การได้อันดับที่ 3 ของทีมชาติไทยในรายการฟลอร์บอลชายชิงแชมป์โลก 2016 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย โอเชียเนีย ส่งผลให้ทีมชาติไทยผ่านเข้าไปแข่งขันฟลอร์บอลชิงแชมป์โลก 2016 (World Floorball Championships) ที่ประเทศลัตเวียทันที ถือว่า สร้างความตกตะลึงให้กับสมาพันธ์ฟลอร์บอลโลก เพราะระยะเวลาการเก็บตัวเพียงแค่ 2 เดือน กลับทำผลงานได้ถึงขนาดนี้ ทั้งนี้จะว่าไปทีมชาติไทยลงแข่งขันในรายการนี้ในฐานะของทีมเต็งบ๊วยของการแข่งขันด้วยซ้ำไป
หลายคนอาจจะสงสัยว่า กีฬาฟลอร์บอล (Floorball) มันมีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่
ฟลอร์บอลนั่นนับว่าเป็นกีฬาที่ค่อนข้างจะใหม่ โดยเริ่มเล่นครั้งแรกที่ประเทศสวีเดนในช่วงทศวรรษ 1970 โดยเริ่มในลักษณะของกิจกรรมยามว่างในโรงเรียน จากนั้นจึงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงทศวรรษ 1980 กีฬาชนิดนนี้จึงเริ่มแพร่หลายในประเทศกลุ่มสแกนดิเนเวียอย่างฟินแลนด์ และนอร์เวย์ ด้วย ทำให้ International Floorball Federation (IFF) จึงถูกจัดตั้งขึ้นในปี 1986 ซึ่งแน่นอนว่า เป้าหมายของ IFF คือ การทำให้กีฬาชนิดนี้ได้รับความนิยมมากขึ้น และ โอกาสในการบรรจุแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นด้วย
ความใกล้เคียงกันของ Floorball กับ Ice Hockey
มีการวิเคราะห์เปรียบเทียบกันให้เห็นอย่างชัดเจนของกีฬาทั้ง 3 ประเภท คือ ฮอกกี้น้ำแข็ง ฟลอร์บอล และ ฮอกกี้สนามใหญ่ ซึ่งได้รับความนิยมมากในแถบเอเชียใต้ ปรากฏว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูล 19 ด้าน พบว่า ฮอกกี้น้ำแข็ง กับ ฟลอร์บอล มีความเหมือนกันถึง 11 ด้านเลยทีเดียว ขณะฟลอร์บอล กับ ฮอกกี้สนามใหญ่ มีความเหมือนกันเพียง 5 ด้านเท่านั้น โดยพิจารณาจากรูปตามที่แนบมานี้ ส่วนที่ HL สีน้ำเงิน คือ ส่วนที่ ฮอกกี้น้ำแข็ง กับ ฟลอร์บอล เหมือนกัน สีเขียว คือ ส่วนที่เหมือนกับทั้งฮอกกี้น้ำแข็ง และ ฮอกกี้สนามใหญ่ สีแดง คือ ส่วนที่เหมือนกับฮอกกี้สนามใหญ่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Credit:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://alexanderbrown.info/2012/02/18/ice-hockey-without-the-ice/
ในแง่ของการฝึกซ้อมก็พบว่า นักฮอกกี้น้ำแข็งได้นำรูปแบบของกีฬาฟลอร์บอล มาใช้ด้วยเช่นเดียวกัน
เป็นไปได้ว่า เราอาจจะค้นพบอะไรบางอย่างแล้วว่า กีฬาประเภททีมที่คนไทยเล่นได้เก่ง อาจจะไม่ใช่ฟุตบอล วอลเลย์บอล หรือ บาสเกตบอล แต่อาจจะเป็นกีฬาน้องใหม่อย่างฟลอร์บอล! ไม่แน่ว่า หากมีการส่งเสริมการเล่นกีฬาชนิดนี้อย่างจริงจัง นอกจากจะทำให้ทีมฟลอร์บอลของไทยก้าวไปสู่ระดับโลกแล้ว หากมีการเสริมทักษะการสเก็ตน้ำแข็งอีกหน่อย เราอาจจะได้เห็นนักกีฬาไทยไปเล่นใน National Hockey League (NHL) ก็เป็นได้
Photo ชัยชนะของทีมชาติไทย ทำให้ทีมชาติญี่ปุ่นพลาดการไปแข่งฟลอร์บอลชิงแชมป์โลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่เข้าแข่งขันครั้งแรกในปี 1998
[ต่อยอดฟลอร์บอล] ถ้าจะมีนักกีฬาไทยไปเล่นอาชีพที่อเมริกา มันอาจจะไม่ใช่ NFL NBA หรือ MLB แต่มันอาจจะเป็น NHL
การได้อันดับที่ 3 ของทีมชาติไทยในรายการฟลอร์บอลชายชิงแชมป์โลก 2016 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย โอเชียเนีย ส่งผลให้ทีมชาติไทยผ่านเข้าไปแข่งขันฟลอร์บอลชิงแชมป์โลก 2016 (World Floorball Championships) ที่ประเทศลัตเวียทันที ถือว่า สร้างความตกตะลึงให้กับสมาพันธ์ฟลอร์บอลโลก เพราะระยะเวลาการเก็บตัวเพียงแค่ 2 เดือน กลับทำผลงานได้ถึงขนาดนี้ ทั้งนี้จะว่าไปทีมชาติไทยลงแข่งขันในรายการนี้ในฐานะของทีมเต็งบ๊วยของการแข่งขันด้วยซ้ำไป
หลายคนอาจจะสงสัยว่า กีฬาฟลอร์บอล (Floorball) มันมีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่
ฟลอร์บอลนั่นนับว่าเป็นกีฬาที่ค่อนข้างจะใหม่ โดยเริ่มเล่นครั้งแรกที่ประเทศสวีเดนในช่วงทศวรรษ 1970 โดยเริ่มในลักษณะของกิจกรรมยามว่างในโรงเรียน จากนั้นจึงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงทศวรรษ 1980 กีฬาชนิดนนี้จึงเริ่มแพร่หลายในประเทศกลุ่มสแกนดิเนเวียอย่างฟินแลนด์ และนอร์เวย์ ด้วย ทำให้ International Floorball Federation (IFF) จึงถูกจัดตั้งขึ้นในปี 1986 ซึ่งแน่นอนว่า เป้าหมายของ IFF คือ การทำให้กีฬาชนิดนี้ได้รับความนิยมมากขึ้น และ โอกาสในการบรรจุแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นด้วย
ความใกล้เคียงกันของ Floorball กับ Ice Hockey
มีการวิเคราะห์เปรียบเทียบกันให้เห็นอย่างชัดเจนของกีฬาทั้ง 3 ประเภท คือ ฮอกกี้น้ำแข็ง ฟลอร์บอล และ ฮอกกี้สนามใหญ่ ซึ่งได้รับความนิยมมากในแถบเอเชียใต้ ปรากฏว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูล 19 ด้าน พบว่า ฮอกกี้น้ำแข็ง กับ ฟลอร์บอล มีความเหมือนกันถึง 11 ด้านเลยทีเดียว ขณะฟลอร์บอล กับ ฮอกกี้สนามใหญ่ มีความเหมือนกันเพียง 5 ด้านเท่านั้น โดยพิจารณาจากรูปตามที่แนบมานี้ ส่วนที่ HL สีน้ำเงิน คือ ส่วนที่ ฮอกกี้น้ำแข็ง กับ ฟลอร์บอล เหมือนกัน สีเขียว คือ ส่วนที่เหมือนกับทั้งฮอกกี้น้ำแข็ง และ ฮอกกี้สนามใหญ่ สีแดง คือ ส่วนที่เหมือนกับฮอกกี้สนามใหญ่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Credit: [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในแง่ของการฝึกซ้อมก็พบว่า นักฮอกกี้น้ำแข็งได้นำรูปแบบของกีฬาฟลอร์บอล มาใช้ด้วยเช่นเดียวกัน
เป็นไปได้ว่า เราอาจจะค้นพบอะไรบางอย่างแล้วว่า กีฬาประเภททีมที่คนไทยเล่นได้เก่ง อาจจะไม่ใช่ฟุตบอล วอลเลย์บอล หรือ บาสเกตบอล แต่อาจจะเป็นกีฬาน้องใหม่อย่างฟลอร์บอล! ไม่แน่ว่า หากมีการส่งเสริมการเล่นกีฬาชนิดนี้อย่างจริงจัง นอกจากจะทำให้ทีมฟลอร์บอลของไทยก้าวไปสู่ระดับโลกแล้ว หากมีการเสริมทักษะการสเก็ตน้ำแข็งอีกหน่อย เราอาจจะได้เห็นนักกีฬาไทยไปเล่นใน National Hockey League (NHL) ก็เป็นได้
Photo ชัยชนะของทีมชาติไทย ทำให้ทีมชาติญี่ปุ่นพลาดการไปแข่งฟลอร์บอลชิงแชมป์โลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่เข้าแข่งขันครั้งแรกในปี 1998