สนามนี้คงไม่ได้ไป ถ้าหาที่พักในจอมบึงได้  ใจอยากจะไปซ้ำฮาล์ฟที่จอมบึงเพราะว่าปีที่แล้วฝาก PB Half ไว้ที่นั่น   แต่ก็อย่างที่รู้กันนะครับ ที่พักที่จอมบึงช่วงจอมบึงมาราธอนหายากมาก  หายากตั้งแต่ปีที่แล้ว ปีนี้สถานการณ์ยิ่งหนักขึ้นอีก  อ๋ออออ ปีหน้า 2017 ก็เต็มแล้วนะครับ  จองกันข้ามปีเลยเด่วนี้  เลยเป็นสาเหตุให้หาที่วิ่งแห่งใหม่  แล้วเราก็ได้พบกับสนามขอนแก่นมาราธอน  หลังจากอ่านรีวิวและคอมเมนต์ของหลาย ๆ ท่าน  สนามนี้ถึงแม้จะไกลจากกรุงเทพแต่ก็น่าสนใจไม่น้อย  

หลังจบงาน...ความรู้สึกดีต่อสนามขอนแก่นมาราธอน
1. หาที่พักได้สะดวกมีให้เลือกหลายระดับ  แต่ที่พักที่ติดกับจุดสตาร์ทเต็มเร็วมาก  จะกางเต็นท์ก็ได้  จะพักโรงแรมราคา 300-400 บาท ไปจนถึง 2-3 พันบาทก็มีให้เลือกสรรแล้วแต่ความพอใจ
2. มีรถรับส่งจากที่พักมาที่จุดสตาร์ท   เส้นทางรับส่งนักวิ่ง ในตัวเมืองตามที่ต่าง ๆ จัดการได้ดีมาก  ฮาล์ฟเริ่มวิ่ง 5:25  รถสองแถวมารับหน้าโรงแรม 4:30 ถึงสนามเกือบ ๆ ตี 5 มีเวลาวอร์มอีกเล็กน้อยก่อนออกตัว  
3. ร้านอาหารในเมืองขอนแก่น  เรียกได้ว่า  เหมาะกับนักวิ่งสายโหลดยิ่งนัก  กด google ดูรีวิวร้านอาหารหนักกว่าดูสภาพเส้นทางวิ่งเสียอีก
http://ppantip.com/topic/31081157
http://topicstock.ppantip.com/food/topicstock/2008/11/D7255706/D7255706.html
นี่แค่ตัวอย่างเบา ๆ นะครับ ที่สำคัญอร่อยเกือบทุกร้านที่ไป  และราคาถูกมากกกเมื่อเทียบกับราคาอาหารกรุงเทพ กินกันคนละร้อยกว่าบาท อิ่มจนจุก     วิ่งฮาล์ฟแต่ผมโหลดนี่ระดับอัลตร้านะครับ
4. สถานท่องราตรี มีมากมาย  ทั้งแบบเบา ๆ ตลาดต้นตาล ทั้งแบบจัดหนัก U bar….  ก็แหม  สตาร์ทฮาล์ฟตี 5:30 นอนเที่ยงคืนยังทันอยู่
5. กองเชียร์ และการมีส่วนร่วมของชุมชน  ผมว่าอันนี้ไม่น้อยไปกว่าจอมบึงเลยนะครับ  นักศึกษาที่ออกมาเชียร์นี่ มาแบบจัดเต็มมากกกก  ทั้งร้องทั้งเต้น  นักวิ่งอย่างผมวิ่งกันไม่ลืมหูลืมตา  (มีน้อง ๆ นักศึกษาสาว ๆ ออกมาเชียร์ มีหรือจะเดินอ้อยอิ่งให้น้องเค้าสมเพช)  ประชาชนห้างร้านระหว่างทาง  ออกมาเชียร์  เอาน้ำมาบริการ  มีหมอลำ กับโปงลางมาเล่นด้วย  วิ่ง ๆ อยู่มีเผลอโยกหัวตามจังหวะเพลง  
6. จุดบริการน้ำเรียกได้ว่ามีเกือบทุก ๆ กิโล  เกลือแร่ฮาล์ฟเห็นมี 2 จุด  ผมหาจุดให้ผลไม้ไม่เจอ  มีใครเจอบ้าง?
7. อากาศ  ปีนี้เรียกได้ว่า ดีมากกกก  ตลอดเส้นทางวิ่งอุณหภูมิอยู่ที่ 14-16  อาจจะมีหนักหน่อยหลัง 7:30 ที่ฝนตกค่อนข้างหนัก  คนที่วิ่งฟูลเกิน 3 ชั่วโมงก็ลำบากหน่อย เช่นเดียวกันกับนักวิ่งฮาล์ฟที่วิ่งเกิน 2 ชั่วโมง แต่ก็ตกไม่นานก็หยุด  
8. เส้นทางวิ่ง  อาจไม่ได้เป็นทางเรียบเหมือนจอมบึง  มีเนินไม่ชันมาก แต่เจอทีนี่เนินขึ้นยาวเลยนะครับ แต่ก็ถือได้ว่าทางค่อนข้างเรียบ  ปิดถนน 100% ไม่มีวิ่งคู่กับรถยนต์ให้กวนใจกวนการวิ่งแน่นอน  
อันนี้ประการสุดท้าย  ปีนี้ได้รับพระกรุณาธิคุณจากองค์ภาที่มาเข้าร่วมแข่งขันฮาล์ฟมาราธอน  พระองค์ท่านใช้เวลาไปแค่ 2 ชั่วโมงนะครับ …. เร็วมากมาย

เรื่องที่ต้องปรับปรุง
1. รบกวนประชาสัมพันธ์เรื่องรถส่งกลับที่พักด้วยครับ  ไม่มีข้อมูลเลย  เพิ่งมารู้ตอนขึ้นรถขาไปว่ามีบริการส่งกลับด้วยนะครับ  จะได้ไม่ต้องบอกให้คนมารับ
2. ผมว่าคุณภาพเสื้อนี่  น่าจะดีกว่านี้นะครับ  (มีข่าวแว่วว่า เสื้อ finisher นี่ หลัง ๆ มีเหลือแค่ size s ซึ่งไม่น่าเกิดขึ้นนะครับ)
3. ประชาสัมพันธ์เรื่องการจราจรซักนิดก็ดี  เพราะว่านอกจากนักวิ่ง ยังมีครอบครัวนักวิ่งที่มีสำคัญไม่น้อยไปกว่านักวิ่งนะครับ  เค้าจะได้รู้ว่าเส้นทางไหนขับรถได้ ตรงไหนจอดรถได้  คือมันก็จะดีมากนะครับ ถ้าที่เส้นชัยมีครอบครัวมายืนให้กำลังใจ  มันไม่สำคัญหรอกครับว่าจะวิ่งจบที่กี่ชั่วโมง  มันสำคัญที่วิ่งจบแล้วได้พบหน้าลูกเมีย   เค้าอุตส่าห์ให้เราตื่นแต่เช้าหรือกลับบ้านดึกไปซ้อมวิ่ง  เค้าน่าจะได้มาเห็นความสำเร็จด้วยนะครับ
4. อันนี้ไม่เชิงต้องปรับปรุง แต่ถ้าปรับได้ก็ดี  คือสำหรับเส้นทางวิ่งฮาล์ฟ  ผมก็อยากวิ่งผ่านสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองเหมือนกันกับเส้นทางมาราธอน  ถ้าปรับได้ก็ดี  แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้แย่นะครับ

สุดท้ายนี้  สำหรับนักวิ่งจากกรุงเทพที่ไม่มีปัญหาเรื่องการเดินทางต่างจังหวัดไกล ๆ  ผมว่าลองเปลี่ยนจากสนามจอมบึงไปขอนแก่นดูครับ   เรื่องความประทับใจ ผมให้มากกว่าจอมบึงอีกนะครับ