ถ้าใครไม่อยากอ่านเกริ่นนำก็ไปย่อหน้า 3ได้เลยค่ะ
เรามีเพื่อนสนิทที่เรียกว่าสนิทจิงๆ คุยได้ทุกเรื่องอยู่คนนึงค่ะ รู้จักกันมาตั้งแต่ประถม พอเข้ามหาลัยเวลามีปัญหาอะไรก็ปรึกษากันตลอดในชีวิต
เราคิดว่านางคือเพื่อนสนิทเรา แต่สำหรับนางแล้วเราไม่รู้ว่านางมองเราเป็นตัวอะไรกันแน่????
ขอเรียกชื่อเพื่อนว่าเจนะคะ เจชอบบอกกะเราเสมอว่าเราคือเพื่อนที่ดีที่สุดของนาง เจจะพูดคำนี้เสมอเวลาที่มีปัญหากะเพื่อนที่มหาลัย
เจจะคิดถึงเราเฉพาะเวลาทะเลาะกะเพื่อนที่มหาลัย พอคืนดีกับเพื่อนแล้วเจจะเงียบ พอเรามีเรื่องจะปรึกษาบ้างนางจะทำเป็นมีธุระลัดตัว
และชอบบอกว่า เดวโทกลับ แต่เงียบและหายไปเลยค่ะ แต่วันไหนนางมีปัญหากะเพื่อนที่มหาลัยปุ๊บนางจะกรี๊ง กร๊าง หาเราทันที(เจมี ปห กะเพื่อน
ที่มหาลัยตลอด) แต่เจจะเทคแคร์เพื่อนดีมากทั้งเพื่อนตอนมัธยมและมหาลัย ล้วนแล้วเป็นเพื่อนที่เจชอบมีปัญหากะพวกเค้าทั้งนั้น แต่ก็แปลก
ที่เจบอกกะเราเสมอว่าเราคือเพื่อนสนิทที่สุด แต่เจกลับไม่เคยเทคแคร์อะไรเรยเลย
เข้าเรื่องดีกว่า.............. เราไม่เคยลืมวันเกิดเพื่อนสนิทอย่างเจเลยค่ะ ทุกๆปีตอนประถมถึงมอต้น
ก็จะโทไปเบิดเดย์นางแต่พอเริ่มขึ้นมอปลายก็จะมีของขวัญให้ เพราะเริ่มมีตังเก็บแล้ว
แต่พอถึงวันเกิดเรา เจลืมค่ะ แต่ให้ข้ออ้างว่า อ่านหนังสือสอบ บลาๆๆๆๆๆๆๆ เราก็ไม่ได้ว่าอะไร
แต่พอขึ้นมหาลัย เรายังให้ของขวัญเจปกติ แต่เจนี่ก็ลืมวันเกิดเราแบบปกติเช่นเดวกัน เราก็ตัดพ้อน้อยใจเบาๆ ว่าเห้ยแก เราเป็นเพื่อนสนิทแกจิงๆ
ปะวะ ทุกปีแกลืมวันเกิดเราบ่อยมากเรยอะ แต่ทำไมเพื่อนที่มหาลัยที่แกบอกว่าไม่ชอบเค้า แกถึงนั่งทำการ์ด นั่งทำของขวัญแฮนเมดให้เค้าได้ว่ะ
บอกตรงๆน้อยใจว่ะ ซึ้งพอเราตัดพ้อเสร็จนางก็รีบขอโทษและบอกว่าจะไม่ลืมแล้ว................
ตอนเรียนปี2 เป็นครั้งแรกค่ะที่เราได้ของขวัญชิ้นแรกจากเจ โหรู้จักกันมาตั้งนาน บอกเลยว่าซึ้งมากน้ำตาแทบร่วง
นางนัดเรามาเอาของขวัญวันเกิดที่ห้างๆหนึ่ง เราไปรอนางที่ฟู้ดคอร์ดไม่นานนางก็เดินมาถึงค่ะ นางเดินมาพร้อมกับถุงพลาสติกหนึ่งใบ
ว่าง่ายๆ ถุงโลตัส นางนั่งพร้อมกับวางถุงนั้นบนโต๊ะแล้วพูดว่าแฮปปี้เบิดเด ในใจเราก็คิดว่าภายในถุงพลาสติกต้อง้เป็นกล่องของขวัญแน่ๆ
แต่เซอร์ไพร์ค่ะ มันเป็นอะไรที่คาดไม่ถึงเรย แท๊น แทน แท่น มันคือเสื้อผ้าที่นางไม่ใส่แล้วค่ะ พับใส่ถุงโลตัสแล้วเอามาให้เรา ตอนนั้นสีหน้าเรา
ไม่โอเคมากๆ แต่มันจะไม่เจ็บกว่านี้ถ้าเจไม่พูดแบบนี้กับเรา เจบอกว่า" นี่เป็นเสื้อผ้าที่ใส่ไม่ได้แล้ว บางตัวลองใส่แล้วไม่ชอบ บางตัวใส่ครั้งสอง
ครั้งเองนะ นี่เอามาให้ฟรีๆนะ จิงๆจะเอาไปขายก็ได้หลายร้อยละ" นี่คือคำพูดของคนที่เรียกเราว่าเพื่อน ชั้นเป็นเพื่อนหรือขอทานว่ะ(คิดในใจ)
เราพูดกลับไปว่า"ไม่เอาได้ไหม" นางก็ตอบกลับมาว่า"นี่นั่งรถเอามาให้แล้ว ก็เอาๆไปเถอะ เสียน้ำใจ" วันนั้นเราตกลงเอาของขวัญเจและรีบกลับบ้าน
ทันที เราโกรธนางหลายวันมากแต่นางคงไม่รู้สึก และเราพยายามให้อภัยและคิดในแง่บวก
ของขวัญชิ้นที่สองตอนปี3 เจบอกจะไปเลี้ยงวันเกิดให้เรา ปีนี้ไม่มีสิ่งของแต่จะเลี้ยงเป็นอาหารแทน เจอยากกินพิซซ่ามากแต่เราไม่ชอบ
แต่เราก็ไม่ได้ขัดอะไรเห็นเพื่อนจะเลี้ยงเลยตามใจ นางสั่งจัดเต็มมาก สั่งแต่ที่ตัวเองอยากกิน เรานี่มีสิทธิ์พูดแค่ว่า อะไรก็ได้ เพราะนางเลี้ยงไง
สุดท้ายกินไม่หมดจ้าาสั่งห่อกลับบ้าน พอถึงเวลาเช็คบิล ไม่คิดเลยว่าจะทำกันแบบนี้ เจบอกว่าให้เราออกไปก่อน ในกระเป๋ามีอยู่ร้อยเดวแล้วนางก็ยื่นแบงค์ร้อยหนึ่งใบในกระเป๋าให้เรา แล้วบอกจะกดให้ ค่าอาหารประมาณ 800 900 บาท (กินสองคนแต่สั่งแบบมาเป็นฝูง) ของที่เหลือที่สั่งห่อกลับบ้าน
นางขอไปหมดเลยค่ะ แต่เราไม่ซีเรียสเพราะไม่ชอบกินอยู่แล้ว แต่ที่ซีเรียสคือเงินนี่แหละ บอกจะกดให้สุดท้ายบอกเอาไว้ก่อนตอนนี้ไม่มีเงิน
และดราม่าน้ำตาแตก พ่อแม่มีปัญหา โน่นนี่นั้น บทสรุป คือนางคงอยากกินพิซซ่าและหาคนเลี้ยง เอาวันเกิดเรานี่แหละมาใช้ให้เป็นประโยชน์
จะได้อิ่มท้อง เห้ออออ ถอนหายใจรัวๆ แต่เธอคือเพื่อนชั้น เรื่องแค่นี้ชั้นเจ็บและไม่จำ ได้แต่เก็บความโกรธไว้และให้อภัยเทออีกครั้ง
ของขวัญชิ้นล่าสัด เอ้ยล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว ปีที่แล้วนี้เราเลิกอยากได้ของขวัญจากนางเรยค่ะ ไม่เรียกร้องไม่น้อยใจอะไรเลย แต่ถึงนางจะทำกับเรา
แต่เราก็ไม่เคยให้ของขวัญที่ทำร้ายจิตใจเพื่อนเลยสักครั้ง ปีที่แล้วเราลงทุนไปบ้านนางไปจัดลูกโป่ง จัดไฟ ให้ถึงในห้องนอนเลย พ่อแม่นางตกใจมาก
ไม่คิดว่าจะมีใครลงทุนทำให้ลูกเค้าขนาดนี้ วันนั้นนางมีเรียนเราไม่มีเรียน เลยไปจัดให้ สุดท้ายนางชอบมากที่เราทำให้ น้ำตาไหล นางบอกว่าไม่เคย
มีใครทำให้ขนาดนี้ นางดีใจมาก เราก็ดีใจนะที่นางชอบ ขอตัดภาพความประทับใจของนางแปบ ก่อนถึงวันเกิดเราหลายเดือน เจชวนเราไปซื้อผ้าที่พาหุรัด นางบอกจะเอามาทำหมอนตุ๊กตาอะไรสักอย่างให้กับเพื่อนของนาง (หูย ทีคนอื่นเมิงนี่ลงทุนเนอะ) แต่พอเราบอกไม่อยากไป นางก็พูดชักจูง
ว่า เนี่ยจะไปหาซื้อผ้าทำตุ๊กตาในวันเกิดเราด้วย เราจะได้เลือกผ้าที่เราชอบด้วยไงไม่ดีหรอ ด้วยความรำคาญและอยากรู้ว่าจะได้จิงไหม
จึงยอมไปด้วย แต่พอไปด้วยจิงๆ เรากลับไม่ได้เลือกอะไรเรย แต่นางกลับพูดว่า "ผ้าผืนใหญ่อยู่นะ มุงเอาตุ๊กตาสีเดวกะเพื่อนกุได้ปะ
จะได้ไม่ต้องเสียตังซื้อผืนใหม่" เราได้แค่พยักหน้า และช่วยนางถือของต่อไป
เมื่อมาถึงวันเกิดเรา บอกเลยเราไม่คาดหวังและไม่หวังอะไรจากนางเลย แต่การที่เราไม่มีหวังมันทำให้เราได้ของขวัญจากนางค่ะ
คราวนี้ไม่ห่อถุงโลตัสนะคะ ใส่กล่องห่อกระดาษสวยเชียวคะ เรานี่ก็แอบนึกในใจต้องเป็นหมอนตุ๊กตาที่นางบอกจะทำให้แน่ๆ
แต่พอเปิดมาเซอไพร์ไทยแลนด์เลยจ้ะ เอ๊ะ ทำไมชั้นคุ้นๆกะไอ้สิ่งนี้หว่ะ คิดไปคิดมาถึงบางอ้อเลยว่ะ ของที่นางให้มาไม่ใช่หมอนตุ๊กตาอย่างที่นาง
หลอกว่าจะทำให้ แต่เป็นแก้วรูปเป็ด ไอ้แก้วรูปเป็ดเนี่ยเป็นของขวัญที่นางจะซื้อให้แฟนนางเนื่องในวันเกิดแฟนนางตอนคบกันแรกๆ
นางบอกแฟนนางหน้าเหมือนเป็ดเลยซื้อแก้วเป็ดให้แฟน นางซื้อมาแล้วถ่ายรูปส่งมาให้เราดูว่าจะให้แก้วเป็ดนี่ดีไหม เราก็บอกเออเหมาะกะแฟนแกดี
แต่นางเปลี่ยนใจซื้อของชิ้นใหม่ให้แฟนนางแทน ตัดภาพมาที่หน้าเราตอนกำลังเซอไพร์กะของขวัญวันเกิดตัวเอง พอเรานึกออก
เรานี่ซีดไปทั้งตัวเลย เห้ย นี่มันแก้วเป็ดที่นางจะให้แฟนนี่หว่าา ชั้นจำได้ ยิ้มไม่ออกบอกไม่ถูกเลยคราวนี้
นางบอกเราเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของนาง แต่ทำไมนางทำกะเราแบบไร้ค่าอย่างนี้ค่ะ อย่างกะเราเป็นของตาย(ไม่ใช่เพื่อนตายนะ)
อันนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ไม่รู้ทำไมเราให้อภัยนางได้เสมอ เราไม่เคยเล่าให้เพื่อนคนอื่นฟังเลย เพราะนางเทคแคร์เพื่อนคนอื่นดีมาก
กลัวเพื่อนหาว่าคิดมาก หรือเราคิดมากไปจิงๆ จิงๆมันมีมากกว่านี้อีกที่ทำให้รู้สึกแบบนั้น
ถ้าเป็นคุณแล้วโดนเพื่อนทำแบบนี้คุณจะรู้สึกยังงัยค่ะ ??????????
ควรรู้สึกยังไง ถ้าเพื่อนสนิทให้ของขวัญวันเกิดเราแบบนี้
เรามีเพื่อนสนิทที่เรียกว่าสนิทจิงๆ คุยได้ทุกเรื่องอยู่คนนึงค่ะ รู้จักกันมาตั้งแต่ประถม พอเข้ามหาลัยเวลามีปัญหาอะไรก็ปรึกษากันตลอดในชีวิต
เราคิดว่านางคือเพื่อนสนิทเรา แต่สำหรับนางแล้วเราไม่รู้ว่านางมองเราเป็นตัวอะไรกันแน่????
ขอเรียกชื่อเพื่อนว่าเจนะคะ เจชอบบอกกะเราเสมอว่าเราคือเพื่อนที่ดีที่สุดของนาง เจจะพูดคำนี้เสมอเวลาที่มีปัญหากะเพื่อนที่มหาลัย
เจจะคิดถึงเราเฉพาะเวลาทะเลาะกะเพื่อนที่มหาลัย พอคืนดีกับเพื่อนแล้วเจจะเงียบ พอเรามีเรื่องจะปรึกษาบ้างนางจะทำเป็นมีธุระลัดตัว
และชอบบอกว่า เดวโทกลับ แต่เงียบและหายไปเลยค่ะ แต่วันไหนนางมีปัญหากะเพื่อนที่มหาลัยปุ๊บนางจะกรี๊ง กร๊าง หาเราทันที(เจมี ปห กะเพื่อน
ที่มหาลัยตลอด) แต่เจจะเทคแคร์เพื่อนดีมากทั้งเพื่อนตอนมัธยมและมหาลัย ล้วนแล้วเป็นเพื่อนที่เจชอบมีปัญหากะพวกเค้าทั้งนั้น แต่ก็แปลก
ที่เจบอกกะเราเสมอว่าเราคือเพื่อนสนิทที่สุด แต่เจกลับไม่เคยเทคแคร์อะไรเรยเลย
เข้าเรื่องดีกว่า.............. เราไม่เคยลืมวันเกิดเพื่อนสนิทอย่างเจเลยค่ะ ทุกๆปีตอนประถมถึงมอต้น
ก็จะโทไปเบิดเดย์นางแต่พอเริ่มขึ้นมอปลายก็จะมีของขวัญให้ เพราะเริ่มมีตังเก็บแล้ว
แต่พอถึงวันเกิดเรา เจลืมค่ะ แต่ให้ข้ออ้างว่า อ่านหนังสือสอบ บลาๆๆๆๆๆๆๆ เราก็ไม่ได้ว่าอะไร
แต่พอขึ้นมหาลัย เรายังให้ของขวัญเจปกติ แต่เจนี่ก็ลืมวันเกิดเราแบบปกติเช่นเดวกัน เราก็ตัดพ้อน้อยใจเบาๆ ว่าเห้ยแก เราเป็นเพื่อนสนิทแกจิงๆ
ปะวะ ทุกปีแกลืมวันเกิดเราบ่อยมากเรยอะ แต่ทำไมเพื่อนที่มหาลัยที่แกบอกว่าไม่ชอบเค้า แกถึงนั่งทำการ์ด นั่งทำของขวัญแฮนเมดให้เค้าได้ว่ะ
บอกตรงๆน้อยใจว่ะ ซึ้งพอเราตัดพ้อเสร็จนางก็รีบขอโทษและบอกว่าจะไม่ลืมแล้ว................
ตอนเรียนปี2 เป็นครั้งแรกค่ะที่เราได้ของขวัญชิ้นแรกจากเจ โหรู้จักกันมาตั้งนาน บอกเลยว่าซึ้งมากน้ำตาแทบร่วง
นางนัดเรามาเอาของขวัญวันเกิดที่ห้างๆหนึ่ง เราไปรอนางที่ฟู้ดคอร์ดไม่นานนางก็เดินมาถึงค่ะ นางเดินมาพร้อมกับถุงพลาสติกหนึ่งใบ
ว่าง่ายๆ ถุงโลตัส นางนั่งพร้อมกับวางถุงนั้นบนโต๊ะแล้วพูดว่าแฮปปี้เบิดเด ในใจเราก็คิดว่าภายในถุงพลาสติกต้อง้เป็นกล่องของขวัญแน่ๆ
แต่เซอร์ไพร์ค่ะ มันเป็นอะไรที่คาดไม่ถึงเรย แท๊น แทน แท่น มันคือเสื้อผ้าที่นางไม่ใส่แล้วค่ะ พับใส่ถุงโลตัสแล้วเอามาให้เรา ตอนนั้นสีหน้าเรา
ไม่โอเคมากๆ แต่มันจะไม่เจ็บกว่านี้ถ้าเจไม่พูดแบบนี้กับเรา เจบอกว่า" นี่เป็นเสื้อผ้าที่ใส่ไม่ได้แล้ว บางตัวลองใส่แล้วไม่ชอบ บางตัวใส่ครั้งสอง
ครั้งเองนะ นี่เอามาให้ฟรีๆนะ จิงๆจะเอาไปขายก็ได้หลายร้อยละ" นี่คือคำพูดของคนที่เรียกเราว่าเพื่อน ชั้นเป็นเพื่อนหรือขอทานว่ะ(คิดในใจ)
เราพูดกลับไปว่า"ไม่เอาได้ไหม" นางก็ตอบกลับมาว่า"นี่นั่งรถเอามาให้แล้ว ก็เอาๆไปเถอะ เสียน้ำใจ" วันนั้นเราตกลงเอาของขวัญเจและรีบกลับบ้าน
ทันที เราโกรธนางหลายวันมากแต่นางคงไม่รู้สึก และเราพยายามให้อภัยและคิดในแง่บวก
ของขวัญชิ้นที่สองตอนปี3 เจบอกจะไปเลี้ยงวันเกิดให้เรา ปีนี้ไม่มีสิ่งของแต่จะเลี้ยงเป็นอาหารแทน เจอยากกินพิซซ่ามากแต่เราไม่ชอบ
แต่เราก็ไม่ได้ขัดอะไรเห็นเพื่อนจะเลี้ยงเลยตามใจ นางสั่งจัดเต็มมาก สั่งแต่ที่ตัวเองอยากกิน เรานี่มีสิทธิ์พูดแค่ว่า อะไรก็ได้ เพราะนางเลี้ยงไง
สุดท้ายกินไม่หมดจ้าาสั่งห่อกลับบ้าน พอถึงเวลาเช็คบิล ไม่คิดเลยว่าจะทำกันแบบนี้ เจบอกว่าให้เราออกไปก่อน ในกระเป๋ามีอยู่ร้อยเดวแล้วนางก็ยื่นแบงค์ร้อยหนึ่งใบในกระเป๋าให้เรา แล้วบอกจะกดให้ ค่าอาหารประมาณ 800 900 บาท (กินสองคนแต่สั่งแบบมาเป็นฝูง) ของที่เหลือที่สั่งห่อกลับบ้าน
นางขอไปหมดเลยค่ะ แต่เราไม่ซีเรียสเพราะไม่ชอบกินอยู่แล้ว แต่ที่ซีเรียสคือเงินนี่แหละ บอกจะกดให้สุดท้ายบอกเอาไว้ก่อนตอนนี้ไม่มีเงิน
และดราม่าน้ำตาแตก พ่อแม่มีปัญหา โน่นนี่นั้น บทสรุป คือนางคงอยากกินพิซซ่าและหาคนเลี้ยง เอาวันเกิดเรานี่แหละมาใช้ให้เป็นประโยชน์
จะได้อิ่มท้อง เห้ออออ ถอนหายใจรัวๆ แต่เธอคือเพื่อนชั้น เรื่องแค่นี้ชั้นเจ็บและไม่จำ ได้แต่เก็บความโกรธไว้และให้อภัยเทออีกครั้ง
ของขวัญชิ้นล่าสัด เอ้ยล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว ปีที่แล้วนี้เราเลิกอยากได้ของขวัญจากนางเรยค่ะ ไม่เรียกร้องไม่น้อยใจอะไรเลย แต่ถึงนางจะทำกับเรา
แต่เราก็ไม่เคยให้ของขวัญที่ทำร้ายจิตใจเพื่อนเลยสักครั้ง ปีที่แล้วเราลงทุนไปบ้านนางไปจัดลูกโป่ง จัดไฟ ให้ถึงในห้องนอนเลย พ่อแม่นางตกใจมาก
ไม่คิดว่าจะมีใครลงทุนทำให้ลูกเค้าขนาดนี้ วันนั้นนางมีเรียนเราไม่มีเรียน เลยไปจัดให้ สุดท้ายนางชอบมากที่เราทำให้ น้ำตาไหล นางบอกว่าไม่เคย
มีใครทำให้ขนาดนี้ นางดีใจมาก เราก็ดีใจนะที่นางชอบ ขอตัดภาพความประทับใจของนางแปบ ก่อนถึงวันเกิดเราหลายเดือน เจชวนเราไปซื้อผ้าที่พาหุรัด นางบอกจะเอามาทำหมอนตุ๊กตาอะไรสักอย่างให้กับเพื่อนของนาง (หูย ทีคนอื่นเมิงนี่ลงทุนเนอะ) แต่พอเราบอกไม่อยากไป นางก็พูดชักจูง
ว่า เนี่ยจะไปหาซื้อผ้าทำตุ๊กตาในวันเกิดเราด้วย เราจะได้เลือกผ้าที่เราชอบด้วยไงไม่ดีหรอ ด้วยความรำคาญและอยากรู้ว่าจะได้จิงไหม
จึงยอมไปด้วย แต่พอไปด้วยจิงๆ เรากลับไม่ได้เลือกอะไรเรย แต่นางกลับพูดว่า "ผ้าผืนใหญ่อยู่นะ มุงเอาตุ๊กตาสีเดวกะเพื่อนกุได้ปะ
จะได้ไม่ต้องเสียตังซื้อผืนใหม่" เราได้แค่พยักหน้า และช่วยนางถือของต่อไป
เมื่อมาถึงวันเกิดเรา บอกเลยเราไม่คาดหวังและไม่หวังอะไรจากนางเลย แต่การที่เราไม่มีหวังมันทำให้เราได้ของขวัญจากนางค่ะ
คราวนี้ไม่ห่อถุงโลตัสนะคะ ใส่กล่องห่อกระดาษสวยเชียวคะ เรานี่ก็แอบนึกในใจต้องเป็นหมอนตุ๊กตาที่นางบอกจะทำให้แน่ๆ
แต่พอเปิดมาเซอไพร์ไทยแลนด์เลยจ้ะ เอ๊ะ ทำไมชั้นคุ้นๆกะไอ้สิ่งนี้หว่ะ คิดไปคิดมาถึงบางอ้อเลยว่ะ ของที่นางให้มาไม่ใช่หมอนตุ๊กตาอย่างที่นาง
หลอกว่าจะทำให้ แต่เป็นแก้วรูปเป็ด ไอ้แก้วรูปเป็ดเนี่ยเป็นของขวัญที่นางจะซื้อให้แฟนนางเนื่องในวันเกิดแฟนนางตอนคบกันแรกๆ
นางบอกแฟนนางหน้าเหมือนเป็ดเลยซื้อแก้วเป็ดให้แฟน นางซื้อมาแล้วถ่ายรูปส่งมาให้เราดูว่าจะให้แก้วเป็ดนี่ดีไหม เราก็บอกเออเหมาะกะแฟนแกดี
แต่นางเปลี่ยนใจซื้อของชิ้นใหม่ให้แฟนนางแทน ตัดภาพมาที่หน้าเราตอนกำลังเซอไพร์กะของขวัญวันเกิดตัวเอง พอเรานึกออก
เรานี่ซีดไปทั้งตัวเลย เห้ย นี่มันแก้วเป็ดที่นางจะให้แฟนนี่หว่าา ชั้นจำได้ ยิ้มไม่ออกบอกไม่ถูกเลยคราวนี้
นางบอกเราเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของนาง แต่ทำไมนางทำกะเราแบบไร้ค่าอย่างนี้ค่ะ อย่างกะเราเป็นของตาย(ไม่ใช่เพื่อนตายนะ)
อันนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ไม่รู้ทำไมเราให้อภัยนางได้เสมอ เราไม่เคยเล่าให้เพื่อนคนอื่นฟังเลย เพราะนางเทคแคร์เพื่อนคนอื่นดีมาก
กลัวเพื่อนหาว่าคิดมาก หรือเราคิดมากไปจิงๆ จิงๆมันมีมากกว่านี้อีกที่ทำให้รู้สึกแบบนั้น
ถ้าเป็นคุณแล้วโดนเพื่อนทำแบบนี้คุณจะรู้สึกยังงัยค่ะ ??????????