สำหรับใครหลายๆ คนที่กำลังมองหาแฟลชไดรฟ์ที่มีความปลอดภัยขั้นสูงระดับฮาร์ดแวร์ ไว้สำหรับบันทึกไฟล์ข้อมูลต่างๆ รวมไปถึงการโอนถ่ายที่ต้องการความเป็นส่วนตัวแบบสุดๆ ล่ะก็ ต้องขอแนะนำให้มองหาแฟลชไดรฟ์ที่ความพิเศษไม่ซ้ำใคร และในบทความรีวิวนี้ผมก็มีแฟลชไดรฟ์จากค่ายชื่อดังอย่าง Kingston มาให้ทุกท่านได้ชมกัน อย่างรุ่น DataTravler 2000 โดยมีความเจ๋งที่ว่ามาพร้อมปุ่มกดรหัสในตัวเลย (ไม่ต้องพึ่งซอฟต์แวร์เข้ารหัส) ซึ่งที่ผ่านมาน้อยคนนักที่จะได้สัมผัสกับของจริง เพราะจะว่าไปแล้วไม่มีขายทั่วไปนะรุ่นนี้ เพราะต้องสั่งซื้อแบบ B2B (Business to Business) เท่านั้น
สำหรับหน้าตาของ Kingston DataTravler 2000 รุ่นนี้ เป็นแฟลชไดร์ฟมาตรฐาน USB 3.1 Gen 1 มีความจุสูงถึง 32 GB รูปร่างดูเรียบง่ายสวยงาม มีหูร้อยสายไว้ที่ท้ายตัวแฟลชไดรฟ์เมื่อต้องการพกพาไว้กับกลุ่มพวงกุญแจหรือสายคล้องต่างๆ เพื่อป้องกันการสูญหายได้ โดยมีฝาป้องกันช่องเชื่อมต่อเกิดปัญหาและกันความชื้นเอาไว้ เรียกได้ว่าไม่เสียหายง่ายๆ อย่างแน่นอน ส่วนวัดสุหลักๆ ใช้เป็นอลูมิเนียมที่มีความแข็งแรงทนทาน สีเป็นสีฟ้าสวยงามตามท้องเรื่องดูเรียบง่าย
ส่วนของฝาที่เป็นปลอกจะเป็นลวดลายการสกรีนชื่อแบรนด์และชื่อรุ่นเอาไว้ ซึ่งตรงนี้ถ้าเวลาใช้งานไปนานๆ อาจจะถลอกได้ และแฟลชไดรฟ์รุ่นนี้เวลาใช้งานจะไม่มีที่เก็บ ทำให้จำเป็นต้องแยกกับตัวแฟลชไดร์ฟ ทำให้จุดนี้ต้องระวังหายหรือลืมทิ้งไว้กันเสียหน่อย เพราะหายแล้วหายเลยไม่มีอะไหล่มาแยกขายอีกทีนะ ขนาดของมันก็ถือว่าไม่ใหญ่มากเกินไป แต่จะออกลักษณะค่อนข้างยาวสักหน่อย เพราะตัวแฟลชไดร์ฟเองจริงๆ นั้น มีปุ่มตัวเลขไว้กดรหัสเอาไว้ด้วย นอกจากนี้ยังมีปุ่มรูปลูกกุญแจด้วย รวมไปถึงมีไฟสถานะถึง 3 ดวงด้วยกัน คือ สีแดงไว้แสดงสถานะล็อค ส่วนสีเขียวคือปลดล็อค และสีฟ้าเป็นสถานะการอ่านเขียน ส่วนอื่นๆ จะเห็นว่าช่องสำหรับเชื่อมต่อจะเป็น USB 3.1 สีน้ำเงิน เป็นสัญลักษณ์บอกได้ชัดเจนว่ารุ่นนี้ส่งผ่านข้อมูลได้รวดเร็วทันใจแน่นอน
สำหรับการใช้งาน Kingston DataTravler 2000 ต้องจัดว่าเป็น แฟลชไดร์ฟที่เข้ารหัสขั้นสูงระดับฮาร์ดแวร์ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด เพราะมีขั้นตอนที่ค่อนข้างซับซ้อนทีเดียว ซึ่งตอนแรกกะว่าไม่อ่านคู่มือซักหน่อย แต่สภาพจริงๆ ก็คือไม่ไหวครับ ฮาาา เริ่มแรกก็ต้องทำการชาร์จไฟให้กับแฟลชไดร์ฟเสียก่อนประมาณครึ่งชั่วโมง (มีแบตในตัว) จากนั้นก็เข้ารหัสพื้นฐาน ด้วยการกดปุ่มรูปลูกกุญแจ จากนั้นกดรหัสพื้นฐานเดิมคือ 11 22 33 44 เพียงเท่านี้เราก็สามารถนำแฟลชไดร์ฟไปใช้งานได้แล้ว (ถ้าเราไม่เชื่อมต่อคอม ซักพักก็จะล็อคอีก) อย่างไรก็ตามเพื่อความปลอดภัยเราก็ยังสามารถเปลี่ยนรหัสได้เองตามต้องการ (ต้องตั้ง 7 ตัวขึ้นไป) รวมไปถึงสามารถตั้งค่าให้อ่านได้อย่างเดียวก็สามารถทำได้เช่นกัน (ตรงนี้ซับซ้อนแล้ว ใครจะใช้ต้องดูคู่มือประกอบ)
สำคัญคือ ในกรณีที่ระบบตรวจการแฮ็คทํางานเนื่องจากการกรอก PIN ไม่ถูกต้อง 10 ครั้ง ติดต่อกันหรือแฟลชไดรฟ์ถูกรีเซ็ต ข้อมูลทั้งหมดในไดรฟ์จะสญูหายตลอดไป ไม่สามารถกู้คืนได้ เรียกได้ว่ามีความปลอดภัยของข้อมูลที่สูงทีเดียว เพราะไม่มีใครจะนำไฟล์ของเราไปใช้งานได้ต่อ เรียกได้ว่าเหมาะสำหรับคนที่มีข้อมูลสำคัญๆ ที่แน่นอนว่าอาจจะเป็นพนักงานบริษัท หรือผู้บริหารที่มีข้อมูลที่รั่วไหลไม่ได้นั่นเอง
สรุปการใช้งานแล้ว น่าพอใจด้วยค่าทดสอบด้วยโปรแกรมและใช้งานจริงนั้นไม่ต่างกัน ถือว่าแฟลชไดรฟ์รุ่นนี้จาก Kingston ทำได้ดีน่าพอใจ ในระดับความเร็วการอ่านเขียนที่ไม่ได้มากมายอะไร อยู่ที่ การอ่าน 40MB/s และการเขียนที่ 35MB/s เท่านั้น แต่เด่นที่มีความเสถียรสูง ซึ่งน่าจะเหมาะกับงานที่ลักษณะเป็นเอกสารเสียมากกว่า จะไปโอนไฟล์วีดีโอใหญ่ๆ อันนี้คงไม่สะดวกเท่าไหร่นัก รวมไปถึงมีความแข็งแรงทนทาน เอาเป็นว่าใครที่ต้องการซื้อ ต้องบอกว่าไม่มีขายทั่วไปนะครับ ถ้าอยากได้จริงๆ อาจจะต้องฝากหัวหน้างานสั่งซื้อ เพราะวางจำหน่ายแบบ B2B (Business to Business) เท่านั้น
จุดเด่น
มีการเข้ารหัสแบบฮาร์ดแวร์ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
ความจุสูงระดับ 32GB เพียงพอกับงานเอกสาร
ความเร็วในการถ่ายโอนสูงและเสถียร
รูปลักษณ์ดีไซน์ดูดี แปลกตา
มีความทนทาน แข็งแรง
ข้อสังเกต
เมื่อถอดฝาออกแล้ว ต้องนำมาเก็บไว้ดีๆ
ขั้นตอนการใช้งานซับซ้อนเล็กน้อย
ไม่มีจำหน่ายทั่วไป เพราะต้องสั่งซื้อแบบ B2B (Business to Business) เท่านั้น
[SR] Kingston DataTravler 2000 แฟลชไดร์ฟที่เข้ารหัสขั้นสูงระดับฮาร์ดแวร์ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
สำหรับหน้าตาของ Kingston DataTravler 2000 รุ่นนี้ เป็นแฟลชไดร์ฟมาตรฐาน USB 3.1 Gen 1 มีความจุสูงถึง 32 GB รูปร่างดูเรียบง่ายสวยงาม มีหูร้อยสายไว้ที่ท้ายตัวแฟลชไดรฟ์เมื่อต้องการพกพาไว้กับกลุ่มพวงกุญแจหรือสายคล้องต่างๆ เพื่อป้องกันการสูญหายได้ โดยมีฝาป้องกันช่องเชื่อมต่อเกิดปัญหาและกันความชื้นเอาไว้ เรียกได้ว่าไม่เสียหายง่ายๆ อย่างแน่นอน ส่วนวัดสุหลักๆ ใช้เป็นอลูมิเนียมที่มีความแข็งแรงทนทาน สีเป็นสีฟ้าสวยงามตามท้องเรื่องดูเรียบง่าย
ส่วนของฝาที่เป็นปลอกจะเป็นลวดลายการสกรีนชื่อแบรนด์และชื่อรุ่นเอาไว้ ซึ่งตรงนี้ถ้าเวลาใช้งานไปนานๆ อาจจะถลอกได้ และแฟลชไดรฟ์รุ่นนี้เวลาใช้งานจะไม่มีที่เก็บ ทำให้จำเป็นต้องแยกกับตัวแฟลชไดร์ฟ ทำให้จุดนี้ต้องระวังหายหรือลืมทิ้งไว้กันเสียหน่อย เพราะหายแล้วหายเลยไม่มีอะไหล่มาแยกขายอีกทีนะ ขนาดของมันก็ถือว่าไม่ใหญ่มากเกินไป แต่จะออกลักษณะค่อนข้างยาวสักหน่อย เพราะตัวแฟลชไดร์ฟเองจริงๆ นั้น มีปุ่มตัวเลขไว้กดรหัสเอาไว้ด้วย นอกจากนี้ยังมีปุ่มรูปลูกกุญแจด้วย รวมไปถึงมีไฟสถานะถึง 3 ดวงด้วยกัน คือ สีแดงไว้แสดงสถานะล็อค ส่วนสีเขียวคือปลดล็อค และสีฟ้าเป็นสถานะการอ่านเขียน ส่วนอื่นๆ จะเห็นว่าช่องสำหรับเชื่อมต่อจะเป็น USB 3.1 สีน้ำเงิน เป็นสัญลักษณ์บอกได้ชัดเจนว่ารุ่นนี้ส่งผ่านข้อมูลได้รวดเร็วทันใจแน่นอน
สำหรับการใช้งาน Kingston DataTravler 2000 ต้องจัดว่าเป็น แฟลชไดร์ฟที่เข้ารหัสขั้นสูงระดับฮาร์ดแวร์ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด เพราะมีขั้นตอนที่ค่อนข้างซับซ้อนทีเดียว ซึ่งตอนแรกกะว่าไม่อ่านคู่มือซักหน่อย แต่สภาพจริงๆ ก็คือไม่ไหวครับ ฮาาา เริ่มแรกก็ต้องทำการชาร์จไฟให้กับแฟลชไดร์ฟเสียก่อนประมาณครึ่งชั่วโมง (มีแบตในตัว) จากนั้นก็เข้ารหัสพื้นฐาน ด้วยการกดปุ่มรูปลูกกุญแจ จากนั้นกดรหัสพื้นฐานเดิมคือ 11 22 33 44 เพียงเท่านี้เราก็สามารถนำแฟลชไดร์ฟไปใช้งานได้แล้ว (ถ้าเราไม่เชื่อมต่อคอม ซักพักก็จะล็อคอีก) อย่างไรก็ตามเพื่อความปลอดภัยเราก็ยังสามารถเปลี่ยนรหัสได้เองตามต้องการ (ต้องตั้ง 7 ตัวขึ้นไป) รวมไปถึงสามารถตั้งค่าให้อ่านได้อย่างเดียวก็สามารถทำได้เช่นกัน (ตรงนี้ซับซ้อนแล้ว ใครจะใช้ต้องดูคู่มือประกอบ)
สำคัญคือ ในกรณีที่ระบบตรวจการแฮ็คทํางานเนื่องจากการกรอก PIN ไม่ถูกต้อง 10 ครั้ง ติดต่อกันหรือแฟลชไดรฟ์ถูกรีเซ็ต ข้อมูลทั้งหมดในไดรฟ์จะสญูหายตลอดไป ไม่สามารถกู้คืนได้ เรียกได้ว่ามีความปลอดภัยของข้อมูลที่สูงทีเดียว เพราะไม่มีใครจะนำไฟล์ของเราไปใช้งานได้ต่อ เรียกได้ว่าเหมาะสำหรับคนที่มีข้อมูลสำคัญๆ ที่แน่นอนว่าอาจจะเป็นพนักงานบริษัท หรือผู้บริหารที่มีข้อมูลที่รั่วไหลไม่ได้นั่นเอง
สรุปการใช้งานแล้ว น่าพอใจด้วยค่าทดสอบด้วยโปรแกรมและใช้งานจริงนั้นไม่ต่างกัน ถือว่าแฟลชไดรฟ์รุ่นนี้จาก Kingston ทำได้ดีน่าพอใจ ในระดับความเร็วการอ่านเขียนที่ไม่ได้มากมายอะไร อยู่ที่ การอ่าน 40MB/s และการเขียนที่ 35MB/s เท่านั้น แต่เด่นที่มีความเสถียรสูง ซึ่งน่าจะเหมาะกับงานที่ลักษณะเป็นเอกสารเสียมากกว่า จะไปโอนไฟล์วีดีโอใหญ่ๆ อันนี้คงไม่สะดวกเท่าไหร่นัก รวมไปถึงมีความแข็งแรงทนทาน เอาเป็นว่าใครที่ต้องการซื้อ ต้องบอกว่าไม่มีขายทั่วไปนะครับ ถ้าอยากได้จริงๆ อาจจะต้องฝากหัวหน้างานสั่งซื้อ เพราะวางจำหน่ายแบบ B2B (Business to Business) เท่านั้น
จุดเด่น
มีการเข้ารหัสแบบฮาร์ดแวร์ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
ความจุสูงระดับ 32GB เพียงพอกับงานเอกสาร
ความเร็วในการถ่ายโอนสูงและเสถียร
รูปลักษณ์ดีไซน์ดูดี แปลกตา
มีความทนทาน แข็งแรง
ข้อสังเกต
เมื่อถอดฝาออกแล้ว ต้องนำมาเก็บไว้ดีๆ
ขั้นตอนการใช้งานซับซ้อนเล็กน้อย
ไม่มีจำหน่ายทั่วไป เพราะต้องสั่งซื้อแบบ B2B (Business to Business) เท่านั้น