เหตุเกิดขึ้นเมื่อเช้าเวลาประมาณแปดโมงห้าสิบ เรานั่งรถแท็กซี่สีชมพู จากแจ้งวัฒนะไปหมู่บ้านแถวท่าอิฐ  บริษัทเราเป็นโฮมออฟฟิศ ระหว่างทางก็ฟังคนขับพูดเรื่องรถมือสองไปเรื่อย คนขับใส่กางเกงขาสั้น สวมเสื้อกันหนาว เราเพิ่งสังเกตว่าเขาแต่งตัวไม่เรียบร้อย สังเกตป้ายด้านหน้าก็ลืมไม่ตรง คิดในใจสงสัยเขาเอารถพ่อมาขับ หรือไม่ก็ของอีกกะ พอหันมาเจอมิเตอร์อีกทีก็รู้สึกตกใจเพราะวิ่งมาได้แค่ครึ่งทาง แต่ค่าโดยสารแพงกว่าที่จ่ายทุกวัน จึงจับตาดูมิเตอร์เลย รู้สึกได้ว่าบางช่วงมิเตอร์ขึ้นเร็วกว่าปกติ แต่ลักษณะมิเตอร์ก็ปกติดี การเก็บลวดก็เรียบร้อยดี แต่วันนี้ก็เหมือนทุกวัน รถติดบางช่วงตอนจุดที่รถมารวมกัน เรากำเงินเท่ากับที่จ่ายทุกวันไว้แน่น  พอถึงหน้าบริษัทเลยรวบรวมความกล้าเพราะทำใจที่จะจ่ายไม่ได้จริงๆ เลยถามคนขับว่าจะให้จ่ายเท่าไหร่ เพราะทำใจจ่ายราคานี้ไม่ได้จริงๆ เคยจ่ายแค่นี้ คนขับเลยพูดแบบตกใจว่าจริงเหรอ ผมไม่รู้จริงๆนะเนี่ย ทำไมไม่บอกผมตั้งแต่แรก เราบอกกับคนขับว่า "ถามรปภ. ดูได้ เพราะเขาต้องจดทะเบียนรถแท็กซี่ที่เข้าหมู่บ้านทุกคัน และเราก็มาทำงานเวลาไล่เลี่ยกันทุกวัน" ตอนส่งเงินให้เราพูดว่าไม่แจ้งหรอก แต่ไปเช็คมิเตอร์ดูเผื่อไปเจอคนอื่นอาจจะเป็นเรื่องได้ แถมเรายกมือไหว้เขาอีกนะ บอกว่าขอโทษจริงๆที่จ่ายท่านี้ (ในใจเรารู้สึกไม่ดีที่จ่ายเงินเท่ากับจำนวนมิเตอร์ไม่ได้)    

                อีกอย่างเรานั่งแท็กซี่เส้นทางนี้เวลาเดิมมาเป็นร้อยคัน ค่าโดยสารเท่ากันตลอด เราจะจ่ายเกินประมาณ 5 บาทอยู่แล้ว เนื่องจากบางคันก็ฉวยโอกาสไม่ถอน บางคันจะถอน เราก็บอกไม่เป็นไรค่ะ หนูจ่ายราคานี้ทุกวันอยู่แล้ว ค่ารถอาจต่างกันบ้างในวันที่มีอุบัติเหตุ เพราะรถจะติดกว่าปกติ เพราะเส้นทางนี้เป็นขาออกรถจะไหลวิ่งได้สะดวก ผิดกับฝั่งตรงข้ามที่เป็นขาเข้าติดตั้งแต่ก่อนขึ้นสะพานพระรามสี่ ยาวไปจนถึงหลักสี่ เรานั่งแท็กซี่เป็นประจำเลยได้ความรู้มาว่าแท็กซี่บางคัน รถก็หมดอายุแล้วแต่มาวิ่งแถวชานเมือง เพราะค่าปรับที่ไม่คืนมิเตอร์ไม่แพงจนเกินไป แค่แจ้งว่ามิเตอร์หาย เราในฐานะผู้ใช้บริการแท็กซี่เป็นประจำอยากฝากถึงคนขับแท็กซี่ทุกคนให้ตรวจสภาพมิเตอร์ สภาพรถ แก็ส และสภาพตัวเองก่อนจะออกมาขับรถบริการผู้โดยสาร เพื่อความปลอดภัยและความประทับใจของผู้โดยสาร

                และที่สำคัญผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็น วินมอเตอร์ไซน์  รถสองแถว รถเมล์ รถตู้ แท็กซี่ เรือ อื่นๆ  ต้องดูแลตัวเองด้วย คนขับเหล่านี้เขามีอาชีพรับจ้าง หลายครั้งก็ขาดสติขับเร็วเพื่อแย่งผู้โดยสาร ตัวอย่างเราเคยเกิดเหตุกับวินมอเตอร์ไซน์มาแล้ว  ในเช้าวันที่ฝนตกเดือนมกราคม ปี 2558 ถนนก็ลื่นตามระเบียบ (ถนนแถวแจ้งนี่เยี่ยมเลย  หลุมแบบนี้มอไซน์อย่าวิ่งดีกว่า เอาปลากัดมาเลี้ยงได้เลย) มอไซน์คันที่เรานั่งก็ไม่ถึงกับเร็วมาก แต่ก่อนขึ้นสะพานหลักสี่มีหลุ่มอยู่ ล้อเลยแฉลบ ทำให้ลื่น มือซ้ายเราจับท้ายมอไซน์มือขวาดึงเสื้อวิน  ตอนล้มรถกระเด็นไปทางซ้าย เรากับวินมอไซน์กระเด็นมาทางฟุตบาลหมุนเป็นวงกลมเลย ภาพก่อนล้มเรามองเห็นฟุตบาท ในใจคิดว่าโดนแน่เลย แต่เคราะห์ดีที่ไม่โดนฟุตบาท แค่แขนขวาถากไปกับพื้นคอนกรีต หลังมือขวา ข้อศอกเต็มไปด้วยเลือดและเศษฝุ่นดำๆ ตอนลุกยื่นขึ้นความคิดแรกในหัวคือสมน้ำหน้าตัวเอง ที่ไม่ได้ใส่หมวกกันน็อค โชคดีแค่ไหนที่หัวไม่ฟาดฟุตบาท และรถที่ตามมาขับไม่เร็วเพราะฝนตก จึงชะลอให้ จึงอยากฝากให้ทุกคนดูแลตัวเองและมีสติกันด้วยค่ะ