สวัสดีค่ะวันนี้จะมาเล่าเรื่องของครอบครัวเราให้ฟัง เผื่อเป็นข้อคิดให้ใครที่มีลูกสาวค่ะ
น้องสาวเราอายุ 14 เรียนอยู่ มอ2 เป็นเด็กดีค่ะ แก่นเรียนดี และนางมีแฟน เป็นทอมโรงเรียนเดียวกัน อายุ17
เราได้ทราบมาบ้างจากเฟสนาง มีแซวนางขำๆว่าตายแกเป็นเลสเหรอ.. นางตอบว่าพี่ที่โรงเรียนน่ะ 90%อ่ะผู้หญิง 10%ที่เหรอแยกย่อยเป็นเกย์ ไรอีก บลาๆๆๆ เราก็ขำน่ะนางคิดได้ นางก็บอกตบท้ายว่าแถมแบบนี้ก็ดีนิ หนูท้องกะทอมไม่ได้นิ เราก็มีเรียบๆเคียงถามพ่อบ้าง พ่อบอกน้องเอาแฟนมาค้างด้วยประมาณเพื่อนสาว เราก็อ้าวพ่อโอเหรอ พ่อก็ตอบช่างมัน แฟนน้องเราเนี่ยพ่อแม่เลิกกัน เขาอยู่กะพ่อ พ่อเขาก็มาส่งที่บ้านน้องเรา พ่อเราที่ก็บอกว่าสงสารเด็กแฟนน้องเราคงเหงา ดีกว่าไปเตร่อยู่ข้างนอก
จนเราได้มีโอกาสเจอแฟนน้องเรา เราว่ามันเป็นอะไรที่น่ารักดี แฟนน้องเรากลายเป็นมาช่วยงานที่บ้านพ่อเรา เช่นดูแลยายที่ป่วยของน้องเรา ไปรับไปส่งน้องเราเรียนพิเศษ ช่วยทำการบ้าน ครอบครัวเราคิดว่ามันเรื่องปกติของวัยรุ่น แล้วไม่คิดในแง่ลบ วันหนึ่งเขาต้องโตไปใช้ชีวิตของเขา ขนาดเราพ่อเลี้ยงมาเหมือนกัน เขาเลี้ยงเราเหมือนเพื่อน ให้พื้นที่ให้เราได้ทดลองเรียนรู้แต่หากเราพลาดเขาพร้อมจะแนะนำ
เราเองออกบ้านมาอยู่คนเดียวตั้งแต่18 พ่อเราไม่เคยซีเรียสเรื่องคบผู้ชาย พ่อเราชอบบอกว่าชีวิตมันเป็นของเรา พ่อให้เราเลือกคนที่เราอยากอยู่ด้วย เพราะเขาบอกว่าเขาไม่ใช่จะมีชิวิตอยู่กับเราตลอดไป เราว่าบางทีที่เรากำหนดกฎเกณฑ์ให้เด็กว่าแบบนี้แบบนี้ หรือเขาทำให้เราอบอายเพราะเขา มันเป็นการผลักไสเขาออกไปไกลกว่า เราคุยพ่อได้ทุกเรื่องแม้กระทั่งท้อง ทั้งที่ยังไม่แต่ง พ่อบอกว่าแต่งเพื่อ...การแต่งงานไม่ใช่การรับประกันการอยู่รอดของชีวิตคู่ เขาไว้ใจเราที่ดูแลตัวเองโตแล้ว บางวิธีพ่อเราอาจทำให้คนอื่นไม่เห็นด้วยแต่อยากว่าลูกพ่อสองคนดูแลตัวเองได้ ไม่เป็นปัญหาของใคร บางหากเราเปิดใจยอมฟังโดยไม่ตัดสินเด็กเขาพร้อมจะเล่า
น้องเราถาม ครั้งที่เรามีเพศสัมพันธ์อายุเท่าไหร่ เรานี้แก14เองน่ะ น้องเล่าเพื่อนหนู13เองมีล่ะ เรานี้ว้าย ..ขำแบบมันแก่แดดกว่าพี่อีกน่ะเพื่อนแก เราก็ถือโอกาสสอนการป้องกันอารมณ์ของตัวเอง บลาๆๆ แต่เราย้ำว่าถ้าหนูทำไปแล้วไม่ต้องกลัวพี่ หรือพ่อผิดหวังเพราะ เรารักเขาไม่ได้รักที่ร่างกายเขา เรารักเขาที่เขาเป็น เรารักเขาแบบไม่มีเงื่อนไข เราไม่ซ้ำเติมแต่ช่วยกันแก้ไข
หวังว่าเรื่องนี้ประโยชน์น่ะค่ะ