มาแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ กับการปั่นจักรยานครับ เพิ่งมาได้เขียนเรียบเรียงอยู่นานเลย
เมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานของ Sponsor Bike Together
บอกเลยว่าไม่เคยได้ไปปั่นจักรยานอะไรไกลแบบนี้ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว ก็ชอบปั่นจักรยานครับ
ปั่นไปทำงานบ้างที่ไกลสุดก็เห็นจะเป็นวันพ่อ ก็เลยอยากทดสอบความ Strong ของตัวเอง ซึ่งทาง Sponsor ได้มีแคมเปญนักปั่นขึ้นมา
เป็นการปั่นจักรยานระยะทางไกลจากกรุงเทพสู่สวนผึ้ง ด้วยระยะทาง 170 กิโลเมตร
ที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติและขุนเขา ซึ่งสร้างความท้าทายให้กับผู้รักการปั่นจักรยานมากครับ
อีกอย่างคือเขาบริจาคจักรยานให้กับน้องโรงเรียนที่ห่างไกลด้วย ตัดสินใจกดสมัครทันที
เริ่มต้นจุด start มีผู้เข้าร่วมงานเยอะมากเลยครับ ทุกคนมาถึงจุดลงทะเบียนตั้งแต่เช้าตรู่ ลงทะเบียนตั้งแต่ 05.00 – 07.00 น.
ผมมาเตรียมตัวตั้งแต่ตีห้ากว่าๆ รู้สึกตื่นเต้น สาวๆก็มาร่วมปั่นกันเยอะครับ ผมได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนนักปั่น
บางคนมาร่วมงานนี้ตั้งแต่ปีที่แล้ว เล่าให้ผมฟังว่า ตนเองชอบในการปั่นจักรยานและด้วยทิวทัศน์ระหว่างทางที่สวยงาม ทำให้อยากมาอีกครั้ง
หลังจากที่รับประทานอาหารเช้า ประมานเจ็ดโมงครึ่งเริ่มปล่อยตัวจากจุด start โดยมีนักปั่นควบคุมความเร็วปั่นน้ำหน้าขบวน ทุกคนที่ร่วมปั่นจะมีการควบคุมความเร็วนะครับ ไม่มีใครเร็วกว่าใครแน่นอนส่วนตัวผมปั่นๆ หยุดๆ แวะข้างทางเก็บภาพด้วย ทุกคนดูชิลมากครับในช่วงแรก บรรยากาศยังไม่ร้อนเพราะเป็นช่วงเช้า ผ่านเส้นกาญจนาภิเษก ถนนพระรามสอง ถนนเพชรเกษม ขบวนจะปั่นเลียบริมถนนครับ เพื่อให้รถยนต์ผ่านได้ ในช่วงเช้ายังไม่ค่อยมีรถเท่าไหร่ แต่ก็ต้องระวังครับ เพื่อความไม่ประมาท
เวลาประมาณเก้าโมงครึ่งผมมาถึงจุดพักที่หนึ่ง บริเวณวัดเกตุมดีศรีวราราม มีบริการแจกน้ำและเครื่องดื่ม ผมยังไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่ครับ ฮ่าๆ
มาถึงจุดพักที่สอง ที่ป้อมตำรวจทางหลวงวังมะนาว ผมเริ่มเจ็บที่น่องขวานิดหน่อยครับ ก็เลยขอยานวดจากพยาบาล จิบน้ำแล้วปั่นต่อได้ครับ ระหว่างทางเริ่มเป็นป่าแห้งๆ แต่ด้วยเป็นถนนใหญ่รถจึงค่อนข้างวิ่งเร็ว ต้องระวังครับ
ชอบพี่คู่นี้เป็นพิเศษเลย
จุดพักที่สาม จุดที่รอคอยมาถึงแล้ว บริเวณสวนสาธารณะเขาแก่นจันทร์ จ.ราชบุรี พักรับประทานข้าวเที่ยงครับ
ใช้พลังงานไปเยอะพอสมควร เราพักกันประมาณหนึ่งชั่วโมง จึงปั่นต่อไปยังจุดพักที่สี่ วิวเป็นชานเมือง
มีรถผ่านไปมาเป็นระยะ ประมานบ่ายโมงครึ่งก็มาถึงบริเวณราชภัฎจอมบึง เหลือจุดพักอีกหนึ่งที่เราก็จะถึงเส้นชัยแล้ว
ร่างกายผมเริ่มปวดเมื่อยบริเวณขาและก้นกบ ปั่นมาหลายชั่วโมงจึงมีอาการชาตามร่างกายบ้าง แต่ด้วยใจที่อยากเข้าเส้นชัยครับเลยสู้ต่อ
จุดพักสุดท้าย บริเวณหน้าโรงพยาบาลสวนผึ้ง มีแจกน้ำและผลไม้รองท้องครับ จิบน้ำแก้กระหายเสร็จจึงปั่นต่อไปยังจุดหมาย ระหว่างทางผมพูดคุยทักทายนักปั่นคนอื่นๆ เขาบอกเหมือนเป็นการมาพักผ่อนกับครอบครัวมากกว่าครับ มาปั่นจักรยานด้วยกันทั้งครอบครัว
ประมานบ่ายสามโมงครึ่ง เราปั่นมาถึงเส้นชัย บริเวณ Swiss Valley Resort อำเภอสวนผึ้ง
ส่วนหนึ่งก็ปั่นเข้าเส้นชัยกันไปแล้ว ผมเห็นเส้นชัยอยู่ตรงหน้า รู้สึกภูมิใจในตัวเองมากครับ
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเข้าร่วมกิจกรรมที่ท้าทายความอดทน ได้แข่งขันกับตัวเอง ได้เพื่อนใหม่
เมื่อเข้าเส้นชัย รู้สึกโล่งมากครับ ไม่คิดว่าจะปั่นมาได้ถึงสวนผึ้ง นั่งพักจิบน้ำก็ทำให้คลายความเหนื่อย
มีสาวๆ มาแจกเหรียญด้วย อิอิ
ภายในงานหลังจากทุกคนเข้าเส้นชัยกันแล้ว มีการรับประทานอาหารค่ำ เครื่องดื่มต่างๆคอยอำนวยความสะดวก
อีกทั้งยังมีบูธกิจกรรมให้เราได้ร่วมสนุกชิงของรางวัล และยังมีศิลปินมาให้ความบันเทิง สร้างบรรยากาศในงานดูมีสีสันและไม่น่าเบื่อครับ
สรุปเลยครับ ส่วนตัวชอบงานนี้มาก ถึงแม้จะไกลไปหน่อยแต่เป็นการวัดกับตัวเอง เปิดโอกาสให้กับตัวเองได้ลองอะไรใหม่ๆ
ด้วยใครสนใจปีหน้ามีอีกแน่นอนครับ เพราะว่าเห็นในเว็บเขาประกาศว่าปีหน้าก็มีอีก ได้ร่วมบริจาคจักรยานให้กับน้องๆ
ที่อยู่ห่างไกลโรงเรียนได้มีจักรยานใช้ด้วย
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ และขออนุญาตพี่พี่นักปั่นหลายๆ ท่านนะครับ ผมถ่ายรูปเอามาลง เพื่อแบ่งปันรอยยิ้มด้วยกัน ขอบคุณครับ
กรุงเทพ – สวนผึ้ง กับการปั่นเพื่อปันรอยยิ้ม
เมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานของ Sponsor Bike Together
บอกเลยว่าไม่เคยได้ไปปั่นจักรยานอะไรไกลแบบนี้ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว ก็ชอบปั่นจักรยานครับ
ปั่นไปทำงานบ้างที่ไกลสุดก็เห็นจะเป็นวันพ่อ ก็เลยอยากทดสอบความ Strong ของตัวเอง ซึ่งทาง Sponsor ได้มีแคมเปญนักปั่นขึ้นมา
เป็นการปั่นจักรยานระยะทางไกลจากกรุงเทพสู่สวนผึ้ง ด้วยระยะทาง 170 กิโลเมตร
ที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติและขุนเขา ซึ่งสร้างความท้าทายให้กับผู้รักการปั่นจักรยานมากครับ
อีกอย่างคือเขาบริจาคจักรยานให้กับน้องโรงเรียนที่ห่างไกลด้วย ตัดสินใจกดสมัครทันที
เริ่มต้นจุด start มีผู้เข้าร่วมงานเยอะมากเลยครับ ทุกคนมาถึงจุดลงทะเบียนตั้งแต่เช้าตรู่ ลงทะเบียนตั้งแต่ 05.00 – 07.00 น.
ผมมาเตรียมตัวตั้งแต่ตีห้ากว่าๆ รู้สึกตื่นเต้น สาวๆก็มาร่วมปั่นกันเยอะครับ ผมได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนนักปั่น
บางคนมาร่วมงานนี้ตั้งแต่ปีที่แล้ว เล่าให้ผมฟังว่า ตนเองชอบในการปั่นจักรยานและด้วยทิวทัศน์ระหว่างทางที่สวยงาม ทำให้อยากมาอีกครั้ง
หลังจากที่รับประทานอาหารเช้า ประมานเจ็ดโมงครึ่งเริ่มปล่อยตัวจากจุด start โดยมีนักปั่นควบคุมความเร็วปั่นน้ำหน้าขบวน ทุกคนที่ร่วมปั่นจะมีการควบคุมความเร็วนะครับ ไม่มีใครเร็วกว่าใครแน่นอนส่วนตัวผมปั่นๆ หยุดๆ แวะข้างทางเก็บภาพด้วย ทุกคนดูชิลมากครับในช่วงแรก บรรยากาศยังไม่ร้อนเพราะเป็นช่วงเช้า ผ่านเส้นกาญจนาภิเษก ถนนพระรามสอง ถนนเพชรเกษม ขบวนจะปั่นเลียบริมถนนครับ เพื่อให้รถยนต์ผ่านได้ ในช่วงเช้ายังไม่ค่อยมีรถเท่าไหร่ แต่ก็ต้องระวังครับ เพื่อความไม่ประมาท
เวลาประมาณเก้าโมงครึ่งผมมาถึงจุดพักที่หนึ่ง บริเวณวัดเกตุมดีศรีวราราม มีบริการแจกน้ำและเครื่องดื่ม ผมยังไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่ครับ ฮ่าๆ
มาถึงจุดพักที่สอง ที่ป้อมตำรวจทางหลวงวังมะนาว ผมเริ่มเจ็บที่น่องขวานิดหน่อยครับ ก็เลยขอยานวดจากพยาบาล จิบน้ำแล้วปั่นต่อได้ครับ ระหว่างทางเริ่มเป็นป่าแห้งๆ แต่ด้วยเป็นถนนใหญ่รถจึงค่อนข้างวิ่งเร็ว ต้องระวังครับ
ชอบพี่คู่นี้เป็นพิเศษเลย
จุดพักที่สาม จุดที่รอคอยมาถึงแล้ว บริเวณสวนสาธารณะเขาแก่นจันทร์ จ.ราชบุรี พักรับประทานข้าวเที่ยงครับ
ใช้พลังงานไปเยอะพอสมควร เราพักกันประมาณหนึ่งชั่วโมง จึงปั่นต่อไปยังจุดพักที่สี่ วิวเป็นชานเมือง
มีรถผ่านไปมาเป็นระยะ ประมานบ่ายโมงครึ่งก็มาถึงบริเวณราชภัฎจอมบึง เหลือจุดพักอีกหนึ่งที่เราก็จะถึงเส้นชัยแล้ว
ร่างกายผมเริ่มปวดเมื่อยบริเวณขาและก้นกบ ปั่นมาหลายชั่วโมงจึงมีอาการชาตามร่างกายบ้าง แต่ด้วยใจที่อยากเข้าเส้นชัยครับเลยสู้ต่อ
จุดพักสุดท้าย บริเวณหน้าโรงพยาบาลสวนผึ้ง มีแจกน้ำและผลไม้รองท้องครับ จิบน้ำแก้กระหายเสร็จจึงปั่นต่อไปยังจุดหมาย ระหว่างทางผมพูดคุยทักทายนักปั่นคนอื่นๆ เขาบอกเหมือนเป็นการมาพักผ่อนกับครอบครัวมากกว่าครับ มาปั่นจักรยานด้วยกันทั้งครอบครัว
ประมานบ่ายสามโมงครึ่ง เราปั่นมาถึงเส้นชัย บริเวณ Swiss Valley Resort อำเภอสวนผึ้ง
ส่วนหนึ่งก็ปั่นเข้าเส้นชัยกันไปแล้ว ผมเห็นเส้นชัยอยู่ตรงหน้า รู้สึกภูมิใจในตัวเองมากครับ
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเข้าร่วมกิจกรรมที่ท้าทายความอดทน ได้แข่งขันกับตัวเอง ได้เพื่อนใหม่
เมื่อเข้าเส้นชัย รู้สึกโล่งมากครับ ไม่คิดว่าจะปั่นมาได้ถึงสวนผึ้ง นั่งพักจิบน้ำก็ทำให้คลายความเหนื่อย
มีสาวๆ มาแจกเหรียญด้วย อิอิ
ภายในงานหลังจากทุกคนเข้าเส้นชัยกันแล้ว มีการรับประทานอาหารค่ำ เครื่องดื่มต่างๆคอยอำนวยความสะดวก
อีกทั้งยังมีบูธกิจกรรมให้เราได้ร่วมสนุกชิงของรางวัล และยังมีศิลปินมาให้ความบันเทิง สร้างบรรยากาศในงานดูมีสีสันและไม่น่าเบื่อครับ
สรุปเลยครับ ส่วนตัวชอบงานนี้มาก ถึงแม้จะไกลไปหน่อยแต่เป็นการวัดกับตัวเอง เปิดโอกาสให้กับตัวเองได้ลองอะไรใหม่ๆ
ด้วยใครสนใจปีหน้ามีอีกแน่นอนครับ เพราะว่าเห็นในเว็บเขาประกาศว่าปีหน้าก็มีอีก ได้ร่วมบริจาคจักรยานให้กับน้องๆ
ที่อยู่ห่างไกลโรงเรียนได้มีจักรยานใช้ด้วย
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ และขออนุญาตพี่พี่นักปั่นหลายๆ ท่านนะครับ ผมถ่ายรูปเอามาลง เพื่อแบ่งปันรอยยิ้มด้วยกัน ขอบคุณครับ