๏ ออกจากไข่ไต่ต้นปล้นอาหาร
สิบห้าวารหว่านยิ้มเพราะอิ่มหนำ
คอยแยกเขี้ยวเคี้ยวขบจนครบคำ
แล้วดื่มด่ำน้ำค้างและยางไม้
๏ สร้างเกราะแก้วแวววับนับเป็นปล้อง
นอนกลางห้องมองจันทร์อันสดใส
พอเจ็ดวารแว่วเสียงสำเนียงไพร
ก็เติบใหญ่ให้เห็นเป็นแมลง
๏ ปีกสยายผายแผ่คล้ายแหกว้าง
สีสันช่างโชติช่วงเป็นรวงแสง
ลายงามงดคดเคี้ยวเขียวกับแดง
เป็นปีกแห่งหรรษาสมญาใคร
๏ ลองกระพือพัดพายว่ายอากาศ
ก็สามารถมุ่งหาวแม้คราวไหน
เที่ยวเก็บกลิ่นบินโฉบแล้วโอบไป
อย่างชื่นใจชื่นจิตก่อนนิทรา
๏ มวลดอกไม้ไร้หอมยอมสยบ
เพียงเมื่อพบสบเจ้าเข้าถลา
โปรยเกสรสู่ใจในนภา
ให้เจ้าหาหนเสาะผสมพันธุ์
๏ อีกสองวารผ่านนั้นพลันวายวอด
ต้องม้วยมอดหมดสิ้นทุกสิ่งสรรพ์
แม้นชีวิตปลิดปลงถูกลงทัณฑ์
เพียงแค่ฉันคือผีเสื้อหวังเยื่อใย
ชีวิตผีเสื้อ
สิบห้าวารหว่านยิ้มเพราะอิ่มหนำ
คอยแยกเขี้ยวเคี้ยวขบจนครบคำ
แล้วดื่มด่ำน้ำค้างและยางไม้
๏ สร้างเกราะแก้วแวววับนับเป็นปล้อง
นอนกลางห้องมองจันทร์อันสดใส
พอเจ็ดวารแว่วเสียงสำเนียงไพร
ก็เติบใหญ่ให้เห็นเป็นแมลง
๏ ปีกสยายผายแผ่คล้ายแหกว้าง
สีสันช่างโชติช่วงเป็นรวงแสง
ลายงามงดคดเคี้ยวเขียวกับแดง
เป็นปีกแห่งหรรษาสมญาใคร
๏ ลองกระพือพัดพายว่ายอากาศ
ก็สามารถมุ่งหาวแม้คราวไหน
เที่ยวเก็บกลิ่นบินโฉบแล้วโอบไป
อย่างชื่นใจชื่นจิตก่อนนิทรา
๏ มวลดอกไม้ไร้หอมยอมสยบ
เพียงเมื่อพบสบเจ้าเข้าถลา
โปรยเกสรสู่ใจในนภา
ให้เจ้าหาหนเสาะผสมพันธุ์
๏ อีกสองวารผ่านนั้นพลันวายวอด
ต้องม้วยมอดหมดสิ้นทุกสิ่งสรรพ์
แม้นชีวิตปลิดปลงถูกลงทัณฑ์
เพียงแค่ฉันคือผีเสื้อหวังเยื่อใย