...ช่วยไขข้อข้องใจหน่อยค่ะ เรื่องของเด็กกับการกินยาปฏิชีวนะ...

คือลูกชายดิฉัน อายุ 2.1 ขวบ ก่อนหน้านี้ ได้มีอาการป่วยเป็นไข้หวัด ได้ไปทำการรักษาที่อนามัยใกล้บ้าน ตรวจดูว่าคอแดง อักเสบ ได้ยาปฏิชีวนะมากิน ก็หายป่วย

เค้าเคยป่วยอยู่  3 ครั้ง ได้ยามาเหมือนเดิมทุกครั้งก็ไม่มีปัญหา แต่ครั้งนี้ไม่หายคือกินยาแล้ว ยังมีไข้ (ตอนกลางคืน กลางวันปกติดี) ที่บ้านจึงตกลงกัน ลองไปหาหมอที่คลีนิคเด็ก เอายาไปให้ดูด้วย หมอบอกว่า ยาตัวนี้คงจะใช้ไม่ได้ผล น่าจะมีการดื้อยา (ลูกเรามีความสามารถพิเศษในการบ้วน หรืออาเจียนยาออกมา ป้อนยายากมากกกก)

หมอจึงจ่ายยาฆ่าเชื้อตัวใหม่มาให้ เค้าบอกว่าแรงกว่าเดิม และฉีดยาเพื่อให้หายเร็วขี้น ดิฉันก็ตกลงไป ฉีดยาไป 1 เข็ม กลับมาบ้านอาการไข้หายไปเลย แต่ยาฆ่าเชื้อตัวใหม่ที่ได้มาไม่ได้ให้กิน มานั่งคิดทบทวนพฤติกรรมลูกเรา เดี๋ยวคงได้ดื้อยาตัวนี้อีกแน่  

หลังจากฉีดยามาก็ไม่มีไข้ แต่ก็ไม่ได้หายขาดนะคะ คือดีขึ้น ดิฉันก็ดูแลไปตามอาการ มีน้ำมูกให้ล้างจมูก ตอนนี้เหลือไอมีเสมหะเล็กน้อยก็ให้จิบน้ำอุ่นเยอะ ๆ เอา

เลยได้พูดคุยกับเพื่อน หรือคนรู้จักในเรื่องนี้บ้าง เขาก็บอกว่า เด็กป่วย เป็นไข้ เป็นหวัด ปกติก็หายเองได้ ให้ดูแลไปตามอาการไม่จำเป็นต้องกินยาฆ่าเชื้อก็ได้ ถ้าไม่ได้เป็นรุนแรงมาก ถ้ากินไม่ครบก็จะดื้อยาแบบนี้ (ถูกต้องมั้ยคะ)

ตอนนี้แม่เลยไม่ค่อยสบายใจเลย ที่ได้รู้ข้อมูลนี้ (ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหน อยากเอาเรื่องนี้ไปถามหมอเด็กก็ไม่รู้ที่ไหนดี ไปปรึกษาเฉยๆ จะได้มั้ย ไม่ได้ไปรักษา กลัวเขาจะว่า)

ตอนนี้สิ่งที่แม่อยากรู้คือ จากการรักษาที่ผ่านมา จะมีผลอะไรกับการป่วยในครั้งต่อไปมั้ย จะเป็นหนักขึ้นมั้ย เป็นนานขึ้นมั้ยหรือต้องฉีดยาถึงจะหาย (ดันฉีดไปแล้วครั้งนึง จากที่หมอแนะนำ)

และถ้าครั้งหน้าน้องป่วยเป็นไข้หวัดอีก แม่ดูแลไปตามอาการ สักกี่วันถึงควรไปหาหมอ ถ้าไม่อยากให้กินยาฆ่าเชื้อ หรือฉีดยาถ้าไม่จำเป็นจะทำได้มั้ย (พูดถึงไข้หวัดธรรมดานะคะ ปกติน้องแข็งแรงดี เวลาเป็นส่วนใหญ่ติดหวัดจากลูกพี่ลูกน้อง อายุ 5 ขวบ)

ใครรู้เรื่องนี้ ช่วยอธิบายด้วยเถอะค่ะ แล้วยาฆ่าเชื้อนี่ตกลงจำเป็นมั้ย ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่