พร้อมแล้ววววว.... ออกเดินทางกัน  

ช่วงวันที่ 6 -7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เราและครอบครัวแพลนมาเที่ยวที่วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
วันแรก เวลาประมาณ 6:30 น. ออกเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว
            วันนี้ในกรุงเทพฯ อากาศร้อนอบอ้าวมาก ๆ แต่เมื่อเราแวะจุดพักรถ ในจังหวัดสระบุรี ก็รู้สึกได้ว่าอากาศค่อนข้างเย็น นึกในใจทำไงดี เสื้อหนาวแทบจะไม่ได้เตรียมมาเลย



         เวลาประมาณ 9:30 น. เข้าสู่จังหวัดนครราชสีมา แต่จุดมุ่งหมายแรกของเรามุ่งตรงไปเส้นเขาใหญ่ก่อน เพื่อไปร้าน Chocolate Factory
    และแล้วก็ถึงจุดมุ่งหมายแรก คือ
     Chocolate Factory ซึ่งร้านนี้เค้าโด่งดังเรื่องช็อคโกแลตมาก ๆ อีกทั้งยังตกแต่งร้านสวย อากาศดี ขนมอร่อยอีกด้วย










ฟินกับช็อคโกแลตในยามเช้า อากาศเย็น ๆ
หลังจากที่เราใช้เวลาอยู่กับความฟินของช็อคโกแลตแล้ว เราก็เดินทางกันต่อเพื่อไปยังจุดมุ่งหมายหลักนั่นก็คือ
จุดมุ่งหมายต่อไป : วังน้ำเขียว
และก่อนถึงวังน้ำเขียว จะมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เนื่องจากตัวเมือง ถึงวังน้ำเขียว ระยะทางค่อนข้างไกล ประมาณ 100 กว่ากิโลเมตร และสถานที่แรกที่เรามาแวะคือ     
    - ไร่สตอเบอร์รี่นายต้องแวะ ไร่นี้เค้ามาจากดอย ที่จังหวัดเชียงใหม่ มีทั้งเด็กดอย และชาวม้งอยู่ในไร่ด้วย วันที่เรามาก็ลุยเข้าไปเก็บสตอเบอร์รี่ในไร่เลยค่า สนนราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 400 บาท แต่ว่าช่วงที่เราไปลูกสตอเบอร์รี่ไม่ค่อยใหญ่มาก แต่ก็ยังพอมีค่ะ



หลังจากได้สตอเบอร์รี่มาจำนวนหนึ่ง ให้นั่งทานบนรถกันเพลิน ๆ เราก็เดินทางกันต่อ เพื่อมุ่งหน้าไปยังจุดหมาย
พักเหนื่อย พักเมื่อยจากการนั่งรถกันที่นี่ค่า

A cup of love เป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่ง ที่ขาดไม่ได้เมื่อมาวังน้ำเขียว เพราะเนื่องจากเป็นทางผ่าน และค่อนข้างสะดุดตา เหมาะสำหรับคนชอบถ่ายรูป และนั่งชิล ๆ เล่นกับแกะ ให้อาหารแกะ ค่าบริการคนละ 50 บาท (ไม่รวมค่าอาหารแกะ)















หลังจากหายเมื่อยแล้ว เราก็เดินทางกันต่อไปยังที่พักของเรา คือ
บ้านไม้เพียงเขา ที่พักนี้ตั้งอยู่ถนน ไทยสามัคคี ออกมาค่อนข้างไกลหน่อย แต่เมื่อมาถึงแล้วจะรู้สึกคุ้มค่าถึงบรรยากาศที่ได้มาก ๆ ค่ะ เพราะเหมือนเป็นบ้านไม้ที่อยู่บนทิวเขา อากาศบริสุทธิ์มาก ๆ อีกทั้งเจ้าของที่พักให้บริการเป็นกันเอง อัธยาศัยดีมาก ที่พักในส่วนของที่เรามาพัก คือบ้านไม้เป็นหลัง เหมาะสำหรับพักแบบครอบครัว จำนวน 4 ท่าน ทางที่พักมีบริการทุกอย่างให้ครบพร้อม เช่น อุปกรณ์ครัว กระทะ หม้อหุงข้าว ถังน้ำแข็ง จาน ชาม หม้อสุกี้ เป็นต้น  ที่พักมีบริการบุฟเฟต์อาหารเช้า เช่น ขนมปังปิ้งทาแยม ผลไม้ เช่น กล้วยหอม ส้ม เป็นต้น แต่เมนูเด็ดของที่นี่คือ ข้าวต้มแสนอร่อยค่ะ











บรรยากาศที่พัก : อุณหภุมิอยู่ที่ 16 องศา ตอนค่ำ และ 12 องศา ในตอนเช้าค่ะ



ถึงเวลา Checkout ออกเดินทางมุ่งหน้าแวะเที่ยวก่อนกลับบ้านค่า
มามะ ติดใจสตอเบอร์รี่ มาแวะเก็บสตอเบอร์รี่ทานก่อนค่ะ
     ไร่สตอเบอร์รี่ ธ.อุดม เป็นคนละไร่กับวันแรกค่ะ สิ่งที่แตกต่างกันก็คือความเยอะและขนาดของสตอเบอร์รี่ รออะไรล่ะค้า ลุยกันเล้ยยยย สนนราคาอยู่ที่ กิโลกรัมละ 600 บาท แต่ก็คุ้มค่ากับความสนุกที่ได้ลงไปเก็บได้ตัวเองค่า







สาย ๆ พร้อมกับอากาศเย็น ๆ แบบนี้ หากาแฟดื่มดีกว่าค่า และเราก็มาพบกับร้านนี้คือ

22°c café โอ้โห!! หายากมากสำหรับร้านกาแฟที่บรรยากาศดีแบบนี้ ตกแต่งสวยงามทั้งด้านในและด้านนอก อีกทั้งกาแฟยังรสชาติฟินไปอีก ใครมาเที่ยวแถบนี้ห้ามพลาดเด็ดขาดค่ะ ที่สำคัญคือ Barista เท่มาก ^__^











ไม่ต้องไปไกล ก็ฟินกับบรรยากาศได้ค่า