สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 22
ว่าจะไม่เม้นแล้วแต่เห็นมีคนเข้าข้างเมียเยอะจัด
อย่าลืมว่ารายการนี้พ่อแม่สามีก็ออกเงินด้วยนะ
และ..แฟนย้ายงานบ่อยจนไม่มีรายรับ ..บลาๆ
แถมพ่อแม่แฟนยังให้จดทะเบียนก่อนซื้อรถอีกเพื่อหวังจะให้รถเป็นสินสมรส ทีอยู่กันมา 3ปีโดยไม่จดทะเบียนไม่เห็นว่าอะไร
ตกลงใครหน้าเงิน
ถ้าให้จบด้วยดี ผมเห็นด้วยที่ใช้ชื่อพ่อแม่คุณเป็นเจ้าของรถ ผ่อนหมดค่อยโอนให้คุณ ทีนี้ไม่ใช่สินสมรสแล้ว
อย่าลืมว่ารายการนี้พ่อแม่สามีก็ออกเงินด้วยนะ
และ..แฟนย้ายงานบ่อยจนไม่มีรายรับ ..บลาๆ
แถมพ่อแม่แฟนยังให้จดทะเบียนก่อนซื้อรถอีกเพื่อหวังจะให้รถเป็นสินสมรส ทีอยู่กันมา 3ปีโดยไม่จดทะเบียนไม่เห็นว่าอะไร
ตกลงใครหน้าเงิน
ถ้าให้จบด้วยดี ผมเห็นด้วยที่ใช้ชื่อพ่อแม่คุณเป็นเจ้าของรถ ผ่อนหมดค่อยโอนให้คุณ ทีนี้ไม่ใช่สินสมรสแล้ว
ความคิดเห็นที่ 8
งั้นก็ไม่ยากนี่คะ คุณก็ให้ชื่อรถเป็นของพ่อแม่ไปซิ ไหนๆก็เงินทางฝั่งคุณและของพ่อแม่อยู่แล้ว
ผ่อนครบก็ค่อยให้โอนมาเป็นชื่อคุณ ให้โดยสเน่หาก็เป็นสินส่วนตัวไป
ส่วนเรื่องไม่แน่นอน เห็นด้วยค่ะ เพื่อนเราแต่งงานขนาดมีลูกแล้วยังหย่าเลย
เดี๋ยวนี้สถิติการหย่าก็น่ากลัวด้วย เมื่อ 2-3 ปีก่อน สถิติที่เก็บในไทยพบว่า จด 3 คู่ หย่า 1 คู่
เพราะงั้นเรื่องทรัพย์สิน ชัดเจนไว้เลย มันก็ดีค่ะ
แต่ทางคุณเองก็ต้องชัดเจนกับภรรยาด้วย อันไหนกระเป๋าส่วนรวม อันไหนกระเป๋าแยก ตกลงให้ดีก่อนแต่งค่ะ
ยิ่งภรรยายังไม่มีรายได้แน่นอน คุณจะช่วยเธอยังไง แบ่งภาระแบบไหน เอาให้ชัดไป
คนเราคบกัน อาจพูดได้ว่า เงินไม่ได้สำคัญเท่าความรัก เพราะมีเงินก็ใช่ว่าจะซื้อความรู้สึกรักได้
แต่ความเป็นจริงคือ คนเราหลายคู่เลิกรักกัน เพราะเรื่องเงินในครอบครัว เป็นปัจจัยหนึ่งเลยล่ะ
ผู้หญิงจะแต่งมาอยู่กับเขา ก็ต้องแฟร์ค่ะ ไม่ใช่ว่าจะสูบ จะเอาอย่างเดียว
อยากจดทะเบียนสมรส เพื่อเป็นภรรยา หรือ อยากได้สินสมรสล่ะคะ
ยิ่งทางบ้านฝ่ายหญิงเข้ามาจู้จี้ในเรื่องทรัพย์สิน แค่เริ่มก็ดูจะหน้าเงินกันซะแล้ว
เจองี้ฝ่ายชายจะกังวลก็ไม่น่าแปลกนะ
หลายคู่นะคะ สามีหาได้ ภรรยาช่วยใช้ ใช้คนเดียวไม่พอ เอาพ่อแม่ญาติพี่น้องมาช่วยใช้ด้วย
ฝ่ายสามีพูดอะไรก็ลำบาก เพราะไม่ได้ตกลงกันไว้ก่อน ชัดเจนกันไปเลยแต่ต้นดีกว่าค่ะ ไม่ต้องอ้ำอึ้งกัน
ผ่อนครบก็ค่อยให้โอนมาเป็นชื่อคุณ ให้โดยสเน่หาก็เป็นสินส่วนตัวไป
ส่วนเรื่องไม่แน่นอน เห็นด้วยค่ะ เพื่อนเราแต่งงานขนาดมีลูกแล้วยังหย่าเลย
เดี๋ยวนี้สถิติการหย่าก็น่ากลัวด้วย เมื่อ 2-3 ปีก่อน สถิติที่เก็บในไทยพบว่า จด 3 คู่ หย่า 1 คู่
เพราะงั้นเรื่องทรัพย์สิน ชัดเจนไว้เลย มันก็ดีค่ะ
แต่ทางคุณเองก็ต้องชัดเจนกับภรรยาด้วย อันไหนกระเป๋าส่วนรวม อันไหนกระเป๋าแยก ตกลงให้ดีก่อนแต่งค่ะ
ยิ่งภรรยายังไม่มีรายได้แน่นอน คุณจะช่วยเธอยังไง แบ่งภาระแบบไหน เอาให้ชัดไป
คนเราคบกัน อาจพูดได้ว่า เงินไม่ได้สำคัญเท่าความรัก เพราะมีเงินก็ใช่ว่าจะซื้อความรู้สึกรักได้
แต่ความเป็นจริงคือ คนเราหลายคู่เลิกรักกัน เพราะเรื่องเงินในครอบครัว เป็นปัจจัยหนึ่งเลยล่ะ
ผู้หญิงจะแต่งมาอยู่กับเขา ก็ต้องแฟร์ค่ะ ไม่ใช่ว่าจะสูบ จะเอาอย่างเดียว
อยากจดทะเบียนสมรส เพื่อเป็นภรรยา หรือ อยากได้สินสมรสล่ะคะ
ยิ่งทางบ้านฝ่ายหญิงเข้ามาจู้จี้ในเรื่องทรัพย์สิน แค่เริ่มก็ดูจะหน้าเงินกันซะแล้ว
เจองี้ฝ่ายชายจะกังวลก็ไม่น่าแปลกนะ
หลายคู่นะคะ สามีหาได้ ภรรยาช่วยใช้ ใช้คนเดียวไม่พอ เอาพ่อแม่ญาติพี่น้องมาช่วยใช้ด้วย
ฝ่ายสามีพูดอะไรก็ลำบาก เพราะไม่ได้ตกลงกันไว้ก่อน ชัดเจนกันไปเลยแต่ต้นดีกว่าค่ะ ไม่ต้องอ้ำอึ้งกัน
ความคิดเห็นที่ 7
ด้วยความเปนห่วงนะครับ ถ้าวิธีคิดคุณยังเปนแบบนี้ใช้ชีวิตครอบครัวยากนะครับ ท่านผู้รู้กล่าวไว้ว่าสามีภรรยาคู่ใดคิดการวางแผนไว้ตั้งแต่ตอนอยู่ด้วยกันดีๆว่าเลิกกันต้องเปนแบบโน้นแบบนี้คู่นั้นมักไปไม่ค่อยรอด ผมว่าคุณเปิดใจให้กว้างครับสมมุติเลิกกันจริงๆรถก็ให้เมียคุณไปเถอะครับ เขาอยู่กะเราเขาก็ดูแลเราถึงแม้เงินนั้นคุณเปนคนหาก็เถอะ เท่าที่อ่านคำถามคุณคุณใจแคบกะภรรยาจังเลยครับถ้าภรรยาคุณมาเหนกระทู้เขาจะเสียใจนะครับ แนะนำอีกนิดตอนนี้คุณดูแลภรรยาดีๆ รักเขามากๆ ส่วนอนาคตอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดปัญหามาแล้วค่อยคิดแก้ครับ บางครั้งคิดอะไรล่วงหน้ามันก็เปนทุกข์ รักกันวันนี้ให้ดีที่สุดครับเพราะไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะมีหรือเปล่า ด้วยความเคารพนะครับ
แสดงความคิดเห็น
รถยนต์เป็นสินสมรสไหมครับ
พอจะมีใครที่จะให้คำแนะนำผมได้บ้างคับ
แฟนคนนี้ผมก็รักมากคับ แต่พ่อกับแม่ผมก็เตือนไว้ว่าอะไรมันก็ไม่แน่ไม่นอน อาจจะเลิกกันก็ได้ ในเมื่อเงินทั้งหมดเป็นของผมและทางพ่อแม่ที่ช่วยมาจำนวนหนึ่ง ก็เลยไม่อยากให้แบ่งใคร
ขอบคุณครับ