เปิดใจ”พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมณ์” อดีตนายทหารเรือผู้พลิกโฉมฟุตบอลไทย

อ่านแล้วชื่นชมเสธ.โตมากๆครับ

เครดิต http://www.matichon.co.th/news/37193

ที่มา    มติชนรายวัน 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
หลังจากจบวันที่ 15 กุมภาพันธ์ หน้าที่ของ “เสธ.โต” “พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมณ์” ประธานคณะกรรมการกลาง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่ได้รับการแต่งตั้งจาก “สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า)” เพื่อมาดูแลการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ นั้นก็จะหมดลงไป

กว่า 30 ปีที่อยู่ในวงการกีฬา ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก “มติชน” ขอสะท้อนความเห็นของอดีตนายทหารเรือที่คลุกคลีกับวงการกีฬามากว่าครึ่งชีวิตกับภารกิจสุดโหด หินสุด วุ่นวายสุด นับจากบรรทัดนี้เป็นต้นไป

เพราะเหตุใดถึงยอมรับเข้ามาทำงานใหญ่ในครั้งนี้

มองว่าเป็นโอกาสที่ต้องช่วย เหมือนเห็นคนกำลังจะจมน้ำ ต้องช่วยก่อนที่เขาจะตาย กับปัญหาที่เกิดขึ้นในสมาคมฟุตบอลฯ เมื่อฟีฟ่ามีคำสั่งลงโทษ ก็ต้องแก้ไขปัญหา ซึ่งจริงๆ แล้วทางฟีฟ่าจะตั้งคณะกรรมการจากประเทศไหนมาทำงานก็ได้ แต่การที่ยอมตั้งคนไทยขึ้นมาทำงาน ก็ถือว่าให้เกียรติคนไทยแก้ไขปัญหาของตัวเอง ซึ่งการเข้ามารับงานตรงนี้ รู้อยู่แล้วว่าจะต้องเจอกับมารมากมาย

เคยเป็นคนกลางให้กับหลายสมาคม กับการมาเป็นคนกลางให้สมาคมฟุตบอลรู้สึกอย่างไรบ้าง

ปกติแล้วสมาคมกีฬาในประเทศไทย จะมีปัญหาเรื่องของนายกสมาคมเยอะ เนื่องจากว่าเมื่อผู้บริหารคนหนึ่ง อยู่บริหารมาเป็นเวลานาน รู้สึกติดใจ ไม่อยากเสียตำแหน่งไป ก็พยายามหากลเม็ดวิธีต่างๆ มาให้ได้ซึ่งเสียงในการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะตั้งสมาชิกผีขึ้นมา เพื่อไว้สนับสนุนตนเอง อีกทั้งกฎหมายไทยก็เปิดโอกาสให้ดำรงตำแหน่งต่อเนื่องได้ หากมีตำแหน่งอยู่ในคณะกรรมการของสหพันธ์นานาชาติ จึงก่อให้เกิดการกระทำผิดขึ้น ซึ่งปัญหาของสมาคมต่างๆ นั้นอยู่ที่สโมสรสมาชิกทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม ต้องบอกว่าจากที่เคยผ่านมาทั้งหมด สมาคมฟุตบอลฯ ถือว่าเป็นสมาคมที่สกปรกที่สุดเท่าที่เคยพบเจอมา ไม่ว่าจะเป็นการใช้เล่ห์เหลี่ยม วางแผนทำลายล้างซึ่งกันและกัน รวมไปถึงทำลายกรรมการด้วย อีกทั้งยังไม่ยอมรับอะไรทั้งสิ้น ถ้าสิ่งนั้นทำให้ตัวเองเสียผลประโยชน์

ตลอดระยะเวลา 3-4 เดือนที่ผ่านมา รู้สึกเครียด หรือกดดันมากแค่ไหน?

ผมเคยผ่านความกดดันในการทำงานมาเยอะ ไม่ใช่แค่เรื่องของกีฬา การปฏิวัติ ปฏิรูป ม็อบต่างๆ เคยผ่านมาทั้งหมดแล้ว เพราะฉะนั้นไม่มีความกดดันใดๆ กับตัวเอง ใครจะว่าอะไร แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว แค่เพียงไม่อยากตอบโต้ด้วยเท่านั้น การทำงานในครั้งนี้ ยอมรับเลยว่านิ่งที่สุด ตั้งแต่ที่ได้ทำงานมา เพราะว่าไม่ต้องการต่อล้อต่อเถียง เพื่อให้เรื่องมันบานปลาย ผมไม่กลัวหรอกแม้กระทั่งวันนี้ก็ไม่กลัว

หลังจากจบงานนี้หากมีสมาคมใดต้องการให้เข้ามาเป็นคนกลางอีกครั้งจะลงมาช่วยหรือไม่

ก็ต้องดูว่าเป็นงานที่สามารถช่วยได้ไหม อย่างงานนี้เป็นงานพิเศษ ที่อยู่ระหว่างกลางกับองค์กรระหว่างประเทศ แต่ถ้าหากเป็นเรื่องราวภายในประเทศ การทำงานต่างๆ นั้น ต้องดูว่าคนที่จะให้มาเป็นตัวกลาง พร้อมที่จะให้การสนับสนุนหรือไม่ ทั้งในเรื่องความรับผิดชอบ หรือกฎหมายต่างๆ ไม่ใช่เป็นการปล่อยให้ตัวเองไปลุยอยู่คนเดียว

ในฐานะที่ได้เข้ามาทำงานกับวงการฟุตบอลไทย คิดว่าฟุตบอลไทยควรมีแนวทางพัฒนาอย่างไร

ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าจะไม่มีผม และทีมงานเข้าไปยุ่งกับการบริหารสมาคมอย่างแน่นอน เพราะเราได้มีเจตนารมณ์ชัดเจน ตั้งแต่ออกระเบียบการเลือกตั้งมาแล้ว ส่วนเรื่องการพัฒนานั้น คงต้องขุดรากขุดเหง้าตั้งแต่การบริหาร ต้องนำคนที่เป็นมืออาชีพ รู้จักธรรมชาติของฟุตบอลทั่วโลก เข้ามานั่งโต๊ะบริหารงาน ประเด็นแรกที่อยากจะฝากคือ สมัยก่อนฟุตบอลลีกแข็งแรง แต่ทีมชาติอ่อน เพราะมัวแต่แข่งกันทั้งปี จนไม่มีเวลาเก็บตัว ต่อให้เป็นเทวดาที่ไหนก็ไม่สามารถทำได้ ดังนั้น การวางปฏิทินของทีมชาติจะต้องชัดเจน มีการคุยกับฟีฟ่า, เอเอฟซี เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการเตรียมทีม เพราะว่ามันจะมีผลกระทบทั้งทีมชาติ กับสโมสรที่เป็นต้นสังกัดของเขา ดังนั้น การบริหารถือเป็นเรื่องสำคัญ

ต่อมาคือ เรื่องของการพนัน ทุกวันนี้ฟุตบอลไทยเสื่อมลงเพราะการพนัน คนไทยมีสัญชาติญาณเรื่องนี้ทุกคน แต่ต้องอยู่ในภาวะที่พอเหมาะ อย่างการตั้งโต๊ะเถื่อน ตามอินเตอร์เน็ตเหล่านี้ ส่งผลให้เกิดการล็อกผลการแข่งขัน ทำให้มีการล็อกผู้ตัดสิน มีการตัดสินที่ผิดพลาด อันเป็นเหตุให้ผู้ตัดสินไทยถูกตำหนิอยู่ทุกวันนี้ นี่เป็นเรื่องสำคัญที่ควรแก้โดยเร็วที่สุด สุดท้ายคือเรื่องของจริยธรรม จรรยาบรรณ ของผู้บริหาร จะต้องมีการจัดตั้งคณะกรรมมาธิการอนุญาโตตุลาการของสมาคมฟุตบอลฯ ขึ้นมาโดยเร็ว เพื่อวินิจฉัยข้อพิพาทต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสมาคม ไม่ใช่เอะอะก็ฟ้องศาลปกครอง ไม่ใช่ว่าไม่เคารพศาลไทย แต่ว่าระบบของสมาคมต่างๆ เชื่อมกับองค์กรระหว่างประเทศ จะเชิญมาขึ้นศาลไทยเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว อีกทั้งยังผิดต่อข้อบังคับ ถ้าหากคณะอนุญาโตตุลาการตัดสินแล้วไม่ถูกใจ ก็สามารถฟ้องเอเอฟซี, ฟีฟ่า หรือศาลโลกต่อไปแทน โดยที่คณะอนุญาโตตุลาการ จะต้องมาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่ตั้งใครก็ได้ขึ้นมาทำงาน

นอกจากนี้ ยังต้องมีคณะกรรมมาธิการจริยธรรมของสมาคมฟุตบอล เพื่อมาดูแลในเรื่องของจริยธรรม ทุกคนที่อยู่ในวงการฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่น, สโมสร, ผู้จัดการทีม, ผู้ฝึกสอน, ผู้ตัดสิน รวมไปถึงผู้บริหารเช่นกัน ทั้งสองคณะนี้ เป็นเรื่องด่วน ที่ควรจะตั้งโดยเร็วที่สุด ก่อนที่จะหมดวาระลง ก็จะเชิญคณะกรรมการชุดใหม่เข้ามาพูดคุย เพื่อส่งมอบหน้าที่และจะทำประเด็นชี้แนะ ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ที่อยู่ในจุดนี้ แนะนำให้คณะกรรมการชุดใหม่ ส่วนจะทำหรือไม่ ก็แล้วแต่พวกเขาต่อไป

กับการถูกเรียกว่า”ตาชั่งใบสั่ง”รู้สึกอย่างไรบ้าง

ผมไม่ได้คิดอะไรกับคำพูดนี้ และขออโหสิให้กับคนที่พูด และขอให้คนที่พูดมีน้ำใจนักกีฬา เมื่ออยู่ในวงการกีฬา ที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าใบสั่งที่ได้รับมานั้น มาจากฟีฟ่าเท่านั้น การที่หลายคนชอบบอกว่าเอะอะก็ฟีฟ่า ก็เพราะในเมื่อเขาเป็นคนมอบหมายงานมาให้ ถ้าไม่ถามฟีฟ่า แล้วจะให้ถามใคร การทำงานในครั้งนี้ มันไม่ได้เป็นไปตามข้อบังคับเนื่องจากว่าเป็นกรณีฉุกเฉิน ดังนั้น อะไรที่เหนือจากข้อบังคับ ก็ต้องปรึกษากับทางฟีฟ่าก่อน แม้แต่ระเบียบการเลือกตั้ง ที่รับรองในวันเลือกตั้ง กระบวนการทุกอย่างดำเนินล่วงหน้ามาแล้วทั้งสิ้น เพียงแต่มาอนุมัติในที่ประชุมเท่านั้น โดยฟีฟ่าเองก็อนุมัติในกระบวนการทุกอย่างหมดแล้ว ก็จะเห็นได้จากการที่ศาลตัดสินว่าคณะกรรมการกลางยังไม่ได้ทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด

ปิดท้ายอยากให้ฝากอะไรถึงวงการกีฬาไทย

วงการกีฬาไทยตอนนี้ บางสมาคมพัฒนาได้เป็นอย่างดี มีทิศทางที่ดี อย่างเช่น วอลเลย์บอล ที่เป็นกีฬาประเภททีม ก้าวไกลสู่ระดับโลกไปแล้ว หรืออย่างฟลอร์บอล ที่ไม่เคยมีใครได้ยินชื่อ แต่สามารถผ่านเข้าไปเวิลด์คัพ ขณะที่กรีฑา หรือว่าจักรยาน มีทิศทางในการพัฒนาที่ดี เพราะสมาคมเหล่านี้ไม่มีปัญหาภายใน แต่สมาคมใดที่มีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามา ก็ทำให้การพัฒนาติดขัด ผมผ่านการทำงานในวงการกีฬามากว่า 30 ปี ยังไม่เคยได้รับอะไรตอบแทนทั้งสิ้น ดังนั้น สิ่งสุดท้ายที่อยากจะฝากให้กับทุกสมาคมกีฬาไว้คือ ให้เห็นแก่กีฬาของชาติเป็นหลัก ช่วยกันพัฒนาเพื่อชื่อเสียงของประเทศไทย

นี่เป็นการเปิดใจ “พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมณ์” กูรูวงการกีฬาไทยแบบหมดเปลือกหลังภารกิจพลิกโฉมวงการฟุตบอลไทย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่