สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่าน EP.2 ติดตามได้ตามลิ้งค์นี้นะคะ
http://ppantip.com/topic/34782489
สวัสดีตอนเช้าวันที่ 21/12/2558 เช้านี้เราถึงท่าเรือที่จะข้ามไปเกาะบาหลีตอนตี 5 อากาศแจ่มใส ข้ามฟอรี่ไปโดยใช้เวลา 20 นาที
บรรยากาศเช้าๆบนเฟอรรี่ เวลาประมาณ 5.30 น. เช้า ที่นี่สว่างเร็วแล้วก็มืดเร็ว*-*
กว่าจะถึงบาหลีครั้งนี้ไม่ง่ายเลย เราสองคนคิดว่าพอข้ามฝั่งก็ถึงตัวเมืองDepansarหรือตัวเมืองบาหลีเลย แต่ที่จริงไม่เลย ต้องนั่งบัสต่อซึ่งใช้เวลายาวนานกว่าจะถึงDepansarลักษณะทางก็ตามคอนเซ็ปเดิมของอินโดฯเลย แต่ที่นี้หนักกว่าเพราะทางโค้งตามแนวเขา ทางแคบๆโอ้วว..อารมณ์ตอนนั้นท้อมากๆทั้งเหนื่อยทั้งหิว ไม่รู้จะถึงตอนไหน ไม่มีหลักกีโลบอกว่าอีกกี่โลกว่าจะถึง ก็ลุ้นๆไป พอรถเบรคทีนึงก็ชะเง้อมองว่าถึงแล้วยัง?สุดท้ายก็ถึงBus Station Depansar ใช้เวลา5ชม. ลงจากรถทีนี้เราก็มึนๆว่าจะไปโรงแรมยังไง ก็อาศัยแอพพลีเคชั่นแผนที่จากiPhone6sซึ่งโรงแรมกับสถานีใกล้กันก็โชคดีไป เราก็เดินไป ถึงโรงแรมก็เช็คอิน อาบน้ำ นอนพักกันก่อน..เพลียมากๆกับเจ้ามินิบัสอีกแล้ว
พักผ่อนและทานข้าวกันเต็มอิ่มเราพร้อมออกตะลุยกันแล้ว เป้าหมายของเราสองคน คือ จะเช่ามอเตอไซค์ เพราะตอนนั้นคิดว่าเราจะแว้นกันบนเกาะ ก็ถามเคาเตอร์โรงแรมว่าเช่าได้ที่ไหนบ้าง เขาก็บอกว่าที่นี่ไม่มีให้เช่ามอเตอไซค์มีรถยนต์พร้อมคนขับเท่านั้น ไอเราสองคนก็ติดนิสัยคนไทย ไม่เชื่อ!!มันต้องหลอกให้เราเช่ารถยนพร้อมคนขับจากเค้าแน่ๆเลยออกจากโรงแรมมาหากัน แต่ไร้วี่แววที่เช่าเลย ถามชาวบ้านแถวนั้น เค้าก็พูดเหมือนกับเจ้าหน้าที่โรงแรมคนนั้น เราก็คิดกันต่อว่ามันจะเป็นไปได้ยังไง มันต้องมีสิ้!! เรากลับไปตั้งหลักที่โรงแรม ว่าจะเอาไงดี? ก็ลองถาม จนท ว่ารถยนต์พร้อมคนขับเท่าไหร่ ไปที่ไหนบ้าง .. สรุปได้คร่าวๆ คือ เช่ารถยนต์พร้อมคนขับ350,000rupiah/8ชม.(1200บ) โอ้วว้าว!! แพงนะเพราะเราแชร์กันแค่2คน แต่ถ้าไม่ตกลงเราไม่ได้ไปเที่ยวแน่ๆ ก็ตกลงจ่ายไป แต่ละวันที่เช่าเราสามารถเลือกได้ตามใจชอบว่าจะไปไหน สถานที่แต่ละที่ห่างกันมากๆต้องใช้เวลา ทางก็ตามคอนเซ็ปของอินโดฯแคบ รถเยอะเพิ่มเติมที่นี่คือภูเขา
ไกด์ที่นี่ส่วนมากจะพูดอังกฤษได้ วันนั้นเราออกก็ราวๆบ่าย3แล้ว ทริปแรกเราตกลงว่าจะไป Tanah Lot Temple เป็นวิหารที่อยู่บนโขดหินริมทะเล สัญลักษณ์แห่งเกาะบาหลี คนบาหลีจะเรียกวัดนี้ว่า Pura Tanah Lot (Pura = ปุระ = วัด) ห่างจากDenpasar ประมาณ 20 กม. นั่งรถไม่ไกลนักราวๆ40นาที พอไปถึงก็ต้องเสียค่าเข้าไกด์จะเป็นคนออกให้เรา ที่นี่เค้านิยมมาดูพระอาทิตย์ตกกันยามเย็นจะสวย แต่เพราะฟ้าไม่เต็มใจ เราอดดูพระอาทิตย์สวยๆเลย ถ่ายรูปยังไงก็ไม่สวย ฟ้าไม่ใส น้ำทะเลเลยไม่ใส ถ่ายกันจนท้อ55+ก็ไม่ว้าววววกันสักที
ถ่ายยังไงสีก็ไม่สวยสักทีT_T
เราก็เลยถ่ายแบบนี้เลย อยากได้รูปสวยๆ แฮร่ๆ ราคา25,000rupian(50บ)ซึ่งถูกมากๆ
หลังจากที่เราถ่ายรูปกันเสร็จแล้วก็มืดพอดี จะไปไหนต่อ เวลายังเหลือ เราก็เลยบอกไกด์ว่าไป Night Market พอจะมีไหม เค้าก็บอกว่ามี ใหญ่ด้วย เราก็ตกลง ไปก็ไป พอไปถึงปุ้ปก็ใหญ่จริงนะๆแต่เหมือนงานวัดอีกแล้วT_Tเราอยากจะไปเหมือนถนนคนเดินสำหรับนักท่องเที่ยวมากกว่า แต่ไหนๆถึงละ เดินละกัน ไกด์ก็เดินตามเราเพราะเค้าบอกว่ามันอันตรายเดินกันสองคน เดินวนไปมาๆก็ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย กลับๆฮ่าๆ ขากลับกว่าจะถึงรถติดมากๆและเราก็แวะซื้อKFCเพราะเราไม่คิดจะลองกินอาหารที่นี่เลยเพราะหาสะอาดๆค่อนข้างลำบาก ราวๆ3ทุ่มกว่าๆเราก็ถึงที่พักก็ตกลงกับไกด์ว่าพรุ่งนี้เราเช่าอีกวัน เราจะออก 10.00น สำหรับคืนนี้ราตรีสวัสดิ์ที่บาหลี
อรุณสวัสดิ์ยามเช้าวันที่ 22/12/2558 ทริปวันนี้ของเราจะเริ่มเวลา 10.00น.เช้าเราจะไป Pura Besakih บ่าย ภูเขาไฟคินตามานี.Pura Besakih ห่างจากDenpasar60 กม.ราวๆ2ชม. Pura Besakihเป็นสถานที่ไฮไลท์สำคัญที่สุดของบาหลี เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุด สำคัญที่สุดและศักดิ์สิทธิ์ที่สุด หากใครไปเที่ยวบาหลีแล้วห้ามพลาด แต่วันนี้เหมือนฟ้าจะไม่เต็มใจอีกแล้วพอถึงฝนตกหนักมากๆถ่ายรูปไม่สวยอีกแน่ๆเราก็รอจนฝนหยุด ที่นี่ไกด์จะไม่เข้าไปกับเรา การแต่งกายต้องเรียบร้อบ ถ้าใส่ไม่เรียบร้อยก็ต้องนุ่งโสร่ง ก่อนเข้าวัดจะมีกลุ่มผู้ชายคอยเรียก ตอนแรกเราก็ไม่สนใจ จะเดินไป แต่เค้าเรียกให้มาที่โต็ะให้เราเซ็นชื่อพร้อมเขียนจำนวนเงิน เค้าใช้คำว่าDonateเราก็โอเคร ก็ชัก150,000rupiah(300บ)2คน ปรากฎว่า เขาไม่เอา เขาบอกว่าต้องมากกว่านี้ เธอดูสิ้คนอื่นให้เยอะทั้งนั้น เราก็บอกว่าDonateเราจะให้เท่าไหร่ก็ได้ เขาก็บอกว่าใช่ แต่เธอดูสิ้คนอื่นให้เยอะทั้งนั้น เริ่มคุยไม่รู้เรื่องเลยเดินไปบอกไกด์ ไกด์มาคุยก็ตกลงได้ราคา150,000rupiah(300บ)2คน สรุปก็ค่าเข้าดีๆนี้เองT_T หลังจากนั้นก็จะมีไกด์ประจำถิ่นพาเราชมวัดพร้อมบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ ฟังจับใจความได้บ้างไม่ได้บ้าง เค้าเล่าว่า Pura Besakih อยู่บนลาดเขาชันของ กูนุง อากุง(Mount-ภูเขา-กูนุง)เป็นภูเขาที่สูงสุดในบาหลี วัดแห่งนี้ถือเป็นMother Templeของบาหลี เป็นสถานที่สวดบูชาที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของบาหลี ระหว่างทางก็จะมีขายของที่ระลึก ผ้าพันคอ โสร่ง เสื้อและภาพวาดสวยๆ ราวๆ 1กม เราก็ถึงหน้า Pura Besakih โอ้ววว้าววว !! สวยงามมากๆ ดุยิ่งใหญ่มาก เรานับถือต่างศาสนา เรามาเที่ยวชมเก็บภาพเท่านั้นคะ
พอเข้าถึงด้านหน้าวัดฝนดันหยุดตกพอดี ฟ้าเริ่มใส แต่ภาพก็ยังเบลอๆอิอิ
บรรไดหน้าวัด
จังหวะไปถึงเค้ามีพิธีพอดี จำไม่ได้ว่าพิธีอะไรแต่เป็นของคนฮินดู แฮร่ๆ
แนะนำว่าใครมีกล้องดีๆ พาไปเลย สถานที่จริงสวยงามมากๆ
หลังจากนั้นเราเก็บภาพพอสมควรแล้วเราก็ออกเพื่อไปภูเขาไฟคินตามานี เป็นภูเขาไฟติดกับทะเลสาบที่เกิดจากการยุบตัวของภูเขาไฟ ห่างกันประมาณ 20กม.ราวๆ 40 นาที พอถึงเราก้ร้องโอ้วววว้าววว!!อีกรอบ สวยงามแปลกตามากๆ อากาศดี วิวสวย ลมพัดเบาๆ รู้สึกอลอุ่น ที่นี่เป็นจุดชมวิวให้เราถ่ายรูปเฉยๆไม่มีอะไรมาก แต่สวยมากๆ
ทะเลสาบที่เกิดจากการยุบตัวของภูเขาไฟ
ภูเขาไฟคินตามานี
เรารักกัน อิอิ
หลังจากเก็บเก็บภาพเสร็จแล้วเรายังเหลือเวลาอีกเยอะ เราจะไปไหนกันดีที่ไม่ไกลมากก็มีทะเล Semiyak เราเลยไปกัน ใช้เวลา 1ชม. กว่าจะถึงแต่ไปถึงไม่เห็นทะเล ฮ่าๆ มืดแล้ว อีกอย่างทะเลนี้ ไม่มีถนนติดทะเล มีโรงแรมหรูๆสวยๆติดทะเลไปหมด จากนั้นเรากลับที่พักก็แวะKFCตามเดิม ฮ่าๆๆ คืนที่2ที่บาหลี เราก็นอนหลับฝันดี เจอกันพรุ่งนี้เช้านะคะZZzzz
มอนิ่งเช้าวันที่ 23/12/2558 วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริปเราแล้ว ไฟลทของเรา 22.00 น.ซึ่งเรามีเวลาเที่ยวอีกทั้งวัน เราจะไปไหนกันดี วันนี้ก็เลยตกลงว่าเช่ารถอีกวันกับเจ้าเดิม ราคาเดิม ทริปของเราวันนี้เราจะไป Uluwatu Temple(Water Temple),Dream Land Beach,Jimbaran Beach และ Airport ฮ่าๆ เป้าหมายแรกเราถึงUluwatu Temple ใช้เวลาจากDepansarราวๆ2ชม.กว่าจะถึง เสียค่าเข้า15,000rupiah(30บ)ต่อคน ระหว่างทางเข้าวัดระวังเจ้าลิงหน่อยนะ55+พอเข้าถึงบอกเลยว่าวิวสวยงามมากๆ ทะเลสีฟ้าเข้ม หน้าผาสวยมากๆ ที่นี่ไม่มีอะไรมาก ถ่ายรูป ดุวิวสวยๆแค่นั้นละคะ
ด้านหน้าWater Temple
จุดนี้ต้องเดินเข้าไปลึกหน่อยนะคะ
จากนั้นเราก็ออกเพื่อไปDream Land Beach ระหว่างทางก็ไกลเช่นเดิมราวๆ1ชม.กว่าจะถึง พอไปถึงมันเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล เสียค่าเข้าจ่ายทั้งคนทั้งรถ50,000rupiah(120บ) แล้วเราต้องขึ้นรถตู้เก่าๆไม่มีแอร์ ไม่มีกระจกอีกทีเพื่อขึ้นไปยัง Dream Land Beachรถบริการฟรี นั่งประมาณ 10 นาที ถึงหน้าหาดเราต้องเดินลงไปนิดนึง พอเห็นหาดเท่านั้นแหละ สวยงาม เป็นผาสูงๆแต่ไม่มีอะไรเลย เป็นหาดเล็กๆไม่มีโรงแรม มีร้านอาหารแค่1ร้านเดินไม่ถึง5นาทีก็สุดหาด แฮร่ๆ Dream Land Beach จริงๆ
หน้าผา Dream Land Beach
บรรยากาศหาดเล็กๆ
Dream Land Beach
จากนั้นเราก็ออกจากDream Land Beach เพื่อไปเกาะสวาทหาดสวรรค์ของบาหลีซึ่งมีชายหาดที่เลื่องชื่อระดับโลกอยู่ 2 แห่งคือ KutaและJimbaranโดยหาดทั้งสองแห่งอยู่ใกล้กันแต่มีสนามบิน Ngurah Rai มาคั่นไว้ตรงกลาง เราเลือกที่จะไปหาดJimbaranเพื่อไปทานอาหารซีฟู้ดที่ขึ้นชื่อว่าแพงและอร่อยของเกาะบาหลี ใช้เวลาราวๆเกือบชั่วโมงกว่าจะถึง พอถึงไกด์จะจอดส่งเราหน้าร้าน เราก็เข้าไปร้านอาหาร ติดทะเล มีโต้ะวางบนชายหาดเลย เห็นเครื่องบินขึ้นลงใกล้มากๆ แต่พอไปถึงฟ้าเริ่มมืดสั่งอาหารไม่ทันมา ฝนตกลงมาหนักเลย แง้ๆ เราเลยต้องย้ายจากโต้ะหน้าหาดเข้ามาในร้าน
ก่อนฝนจะตก Jimbaran Beach
หลังจากทานซีฟู้ดเสร็จแล้ว เช็คบิลทั้งหมดสามแสนห้า โอ้ววรวยๆอีกแล้ว 55+ 350,000rupiah(900บ)ถือว่าราคาปกติมากๆ เราสั่งไปมีปลาหมึกย่าง กุ้งเผา ข้าวโถนึง ผัดผัก น้ำโค้ก2ขวด เราไม่ได้ถ่ายภาพอาหารไว้ หิวรีบกินเลย 55+ อิ่มแล้ว เราก็ไป Ngurah Rai International Airport เพื่อเดินทางกลับไปยัง Kuala lumpur ไฟลท์Airasia 22.00น. ไกด์คนเดิมไปส่งเราถึงที่หมายอย่างปลอดภัย สิ้นสุดทริปที่บาหลี เต้มอิ่มคุ้ม
Ngurah Rai International Airport สนามบินค่อนข้างใหญ่ มีร้านค้าปลอดภัยภาษีเยอะ
การเดินทางครั้งนี้ต้องขอบคุณน้องนาคนสวย ตัวเล็กแต่ใจสู้ ชวนเรามาแบบปุ้ปปั้ป ชวนปุ้ป บุ้คเลย มากันสองคน ไม่ได้แพลนอะไรเลย แค่ใจกล้า อย่างเดียวเลย ขอบคุณจริงๆและขอบคุณทำให้รู้สึกว่าเพื่อนร่วมทางนั้นสำคัญ
Next trip see you น้องนา
สำหรับใครที่อยากจะมาเที่ยวอินโดฯนั้น แนะนำให้มาเมืองเดียวดีกว่าหรือถ้าจะมาหลายเมือง ควรเผื่อเวลาเยอะๆ เพราะการเดินทางค่อนข้างช้า แต่ละที่แต่ละเมืองไกลกันมากๆ ถ้ามาหลายเมือง การเดินทางระหว่างเมืองแนะนำเป็นรถไฟกับเครื่องบินดีกว่า ปลอดภัยและสะดวกกว่านั่งรถ และทุกสถานที่มีค่าเข้า แฮร่ๆ ส่วนค่าครองชีพที่นี่ถือว่าถูก อาหารการกินราคาทั่วไปแบบบ้านเรา ภาษาก็จะเป็นภาษาถิ่นสะส่วนใหญ่ ยกเว้นที่บาหลีจะพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง คนอินโดฯใจดีมีมารยาท ถ้าใครมีโอกาศไปเที่ยวอย่าลืมแพลนดีๆนะคะ งบครั้งนี้กับ3เมือง6วัน5คืน เราหมดไม่ถึงหมื่น ประมาณ 8 พันบาทไทย รวมค่าตั๋ว ค่าโรงแรมที่บาหลีเรียบร้อยแล้ว ถือว่าประหยัดมากๆและได้ไปถึงทุกที่ ที่เราตั้งใจ แพลนไว้ว่าจะไป*-*
และการเดินทางครั้งนี้ขอบคุณเพื่อนคนไทยในอินโดฯที่พาเที่ยว พากิน เทคแคร์ ทุกการเดินทาง ขอบคุณน้องมูซา เพื่อนร่วมงาน ที่แนะนำเพื่อนคนไทยในอินโดฯอีกที
และขอบคุณเพื่อนๆที่อ่านกันมาจนจบ อิอิ และภาพถ่ายทั้งหมดถ่ายจากกล้อง iPhone6s*-
[CR] เที่ยว Indonesia ประหยัดเกินคาด 3เมือง6วัน5คืน ไปเองไม่ง้อทัวร์ แค่ใจกล้า EP.3 Bhali
สวัสดีตอนเช้าวันที่ 21/12/2558 เช้านี้เราถึงท่าเรือที่จะข้ามไปเกาะบาหลีตอนตี 5 อากาศแจ่มใส ข้ามฟอรี่ไปโดยใช้เวลา 20 นาที
บรรยากาศเช้าๆบนเฟอรรี่ เวลาประมาณ 5.30 น. เช้า ที่นี่สว่างเร็วแล้วก็มืดเร็ว*-*
กว่าจะถึงบาหลีครั้งนี้ไม่ง่ายเลย เราสองคนคิดว่าพอข้ามฝั่งก็ถึงตัวเมืองDepansarหรือตัวเมืองบาหลีเลย แต่ที่จริงไม่เลย ต้องนั่งบัสต่อซึ่งใช้เวลายาวนานกว่าจะถึงDepansarลักษณะทางก็ตามคอนเซ็ปเดิมของอินโดฯเลย แต่ที่นี้หนักกว่าเพราะทางโค้งตามแนวเขา ทางแคบๆโอ้วว..อารมณ์ตอนนั้นท้อมากๆทั้งเหนื่อยทั้งหิว ไม่รู้จะถึงตอนไหน ไม่มีหลักกีโลบอกว่าอีกกี่โลกว่าจะถึง ก็ลุ้นๆไป พอรถเบรคทีนึงก็ชะเง้อมองว่าถึงแล้วยัง?สุดท้ายก็ถึงBus Station Depansar ใช้เวลา5ชม. ลงจากรถทีนี้เราก็มึนๆว่าจะไปโรงแรมยังไง ก็อาศัยแอพพลีเคชั่นแผนที่จากiPhone6sซึ่งโรงแรมกับสถานีใกล้กันก็โชคดีไป เราก็เดินไป ถึงโรงแรมก็เช็คอิน อาบน้ำ นอนพักกันก่อน..เพลียมากๆกับเจ้ามินิบัสอีกแล้ว
พักผ่อนและทานข้าวกันเต็มอิ่มเราพร้อมออกตะลุยกันแล้ว เป้าหมายของเราสองคน คือ จะเช่ามอเตอไซค์ เพราะตอนนั้นคิดว่าเราจะแว้นกันบนเกาะ ก็ถามเคาเตอร์โรงแรมว่าเช่าได้ที่ไหนบ้าง เขาก็บอกว่าที่นี่ไม่มีให้เช่ามอเตอไซค์มีรถยนต์พร้อมคนขับเท่านั้น ไอเราสองคนก็ติดนิสัยคนไทย ไม่เชื่อ!!มันต้องหลอกให้เราเช่ารถยนพร้อมคนขับจากเค้าแน่ๆเลยออกจากโรงแรมมาหากัน แต่ไร้วี่แววที่เช่าเลย ถามชาวบ้านแถวนั้น เค้าก็พูดเหมือนกับเจ้าหน้าที่โรงแรมคนนั้น เราก็คิดกันต่อว่ามันจะเป็นไปได้ยังไง มันต้องมีสิ้!! เรากลับไปตั้งหลักที่โรงแรม ว่าจะเอาไงดี? ก็ลองถาม จนท ว่ารถยนต์พร้อมคนขับเท่าไหร่ ไปที่ไหนบ้าง .. สรุปได้คร่าวๆ คือ เช่ารถยนต์พร้อมคนขับ350,000rupiah/8ชม.(1200บ) โอ้วว้าว!! แพงนะเพราะเราแชร์กันแค่2คน แต่ถ้าไม่ตกลงเราไม่ได้ไปเที่ยวแน่ๆ ก็ตกลงจ่ายไป แต่ละวันที่เช่าเราสามารถเลือกได้ตามใจชอบว่าจะไปไหน สถานที่แต่ละที่ห่างกันมากๆต้องใช้เวลา ทางก็ตามคอนเซ็ปของอินโดฯแคบ รถเยอะเพิ่มเติมที่นี่คือภูเขา ไกด์ที่นี่ส่วนมากจะพูดอังกฤษได้ วันนั้นเราออกก็ราวๆบ่าย3แล้ว ทริปแรกเราตกลงว่าจะไป Tanah Lot Temple เป็นวิหารที่อยู่บนโขดหินริมทะเล สัญลักษณ์แห่งเกาะบาหลี คนบาหลีจะเรียกวัดนี้ว่า Pura Tanah Lot (Pura = ปุระ = วัด) ห่างจากDenpasar ประมาณ 20 กม. นั่งรถไม่ไกลนักราวๆ40นาที พอไปถึงก็ต้องเสียค่าเข้าไกด์จะเป็นคนออกให้เรา ที่นี่เค้านิยมมาดูพระอาทิตย์ตกกันยามเย็นจะสวย แต่เพราะฟ้าไม่เต็มใจ เราอดดูพระอาทิตย์สวยๆเลย ถ่ายรูปยังไงก็ไม่สวย ฟ้าไม่ใส น้ำทะเลเลยไม่ใส ถ่ายกันจนท้อ55+ก็ไม่ว้าววววกันสักที
ถ่ายยังไงสีก็ไม่สวยสักทีT_T
เราก็เลยถ่ายแบบนี้เลย อยากได้รูปสวยๆ แฮร่ๆ ราคา25,000rupian(50บ)ซึ่งถูกมากๆ
หลังจากที่เราถ่ายรูปกันเสร็จแล้วก็มืดพอดี จะไปไหนต่อ เวลายังเหลือ เราก็เลยบอกไกด์ว่าไป Night Market พอจะมีไหม เค้าก็บอกว่ามี ใหญ่ด้วย เราก็ตกลง ไปก็ไป พอไปถึงปุ้ปก็ใหญ่จริงนะๆแต่เหมือนงานวัดอีกแล้วT_Tเราอยากจะไปเหมือนถนนคนเดินสำหรับนักท่องเที่ยวมากกว่า แต่ไหนๆถึงละ เดินละกัน ไกด์ก็เดินตามเราเพราะเค้าบอกว่ามันอันตรายเดินกันสองคน เดินวนไปมาๆก็ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย กลับๆฮ่าๆ ขากลับกว่าจะถึงรถติดมากๆและเราก็แวะซื้อKFCเพราะเราไม่คิดจะลองกินอาหารที่นี่เลยเพราะหาสะอาดๆค่อนข้างลำบาก ราวๆ3ทุ่มกว่าๆเราก็ถึงที่พักก็ตกลงกับไกด์ว่าพรุ่งนี้เราเช่าอีกวัน เราจะออก 10.00น สำหรับคืนนี้ราตรีสวัสดิ์ที่บาหลี
อรุณสวัสดิ์ยามเช้าวันที่ 22/12/2558 ทริปวันนี้ของเราจะเริ่มเวลา 10.00น.เช้าเราจะไป Pura Besakih บ่าย ภูเขาไฟคินตามานี.Pura Besakih ห่างจากDenpasar60 กม.ราวๆ2ชม. Pura Besakihเป็นสถานที่ไฮไลท์สำคัญที่สุดของบาหลี เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุด สำคัญที่สุดและศักดิ์สิทธิ์ที่สุด หากใครไปเที่ยวบาหลีแล้วห้ามพลาด แต่วันนี้เหมือนฟ้าจะไม่เต็มใจอีกแล้วพอถึงฝนตกหนักมากๆถ่ายรูปไม่สวยอีกแน่ๆเราก็รอจนฝนหยุด ที่นี่ไกด์จะไม่เข้าไปกับเรา การแต่งกายต้องเรียบร้อบ ถ้าใส่ไม่เรียบร้อยก็ต้องนุ่งโสร่ง ก่อนเข้าวัดจะมีกลุ่มผู้ชายคอยเรียก ตอนแรกเราก็ไม่สนใจ จะเดินไป แต่เค้าเรียกให้มาที่โต็ะให้เราเซ็นชื่อพร้อมเขียนจำนวนเงิน เค้าใช้คำว่าDonateเราก็โอเคร ก็ชัก150,000rupiah(300บ)2คน ปรากฎว่า เขาไม่เอา เขาบอกว่าต้องมากกว่านี้ เธอดูสิ้คนอื่นให้เยอะทั้งนั้น เราก็บอกว่าDonateเราจะให้เท่าไหร่ก็ได้ เขาก็บอกว่าใช่ แต่เธอดูสิ้คนอื่นให้เยอะทั้งนั้น เริ่มคุยไม่รู้เรื่องเลยเดินไปบอกไกด์ ไกด์มาคุยก็ตกลงได้ราคา150,000rupiah(300บ)2คน สรุปก็ค่าเข้าดีๆนี้เองT_T หลังจากนั้นก็จะมีไกด์ประจำถิ่นพาเราชมวัดพร้อมบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ ฟังจับใจความได้บ้างไม่ได้บ้าง เค้าเล่าว่า Pura Besakih อยู่บนลาดเขาชันของ กูนุง อากุง(Mount-ภูเขา-กูนุง)เป็นภูเขาที่สูงสุดในบาหลี วัดแห่งนี้ถือเป็นMother Templeของบาหลี เป็นสถานที่สวดบูชาที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของบาหลี ระหว่างทางก็จะมีขายของที่ระลึก ผ้าพันคอ โสร่ง เสื้อและภาพวาดสวยๆ ราวๆ 1กม เราก็ถึงหน้า Pura Besakih โอ้ววว้าววว !! สวยงามมากๆ ดุยิ่งใหญ่มาก เรานับถือต่างศาสนา เรามาเที่ยวชมเก็บภาพเท่านั้นคะ
พอเข้าถึงด้านหน้าวัดฝนดันหยุดตกพอดี ฟ้าเริ่มใส แต่ภาพก็ยังเบลอๆอิอิ
บรรไดหน้าวัด
จังหวะไปถึงเค้ามีพิธีพอดี จำไม่ได้ว่าพิธีอะไรแต่เป็นของคนฮินดู แฮร่ๆ
แนะนำว่าใครมีกล้องดีๆ พาไปเลย สถานที่จริงสวยงามมากๆ
หลังจากนั้นเราเก็บภาพพอสมควรแล้วเราก็ออกเพื่อไปภูเขาไฟคินตามานี เป็นภูเขาไฟติดกับทะเลสาบที่เกิดจากการยุบตัวของภูเขาไฟ ห่างกันประมาณ 20กม.ราวๆ 40 นาที พอถึงเราก้ร้องโอ้วววว้าววว!!อีกรอบ สวยงามแปลกตามากๆ อากาศดี วิวสวย ลมพัดเบาๆ รู้สึกอลอุ่น ที่นี่เป็นจุดชมวิวให้เราถ่ายรูปเฉยๆไม่มีอะไรมาก แต่สวยมากๆ
ทะเลสาบที่เกิดจากการยุบตัวของภูเขาไฟ
ภูเขาไฟคินตามานี
เรารักกัน อิอิ
หลังจากเก็บเก็บภาพเสร็จแล้วเรายังเหลือเวลาอีกเยอะ เราจะไปไหนกันดีที่ไม่ไกลมากก็มีทะเล Semiyak เราเลยไปกัน ใช้เวลา 1ชม. กว่าจะถึงแต่ไปถึงไม่เห็นทะเล ฮ่าๆ มืดแล้ว อีกอย่างทะเลนี้ ไม่มีถนนติดทะเล มีโรงแรมหรูๆสวยๆติดทะเลไปหมด จากนั้นเรากลับที่พักก็แวะKFCตามเดิม ฮ่าๆๆ คืนที่2ที่บาหลี เราก็นอนหลับฝันดี เจอกันพรุ่งนี้เช้านะคะZZzzz
มอนิ่งเช้าวันที่ 23/12/2558 วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริปเราแล้ว ไฟลทของเรา 22.00 น.ซึ่งเรามีเวลาเที่ยวอีกทั้งวัน เราจะไปไหนกันดี วันนี้ก็เลยตกลงว่าเช่ารถอีกวันกับเจ้าเดิม ราคาเดิม ทริปของเราวันนี้เราจะไป Uluwatu Temple(Water Temple),Dream Land Beach,Jimbaran Beach และ Airport ฮ่าๆ เป้าหมายแรกเราถึงUluwatu Temple ใช้เวลาจากDepansarราวๆ2ชม.กว่าจะถึง เสียค่าเข้า15,000rupiah(30บ)ต่อคน ระหว่างทางเข้าวัดระวังเจ้าลิงหน่อยนะ55+พอเข้าถึงบอกเลยว่าวิวสวยงามมากๆ ทะเลสีฟ้าเข้ม หน้าผาสวยมากๆ ที่นี่ไม่มีอะไรมาก ถ่ายรูป ดุวิวสวยๆแค่นั้นละคะ
ด้านหน้าWater Temple
จุดนี้ต้องเดินเข้าไปลึกหน่อยนะคะ
จากนั้นเราก็ออกเพื่อไปDream Land Beach ระหว่างทางก็ไกลเช่นเดิมราวๆ1ชม.กว่าจะถึง พอไปถึงมันเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล เสียค่าเข้าจ่ายทั้งคนทั้งรถ50,000rupiah(120บ) แล้วเราต้องขึ้นรถตู้เก่าๆไม่มีแอร์ ไม่มีกระจกอีกทีเพื่อขึ้นไปยัง Dream Land Beachรถบริการฟรี นั่งประมาณ 10 นาที ถึงหน้าหาดเราต้องเดินลงไปนิดนึง พอเห็นหาดเท่านั้นแหละ สวยงาม เป็นผาสูงๆแต่ไม่มีอะไรเลย เป็นหาดเล็กๆไม่มีโรงแรม มีร้านอาหารแค่1ร้านเดินไม่ถึง5นาทีก็สุดหาด แฮร่ๆ Dream Land Beach จริงๆ
หน้าผา Dream Land Beach
บรรยากาศหาดเล็กๆ
Dream Land Beach
จากนั้นเราก็ออกจากDream Land Beach เพื่อไปเกาะสวาทหาดสวรรค์ของบาหลีซึ่งมีชายหาดที่เลื่องชื่อระดับโลกอยู่ 2 แห่งคือ KutaและJimbaranโดยหาดทั้งสองแห่งอยู่ใกล้กันแต่มีสนามบิน Ngurah Rai มาคั่นไว้ตรงกลาง เราเลือกที่จะไปหาดJimbaranเพื่อไปทานอาหารซีฟู้ดที่ขึ้นชื่อว่าแพงและอร่อยของเกาะบาหลี ใช้เวลาราวๆเกือบชั่วโมงกว่าจะถึง พอถึงไกด์จะจอดส่งเราหน้าร้าน เราก็เข้าไปร้านอาหาร ติดทะเล มีโต้ะวางบนชายหาดเลย เห็นเครื่องบินขึ้นลงใกล้มากๆ แต่พอไปถึงฟ้าเริ่มมืดสั่งอาหารไม่ทันมา ฝนตกลงมาหนักเลย แง้ๆ เราเลยต้องย้ายจากโต้ะหน้าหาดเข้ามาในร้าน
ก่อนฝนจะตก Jimbaran Beach
หลังจากทานซีฟู้ดเสร็จแล้ว เช็คบิลทั้งหมดสามแสนห้า โอ้ววรวยๆอีกแล้ว 55+ 350,000rupiah(900บ)ถือว่าราคาปกติมากๆ เราสั่งไปมีปลาหมึกย่าง กุ้งเผา ข้าวโถนึง ผัดผัก น้ำโค้ก2ขวด เราไม่ได้ถ่ายภาพอาหารไว้ หิวรีบกินเลย 55+ อิ่มแล้ว เราก็ไป Ngurah Rai International Airport เพื่อเดินทางกลับไปยัง Kuala lumpur ไฟลท์Airasia 22.00น. ไกด์คนเดิมไปส่งเราถึงที่หมายอย่างปลอดภัย สิ้นสุดทริปที่บาหลี เต้มอิ่มคุ้ม
Ngurah Rai International Airport สนามบินค่อนข้างใหญ่ มีร้านค้าปลอดภัยภาษีเยอะ
การเดินทางครั้งนี้ต้องขอบคุณน้องนาคนสวย ตัวเล็กแต่ใจสู้ ชวนเรามาแบบปุ้ปปั้ป ชวนปุ้ป บุ้คเลย มากันสองคน ไม่ได้แพลนอะไรเลย แค่ใจกล้า อย่างเดียวเลย ขอบคุณจริงๆและขอบคุณทำให้รู้สึกว่าเพื่อนร่วมทางนั้นสำคัญ
Next trip see you น้องนา
สำหรับใครที่อยากจะมาเที่ยวอินโดฯนั้น แนะนำให้มาเมืองเดียวดีกว่าหรือถ้าจะมาหลายเมือง ควรเผื่อเวลาเยอะๆ เพราะการเดินทางค่อนข้างช้า แต่ละที่แต่ละเมืองไกลกันมากๆ ถ้ามาหลายเมือง การเดินทางระหว่างเมืองแนะนำเป็นรถไฟกับเครื่องบินดีกว่า ปลอดภัยและสะดวกกว่านั่งรถ และทุกสถานที่มีค่าเข้า แฮร่ๆ ส่วนค่าครองชีพที่นี่ถือว่าถูก อาหารการกินราคาทั่วไปแบบบ้านเรา ภาษาก็จะเป็นภาษาถิ่นสะส่วนใหญ่ ยกเว้นที่บาหลีจะพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง คนอินโดฯใจดีมีมารยาท ถ้าใครมีโอกาศไปเที่ยวอย่าลืมแพลนดีๆนะคะ งบครั้งนี้กับ3เมือง6วัน5คืน เราหมดไม่ถึงหมื่น ประมาณ 8 พันบาทไทย รวมค่าตั๋ว ค่าโรงแรมที่บาหลีเรียบร้อยแล้ว ถือว่าประหยัดมากๆและได้ไปถึงทุกที่ ที่เราตั้งใจ แพลนไว้ว่าจะไป*-*
และการเดินทางครั้งนี้ขอบคุณเพื่อนคนไทยในอินโดฯที่พาเที่ยว พากิน เทคแคร์ ทุกการเดินทาง ขอบคุณน้องมูซา เพื่อนร่วมงาน ที่แนะนำเพื่อนคนไทยในอินโดฯอีกที และขอบคุณเพื่อนๆที่อ่านกันมาจนจบ อิอิ และภาพถ่ายทั้งหมดถ่ายจากกล้อง iPhone6s*-