น้ำ ต ก ลื อ เ ลื่ อ ง เมืองผลไม้ พริกไทยพันธุ์ดี อัญมณีมากเหลือ
เสื่อจันทบูร สมบูรณ์ธรรมชาติ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รวมญาติกู้ชาติที่ จั น ท บุ รี รี รี
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ก่อนจะพูดพร่ำทำเพลงอะไร ขอออกตัวก่อนว่าเราดองกระทู้นี้มาจะครบ 1เดือนพอดี ฮ่าาาาๆๆๆ
สตอรี่เยอะ ภาพเยอะ หลายสิ่ง ขอเชิญทุกคนไปรับชมได้เลยฮะะะะ ;)
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
กราบสวัสดีค่าาาาา นักเที่ยวไทยทุกท่าน
วันนี้จะพาทุกคนไปเที่ยวจังหวัดไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพเท่าไหร่ แต่มีดีครบเครื่องนะจ้ะ
ทั้งเมืองเก่าเคล้าความฮิปสเตอร์ ทั้งน้ำตก ทะเล ป่าชายเลน มีครบจบ all-in-oneในจังหวัดเดียวจ้า
ที่มาของทริป
เนื่องจากเรามีเวลาแค่เสาร์-อาทิตย์เท่านั้น เราจึงมองหาจังหวัดที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพ มีรถโดยสารไปถึงเป็นอ้นใช้ได้
สุดท้ายลงเอยว่า. . . ไปนี่แหล่ะ
‘ จั น ท บุ รี ’
เราใช้เวลาไม่นานในการหาข้อมูลจากใน pantip และ
http://www.chanjeed.com/
ซึ่งเป็นเว็บที่รวมที่กินที่เที่ยวที่พักในจังหวัดจังหวัดจันทบุรีไว้อย่างครบถ้วน
เวรี่กู๊ดค่าาา
Day 1 :: 9 มกราคม 2559
การเดินทาง
เช้าวันที่ 9 มกราคม เราเดินทางออกจากกรุงเทพไปจันทบุรี โดยขึ้นรถตู้ที่ห้างเซ็นจูรี่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ค่ารถคนละ 200 บาท
รถเราออกตอนเกือบ10โมง ใช้เวลาในการเดินทาง4ชั่วโมงเต็มๆ
- ภ า พ ตั ด -
14.00 น. สวัสดีจ้าจันทบุรี :' )
เราลงรถที่บขส. แล้วเรียกพี่วินฯไปหาที่เช่ารถมอไซค์ ซึ่งไกลจากบขส.พอสมควร และเมื่อถึงร้าน พบว่า ร ถ ห ม ด !!!!!
เหมือนฟ้าถล่มแผ่นดินทลาย หมดกันแพลนที่เตรียมมา เนินนางพญา น้ำตกพลิ้ว หายวับไปกับตา
ถามที่เช่าที่อื่นพี่วินฯก็ส่ายหัว เราเลยยอมตัดใจ ให้พี่วินฯพาไปส่งที่พัก คิดในใจเอาวะ เที่ยวชิวๆในเมืองก็ได้ ฮือออออ T_T
ที่พัก
เราเลือกพักที่ ‘บ้านจันท์9โฮมสเตย์’ ใกล้กับโบสถ์วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล landmark ชื่อดังของจังหวัดจันทบุรี
ทันทีที่เราไปถึงหน้าบ้านปุ๊บ เราก็โทรหาคุณป้าเจ้าของบ้าน ‘ป้าพง’ ที่เดินเลาะรั้วข้างบ้านมาเปิดประตูต้อนพวกเรารับเป็นอย่างดี
ซึ่งคุณป้ากับคุณลุงพักอยู่บ้านที่อยู่ข้างหลังโฮมสเตย์นี่เอง
คุณป้าทักทายเรา ถามไถ่นู่นนี่นั่น แล้วก็พาขึ้นไปดูห้องพัก
เนื่องจากตอนแรกที่โทรมาจอง เราลังเลระหว่างห้องแอร์กับห้องพัดลม คุณป้าใจดีมาก บอกเราว่ามาดูห้องก่อนก็ได้
ถ้าไม่ชอบค่อยมาเพิ่มเงินเปลี่ยนเป็นห้องแอร์ที่หลัง เราเลยตกลงจองห้องพัดลมมาก่อนเพราะกลัวที่พักจะเต็ม
ห้องพักของเราอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้านหลังใหญ่ ขึ้นบันไดมาจะมีชานนั่งเล่น มีชิงช้า มีต้นไม้คลุมรอบบ้าน ร่มรื่นเย็นสบาย
// เอาจริงๆแอบกลัวตุ๊กแกนะ แต่ไม่มีเห็นตัวและไม่ได้ยินเสียง โอเค พักได้ สบายใจ 5555
พอเปิดประตูห้องเข้ามา ตอนแรกเราคิดว่านี่คือเตียงนอน (รูปซ้ายบน) คุณป้าบอกนี่เป็นห้องรับแขกจ้ะ มีทีวี มีwifiให้พร้อม
หลังประตูเล็กๆสีฟ้านั่นคือห้องนอนของเราเองค่ะท่านผู้ชมมมมมม มุ้งขาวๆนั่นแหล่ะค่าาา เตียงนอนของเราคืนนี้ (รูปซ้ายล่าง)
นอนมุ้ง เปิดพัดลม ตอนกลางคืนอากาศหนาวมาก รู้สึกคิดถูกที่ไม่เลือกห้องแอร์ นอนแบบนี้ได้บรรยากาศจริงๆ
จะบอกว่าไฮไลท์อยู่ที่ห้องน้ำ (รูปขวา) เราชอบห้องน้ำมาก ข้างบนเปิดโล่ง ลมเย็นสบายมาก แต่ตอนอาบตอนกลางคืนนี่สั่นค่ะสั่น หนาวว
เก็บกระเป๋าเรียบร้อย ก็พร้อมจะออกไปหาอะไรกินแล้ว เพลนที่คิดไว้คือจะไปทานก๋วยเตี๋ยวทะเลเจ๊อี๊ดริมน้ำร้านดัง
เราเดินลงมานั่งคุยกับคุณป้าอยู่พักนึงถึงแพลนที่เราตั้งใจจะไปแต่ต้องมาล่มเพราะไม่มีรถให้เช่า
และคุณป้าใจดีกับเราอีกแล้ว ให้เราเช่ามอไซค์คันที่แกใช้ขับไปตลาดทุกวันได้ เย่!!!!! ดีใจ แพลนไม่ล่มแล้ว ^0^
เราขับมอไซค์มาจอดไว้ที่โบสถ์ ซึ่งใกล้กับที่พักเรามาก และเดินเชื่อมสะพานข้ามแม่น้ำจันทบุรีไปยังย่านชุมชนริมน้ำ
เมื่อเดินข้ามสะพานข้ามแม่น้ำมาเจอถนน ให้เลี้ยวซ้าย จะเจอร้านขายขนมไข่ก่อน ถัดไปก็จะเจอร้านเจ๊อี๊ดเล็กๆอยู่ซ้ายมือ
เมนูมีให้เลือกเยอะมาก ชื่อแต่ละเมนูเค้าน่ารักนะ ถ้าจะไม่ผิดจะมี อัศวินสีม่วงคือ กั้ง อัศวินสีส้มคือ กุ้ง อะไรประมานนี้ 555555
ซ้าย :: บะหมี่ทะเลต้มยำ เส้นบะหมี่เป็นแบบเส้นแบน กั้งให้มาแบบเต็มๆตัว ตามด้วยหมึก กุ้ง และเนื้อปู น้ำต้มยำอร่อยดี ซดน้ำเพลิน // 70 บาท
ขวา :: ข้าวหน้าทะเล ทานกับน้ำจิ้มซีฟู๊ด ฟินสุดๆเต็มปากเต็มคำมากกกกกก // 70บาทเช่นกัน
ท้องอิ่มแล้ว เราก็พร้อมจะออกเดินทาง
// ด้านล่างนี่คือแผนที่ที่เราทำไว้ดูเองแบบง่ายๆ เผื่อดูให้พอรู้ว่าที่ๆเราจะไปอยู่ทางไหนบ้างจ้า
[img]
[/img]
เราตั้งใจจะไปน้ำตกพลิ้วก่อน เปิด google map ขี่ไปตามเส้นสุขุมวิท (เส้นสีเหลือง) จะมีป้ายบอกทางไปน้ำตกพลิ้ว ทางไม่ซับซ้อน ไม่หลงแน่นอนฮะ
ระยะทางประมาณ 15 กม. จากตัวเมือง เราขี่มอไซค์ไปใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็ถึง และที่สำคัญ **อย่าลืมใส่หมวกกันน๊อคกันนะทุกคนนน**
55555555555555555555 โอยขำหน้าตัวเอง 5555555555555555555555
น้ำตกพลิ้ว
สำหรับคนไทย เสียค่าเข้าคนละ 40บาท เด็ก 20บาท ส่วนชาวต่างชาติค่าเข้าหลักร้อยเลยจ้า
ภายในอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว นอกจากจะไปเล่นน้ำตกแล้ว ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติด้วยนะ
แต่เราไม่ได้ไปเดิน เพราะดูจากแผนที่ตรงทางเข้าแล้ว ระยะทางใช่เล่นเลยทีเดียว ที่นี่เจ้าหน้าที่ก็เยอะมาก และบริเวณรอบอุทยานก็สะอาดมากๆด้วย
เราเดินจากทางเข้า เข้าไปไม่นาน จะมีป้ายบอกว่าเป็นน้ำตกชั้นแรก ชะโงกดูน้ำตกชั้นแรก
OMG!! ปลาเต็มไปหมดเลย!!
เค้าชื่อว่า Mr. & Mrs.
ปลาพลวง
เราถามเจ้าหน้าที่ที่ยืนดูแลความปลอดภัยอยู่ริมน้ำ เค้าบอกว่าปลาพลวงไม่กัด ไม่ตอดคนเล่นน้ำนะ ละก็มันกินถั่วฝักยาวเป็นอาหาร
เราก็สงสัยว่าทำไมมันมีเยอะมากขนาดนี้ ซึ่งมารู้ตอนหลัง คุณป้าเจ้าของโฮมสเตย์บอกเราว่า เนื้อมันมีพิษ คนเลยไม่จับไปกิน
มันก็เลยผสมพันธุ์ออกลุกหลานเหลนเยอะแยะขนาดนั้น อ๋ออออออ ok I got it
เราเดินต่อขึ้นไปอีกพักนึงเพื่อไปจุดชมน้ำตกของอุทยาน และเจดีย์อลงกรณ์ เจดีย์สีเขียวที่มีตะไคร้น้ำปกคลุมเป็นสีเขียวทั้งองค์
เรานั่งพักอยู่พักนึง แล้วก็ระลึกขึ้นได้ว่ายังมีอีกหลายที่ต้องไปนี่หว่า ใจจริงอยากอยู่ที่นี่อีกซักชั่วโมง อากาศมันดีมากจริงๆ เย็นๆชื้นๆ สบายยยย
บ๊ายบาย น้ำตกพลิ้วววววววววววว~
[CR] The Never Ending Story at Chantaburi :: จันทบุรีมีดีอะไร ที่ทำให้คุณนั้นต้องอยากไป ♪ ♫ ♩ ♬
เสื่อจันทบูร สมบูรณ์ธรรมชาติ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รวมญาติกู้ชาติที่ จั น ท บุ รี รี รี
ก่อนจะพูดพร่ำทำเพลงอะไร ขอออกตัวก่อนว่าเราดองกระทู้นี้มาจะครบ 1เดือนพอดี ฮ่าาาาๆๆๆ
สตอรี่เยอะ ภาพเยอะ หลายสิ่ง ขอเชิญทุกคนไปรับชมได้เลยฮะะะะ ;)
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
วันนี้จะพาทุกคนไปเที่ยวจังหวัดไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพเท่าไหร่ แต่มีดีครบเครื่องนะจ้ะ
ทั้งเมืองเก่าเคล้าความฮิปสเตอร์ ทั้งน้ำตก ทะเล ป่าชายเลน มีครบจบ all-in-oneในจังหวัดเดียวจ้า
เนื่องจากเรามีเวลาแค่เสาร์-อาทิตย์เท่านั้น เราจึงมองหาจังหวัดที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพ มีรถโดยสารไปถึงเป็นอ้นใช้ได้
สุดท้ายลงเอยว่า. . . ไปนี่แหล่ะ ‘ จั น ท บุ รี ’
เราใช้เวลาไม่นานในการหาข้อมูลจากใน pantip และ http://www.chanjeed.com/
ซึ่งเป็นเว็บที่รวมที่กินที่เที่ยวที่พักในจังหวัดจังหวัดจันทบุรีไว้อย่างครบถ้วน
เวรี่กู๊ดค่าาา
ฝากเพจเรื่องราวการท่องเที่ยวของเรากับเพื่อน ไปกดlikeให้กำลังใจกันได้นะค๊า
#งานขายก็มา อุอิ
เช้าวันที่ 9 มกราคม เราเดินทางออกจากกรุงเทพไปจันทบุรี โดยขึ้นรถตู้ที่ห้างเซ็นจูรี่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ค่ารถคนละ 200 บาท
รถเราออกตอนเกือบ10โมง ใช้เวลาในการเดินทาง4ชั่วโมงเต็มๆ
เราลงรถที่บขส. แล้วเรียกพี่วินฯไปหาที่เช่ารถมอไซค์ ซึ่งไกลจากบขส.พอสมควร และเมื่อถึงร้าน พบว่า ร ถ ห ม ด !!!!!
เหมือนฟ้าถล่มแผ่นดินทลาย หมดกันแพลนที่เตรียมมา เนินนางพญา น้ำตกพลิ้ว หายวับไปกับตา
ถามที่เช่าที่อื่นพี่วินฯก็ส่ายหัว เราเลยยอมตัดใจ ให้พี่วินฯพาไปส่งที่พัก คิดในใจเอาวะ เที่ยวชิวๆในเมืองก็ได้ ฮือออออ T_T
เราเลือกพักที่ ‘บ้านจันท์9โฮมสเตย์’ ใกล้กับโบสถ์วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล landmark ชื่อดังของจังหวัดจันทบุรี
ทันทีที่เราไปถึงหน้าบ้านปุ๊บ เราก็โทรหาคุณป้าเจ้าของบ้าน ‘ป้าพง’ ที่เดินเลาะรั้วข้างบ้านมาเปิดประตูต้อนพวกเรารับเป็นอย่างดี
ซึ่งคุณป้ากับคุณลุงพักอยู่บ้านที่อยู่ข้างหลังโฮมสเตย์นี่เอง
เนื่องจากตอนแรกที่โทรมาจอง เราลังเลระหว่างห้องแอร์กับห้องพัดลม คุณป้าใจดีมาก บอกเราว่ามาดูห้องก่อนก็ได้
ถ้าไม่ชอบค่อยมาเพิ่มเงินเปลี่ยนเป็นห้องแอร์ที่หลัง เราเลยตกลงจองห้องพัดลมมาก่อนเพราะกลัวที่พักจะเต็ม
ห้องพักของเราอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้านหลังใหญ่ ขึ้นบันไดมาจะมีชานนั่งเล่น มีชิงช้า มีต้นไม้คลุมรอบบ้าน ร่มรื่นเย็นสบาย
// เอาจริงๆแอบกลัวตุ๊กแกนะ แต่ไม่มีเห็นตัวและไม่ได้ยินเสียง โอเค พักได้ สบายใจ 5555
พอเปิดประตูห้องเข้ามา ตอนแรกเราคิดว่านี่คือเตียงนอน (รูปซ้ายบน) คุณป้าบอกนี่เป็นห้องรับแขกจ้ะ มีทีวี มีwifiให้พร้อม
หลังประตูเล็กๆสีฟ้านั่นคือห้องนอนของเราเองค่ะท่านผู้ชมมมมมม มุ้งขาวๆนั่นแหล่ะค่าาา เตียงนอนของเราคืนนี้ (รูปซ้ายล่าง)
นอนมุ้ง เปิดพัดลม ตอนกลางคืนอากาศหนาวมาก รู้สึกคิดถูกที่ไม่เลือกห้องแอร์ นอนแบบนี้ได้บรรยากาศจริงๆ
จะบอกว่าไฮไลท์อยู่ที่ห้องน้ำ (รูปขวา) เราชอบห้องน้ำมาก ข้างบนเปิดโล่ง ลมเย็นสบายมาก แต่ตอนอาบตอนกลางคืนนี่สั่นค่ะสั่น หนาวว
เราเดินลงมานั่งคุยกับคุณป้าอยู่พักนึงถึงแพลนที่เราตั้งใจจะไปแต่ต้องมาล่มเพราะไม่มีรถให้เช่า
และคุณป้าใจดีกับเราอีกแล้ว ให้เราเช่ามอไซค์คันที่แกใช้ขับไปตลาดทุกวันได้ เย่!!!!! ดีใจ แพลนไม่ล่มแล้ว ^0^
เมนูมีให้เลือกเยอะมาก ชื่อแต่ละเมนูเค้าน่ารักนะ ถ้าจะไม่ผิดจะมี อัศวินสีม่วงคือ กั้ง อัศวินสีส้มคือ กุ้ง อะไรประมานนี้ 555555
ซ้าย :: บะหมี่ทะเลต้มยำ เส้นบะหมี่เป็นแบบเส้นแบน กั้งให้มาแบบเต็มๆตัว ตามด้วยหมึก กุ้ง และเนื้อปู น้ำต้มยำอร่อยดี ซดน้ำเพลิน // 70 บาท
ขวา :: ข้าวหน้าทะเล ทานกับน้ำจิ้มซีฟู๊ด ฟินสุดๆเต็มปากเต็มคำมากกกกกก // 70บาทเช่นกัน
// ด้านล่างนี่คือแผนที่ที่เราทำไว้ดูเองแบบง่ายๆ เผื่อดูให้พอรู้ว่าที่ๆเราจะไปอยู่ทางไหนบ้างจ้า
[img]
เราตั้งใจจะไปน้ำตกพลิ้วก่อน เปิด google map ขี่ไปตามเส้นสุขุมวิท (เส้นสีเหลือง) จะมีป้ายบอกทางไปน้ำตกพลิ้ว ทางไม่ซับซ้อน ไม่หลงแน่นอนฮะ
ระยะทางประมาณ 15 กม. จากตัวเมือง เราขี่มอไซค์ไปใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็ถึง และที่สำคัญ **อย่าลืมใส่หมวกกันน๊อคกันนะทุกคนนน**
55555555555555555555 โอยขำหน้าตัวเอง 5555555555555555555555
สำหรับคนไทย เสียค่าเข้าคนละ 40บาท เด็ก 20บาท ส่วนชาวต่างชาติค่าเข้าหลักร้อยเลยจ้า
ภายในอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว นอกจากจะไปเล่นน้ำตกแล้ว ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติด้วยนะ
แต่เราไม่ได้ไปเดิน เพราะดูจากแผนที่ตรงทางเข้าแล้ว ระยะทางใช่เล่นเลยทีเดียว ที่นี่เจ้าหน้าที่ก็เยอะมาก และบริเวณรอบอุทยานก็สะอาดมากๆด้วย
เราเดินจากทางเข้า เข้าไปไม่นาน จะมีป้ายบอกว่าเป็นน้ำตกชั้นแรก ชะโงกดูน้ำตกชั้นแรก
OMG!! ปลาเต็มไปหมดเลย!!
เค้าชื่อว่า Mr. & Mrs. ปลาพลวง
เราถามเจ้าหน้าที่ที่ยืนดูแลความปลอดภัยอยู่ริมน้ำ เค้าบอกว่าปลาพลวงไม่กัด ไม่ตอดคนเล่นน้ำนะ ละก็มันกินถั่วฝักยาวเป็นอาหาร
เราก็สงสัยว่าทำไมมันมีเยอะมากขนาดนี้ ซึ่งมารู้ตอนหลัง คุณป้าเจ้าของโฮมสเตย์บอกเราว่า เนื้อมันมีพิษ คนเลยไม่จับไปกิน
มันก็เลยผสมพันธุ์ออกลุกหลานเหลนเยอะแยะขนาดนั้น อ๋ออออออ ok I got it
บ๊ายบาย น้ำตกพลิ้วววววววววววว~