สวัสดีคับ หลังจากที่ไม่ได้รีวิวมานานมาก 555
รูปทั้งหมดถ่ายจากไอโฟน ภาพจึงจะไม่ค่อยสวยเท่าไร ยังไงก็ขออภัยนะที่นี่ด้วยนะคับ รีวิวนี้ทำขึ้นเพื่อเป็นแนวทางสำหรับเพื่อนๆที่อยากจะไปเที่ยวพม่า แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะไปที่ไหนก่อนหลัง โดยที่ผมจะไม่ลงรายละเอียดมากนักเพราะผมว่าลายละเอียดต่างๆก็หาได้จากเว็ปต่างๆทั่วไป

เพื่อนๆหลายคนคงมีความคิดว่าไปเที่ยวพม่าไปเที่ยวอะไร? มีแต่วัดเต็มไปหมดบางหละ คนพม่าหน้ากลัว อาหารการกินลำบาก บ้านเมืองสกปรก เดินทางในเมืองลำบาก  ซึ่งสมัยก่อนผมก็มีคำคิดแบบนี้เหมือนกันคับ แต่พอได้ไปเที่ยวพม่าหลายๆครั้งก็ทำให้เปลี่ยนความคิดแบบนั้นไปหลายอย่างเลยคับ

ปกติผมเป็นคนชื่นชอบสถานที่ท่องเที่ยวและคนในประเทศพม่าอยู่แล้วเพราะสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในพม่ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอะไรมากนักและคนพม่ายังเป็นมิตรอีกด้วย

ต้นเดือนก.ค เมื่อปีก่อนผมกับแม่มีความคิดที่จะไปไหว้เทพทันใจที่พม่ากัน พอดีแม่ของมีวันว่างเสาอาทิตพอดี เลยรีบทำการจองตั๋วเครื่องบิน,โรงแรมและรถตู้บริการ กันอย่างไม่รอช้า (ถ้าเอาความสะดวกเราควรจองรถตู้บริการจากไทยไปนะคับ ลองหาตามเพจต่างๆดูคับ ราคาที่ผมจอง รถตู้alphardรวมคนขับตกอยู่ที่วันละ4800บาทนั่งได้5-6คน หรือมีอีก1ตัวเลือกคือรถเก๋งราคาตกอยู่ที่ประมาณ3500บาท พี่เค้าจะมารับที่สนามบินไปและไปตามที่เรากำหนดไว้หรือถ้าเพื่อนๆไม่ทราบสถานที่ท่องเที่ยวก็ไม่เป็นอะไรคับ คุยกับพี่คนขับรถเค้าได้เลยคับ พี่เค้าพูดภาษาอังกฤษได้ทุกคนคับ) เรื่องต่อมาคือแลกเงิน เพื่อนๆคงทราบกันแล้วนะคับว่าเราต้องแลกเงินusไปก่อน ซึ่งต้องเป็นแบงค์ใหม่ด้วย

มาถึงวันเดินทาง เราก็มาเติมพลังกันก่อนเดินทางคับ เอ่อและสิ่งที่ไม่พลาดคือเอาข้าวต้มมัดไปกินที่พม่าด้วยนะคับ เอิ่มแต่ผมลืมถ่ายข้าวต้มมัดมาคับเพราะรีบมากตอนนั้นเครื่องใกล้ออกแล้ว  ล้อแตะพื้นของประเทศพม่า มิงกาลาบาาา พอเราผ่านตม.มาแล้วเอิ่มตม.ที่พม่าไม่ต้องกลัวอะไรนะคับเค้าให้ผ่านทุกคน5555 เราจะออกมาเจอกับคนพม่าที่มาคอยญาติตัวเองกันเยอะมากกกก พอผมเจอกับพี่คนขับรถตู้ ก็รีบเดินทางตรงไปที่วัดแรกกันเลย ก็คือพระเขี้ยวแก้วจุฬามณี  วัดนี้อยู่ไม่ไกลจากสนามบินมากคับ แต่วันนั้นผมใช้เวลาเดินทางนานมากเพราะเด๋วนี้ในตัวเมืองย่างกุ้งรถติดมากๆ จะไปไหนต้องเผื่อเวลาไว้เยอะๆคับ
วัดต่อมาคือวัดพระมหาเจดีย์กาบาเอ พระประธานของวัดนี้หล่อจากเงินแท้คับ วัดนี้มีเรื่องหน้าแปลกใจคือ ไปบางครั้งก็เปิดให้เข้าไปไหว้ปกติ ไปบางครั้งก็ปิด แต่พอเราให้100บาท(เงินไทย)ลุงแกก็จะรีบเปิดและทำพิธีให้เลย เอ่อภายในวัดมีแอร์นะคับเผื่อใครร้อน แอบเข้าไปนั่งตากแอร์ก่อนได้คับแต่ต้องทำใจเรื่องไฟตกหน่อยนะคับ ประมาณ20นาทีไฟจะตกครั้งหนึ่งคับ พอหายเหนื่อยกันแล้วเราก็ไปวัดต่อมาคับ คือวัดพระพุทธไสยาสน์เจาทัตยีหรือที่คนไทยเรียกกันว่าพระนอนตาหวาน ส่วนตัวของผมไฮไลท์ของที่นี้คือจะมีรูปปั้นเทพเจ้าถือพระไตรปิฎก เค้าเชื่อกันว่าเป็นเทพเจ้าที่เกี่ยวกับการศึกษา  วัดต่อมาซึ่งไม่ไกลจากวัดพระนอนตาหวานก็คือวัดหลวงพ่องาทัตยี พระองค์นี้แกะจากหินอ่อนขนาดใหญ่ ส่วนตัวผมชอบวัดนี้เพราะเงียบสงบดีคับ คนน้อยและอากาศดีคับ  พอไหว้พระกันแล้วก็ถึงเวลาบ่ายกว่าๆ ก็เริ่มหิวกันแล้ว ร้านที่อยากจะแนะนำก็คือร้านfeel เป็นร้านอาหารที่คนพม่าเองก็รู้จักกันแทบทั้งนั้น อาหารมีให้เลือกเยอะมากคับ ขอบอก กุ้งแม่น้ำผัดพริกแกง ของทอด ขนมหวาน ที่นี้อร่อยมากคับ ราคาอาหารที่นี้ก็ถือว่าแพงพอสมควรคับ