แต่งงานนานแล้ว ลูกสองคน
แรกเริ่ม ลาออกจากงานเงินเดือนสูงมาเลี้ยงลูก สามีไม่ให้เงินใช้ ทนสองปี ขอเค้าๆให้เก็บค่าเช่าบ้านที่ซื้อช่วงที่แต่งงานกันแล้วมาเป็นค่าใช้จ่าย
ทรัพย์สินทุกอย่าง สามีใส่ชื่อตัวเองคนเดียว นานๆไป เงินไม่พอใช้เพราะรวมค่าใช้จ่ายลูกและครอบครัวด้วย ขอเพิ่มแต่สามีไม่ให้
อดทนมาแปดปี ขอหย่าสามีๆ เลยให้บัตรเอทีเอ็มเงินเดือนมา เราให้เค้าใช้เดือนละ 3-40,000 บาท ค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้านเราดูแล
สามีซื้อบ้านเพิ่มเพื่อให้เช่า ปัจจุบันมีหลายหลัง ทุกหลังเป็นชื่อสามีคนเดียว โดยเราเป็นคนผ่อน ใช้เวลา 3-5 ปีผ่อนหมดแล้วทุกหลัง
เริ่มทำธุรกิจส่วนตัว สามีใช้ชื่อเราเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่ให้เงินเดือนเราน้อย เราดูแลบัญชีและงานออฟฟิศทั่วไป วิ่งงานบ้าง
สามีดูแลกิจการทั้งหมด บริหารเอง เรายังคงให้สามีเดือนละ 3-40,000 เช่นเดิม ค่าใช้จ่ายในบ้าน/ ธุรกิจ เราดูแล
หากสามีเงินไม่พอใช้ ขอเพิ่มครั้งละ 1-20,000 เราไม่เคยถามเลย ให้เงินตลอดเพราะถือว่า เป็นเงินเค้า
ต่อมา เค้าซื้ออาคารเพื่อใช้ทำกิจการ กู้ในนามชื่อเค้าเช่นเคย เราเป็นคนส่งซึ่งจะหมดหนี้เร็วนี้
สามีมาปรึกษาจะซื้ออาคารเพิ่มอีกในนามตัวเองเช่นเคย โดยให้เราผ่อน
เรารู้สึกไม่ดีเลย หากเลิกกันไป เราไม่มีหลักทรัพย์หรือหลักประกันอะไรในชีวิตเลย
อยู่กันมานานร่วมยี่สิบปี เรามีรถซิตี้คาร์ซื้อชื่อตัวเอง ใช้สิทธิ์รถคันแรกเท่านั้น
ซึ่งสามีให้เงินมา 60% ที่เหลือเราออกเอง
ทุกวันนี้ เราอยากหย่ากับสามีมากด้วยเหตุผลหลายอย่าง แต่สงสารลูกเพราะลูกติดเรามาก รักเรา
ไม่อยากให้กระทบความรู้สึกลูก และเรารู้ด้วยว่า หากเลิกกับสามี เค้าคงไม่ให้อะไรเรา
เรามีเงินเก็บส่วนตัวจากเงินเดือนที่ทำงานและบริหารเองอยู่ก้อนนึงซึ่งสามีไม่ทราบ
แต่ลูกๆทราบและฝากในนามลูกๆด้วย
ขอคำปรึกษาเพื่อนๆหน่อยว่า อาคารที่จะซื้อเพิ่ม ควรทำอย่างไรดี
จะให้เค้าซื้อชื่อเค้า แล้วให้เราผ่อนเหมือนเดิม เรารู้สึกว่า ถูกเอาเปรียบ
ธุรกรรมแทบทุกอย่าง สามีมักไม่ไปทำ แต่มอบอำนาจให้เราไปทำแทน
ทั้งๆที่เราเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่มีสิทธิ์ทำอะไรได้เลย
ขอบคุณทุกคำแนะนำค่ะ
ปัญหาทรัพย์สินกับชีวิตครอบครัว
แรกเริ่ม ลาออกจากงานเงินเดือนสูงมาเลี้ยงลูก สามีไม่ให้เงินใช้ ทนสองปี ขอเค้าๆให้เก็บค่าเช่าบ้านที่ซื้อช่วงที่แต่งงานกันแล้วมาเป็นค่าใช้จ่าย
ทรัพย์สินทุกอย่าง สามีใส่ชื่อตัวเองคนเดียว นานๆไป เงินไม่พอใช้เพราะรวมค่าใช้จ่ายลูกและครอบครัวด้วย ขอเพิ่มแต่สามีไม่ให้
อดทนมาแปดปี ขอหย่าสามีๆ เลยให้บัตรเอทีเอ็มเงินเดือนมา เราให้เค้าใช้เดือนละ 3-40,000 บาท ค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้านเราดูแล
สามีซื้อบ้านเพิ่มเพื่อให้เช่า ปัจจุบันมีหลายหลัง ทุกหลังเป็นชื่อสามีคนเดียว โดยเราเป็นคนผ่อน ใช้เวลา 3-5 ปีผ่อนหมดแล้วทุกหลัง
เริ่มทำธุรกิจส่วนตัว สามีใช้ชื่อเราเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่ให้เงินเดือนเราน้อย เราดูแลบัญชีและงานออฟฟิศทั่วไป วิ่งงานบ้าง
สามีดูแลกิจการทั้งหมด บริหารเอง เรายังคงให้สามีเดือนละ 3-40,000 เช่นเดิม ค่าใช้จ่ายในบ้าน/ ธุรกิจ เราดูแล
หากสามีเงินไม่พอใช้ ขอเพิ่มครั้งละ 1-20,000 เราไม่เคยถามเลย ให้เงินตลอดเพราะถือว่า เป็นเงินเค้า
ต่อมา เค้าซื้ออาคารเพื่อใช้ทำกิจการ กู้ในนามชื่อเค้าเช่นเคย เราเป็นคนส่งซึ่งจะหมดหนี้เร็วนี้
สามีมาปรึกษาจะซื้ออาคารเพิ่มอีกในนามตัวเองเช่นเคย โดยให้เราผ่อน
เรารู้สึกไม่ดีเลย หากเลิกกันไป เราไม่มีหลักทรัพย์หรือหลักประกันอะไรในชีวิตเลย
อยู่กันมานานร่วมยี่สิบปี เรามีรถซิตี้คาร์ซื้อชื่อตัวเอง ใช้สิทธิ์รถคันแรกเท่านั้น
ซึ่งสามีให้เงินมา 60% ที่เหลือเราออกเอง
ทุกวันนี้ เราอยากหย่ากับสามีมากด้วยเหตุผลหลายอย่าง แต่สงสารลูกเพราะลูกติดเรามาก รักเรา
ไม่อยากให้กระทบความรู้สึกลูก และเรารู้ด้วยว่า หากเลิกกับสามี เค้าคงไม่ให้อะไรเรา
เรามีเงินเก็บส่วนตัวจากเงินเดือนที่ทำงานและบริหารเองอยู่ก้อนนึงซึ่งสามีไม่ทราบ
แต่ลูกๆทราบและฝากในนามลูกๆด้วย
ขอคำปรึกษาเพื่อนๆหน่อยว่า อาคารที่จะซื้อเพิ่ม ควรทำอย่างไรดี
จะให้เค้าซื้อชื่อเค้า แล้วให้เราผ่อนเหมือนเดิม เรารู้สึกว่า ถูกเอาเปรียบ
ธุรกรรมแทบทุกอย่าง สามีมักไม่ไปทำ แต่มอบอำนาจให้เราไปทำแทน
ทั้งๆที่เราเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่มีสิทธิ์ทำอะไรได้เลย
ขอบคุณทุกคำแนะนำค่ะ