบแผนที่จากที่พักมา (จริงๆ เราก็ปริ๊นแผนที่เตรียมมาจากไทยแล้วล่ะ)
เดินหาอะไรทานไปเรื่อยๆ ระหว่างทางก็เจองานศิลปะอยู่บ้างประปราย
แล้วก็เจอของกินชนิดนี้
ด้วยความที่ทำการบ้านมาน้อย เราจำสิ่งนี้ไม่ได้ เคยผ่านตามาบ้างจากการอ่านรีวิว แต่คิดว่า lok lok ก็คงเป็นของกินประจำท้องที่เหมือนเวลาเราไปทานข้าวจี่ที่วังเวียงนั่นแหละ (จากประสบการณ์และคิดเองเองล้วนๆ)
แต่เราชอบนะ มันสนุกดี การได้เลือกไม้สีนั่นนี่ แล้วเอามาลวกเอง โดยมีเจ้าของร้านคอยแนะนำว่า ไม้นี้ลวกกี่วินาที มันสนุกมาก
สุดท้ายของคืนนี้
เมื่อสมใจไปไหน ก็ต้องสำรวจราตรีของที่นั่นด้วย
เพื่อนเราบอกว่า มีร้านเร้กเก้อยู่ร้านนึง เพื่อนเคยไป เจ้าของร้านน่ารัก พูดไทยได้ด้วย
นั่นก็คือ เร้กเก้คลับ อยู่ตรงข้ามเซเว่นที่ถนน love lane เลย
เราเดินเข้าไปคนเดียว เข้าร้านปุ๊ป คุณลีเจ้าของร้านก็เข้ามาทักทายเลย และถามว่าเราคือคนไทยใช่มั้ย
คุณลีชวนเราไปนั่งที่โต๊ะเค้าและเพื่อนๆ และเม้าท์มอยกันสนุกสนาน
จนเราได้เพื่อนใหม่หลายชาติมาก ฮ่าๆๆๆๆ
คืนนั้น คุณลีดูดวงให้ด้วยนะ จะบอกว่าคุณลีแอบดูดวงแม่นด้วย แอบกระซิบนิดนึงว่า ใครไปปีนัง แวะไปร้านนี้ แอบตีสนิทคุณลีสิ
เค้าดูดวงตามศาสตร์จีนแม่นนะเทอ
คืนแรกจบลงด้วยมิตรภาพ
คุณลีให้เพื่อนชาวญี่ปุ่นชื่อคุณยูตะขับรถมาส่งเราที่ที่พัก ต้องขอบคุณคุณลีมากๆ จริงๆ
วันแรกผ่านไป เดี๋ยวเรามาต่อวันที่สองสามสี่และห้านะคะ จริงๆ แล้ว แอบอู้งานมาเขียนรีวิว
หากใครอยากมาเยี่ยมชมและพูดคุยกับเรา มาคุยกับเราได้นะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/khonkheetiew
เพจเล็กๆ เทคแคร์ทุกคน
[CR] ปีนัง คาเมรอนไฮแลนด์ ไปคนเดียวก็ได้วะ <<เมื่อทริปปีใหม่ไม่เป็นตามแผนซะนี่ คนอย่างพี่เลยต้องหนีไปคนเดียว>>
เราคิดว่าจะไม่เขียนรีวิวทริปนี้แล้วนะ แต่มันก็อดไม่ได้ เพราะเรื่องราวดีๆ ได้เกิดขึ้นในทริปนี้เยอะมาก
เรื่องของเรื่อง เราตั้งใจจะเริ่มต้นทริปนี้ด้วยการนั่งรถไฟไปกับเพื่อน แต่สุดท้ายก็โดนเพื่อนเท และช่วงปลายปี ยังโดนส่งไปทำงานที่ภาคใต้อีกต่างหาก
เราเลยหมั่นไส้ ตัดสินใจไปคนเดียวและเดินทางโดยรถตู้จากหาดใหญ่แ-่งเลย
ทริปคนเดียวเปลี่ยวๆ แต่ไม่เปลี่ยวปล่าวของเราก็เริ่มขึ้น
เราเริ่มต้นจากการจองตั๋วรถตู้ หาดใหญ่-ปีนัง 1 ขา ไปไม่กลับ (หมายถึงกลับทางอื่น)
ปกติรถตู้จะราคา 400 บาท หากซื้อไป-กลับ จะ 700 บาท แต่เนื่องจากช่วงเทศกาล เลยเพิ่มราคาเป็น 450 บาท (เราคิดเองนะ)
มีรถแล้ว เราก็ต้องวางแผนหาที่นอนต่อ เราตั้งใจจะนอนปีนัง 2 คืน เค้าท์ดาวน์เสร็จเราจะนั่งรถต่อไปคาเมรอนไฮแลนด์นอนที่นั่น 2 คืน
และกลับไทยโดยเครื่องบินจากกัวลาลัมเปอร์มาดอนเมือง
งงมั๊ย??? ดูชีวิตเรายุ่งเนอะ ฮ่าๆๆๆๆ
เอาเลย จองที่พักกันเลยจ่ะ
นี่คือที่พักในปีนัง 2 คืน อยู่ที่ถนนมนตรี บอกรถตู้ได้ รถตู้ไปส่งถึงที่
ถนนมนตรีใกล้กับ love lane ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักของจอร์จทาวน์เพราะมีเซเว่น (คิดเองอีกแล้ว)
สำหรับที่พักที่ คาเมรอนฯ นั้น เราเลือกพักที่ทานาราตะ ซึ่งจะไกลจากแหล่งท่องเที่ยว เพราะแหล่งท่องเที่ยวจะอยู่บรินซาง
แต่เป็นแหล่งกิน และสถานีขนส่งของคาเมรอน เพื่อความสะดวกในการใช้ชีวิต
การเที่ยวคนเดียว สิ่งที่สิ้นเปลืองมากคือค่าที่พัก เพราะเราจะไม่มีคนหาร 5555
เวลาเราไปคนเดียว เรามักจะเลือกโฮสเทล เพื่อความประหยัด
แต่สิ่งสำคัญของการเลือกโฮสเทลนั้นคือ บางที่ถูกจริง แต่พักรวมหลายเตียง เราก็คิดว่ามันแพงนะ
เราจะเลือกที่ๆ พักรวม 4-6 เตียง จะได้ไม่วุ่นวายเกินไป
เพราะฉะนั้น ราคานี้ถือว่าโอเคมากๆ สำหรับเรา
ส่วนตั๋วเครื่องบินขากลับนั้น เราจองตั๋วสายการบินพี่สิงโตในราคาพันนิดๆ จากกัวลาฯ ไปดอนเมืองเลยค่ะ
สรุปแล้ว ตอนนี้ เรามีตั๋วไป มีที่พัก และมีตั๋วกลับแล้ว
การเดินทางไปต่างประเทศคนเดียวพร้อมกับภาษาอังกฤษสกิลเด็กประถมยังล้อของเรา
ได้เริ่มขึ้นแล้วววววววว
วันที่ 30 ธันวาคม 2558
เราออกเดินทางจากหาดใหญ่เวลาบ่าย 3 ครึ่ง เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาล รถเลยเยอะ ที่ตม. คนก็เยอะ
เราเลยไปถึงปีนังประมาณ 2 ทุ่มกว่า แต่เวลาของปีนังคือ 3 ทุ่มครึ่ง
นี่คือหน้าตาของที่พัก
เมื่อไปถึง คุณลุงเจ้าของที่พักบอกว่า เตียงที่เราจองเป็นห้องรวมนะ จะย้ายไปอยู่หอหญิงมั๊ย มันว่างอยู่
(ตอนเราจองตอนแรก เราจองกับเพื่อนๆ พอยกเลิกของเพื่อนไปเราเลยลืมย้ายประเภทหอพัก)
เราเลยโอเค สุดท้าย เราก็ได้นอนหอพักหญิงห้องรวม 4 เตียง แต่เรานอนคนเดียว สบายใจไปสิ
เมื่อจัดแจงเก็บของเสร็จแล้ว เรากะจะเดินสำรวจแถวๆ นั้นดุ เราหยิบแผนที่จากที่พักมา (จริงๆ เราก็ปริ๊นแผนที่เตรียมมาจากไทยแล้วล่ะ)
เดินหาอะไรทานไปเรื่อยๆ ระหว่างทางก็เจองานศิลปะอยู่บ้างประปราย
แล้วก็เจอของกินชนิดนี้
ด้วยความที่ทำการบ้านมาน้อย เราจำสิ่งนี้ไม่ได้ เคยผ่านตามาบ้างจากการอ่านรีวิว แต่คิดว่า lok lok ก็คงเป็นของกินประจำท้องที่เหมือนเวลาเราไปทานข้าวจี่ที่วังเวียงนั่นแหละ (จากประสบการณ์และคิดเองเองล้วนๆ)
แต่เราชอบนะ มันสนุกดี การได้เลือกไม้สีนั่นนี่ แล้วเอามาลวกเอง โดยมีเจ้าของร้านคอยแนะนำว่า ไม้นี้ลวกกี่วินาที มันสนุกมาก
สุดท้ายของคืนนี้
เมื่อสมใจไปไหน ก็ต้องสำรวจราตรีของที่นั่นด้วย
เพื่อนเราบอกว่า มีร้านเร้กเก้อยู่ร้านนึง เพื่อนเคยไป เจ้าของร้านน่ารัก พูดไทยได้ด้วย
นั่นก็คือ เร้กเก้คลับ อยู่ตรงข้ามเซเว่นที่ถนน love lane เลย
เราเดินเข้าไปคนเดียว เข้าร้านปุ๊ป คุณลีเจ้าของร้านก็เข้ามาทักทายเลย และถามว่าเราคือคนไทยใช่มั้ย
คุณลีชวนเราไปนั่งที่โต๊ะเค้าและเพื่อนๆ และเม้าท์มอยกันสนุกสนาน
จนเราได้เพื่อนใหม่หลายชาติมาก ฮ่าๆๆๆๆ
คืนนั้น คุณลีดูดวงให้ด้วยนะ จะบอกว่าคุณลีแอบดูดวงแม่นด้วย แอบกระซิบนิดนึงว่า ใครไปปีนัง แวะไปร้านนี้ แอบตีสนิทคุณลีสิ
เค้าดูดวงตามศาสตร์จีนแม่นนะเทอ
คืนแรกจบลงด้วยมิตรภาพ
คุณลีให้เพื่อนชาวญี่ปุ่นชื่อคุณยูตะขับรถมาส่งเราที่ที่พัก ต้องขอบคุณคุณลีมากๆ จริงๆ
วันแรกผ่านไป เดี๋ยวเรามาต่อวันที่สองสามสี่และห้านะคะ จริงๆ แล้ว แอบอู้งานมาเขียนรีวิว
หากใครอยากมาเยี่ยมชมและพูดคุยกับเรา มาคุยกับเราได้นะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้