ตามติดชีวิตผานิช 15 วันในวัดถ้ำกระบอก
ผานิช วัย 23 ปี เป็นหนึ่งในคนไข้ที่เข้ามาบำบัดยาในวัดถ้ำกระบอก ผานิชมีบ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และได้มีโอกาสเข้ามาศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยรัฐบาลชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี ผานิชเปิดใจเล่าให้อาตมาฟังถึงเรื่องราวเกี่ยวกับตัวของเขาว่า
ผานิช : ผมติดกัญชาและใบกระท่อม ที่เรียกว่า สี่คูณร้อย ( นำใบกระท่อมมาต้มจนเหลืองและกรองเอาใบออก รอให้เย็นแล้วผสมกับยาแก้ไขชนิดน้ำ) ผมเริ่มติดมันตั้งแต่เข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยปี 1 และติดเรื่อยมาจนถึงตอนนี้ผมเรียนปี 4 เทอมปลาย ซึ่งตอนเด็กมาเป็นเด็กที่ขยันเรียนหนังสือและไม่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเลย ด้วยคำที่พ่อบอกกับผมตั้งแต่วัยเด็กว่า "พ่อขอนะอย่ายุ่งเกี่ยวกับบุหรี่"
พระเจ : เราก็เลยสูบกัญชาและใบกระท่อมแทน
ผานิช : (ยิ้ม) ด้วยการที่เพื่อนที่มหาวิทยาลัยชวน และได้มีโอกาสมาอยู่หอเลยทำให้ผมได้ใช้มันทุกวัน อีกอย่างแถวมหาวิทยาลัยและแถวหอผมหาซื้อได้ง่ายมาก อีกทั้งเพื่อนทั้งกลุ่มสิบกว่าคนก็ใช้กันทุกคน ผมใช้สามเวลาเช้าสูบกัญชา กลางวันช่วงบ่ายสองต้มน้ำ(กระ)ท่อม สี่โมงเย็นก็ใช้มัน ต้มไว้สองหม้อและก็กิน(ดื่ม)สี่คูณร้อย และก็สูบกัญชาไปด้วย ไม่ว่าจะร้องเพลง ดีดกีตาร์ ดูหนัง มันพริ้วไปหมด หรือถ้าไปเรียนผมต้องออกไปเจอแดด ทำงานกลางแดด ผมก็กินน้ำกระท่อม ทำงานไม่ต้องกลัวแดดเลยครับ
พระเจ : พ่อแม่เรารู้ไหมว่าเราใช้ยา
ผานิช : ผมกับพ่อมักจะทำกิจกรรมด้วยกันบ่อยๆตอนเด็ก ไม่ว่าจะเป็น ขับมอเตอร์ไซค์วิบาก ขี่ม้า ผมเป็นลูกคนเดียว จะเอาอะไรพ่อกับแม่ก็หาให้หมด เขารู้ตั้งแต่ผมเริ่มใช้ แม่ผมซื้ออุปกรณ์ตรวจฉี่มาไว้ตรวจเลย ผมเคยหยุดใช้มันไปพักหนึ่ง แต่ก็กลับมาใช้อีกเพราะด้วยการที่เพื่อนใช้กันทุกคนผมก็เลยกลับไปใช้มันอีก
พระเจ : อะไรที่ทำให้เราเข้ามาบำบัด
ผานิช : แฟนผมหนีผมไป อีกอย่างพ่อผมกับลุงผมมาพังประตูที่ห้องผมและลุงเข้ามาล็อกตัวผม พ่อตบผม พ่อพูดว่า "ไม่ต้องเรียนแล้ว ข้าวของที่หอทิ้งไปให้หมด กูไม่อยากได้ปริญญา แต่กูอยากได้ลูกชายของกูคืน"
พระเจ : เราคิดว่าเราจะเลิกมันได้ไหม
ผานิช : ได้แน่นอนครับ
ผานิชบอกว่าคืนแรกที่เข้ามาในเรือนบำบัด เขาไม่เคยคิดเลยว่าตัวเขาจะได้เข้ามาบำบัดยาในวัดถ้ำกระบอก และนี้คือบทสัมภาษณ์ในวันแรกของผานิชในเรือนบำบัด.......
ตามติดชีวิตผานิช 15 วันในวัดถ้ำกระบอก
ตามติดชีวิตผานิช 15 วันในวัดถ้ำกระบอก
ผานิช วัย 23 ปี เป็นหนึ่งในคนไข้ที่เข้ามาบำบัดยาในวัดถ้ำกระบอก ผานิชมีบ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และได้มีโอกาสเข้ามาศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยรัฐบาลชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี ผานิชเปิดใจเล่าให้อาตมาฟังถึงเรื่องราวเกี่ยวกับตัวของเขาว่า
ผานิช : ผมติดกัญชาและใบกระท่อม ที่เรียกว่า สี่คูณร้อย ( นำใบกระท่อมมาต้มจนเหลืองและกรองเอาใบออก รอให้เย็นแล้วผสมกับยาแก้ไขชนิดน้ำ) ผมเริ่มติดมันตั้งแต่เข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยปี 1 และติดเรื่อยมาจนถึงตอนนี้ผมเรียนปี 4 เทอมปลาย ซึ่งตอนเด็กมาเป็นเด็กที่ขยันเรียนหนังสือและไม่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเลย ด้วยคำที่พ่อบอกกับผมตั้งแต่วัยเด็กว่า "พ่อขอนะอย่ายุ่งเกี่ยวกับบุหรี่"
พระเจ : เราก็เลยสูบกัญชาและใบกระท่อมแทน
ผานิช : (ยิ้ม) ด้วยการที่เพื่อนที่มหาวิทยาลัยชวน และได้มีโอกาสมาอยู่หอเลยทำให้ผมได้ใช้มันทุกวัน อีกอย่างแถวมหาวิทยาลัยและแถวหอผมหาซื้อได้ง่ายมาก อีกทั้งเพื่อนทั้งกลุ่มสิบกว่าคนก็ใช้กันทุกคน ผมใช้สามเวลาเช้าสูบกัญชา กลางวันช่วงบ่ายสองต้มน้ำ(กระ)ท่อม สี่โมงเย็นก็ใช้มัน ต้มไว้สองหม้อและก็กิน(ดื่ม)สี่คูณร้อย และก็สูบกัญชาไปด้วย ไม่ว่าจะร้องเพลง ดีดกีตาร์ ดูหนัง มันพริ้วไปหมด หรือถ้าไปเรียนผมต้องออกไปเจอแดด ทำงานกลางแดด ผมก็กินน้ำกระท่อม ทำงานไม่ต้องกลัวแดดเลยครับ
พระเจ : พ่อแม่เรารู้ไหมว่าเราใช้ยา
ผานิช : ผมกับพ่อมักจะทำกิจกรรมด้วยกันบ่อยๆตอนเด็ก ไม่ว่าจะเป็น ขับมอเตอร์ไซค์วิบาก ขี่ม้า ผมเป็นลูกคนเดียว จะเอาอะไรพ่อกับแม่ก็หาให้หมด เขารู้ตั้งแต่ผมเริ่มใช้ แม่ผมซื้ออุปกรณ์ตรวจฉี่มาไว้ตรวจเลย ผมเคยหยุดใช้มันไปพักหนึ่ง แต่ก็กลับมาใช้อีกเพราะด้วยการที่เพื่อนใช้กันทุกคนผมก็เลยกลับไปใช้มันอีก
พระเจ : อะไรที่ทำให้เราเข้ามาบำบัด
ผานิช : แฟนผมหนีผมไป อีกอย่างพ่อผมกับลุงผมมาพังประตูที่ห้องผมและลุงเข้ามาล็อกตัวผม พ่อตบผม พ่อพูดว่า "ไม่ต้องเรียนแล้ว ข้าวของที่หอทิ้งไปให้หมด กูไม่อยากได้ปริญญา แต่กูอยากได้ลูกชายของกูคืน"
พระเจ : เราคิดว่าเราจะเลิกมันได้ไหม
ผานิช : ได้แน่นอนครับ
ผานิชบอกว่าคืนแรกที่เข้ามาในเรือนบำบัด เขาไม่เคยคิดเลยว่าตัวเขาจะได้เข้ามาบำบัดยาในวัดถ้ำกระบอก และนี้คือบทสัมภาษณ์ในวันแรกของผานิชในเรือนบำบัด.......