ให้ 8/10 หนังโรแมนติกดราม่า ที่เข้าชิงรางวัล Oscar ในปีนี้ถึง 6 สาขา โดยหนังเรื่องสร้างมาจากนวนิยายชื่อ The Price of Salt โดย Patricia Highsmith ผลงานกำกับของ Todd Haynes
เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในนิวยอร์ค ยุค 50s ที่สังคมยังไม่ค่อยเปิดกว้างและยอมรับความรักระหว่างเพศเดียวกัน Carol (Cate Blanchett) สาวสังคมชั้นสูงได้พบกับ Therese (Rooney Mara) พนักงานห้างสรรพสินค้าโดยบังเอิญระหว่างที่เธอหาซื้อของขวัญให้กับลูกสาว เทเรสซึ่งมีแฟนเป็นผู้ชายอยู่นั้นไม่ค่อยแน่ใจกับความรู้สึกเมื่อพบ แต่ก็ยากที่จะละสายตาจากแครอล นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของเธอทั้งสอง
Carol เป็นหนังอีกเรื่องที่มีกลิ่นของหนังตลบอบอวลไปด้วยความรู้สึกลึกๆของตัวละครที่อึดอัด และไม่สามารถบอกใครได้อย่างเต็มปากเต็มคำถึงสิ่งที่ตัวเองเป็นหรือสิ่งที่ตัวเองกระทำ จนพร้อมที่จะทะลักพรั่งพรูออกมาได้ทุกเมื่อ ในทางกลับกันมันก็เต็มไปด้วยความละมุนทางอารมณ์ โทนสีและภาพที่ดูแพง เสื้อผ้าหน้าผมการแต่งกายที่ดูแพง นักแสดงที่ดูแพงกับการแสดงชั้นเลิศ รวมผสมกันออกมาอย่างหรูจนกลืนเป็นชิ้นเดียวกันเหมือนกล่องของขวัญที่ถูกห่อด้วยกระดาษและริบบิ้นสีทองอย่างไงอย่างงั้น
แม้เนื้อเรื่องจะค่อนข้างนิ่งและดำเนินไปอย่างช้าๆ แต่ถ้าเปรียบกับอาหารแล้ว หนังเรื่องนี้ก็คงจะเป็น ”สตูว์” นั่นเอง ที่ต้องใช้เวลาใจเย็นค่อยๆเคี่ยว ค่อยๆคน สุดท้ายแล้วก็จะได้รสชาติที่เลิศรสกลมกล่อม เพราะมันคือการค่อยๆเรื่อง ปูตัวละคร ค่อยๆบ่มความรู้สึก บ่มอารมณ์ จนมีกลิ่นหอม รสชาติที่อร่อยแบบอ่อนๆแต่ลงตัว แถมอิ่มแต่ก็ไม่หนักท้องจนเกินไป
หนังแยกให้เห็นอย่างชัดเจนถึงบุคลิกตัวละครที่ต่างกันคนละขั้วอย่างสิ้นเชิง โดย
แครอลเป็นสาวสังคมชั้นสูง -เทเรสแป็นแค่พนักงานห้าง
แครอลเป็นผู้ใหญ่และเป็นผู้นำ - เทเรซเป็นเด็กและเป็นผู้ตาม
แครอลสวยและมั่นใจ - เทเรสน่ารักและสับสน
และที่สำคัญคือ สาเหตุของการเริ่มต้นชื่นชอบผู้หญิงด้วยกัน หรือการเป็นเลสเปี้ยนนั้นต่างกัน โดนเทเรสเป็นมาตั้งแต่ในยีนส์แต่ไม่เคยรู้ตัวจนมาเจอแครอล คนที่ถูกใจเข้าจริงๆ การคบผู้ชายของเธอจึงเหมือนกับการตามใจกรอบของสังคมเท่านั้น
แต่แครอลเริ่มแรกมาก็คงจะเป็นผู้หญิงอย่างเราๆที่ตกหลุมรักผู้ชาย จนตกลงปลงใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกันภายใต้ “การแต่งงานที่เป็นหน้าเป็นตาทางสังคม” แล้วเมื่อความรักของฝ่ายชายหมดลง การดูแลเอาใจใส่ในตัวฝ่ายหญิงก็ลดน้อยลงไปตามโปรโมชั่นที่เคยนำเสนอโดยโกงผู้บริโภค ไม่ยอมระบุวันหมดอายุ ฝ่ายหญิงจึงเกิดอาการเหงา ต้องการคนใส่ใจ เข้าใจ แต่เมื่อหันไปคนที่ใส่ใจดูแลเสมอต้นเสมอปลายกลับกลายเป็นเพศเดียวกัน จึงย่อมรู้สึกสับสน เริ่มเกลียดผู้ชาย และเริ่มเบี่ยงเบนความชอบทางเพศไปในที่สุดนั่นเอง
หากดูเผินๆแบบไม่คิดให้ถี่ถ้วน สามีของแครอลก็ดูเหมือนจะใส่ใจ ห่วงใย และแคร์กับสิ่งที่แครอลเป็น จนคอยมาตามตื๊อสารพัด แต่ความจริงแล้วมันคือการรักษาเกียรติของลูกผู้ชาย รวมไปถึงการรักษาหน้าตาทางสังคมเอาไว้โดยเอาลูกมาอ้าง ซึ่งจริงๆแล้วเขาทำเพื่อตัวเองต่างหากหละ จะเรียกว่าเสียใจเสียดายก็คงจะไม่ถูก เรียกว่าหมาหวงก้างน่าจะให้ความหมายได้ใกล้เคียงมากที่สุดค่ะ
ป.ล. นี่เป็นการให้คะแนนจากความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนมีมุมมอง ความชอบ ความคิด ประสบการณ์ สิ่งที่เจอหรือรู้สึกในช่วงที่ดูหนังเรื่องนั้นๆต่างกัน เมื่อคุณไปดูแล้วคุณอาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ ไม่มีอะไรถูกหรือผิด ทุกคนไม่จำเป็นต้องมีความคิดเห็นเหมือนกันค่ะ
สามารถอ่าน Review หนังเรื่องอื่นๆได้ที่เพจ Movies Stalker ค่ะ
https://www.facebook.com/MoviesStalker
[CR] รีวิวหนังเรื่อง Carol - สตรอง สวย หรู
เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในนิวยอร์ค ยุค 50s ที่สังคมยังไม่ค่อยเปิดกว้างและยอมรับความรักระหว่างเพศเดียวกัน Carol (Cate Blanchett) สาวสังคมชั้นสูงได้พบกับ Therese (Rooney Mara) พนักงานห้างสรรพสินค้าโดยบังเอิญระหว่างที่เธอหาซื้อของขวัญให้กับลูกสาว เทเรสซึ่งมีแฟนเป็นผู้ชายอยู่นั้นไม่ค่อยแน่ใจกับความรู้สึกเมื่อพบ แต่ก็ยากที่จะละสายตาจากแครอล นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของเธอทั้งสอง
Carol เป็นหนังอีกเรื่องที่มีกลิ่นของหนังตลบอบอวลไปด้วยความรู้สึกลึกๆของตัวละครที่อึดอัด และไม่สามารถบอกใครได้อย่างเต็มปากเต็มคำถึงสิ่งที่ตัวเองเป็นหรือสิ่งที่ตัวเองกระทำ จนพร้อมที่จะทะลักพรั่งพรูออกมาได้ทุกเมื่อ ในทางกลับกันมันก็เต็มไปด้วยความละมุนทางอารมณ์ โทนสีและภาพที่ดูแพง เสื้อผ้าหน้าผมการแต่งกายที่ดูแพง นักแสดงที่ดูแพงกับการแสดงชั้นเลิศ รวมผสมกันออกมาอย่างหรูจนกลืนเป็นชิ้นเดียวกันเหมือนกล่องของขวัญที่ถูกห่อด้วยกระดาษและริบบิ้นสีทองอย่างไงอย่างงั้น
แม้เนื้อเรื่องจะค่อนข้างนิ่งและดำเนินไปอย่างช้าๆ แต่ถ้าเปรียบกับอาหารแล้ว หนังเรื่องนี้ก็คงจะเป็น ”สตูว์” นั่นเอง ที่ต้องใช้เวลาใจเย็นค่อยๆเคี่ยว ค่อยๆคน สุดท้ายแล้วก็จะได้รสชาติที่เลิศรสกลมกล่อม เพราะมันคือการค่อยๆเรื่อง ปูตัวละคร ค่อยๆบ่มความรู้สึก บ่มอารมณ์ จนมีกลิ่นหอม รสชาติที่อร่อยแบบอ่อนๆแต่ลงตัว แถมอิ่มแต่ก็ไม่หนักท้องจนเกินไป
หนังแยกให้เห็นอย่างชัดเจนถึงบุคลิกตัวละครที่ต่างกันคนละขั้วอย่างสิ้นเชิง โดย
แครอลเป็นสาวสังคมชั้นสูง -เทเรสแป็นแค่พนักงานห้าง
แครอลเป็นผู้ใหญ่และเป็นผู้นำ - เทเรซเป็นเด็กและเป็นผู้ตาม
แครอลสวยและมั่นใจ - เทเรสน่ารักและสับสน
และที่สำคัญคือ สาเหตุของการเริ่มต้นชื่นชอบผู้หญิงด้วยกัน หรือการเป็นเลสเปี้ยนนั้นต่างกัน โดนเทเรสเป็นมาตั้งแต่ในยีนส์แต่ไม่เคยรู้ตัวจนมาเจอแครอล คนที่ถูกใจเข้าจริงๆ การคบผู้ชายของเธอจึงเหมือนกับการตามใจกรอบของสังคมเท่านั้น
แต่แครอลเริ่มแรกมาก็คงจะเป็นผู้หญิงอย่างเราๆที่ตกหลุมรักผู้ชาย จนตกลงปลงใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกันภายใต้ “การแต่งงานที่เป็นหน้าเป็นตาทางสังคม” แล้วเมื่อความรักของฝ่ายชายหมดลง การดูแลเอาใจใส่ในตัวฝ่ายหญิงก็ลดน้อยลงไปตามโปรโมชั่นที่เคยนำเสนอโดยโกงผู้บริโภค ไม่ยอมระบุวันหมดอายุ ฝ่ายหญิงจึงเกิดอาการเหงา ต้องการคนใส่ใจ เข้าใจ แต่เมื่อหันไปคนที่ใส่ใจดูแลเสมอต้นเสมอปลายกลับกลายเป็นเพศเดียวกัน จึงย่อมรู้สึกสับสน เริ่มเกลียดผู้ชาย และเริ่มเบี่ยงเบนความชอบทางเพศไปในที่สุดนั่นเอง
หากดูเผินๆแบบไม่คิดให้ถี่ถ้วน สามีของแครอลก็ดูเหมือนจะใส่ใจ ห่วงใย และแคร์กับสิ่งที่แครอลเป็น จนคอยมาตามตื๊อสารพัด แต่ความจริงแล้วมันคือการรักษาเกียรติของลูกผู้ชาย รวมไปถึงการรักษาหน้าตาทางสังคมเอาไว้โดยเอาลูกมาอ้าง ซึ่งจริงๆแล้วเขาทำเพื่อตัวเองต่างหากหละ จะเรียกว่าเสียใจเสียดายก็คงจะไม่ถูก เรียกว่าหมาหวงก้างน่าจะให้ความหมายได้ใกล้เคียงมากที่สุดค่ะ
ป.ล. นี่เป็นการให้คะแนนจากความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนมีมุมมอง ความชอบ ความคิด ประสบการณ์ สิ่งที่เจอหรือรู้สึกในช่วงที่ดูหนังเรื่องนั้นๆต่างกัน เมื่อคุณไปดูแล้วคุณอาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ ไม่มีอะไรถูกหรือผิด ทุกคนไม่จำเป็นต้องมีความคิดเห็นเหมือนกันค่ะ
สามารถอ่าน Review หนังเรื่องอื่นๆได้ที่เพจ Movies Stalker ค่ะ https://www.facebook.com/MoviesStalker