ตรุษจีนที่ผ่านมา น้องชายผมชวนไปเที่ยววัดแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ... “ก็ดีนะ จะได้ไปทำบุญปิดทองฝังลูกนิมิตด้วย” ซึ่งปกติวัดที่สร้างอุโบสถหลังใหม่นิยมจัดงานบุญนี้ในช่วงเทศกาลตรุษจีน และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของทริปนี้
ชื่อสถานที่ / ที่อยู่ : วัดทิพย์สุคนธาราม หมู่ 13 ต.ดอนแสลบ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 8:00-17:00 น.
ข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมาหากษัตริย์
http://www.crownproperty.or.th/post/%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%96%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%90%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%96%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B9%8C
มาดูพิกัดโดยคร่าวๆ กันก่อนครับ...พื้นที่วัดอยู่แนวตะเข็บพื้นที่ของ จ.กาญจนบุรี กับ จ.สุพรรรณบุรี ซึ่งหากมาจากกรุงเทพฯ ให้มุ่งขึ้นมาทาง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ส่วนจะวิ่งผ่านเส้นไหนขึ้นมานั้น ก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคนว่าบ้านอยู่ใกล้เส้นทางไหน ผมตั้งค่าเริ่มต้นไว้ที่สะพานพระปิ่นเกล้า เพื่อที่หลายคนจะได้นึกภาพออก ... Google map แนะนำ 3 เส้นทาง คือ (1.) วิ่งเข้า อ.เมือง จ.นครปฐม ก่อน หรือ (2.) วิ่งไปทาง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี แล้วไปเข้า อ.บางเลน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม (3.) วิ่งไปทาง อ.บางบัวทอง และวิ่งเข้าทางหลวง 3422…เป็นอันว่าเปิด Google map ช่วยนำทางไปดีกว่าครับ หรือใครใช้ GPS พิกัดตามนี้เลย N 14.324912 E 99.703423 ระยะทางประมาณ 150 กม. ใช้เวลา 2 ชั่วโมง
ขับไปเรื่อยๆ จนใกล้ถึงจุดหมาย มองไปรอบๆ 2 ข้างทางก็แอบเอะใจ “ทำไมถึงได้แล้งขนาดนี้” ดินก็แห้งแตกระแหง บ้านคนก็ไม่มี ช่างดูเวิ้งว้างเสียจริง วัดนี้คงเข้าถึงได้ยาก คนเข้ามาทำบุญน้อยแน่ๆ เลย”
ความคิดผมเปลี่ยนไปในทันที เมื่อเจอป้ายทางเข้าวัดที่มีชื่อว่า "วัดทิพย์สุคนธาราม"
“โห ดูเรียบง่ายเข้ากับยุคสมัยใหม่ ชอบเลย” ผมเริ่มตื่นเต้นแล้วว่าด้านในจะเป็นอย่างไร ลานจอดรถกว้างขวาง มีรถหมุนเวียนเข้าออกตลอดเวลา พอลงจากรถเห็นสนามหญ้า ต้นไม้สีเขียว ผมขอให้นิยามว่าโอเอซิสของห้วยกระเจา สวนมีพื้นที่กว้างขวาง ถูกออกแบบและจัดวางอย่างมีแบบแผน บริเวณกลางสวนเห็นพระพุทธรูปโลหะองค์ใหญ่ในปางที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน โดยมีฉากหลังเป็นภูเขา ช่างเป็นแลนด์สเคปที่สวยงามและลงตัว ส่วนการออกแบบอาคารต่างๆ โดยรอบ พลันให้ถึงถึงคอนเซปต์ Minimalism ที่ดูดีในแบบเรียบง่าย ... จากความคิดแรกที่จะมางานบุญปิดทองฝังลูกนิมิตได้หายสิ้นไปแล้ว เพิ่งจะตระหนักว่าวัดนี้มีพุทธอุทยานที่สวยงาม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ จ.กาญจนบุรี
ก่อนที่จะเดินเที่ยวชมไปด้วยกัน ผมขอเล่าความเป็นมาของวัดนี้พอสังเขป (ใช้ภาษาดูโบราณจริง)
วัดทิพย์สุคนธาราม สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2547 บนที่ดินบริจาค 339 ไร่ โดยสมเด็จพระมหาธีราจารย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม ได้รับอุปภัมภ์วัดนี้ไว้ จึงได้มีการสร้างพระอุโบสถ และสิ่งก่อสร้างอื่นๆ รวมถึงดำริในการสร้างพระพุทธรูปโลหะสำริดยืนในปางขอฝน นามว่า “พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์” ต่อมา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับโครงการฯ นี้ไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ทำให้การจัดสร้างเป็นรูปธรรมขึ้น จนในที่สุดก็สำเร็จลุล่วงในปี พ.ศ. 2558 องค์พระพุทธรูปมีความสูงทั้งสิ้น 32 เมตร ประดิษฐานบนฐานสูง 8 เมตร จึงกล่าวได้ว่าเป็นพระพุทธรูปปางขอฝนเนื้อสำริดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รายละเอียดติดตามได้จากเว็บไซต์สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (ตามลิงค์ที่วางไว้ด้านบน)
วันนี้ดวงอาทิตย์ปล่อยแสงได้แรงมาก ผู้คนที่มาเที่ยวก็ไม่หวั่นต่างถ่ายรูปกันมากมาย จากด้านล่างมองขึ้นไปด้านบนที่เป็นพระพุทธรูปต้องบอกว่าสวยจริงๆ ซ้ายขวาตลอดทางก็จะเห็นต้นไม้ตัดแต่ง เดินไปสักพักช่วงกลางทางเดินจะเจอกระถางธูปใหญ่ สามารถไหว้ขอพรได้จากจุดนี้ จากนั้นเดินต่อจนถึงลานพื้นหินรอบพระพุทธรูป “ปรี๊ดดด” เสียงนกหวีดดังขึ้น “ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปชู 2 นิ้ว คู่กับพระพุทธรูปนะครับ” เจ้าหน้าที่เตือนนักท่องเที่ยว “ปรี๊ดดด ขอบตรงนั้นนั่งไม่ได้นะครับ” “ปรี๊ดดด ถอดรองเท้าก่อนขึ้นไปบนลานนี้นะครับ” แหม เจ้าหน้าที่อย่างเข้มเลย ก็ดีนะ รักษากฎระเบียบได้อย่างดีเยี่ยม
หลังจากชมความงามกันอย่างใกล้ชิด ก็เบี่ยงตัวออกมาทางขวามือของพระพุทธรูป ไปที่อาคารนิทรรศการติดแอร์ชื่อ “อนุสรณ์แห่งการตื่นรู้” ที่นี่เปิดให้เข้าชมฟรี แต่ต้องลงทะเบียนที่เคาน์เตอร์กันก่อน จำกัดรอบละ 50 คน มีทั้งหมด 7 รอบ คือ 10:00 / 10:45 / 11:30 / 13:00 / 13:45 / 14:30 / 15:00 น. แต่ละรอบใช้เวลาชมประมาณ 1 ชั่วโมง ด้านในแบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์, การเดินทางของพระพุทธศาสนา, เจติยะ และ คบเพลิงแห่งธรรม ... ใครมาเที่ยวแล้ว อย่าลืมไปตื่นรู้กันครับ
จากนั้นก็เดินดูบริเวณโดยรอบก็จะเจออาคารร้านขายของที่ระลึก และอาคารโรงอาหารรวมอยู่ด้วย ส่วนอุโบสถของวัดจะอยู่ออกไปอีกโซนหนึ่ง
“โห มีจักรยานให้เช่าด้วยหรอเนี่ย เจ๋งดี...” แต่ยังไม่เปิดให้บริการนะตอนนี้
บทสรุป : ผมมาที่นี่ด้วยความไม่คาดหวังอะไร และพอได้มาสัมผัสจริงต้องบอกว่าดีเกินคาด ไม่คิดว่าพื้นที่แห้งแล้งนี้จะมีสถานที่ดีๆ อย่างนี้ซ่อนตัวอยู่ ผมชอบการออกแบบแผนผัง งานก่อสร้างอาคาร สถานที่ต่างๆ สร้างออกมาได้สวยงามและลงตัว ชอบความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนของสวนออกแบบและทำออกมาได้สวยดี ถ้ามีต้นไม้ใหญ่ช่วยสร้างความร่มรื่นก็จะดีมากๆ เลย ส่วนอากาศร้อนไปหน่อยครับ แนะนำว่าให้พกร่ม และทาครีมกันแดดมาด้วย วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ลองแวะมาเที่ยวชมดูกันครับ #ลุงยิ้ม
สัปดาห์หน้าจะมาเล่าเรื่องอะไร คอยติดตามกันนะครับ
สุดท้ายฝากเพจไว้ติดตาม พูดคุยกันได้ที่ FB: GO2 >>
https://www.facebook.com/Go2-x-%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%A1-1632477510328553/
[CR] ตามไปเที่ยว >> พุทธอุทยานเขียวขจี ในพื้นที่แห้งแล้ง...วัดทิพย์สุคนธาราม (ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องไปชม)
ตรุษจีนที่ผ่านมา น้องชายผมชวนไปเที่ยววัดแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ... “ก็ดีนะ จะได้ไปทำบุญปิดทองฝังลูกนิมิตด้วย” ซึ่งปกติวัดที่สร้างอุโบสถหลังใหม่นิยมจัดงานบุญนี้ในช่วงเทศกาลตรุษจีน และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของทริปนี้
ชื่อสถานที่ / ที่อยู่ : วัดทิพย์สุคนธาราม หมู่ 13 ต.ดอนแสลบ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 8:00-17:00 น.
ข้อมูลเพิ่มเติม : สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมาหากษัตริย์ http://www.crownproperty.or.th/post/%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%96%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%90%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%96%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B9%8C
มาดูพิกัดโดยคร่าวๆ กันก่อนครับ...พื้นที่วัดอยู่แนวตะเข็บพื้นที่ของ จ.กาญจนบุรี กับ จ.สุพรรรณบุรี ซึ่งหากมาจากกรุงเทพฯ ให้มุ่งขึ้นมาทาง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ส่วนจะวิ่งผ่านเส้นไหนขึ้นมานั้น ก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคนว่าบ้านอยู่ใกล้เส้นทางไหน ผมตั้งค่าเริ่มต้นไว้ที่สะพานพระปิ่นเกล้า เพื่อที่หลายคนจะได้นึกภาพออก ... Google map แนะนำ 3 เส้นทาง คือ (1.) วิ่งเข้า อ.เมือง จ.นครปฐม ก่อน หรือ (2.) วิ่งไปทาง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี แล้วไปเข้า อ.บางเลน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม (3.) วิ่งไปทาง อ.บางบัวทอง และวิ่งเข้าทางหลวง 3422…เป็นอันว่าเปิด Google map ช่วยนำทางไปดีกว่าครับ หรือใครใช้ GPS พิกัดตามนี้เลย N 14.324912 E 99.703423 ระยะทางประมาณ 150 กม. ใช้เวลา 2 ชั่วโมง
ขับไปเรื่อยๆ จนใกล้ถึงจุดหมาย มองไปรอบๆ 2 ข้างทางก็แอบเอะใจ “ทำไมถึงได้แล้งขนาดนี้” ดินก็แห้งแตกระแหง บ้านคนก็ไม่มี ช่างดูเวิ้งว้างเสียจริง วัดนี้คงเข้าถึงได้ยาก คนเข้ามาทำบุญน้อยแน่ๆ เลย”
ความคิดผมเปลี่ยนไปในทันที เมื่อเจอป้ายทางเข้าวัดที่มีชื่อว่า "วัดทิพย์สุคนธาราม"
“โห ดูเรียบง่ายเข้ากับยุคสมัยใหม่ ชอบเลย” ผมเริ่มตื่นเต้นแล้วว่าด้านในจะเป็นอย่างไร ลานจอดรถกว้างขวาง มีรถหมุนเวียนเข้าออกตลอดเวลา พอลงจากรถเห็นสนามหญ้า ต้นไม้สีเขียว ผมขอให้นิยามว่าโอเอซิสของห้วยกระเจา สวนมีพื้นที่กว้างขวาง ถูกออกแบบและจัดวางอย่างมีแบบแผน บริเวณกลางสวนเห็นพระพุทธรูปโลหะองค์ใหญ่ในปางที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน โดยมีฉากหลังเป็นภูเขา ช่างเป็นแลนด์สเคปที่สวยงามและลงตัว ส่วนการออกแบบอาคารต่างๆ โดยรอบ พลันให้ถึงถึงคอนเซปต์ Minimalism ที่ดูดีในแบบเรียบง่าย ... จากความคิดแรกที่จะมางานบุญปิดทองฝังลูกนิมิตได้หายสิ้นไปแล้ว เพิ่งจะตระหนักว่าวัดนี้มีพุทธอุทยานที่สวยงาม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ จ.กาญจนบุรี
ก่อนที่จะเดินเที่ยวชมไปด้วยกัน ผมขอเล่าความเป็นมาของวัดนี้พอสังเขป (ใช้ภาษาดูโบราณจริง)
วัดทิพย์สุคนธาราม สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2547 บนที่ดินบริจาค 339 ไร่ โดยสมเด็จพระมหาธีราจารย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม ได้รับอุปภัมภ์วัดนี้ไว้ จึงได้มีการสร้างพระอุโบสถ และสิ่งก่อสร้างอื่นๆ รวมถึงดำริในการสร้างพระพุทธรูปโลหะสำริดยืนในปางขอฝน นามว่า “พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์” ต่อมา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับโครงการฯ นี้ไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ทำให้การจัดสร้างเป็นรูปธรรมขึ้น จนในที่สุดก็สำเร็จลุล่วงในปี พ.ศ. 2558 องค์พระพุทธรูปมีความสูงทั้งสิ้น 32 เมตร ประดิษฐานบนฐานสูง 8 เมตร จึงกล่าวได้ว่าเป็นพระพุทธรูปปางขอฝนเนื้อสำริดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รายละเอียดติดตามได้จากเว็บไซต์สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (ตามลิงค์ที่วางไว้ด้านบน)
วันนี้ดวงอาทิตย์ปล่อยแสงได้แรงมาก ผู้คนที่มาเที่ยวก็ไม่หวั่นต่างถ่ายรูปกันมากมาย จากด้านล่างมองขึ้นไปด้านบนที่เป็นพระพุทธรูปต้องบอกว่าสวยจริงๆ ซ้ายขวาตลอดทางก็จะเห็นต้นไม้ตัดแต่ง เดินไปสักพักช่วงกลางทางเดินจะเจอกระถางธูปใหญ่ สามารถไหว้ขอพรได้จากจุดนี้ จากนั้นเดินต่อจนถึงลานพื้นหินรอบพระพุทธรูป “ปรี๊ดดด” เสียงนกหวีดดังขึ้น “ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปชู 2 นิ้ว คู่กับพระพุทธรูปนะครับ” เจ้าหน้าที่เตือนนักท่องเที่ยว “ปรี๊ดดด ขอบตรงนั้นนั่งไม่ได้นะครับ” “ปรี๊ดดด ถอดรองเท้าก่อนขึ้นไปบนลานนี้นะครับ” แหม เจ้าหน้าที่อย่างเข้มเลย ก็ดีนะ รักษากฎระเบียบได้อย่างดีเยี่ยม
หลังจากชมความงามกันอย่างใกล้ชิด ก็เบี่ยงตัวออกมาทางขวามือของพระพุทธรูป ไปที่อาคารนิทรรศการติดแอร์ชื่อ “อนุสรณ์แห่งการตื่นรู้” ที่นี่เปิดให้เข้าชมฟรี แต่ต้องลงทะเบียนที่เคาน์เตอร์กันก่อน จำกัดรอบละ 50 คน มีทั้งหมด 7 รอบ คือ 10:00 / 10:45 / 11:30 / 13:00 / 13:45 / 14:30 / 15:00 น. แต่ละรอบใช้เวลาชมประมาณ 1 ชั่วโมง ด้านในแบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์, การเดินทางของพระพุทธศาสนา, เจติยะ และ คบเพลิงแห่งธรรม ... ใครมาเที่ยวแล้ว อย่าลืมไปตื่นรู้กันครับ
จากนั้นก็เดินดูบริเวณโดยรอบก็จะเจออาคารร้านขายของที่ระลึก และอาคารโรงอาหารรวมอยู่ด้วย ส่วนอุโบสถของวัดจะอยู่ออกไปอีกโซนหนึ่ง
“โห มีจักรยานให้เช่าด้วยหรอเนี่ย เจ๋งดี...” แต่ยังไม่เปิดให้บริการนะตอนนี้
บทสรุป : ผมมาที่นี่ด้วยความไม่คาดหวังอะไร และพอได้มาสัมผัสจริงต้องบอกว่าดีเกินคาด ไม่คิดว่าพื้นที่แห้งแล้งนี้จะมีสถานที่ดีๆ อย่างนี้ซ่อนตัวอยู่ ผมชอบการออกแบบแผนผัง งานก่อสร้างอาคาร สถานที่ต่างๆ สร้างออกมาได้สวยงามและลงตัว ชอบความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนของสวนออกแบบและทำออกมาได้สวยดี ถ้ามีต้นไม้ใหญ่ช่วยสร้างความร่มรื่นก็จะดีมากๆ เลย ส่วนอากาศร้อนไปหน่อยครับ แนะนำว่าให้พกร่ม และทาครีมกันแดดมาด้วย วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ลองแวะมาเที่ยวชมดูกันครับ #ลุงยิ้ม
สัปดาห์หน้าจะมาเล่าเรื่องอะไร คอยติดตามกันนะครับ
สุดท้ายฝากเพจไว้ติดตาม พูดคุยกันได้ที่ FB: GO2 >> https://www.facebook.com/Go2-x-%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%A1-1632477510328553/