สวัสดีค่ะ ได้เวลารีวิวน้ำหอมอีกแล้ว...
"เราไม่สามารถบอกราคาของน้ำหอมแต่ละขวดได้นะคะ เพราะเราไม่ได้ซื้อที่เมืองไทย ทุกขวดเราซื้อที่ยุโรปค่ะ ต้องขอโทษจริงๆค่ะ และเราได้น้ำหอมมาจากหลายที่จนจำราคาแทบจะไม่ได้ ส่วนใหญ่ซื้อในราคาsale มาจากทั้งในร้านขายน้ำหอม ห้างสรรพสินค้า รวมทั้งinternetค่ะ เราโชคดีที่อยู่ในประเทศที่หาซื้อน้ำหอมได้ค่อนข้างง่าย และบ้านเราอยู่ใกล้แหล่งชอปปิ้งพอดีด้วย ก็เลยมีโอกาสได้รู้จักน้ำหอมหลายๆกลิ่นถึงแม้บางกลิ่นจะไม่มีเองที่บ้านก็ตามทีค่ะ"
อย่าเสียเวลาอินโทรเยอะเลย มาเริ่มกันดีกว่าค่ะ.....
Nina Ricci Ricci Ricci
เราเจอ Ricci Ricci โดยบังเอิญค่ะ ตอนนั้นไปเที่ยวที่ Cannes เข้าไปเดินเล่นในห้าง Galeries Lafayette ไปเจอกับน้ำหอมขวดนี้เข้า เห็นว่าขวดน่ารักดีก็เลยลอง ฮ่าๆๆๆๆ ตอนหลังจากฉีดช่วงแรกก็งั้นๆแหละ กลิ่นมะกรูดทั่วไปแต่ผสมกลิ่น fruity (rhubarb = กลิ่นคล้ายสตอเบอร์รี่นิดๆ) ผ่านไปสักพักกลิ่นกุหลาบก็จะเด่นขึ้นมาแบบเต็มที่ แต่กลิ่น fruity ก็ยังผสมอยู่ด้วย กลิ่นท้ายๆจะมี Patchouli เข้ามาเสริม ติดค่อนข้างทนอยู่ได้ 6-8 ชั่วโมง โดยรวมแล้วถือว่าเป็นกลิ่นที่น่ารัก ใช้ได้ตั้งแต่สาววัยรุ่น กลิ่นนี้มีความแปลกอย่างหนึ่งก็คือ บางวันที่ใช้รู้สึกว่ากลิ่นนำเปรี้ยว บางวันรู้สึกว่านำหวาน เอ่อ.....หรือว่าเราจะไม่ปรกติเอง ฮาาาาาา (ให้คะแนน 8/10 ค่ะ)
Lady Gaga Fame
Fame ถือว่าเป็นน้ำหอมที่น่าสนใจ เพราะกลิ่นจะคงที่ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีช่วงการเปลี่ยนแปลงเหมือนน้ำหอมที่เรารู้จัก กลิ่นออกไปทางหวานๆ(น้ำผึ้ง)ผสมผลไม้และดอกไม้ แต่ก็จะมีกลิ่น smoky เข้ามาปนด้วยแบบจางๆ ถือว่าเป็นกลิ่นที่ใช้ง่าย แต่ถ้าใครที่ไม่ชอบกลิ่นที่ออกหวานอาจจะไม่ปลื้มกลิ่นนี้ ความติดทนอยู่ในระดับกลางๆ 4-6 ชั่วโมง งานนี้ถือว่าเจ๊กาก้ารอดค่ะ กรั๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (7/10)
S.T. Dupont 58 Avenue Montaigne
กลิ่นจะออกสะอาดๆแต่จะไปทางขนมและผลไม้ ซึ่งถือว่าแปลกดี หลักๆจะเป็นกลิ่นขององุ่นซึ่งชัดเจนมาก ตามมาด้วยกลิ่นของ panacotta เป็นขนมที่รสชาติออกนมๆครีมมี่ๆ ส่วนกลิ่นดอกไม้มีบ้างแต่จะไม่เด่นมาก เวลาใช้ให้อารมณ์เหมือนสาวไฮโซเดินช๊อปปิ้งในปารีส เอาอีกแล้วมโนอีกแล้ว ฮาาาาา ติดทนในระดับปานกลาง บางคนบอกว่าเหมือน Signorina EDP แต่ส่วนตัวคิดว่าแทบจะไม่เหมือนกันเลย จบ! ฮ่าๆๆๆ (8/10)
Avon Rare Pearls
ของถูกและดียังมีอยู่ในโลกนี้จริงค้าท่านผู้โชมมมมม เราภูมิใจนำเสนอ Rare Pearls สำหรับคนที่งบน้อยแต่อยากได้คุณภาพเกินราคา และที่สำคัญกลิ่นไม่ไก่กาเลยจ้า ออกดูแพงด้วยซ้ำ กรี๊ดดดดดด เหมาะสำหรับสาวที่มีความมั่นใจในตัวเอง กลิ่นหลักๆคือดอกไม้สีขาวกับน้ำผึ้ง แต่ก็จะมีกลิ่นออก spicy นิดๆกับกลิ่นโทนไม้เข้ามาปนอยู่จางๆ ถ้าเทียบกับราคาถือว่าดีงามมาก แต่จะคาดหวังคุณภาพเท่า Guerlain คงเป็นไปไม่ได้ ถึงจะอย่างนั้นก็ถือว่าดีมากแล้วค่ะ ติดทนค่อนข้างดีถึงดีมาก (8/10)
Burberry Baby Touch Gentle
ตัวนี้พิเศษนิดนึงที่เป็นน้ำหอมไม่มีแอลกอฮอล์ค่ะ เลยทำให้ติดไม่ทนมากนัก กลิ่นอยู่ได้2-3ชั่วโมง แต่ถ้าฉีดตามเสื้อผ้าจะทนมาก เคยฉีดใส่ชุดนอนพอตื่นขึ้นมายังได้กลิ่นอยู่เลย เฮ้ยยยยย ดีอ่า กลิ่นออกแนวสะอาดๆ ส้มๆปนวนิลลาผสมดอกไม้นิดๆ และที่สำคัญกลิ่นนี้ไม่ทำร้ายคนรอบข้างจ้า กระแทก(ฉีด)ได้ตามใจชอบเลย (8/10)
Tocca Graciella
สำหรับสาวลุคสุภาพๆนิ่งๆ ที่ซ่อนความเรียบหรูอยู่ในตัว กลิ่นจะเย็นๆดอกไม้ๆ กลิ่นจะออกไปทาง fruity-floral และมีกลิ่นแป้งนิดๆ คือนิดเดียวจริงๆ หลักๆจะเป็นกลิ่นดอกไม้สีขาวกับลูกแพร์ ให้ความรู้สึกสดชื่นและโรแมนติกในเวลาเดียวกัน กลิ่นจะไม่แรงจนเกินไป ความติดทนอยู่ในระดับปานกลางถึงดี (9/10)
Tocca Violette
กลิ่นเปิดจะออก spicy กับ มะกรูด ตอนที่ดมตอนแรกก็ทำให้ตกใจนิดนึง พอถึงกลิ่นกลางจะเปลี่ยนเป็นแนวดอกไม้เย็นๆแต่แป้งนิดๆ เด่นๆจะเป็นกลิ่น violet กับ กุหลาบ กลิ่นท้ายๆจะออกโทนไม้ผสมดอกไม้ กลิ่นนี้ออกไปทาง unisex ด้วยซ้ำ เพราะกลิ่นจะไม่หวาน แต่จะเหมือนไปทาง spicy-floral ติดทนปานกลาง ถ้าใครเริ่มต้นกับน้ำหอมแนวออก spicy ไม่ได้ อาจจะไม่ประทับใจในกลิ่นนี้ แต่โดยรวมถือว่าผ่านค่ะ (7/10)
Lolita Lempicka L’Eau Jolie
สั้นๆเลย ชอบมากกกกกก กลิ่นน่ารักเวอร์ ใช้แล้วทำให้อารมณ์ดี สดชื่น มีชีวิตชีวา เหมือนในโฆษณายาสระผม ฮาาาาาา ขวดก็น่ารักสุดๆ เริ่มต้นกลิ่นจะออก fruity แบบลูกแพร์กับองุ่น กลิ่นช่วงกลางจะไปทางดอกไม้สีชมพู กลิ่นช่วงเบสจะเป็นmuskกับโทนไม้ แต่กลิ่นดอกไม้ก็ยังคงอยู่จนจบ ความทนอยู่ในระดับกลางๆ อาจต้องฉีดซ้ำระหว่างวัน ถ้าติดทนกว่านี้จะให้เต็ม10เลย (9/10)
Lolita Lempicka Elle L'aime
กลิ่นนี้จะคล้าย Pina Colada มาก คือจะเด่นไปทางมะพร้าว จะต่างกันตรงที่มีกลิ่นของมะนาวมาร่วมด้วย และจะมีกลิ่นของดอกไม้ปนมาด้วยนิดๆ กลิ่นออกแนวร่าเริง สนุกสนาน เหมาะสำหรับช่วงหน้าร้อน ไม่ควรฉีดเยอะเพราะอาจทำให้เวียนหัวได้ ติดทานมากจากเช้าอยู่ได้ถึงเย็นเลยทีเดียว (9/10)
Swarovski Aura Collection Mariage (Hair Mist)
ตัวนี้ถือว่าเป็นกลิ่นที่ใช้ง่ายค่ะ คือกลิ่นเหมือนดอกไม้สีชมพูผสมลิ้นจี่ และจะมี musk ส่งกลิ่นอยู่เบาๆ ที่สำคัญที่สุดคือ ไม่น่าเชื่อว่าติดทนมาก ฉีดตั้งแต่เช้าถึงตอนเย็นยังได้กลิ่นอยู่จางๆ ถ้าวันไหนเราปล่อยผม แต่งตัวออกแนวผู้หญิ๊งผู้หญิง คือใส่เดรสแต่งหน้าโทนออกชมพู เราจะชอบฉีดกลิ่นนี้ที่ผมด้วยค่ะ (8/10)
Versace Eau Fraiche Man
สำหรับเราน้ำหอมกลิ่นนี้ยกให้เป็นน้ำหอมกันตายสำหรับผู้ชายในลุคกลางวันเลยค่ะ คือกลิ่นเข้าถึงง่าย แต่ยังคงดูดี ไม่ฉุน ขนาดเราเป็นผู้หญิงเรายังชอบเลย จริงๆผู้หญิงก็ใช้ได้ กลิ่นจะเด่นไปทางซิตรัสและโทนไม้ ตามมาด้วยกลิ่นคล้ายๆหญ้าสีเขียวแบบเบาๆ คือดมแล้วรู้สึกดีและสดชื่น ติดทนในระดับกลางๆ (9/10)
Valentino Valentina Acqua Floreale
ตัวนี้จะเป็นน้ำหอมกลิ่นดอกไม้แบบเย็นๆ แบบกลิ่นดอกไม้สีขาวผสมกลิ่นของ mimosa และ Patchouli กลิ่นนี้ค่อนข้างใช้ง่าย ถึงจะเป็นน้ำหอมสำหรับหน้าร้อน แต่ก็ไม่ควรฉีดเยอะ เพราะกลิ่น mimosa อาจทำให้ปวดหัวได้ ติดทนปานกลางถึงดี (8/10)
Jimmy Choo For Women (Eau de Toilette)
ถ้าใครรู้จักเวอร์ชั่น Eau de Parfum แต่คิดว่ากลิ่นหนักเกินไป เราแนะนำตัวนี้เลยค่ะ เวอร์ชั่นนี้จะเบากว่าและจะออก friuty กว่า เหมาะสำหรับลุคกลางวันในหน้าร้อน กลิ่นหลักๆคือลูกแพร์ tarif rose และจะมีกลิ่นของขิงแบบเบาๆ ตามมาด้วยกลิ่นโทนสดชื่นแบบสีเขียว ติดทนปานกลางถึงดี (9/10)
Jimmy Choo Exotic (2015)
ตัวนี้กลิ่นจะแรงกว่าตัวข้างบน เวลาใช้อาจต้องระวัง ไม่งั้นจะเวียนหัว กลิ่นเด่นไปทาง passion flower องุ่น และ patchouli ติดทนปานกลางถึงดี ถามว่ากลิ่นดีมั้ย.....ก็ดี ใช้ได้ในเวลาที่อยากใช้กลิ่นแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้ดีกว่าตัวข้างบน อ้าว.....แล้วซื้อมาทำไม นั่นสิ แล้วซื้อมาทำไม ฮาาาาาา (6/10)
DKNY Be Delicious Fresh Blossom
กลิ่นนี้รู้สึกว่าจะฮิตกันเหลือเกิน รู้สึกว่าจะเจอทุกปากซอย ฮ่าๆๆๆๆๆ ก็แหม....กลิ่นเค้าใช้ง่าย เข้าได้หลายกลุ่ม โดยเฉพาะวันรุ่น แน่นอนว่ากลิ่นแอปเปิ้ลต้องมาก่อนใคร ตามมาด้วยกลิ่นกุหลาบ character จะออกชมพูใสๆ ให้ความสดชื่น และหวานนิดๆ แต่กลิ่นนี้ไม่ค่อย unique เท่าไหร่ เพราะมีหลายยี่ห้อที่มีน้ำหอมคล้ายๆกลิ่นนี้ กลิ่นติดทนค่อนข้างดี (8/10)
Jil Sander Evergreen
เราเดินผ่านตัวนี้เป็นร้อยรอบ แต่ไม่เคยสนใจที่จะลองเลย อยู่ๆวันหนึ่งเบื่อๆก็เลยลองดู เฮ้ย.....ชอบมาก คือกลิ่นนี้ให้ความรู้สึกเรียบแต่หรู แถมให้ความสดชื่นไปทางสีเขียว แต่ไม่เหม็นเขียว เด่นๆจะเป็นกลิ่นของลูกแพร์ lily-of-the-valley กุหลาบ และกลิ่นของโทนไม้ คือดีงามตามท้อเรื่องมะเฟืองเต็มต้น เสียดายที่ติดทนในระดับแค่กลางๆ (9/10)
[CR] มหากาพย์รีวิวน้ำหอม เวอร์ชั่นเกาะแก้วพิสดาร จากถูกและดีไปจนถึงนิช
"เราไม่สามารถบอกราคาของน้ำหอมแต่ละขวดได้นะคะ เพราะเราไม่ได้ซื้อที่เมืองไทย ทุกขวดเราซื้อที่ยุโรปค่ะ ต้องขอโทษจริงๆค่ะ และเราได้น้ำหอมมาจากหลายที่จนจำราคาแทบจะไม่ได้ ส่วนใหญ่ซื้อในราคาsale มาจากทั้งในร้านขายน้ำหอม ห้างสรรพสินค้า รวมทั้งinternetค่ะ เราโชคดีที่อยู่ในประเทศที่หาซื้อน้ำหอมได้ค่อนข้างง่าย และบ้านเราอยู่ใกล้แหล่งชอปปิ้งพอดีด้วย ก็เลยมีโอกาสได้รู้จักน้ำหอมหลายๆกลิ่นถึงแม้บางกลิ่นจะไม่มีเองที่บ้านก็ตามทีค่ะ"
อย่าเสียเวลาอินโทรเยอะเลย มาเริ่มกันดีกว่าค่ะ.....
Nina Ricci Ricci Ricci
เราเจอ Ricci Ricci โดยบังเอิญค่ะ ตอนนั้นไปเที่ยวที่ Cannes เข้าไปเดินเล่นในห้าง Galeries Lafayette ไปเจอกับน้ำหอมขวดนี้เข้า เห็นว่าขวดน่ารักดีก็เลยลอง ฮ่าๆๆๆๆ ตอนหลังจากฉีดช่วงแรกก็งั้นๆแหละ กลิ่นมะกรูดทั่วไปแต่ผสมกลิ่น fruity (rhubarb = กลิ่นคล้ายสตอเบอร์รี่นิดๆ) ผ่านไปสักพักกลิ่นกุหลาบก็จะเด่นขึ้นมาแบบเต็มที่ แต่กลิ่น fruity ก็ยังผสมอยู่ด้วย กลิ่นท้ายๆจะมี Patchouli เข้ามาเสริม ติดค่อนข้างทนอยู่ได้ 6-8 ชั่วโมง โดยรวมแล้วถือว่าเป็นกลิ่นที่น่ารัก ใช้ได้ตั้งแต่สาววัยรุ่น กลิ่นนี้มีความแปลกอย่างหนึ่งก็คือ บางวันที่ใช้รู้สึกว่ากลิ่นนำเปรี้ยว บางวันรู้สึกว่านำหวาน เอ่อ.....หรือว่าเราจะไม่ปรกติเอง ฮาาาาาา (ให้คะแนน 8/10 ค่ะ)
Lady Gaga Fame
Fame ถือว่าเป็นน้ำหอมที่น่าสนใจ เพราะกลิ่นจะคงที่ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีช่วงการเปลี่ยนแปลงเหมือนน้ำหอมที่เรารู้จัก กลิ่นออกไปทางหวานๆ(น้ำผึ้ง)ผสมผลไม้และดอกไม้ แต่ก็จะมีกลิ่น smoky เข้ามาปนด้วยแบบจางๆ ถือว่าเป็นกลิ่นที่ใช้ง่าย แต่ถ้าใครที่ไม่ชอบกลิ่นที่ออกหวานอาจจะไม่ปลื้มกลิ่นนี้ ความติดทนอยู่ในระดับกลางๆ 4-6 ชั่วโมง งานนี้ถือว่าเจ๊กาก้ารอดค่ะ กรั๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (7/10)
S.T. Dupont 58 Avenue Montaigne
กลิ่นจะออกสะอาดๆแต่จะไปทางขนมและผลไม้ ซึ่งถือว่าแปลกดี หลักๆจะเป็นกลิ่นขององุ่นซึ่งชัดเจนมาก ตามมาด้วยกลิ่นของ panacotta เป็นขนมที่รสชาติออกนมๆครีมมี่ๆ ส่วนกลิ่นดอกไม้มีบ้างแต่จะไม่เด่นมาก เวลาใช้ให้อารมณ์เหมือนสาวไฮโซเดินช๊อปปิ้งในปารีส เอาอีกแล้วมโนอีกแล้ว ฮาาาาา ติดทนในระดับปานกลาง บางคนบอกว่าเหมือน Signorina EDP แต่ส่วนตัวคิดว่าแทบจะไม่เหมือนกันเลย จบ! ฮ่าๆๆๆ (8/10)
Avon Rare Pearls
ของถูกและดียังมีอยู่ในโลกนี้จริงค้าท่านผู้โชมมมมม เราภูมิใจนำเสนอ Rare Pearls สำหรับคนที่งบน้อยแต่อยากได้คุณภาพเกินราคา และที่สำคัญกลิ่นไม่ไก่กาเลยจ้า ออกดูแพงด้วยซ้ำ กรี๊ดดดดดด เหมาะสำหรับสาวที่มีความมั่นใจในตัวเอง กลิ่นหลักๆคือดอกไม้สีขาวกับน้ำผึ้ง แต่ก็จะมีกลิ่นออก spicy นิดๆกับกลิ่นโทนไม้เข้ามาปนอยู่จางๆ ถ้าเทียบกับราคาถือว่าดีงามมาก แต่จะคาดหวังคุณภาพเท่า Guerlain คงเป็นไปไม่ได้ ถึงจะอย่างนั้นก็ถือว่าดีมากแล้วค่ะ ติดทนค่อนข้างดีถึงดีมาก (8/10)
Burberry Baby Touch Gentle
ตัวนี้พิเศษนิดนึงที่เป็นน้ำหอมไม่มีแอลกอฮอล์ค่ะ เลยทำให้ติดไม่ทนมากนัก กลิ่นอยู่ได้2-3ชั่วโมง แต่ถ้าฉีดตามเสื้อผ้าจะทนมาก เคยฉีดใส่ชุดนอนพอตื่นขึ้นมายังได้กลิ่นอยู่เลย เฮ้ยยยยย ดีอ่า กลิ่นออกแนวสะอาดๆ ส้มๆปนวนิลลาผสมดอกไม้นิดๆ และที่สำคัญกลิ่นนี้ไม่ทำร้ายคนรอบข้างจ้า กระแทก(ฉีด)ได้ตามใจชอบเลย (8/10)
Tocca Graciella
สำหรับสาวลุคสุภาพๆนิ่งๆ ที่ซ่อนความเรียบหรูอยู่ในตัว กลิ่นจะเย็นๆดอกไม้ๆ กลิ่นจะออกไปทาง fruity-floral และมีกลิ่นแป้งนิดๆ คือนิดเดียวจริงๆ หลักๆจะเป็นกลิ่นดอกไม้สีขาวกับลูกแพร์ ให้ความรู้สึกสดชื่นและโรแมนติกในเวลาเดียวกัน กลิ่นจะไม่แรงจนเกินไป ความติดทนอยู่ในระดับปานกลางถึงดี (9/10)
Tocca Violette
กลิ่นเปิดจะออก spicy กับ มะกรูด ตอนที่ดมตอนแรกก็ทำให้ตกใจนิดนึง พอถึงกลิ่นกลางจะเปลี่ยนเป็นแนวดอกไม้เย็นๆแต่แป้งนิดๆ เด่นๆจะเป็นกลิ่น violet กับ กุหลาบ กลิ่นท้ายๆจะออกโทนไม้ผสมดอกไม้ กลิ่นนี้ออกไปทาง unisex ด้วยซ้ำ เพราะกลิ่นจะไม่หวาน แต่จะเหมือนไปทาง spicy-floral ติดทนปานกลาง ถ้าใครเริ่มต้นกับน้ำหอมแนวออก spicy ไม่ได้ อาจจะไม่ประทับใจในกลิ่นนี้ แต่โดยรวมถือว่าผ่านค่ะ (7/10)
Lolita Lempicka L’Eau Jolie
สั้นๆเลย ชอบมากกกกกก กลิ่นน่ารักเวอร์ ใช้แล้วทำให้อารมณ์ดี สดชื่น มีชีวิตชีวา เหมือนในโฆษณายาสระผม ฮาาาาาา ขวดก็น่ารักสุดๆ เริ่มต้นกลิ่นจะออก fruity แบบลูกแพร์กับองุ่น กลิ่นช่วงกลางจะไปทางดอกไม้สีชมพู กลิ่นช่วงเบสจะเป็นmuskกับโทนไม้ แต่กลิ่นดอกไม้ก็ยังคงอยู่จนจบ ความทนอยู่ในระดับกลางๆ อาจต้องฉีดซ้ำระหว่างวัน ถ้าติดทนกว่านี้จะให้เต็ม10เลย (9/10)
Lolita Lempicka Elle L'aime
กลิ่นนี้จะคล้าย Pina Colada มาก คือจะเด่นไปทางมะพร้าว จะต่างกันตรงที่มีกลิ่นของมะนาวมาร่วมด้วย และจะมีกลิ่นของดอกไม้ปนมาด้วยนิดๆ กลิ่นออกแนวร่าเริง สนุกสนาน เหมาะสำหรับช่วงหน้าร้อน ไม่ควรฉีดเยอะเพราะอาจทำให้เวียนหัวได้ ติดทานมากจากเช้าอยู่ได้ถึงเย็นเลยทีเดียว (9/10)
Swarovski Aura Collection Mariage (Hair Mist)
ตัวนี้ถือว่าเป็นกลิ่นที่ใช้ง่ายค่ะ คือกลิ่นเหมือนดอกไม้สีชมพูผสมลิ้นจี่ และจะมี musk ส่งกลิ่นอยู่เบาๆ ที่สำคัญที่สุดคือ ไม่น่าเชื่อว่าติดทนมาก ฉีดตั้งแต่เช้าถึงตอนเย็นยังได้กลิ่นอยู่จางๆ ถ้าวันไหนเราปล่อยผม แต่งตัวออกแนวผู้หญิ๊งผู้หญิง คือใส่เดรสแต่งหน้าโทนออกชมพู เราจะชอบฉีดกลิ่นนี้ที่ผมด้วยค่ะ (8/10)
Versace Eau Fraiche Man
สำหรับเราน้ำหอมกลิ่นนี้ยกให้เป็นน้ำหอมกันตายสำหรับผู้ชายในลุคกลางวันเลยค่ะ คือกลิ่นเข้าถึงง่าย แต่ยังคงดูดี ไม่ฉุน ขนาดเราเป็นผู้หญิงเรายังชอบเลย จริงๆผู้หญิงก็ใช้ได้ กลิ่นจะเด่นไปทางซิตรัสและโทนไม้ ตามมาด้วยกลิ่นคล้ายๆหญ้าสีเขียวแบบเบาๆ คือดมแล้วรู้สึกดีและสดชื่น ติดทนในระดับกลางๆ (9/10)
Valentino Valentina Acqua Floreale
ตัวนี้จะเป็นน้ำหอมกลิ่นดอกไม้แบบเย็นๆ แบบกลิ่นดอกไม้สีขาวผสมกลิ่นของ mimosa และ Patchouli กลิ่นนี้ค่อนข้างใช้ง่าย ถึงจะเป็นน้ำหอมสำหรับหน้าร้อน แต่ก็ไม่ควรฉีดเยอะ เพราะกลิ่น mimosa อาจทำให้ปวดหัวได้ ติดทนปานกลางถึงดี (8/10)
Jimmy Choo For Women (Eau de Toilette)
ถ้าใครรู้จักเวอร์ชั่น Eau de Parfum แต่คิดว่ากลิ่นหนักเกินไป เราแนะนำตัวนี้เลยค่ะ เวอร์ชั่นนี้จะเบากว่าและจะออก friuty กว่า เหมาะสำหรับลุคกลางวันในหน้าร้อน กลิ่นหลักๆคือลูกแพร์ tarif rose และจะมีกลิ่นของขิงแบบเบาๆ ตามมาด้วยกลิ่นโทนสดชื่นแบบสีเขียว ติดทนปานกลางถึงดี (9/10)
Jimmy Choo Exotic (2015)
ตัวนี้กลิ่นจะแรงกว่าตัวข้างบน เวลาใช้อาจต้องระวัง ไม่งั้นจะเวียนหัว กลิ่นเด่นไปทาง passion flower องุ่น และ patchouli ติดทนปานกลางถึงดี ถามว่ากลิ่นดีมั้ย.....ก็ดี ใช้ได้ในเวลาที่อยากใช้กลิ่นแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้ดีกว่าตัวข้างบน อ้าว.....แล้วซื้อมาทำไม นั่นสิ แล้วซื้อมาทำไม ฮาาาาาา (6/10)
DKNY Be Delicious Fresh Blossom
กลิ่นนี้รู้สึกว่าจะฮิตกันเหลือเกิน รู้สึกว่าจะเจอทุกปากซอย ฮ่าๆๆๆๆๆ ก็แหม....กลิ่นเค้าใช้ง่าย เข้าได้หลายกลุ่ม โดยเฉพาะวันรุ่น แน่นอนว่ากลิ่นแอปเปิ้ลต้องมาก่อนใคร ตามมาด้วยกลิ่นกุหลาบ character จะออกชมพูใสๆ ให้ความสดชื่น และหวานนิดๆ แต่กลิ่นนี้ไม่ค่อย unique เท่าไหร่ เพราะมีหลายยี่ห้อที่มีน้ำหอมคล้ายๆกลิ่นนี้ กลิ่นติดทนค่อนข้างดี (8/10)
Jil Sander Evergreen
เราเดินผ่านตัวนี้เป็นร้อยรอบ แต่ไม่เคยสนใจที่จะลองเลย อยู่ๆวันหนึ่งเบื่อๆก็เลยลองดู เฮ้ย.....ชอบมาก คือกลิ่นนี้ให้ความรู้สึกเรียบแต่หรู แถมให้ความสดชื่นไปทางสีเขียว แต่ไม่เหม็นเขียว เด่นๆจะเป็นกลิ่นของลูกแพร์ lily-of-the-valley กุหลาบ และกลิ่นของโทนไม้ คือดีงามตามท้อเรื่องมะเฟืองเต็มต้น เสียดายที่ติดทนในระดับแค่กลางๆ (9/10)