อยากขอสอบถามค่ะ เนื่องจากมีจดหมายแจ้งเรื่องฟ้องจากทางธนาคารค่ะ ว่าโดนฟ้องร่วมกับบัตรหลัก
ตอนนี้อายุ 24 ค่ะโดยบัตรที่ได้ ได้มาจากคุณน้าที่เค้าเคยทำไว้ให้ตั้งแต่ตอนยังอยู่ ม.ปลาย เพื่อให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน หรือเข้าโรงพยาบาล
โดยตั้งแต่ถือบัตรมา เคยใช้ 1 ครั้ง ยอดประมาณ หนึ่งพันบาท แล้วก็ไม่เคยใช้อีกเลยค่ะ
แล้วจู่ๆคุณปู่ก็ติดต่อมาว่ามีจดหมายฟ้องมา โดยวันที่ขึ้นศาลคือประมาณเดือนตุลาคมปีที่แล้ว แต่เรารู้เรื่องประมาณปลายๆปีเนื่องจากไปต่างประเทศมาค่ะ
ดังนั้นจึงทำให้ไม่ได้ขึ้นศาล เลยได้ติดต่อกลับไปทางเบอร์ที่เค้าลงไว้ในจดหมาย เค้าแจ้งว่าติดต่อเจ้าของบัตรไม่ได้ เลยต้องฟ้องเราร่วมด้วยเนื่องจากมียอดใช้ โดยยอดทั้งหมดที่ติดหนี้ประมาณสองแสนบาทค่ะ โดยเค้าให้พยายามติดต่อเจ้าของบัตรให้มาจัดการ
แต่เราย้ายออกมาแล้ว แล้วก็ไม่ได้ติดต่อกันมานานมากแล้วค่ะ เราเลยฝากญาติไปแจ้งเค้าแทน แล้วเห็นว่าทางเจ้าหนี้ไม่ได้ติดต่อเรามาอีก
เลยเข้าใจว่าเค้าตกลงกันเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อสองวันที่ผ่านมาเค้าติดต่อมาค่ะว่าพิพากษาแล้ว
โดยเราต้องใช้หนี้ร่วมกับเจ้าของบัตรเป็นจำนวนเงินสองแสนกว่าบาท
เราก็เลยถามว่าเราจ่ายหนี้ส่วนที่เป็นในบัตรเสริมไม่ได้หรอ เค้าก็แจ้งว่าไม่ได้ เราเลยถามว่าถ้าอยากให้เรื่องจบไม่ต้องยุ่งกับเราอีกจะทำยังไง
เค้าก็แจ้งว่าต้องใช้หนี้ทั้งหมด หรือหากไม่ใช้หนี้จะหักเงินเดือน โดยถ้าหักจากคนแรกไม่ได้ ก็จะมาหักจากจำเลยที่ 2 ซึ่งก็คือเราแทน
เราเลยอยากสอบถามค่ะว่ามีใครพอจะให้คำปรึกษาได้มั้ยคะว่าเราควรจะต้องทำอย่างไร เพราะเราก็ไม่ได้ใช้บัตรของเค้าเลย โดยยอดที่เคยรูด 1 ครั้งก็เป็นยอดที่เค้าให้เราซื้อของไปให้โดยใช้บัตรนี้ค่ะ เราก็ไม่อยากจ่าย เพราะพึ่งทำงานมา แล้วโดยปกติเรามักจะพยายามทำทุกทางเพื่อไม่ให้มีหนี้เลย
เราเลยเครียดมากค่ะ ว่าสุดท้ายแล้วเค้าจะสามารถมาหักเงินเดือนของเราได้จริงมั้ยคะ เพราะเท่าที่เรารู้มาคือจำเลยที่ 1 ไม่ได้ทำงานมานานแล้วค่ะ ดังนั้นอาจจะไม่มีให้หัก แล้วเราควรจะทำยังไงให้เรื่องจบโดยมีผลกระทบกับตัวเราน้อยที่สุดคะ เพราะยอดก็ไม่ใช้น้อยๆ หากยอดหลักหมื่นหรือสองหมื่น เราอาจจะยอมๆจ่ายให้ได้เพื่อให้จบ แต่ยอดตั้งสองแสน แถมเป็นหนี้ที่เราไม่ได้ก่อ เราก็ไม่อยากชดใช้ แล้วก็ไม่ไหวด้วยค่ะ
รบกวนขอคำปรึกษาด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
เป็นบัตรเสริมแต่โดนฟ้องร่วมกับบัตรหลักค่ะ เกี่ยวกับเรื่องบัตรเครดิต
ตอนนี้อายุ 24 ค่ะโดยบัตรที่ได้ ได้มาจากคุณน้าที่เค้าเคยทำไว้ให้ตั้งแต่ตอนยังอยู่ ม.ปลาย เพื่อให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน หรือเข้าโรงพยาบาล
โดยตั้งแต่ถือบัตรมา เคยใช้ 1 ครั้ง ยอดประมาณ หนึ่งพันบาท แล้วก็ไม่เคยใช้อีกเลยค่ะ
แล้วจู่ๆคุณปู่ก็ติดต่อมาว่ามีจดหมายฟ้องมา โดยวันที่ขึ้นศาลคือประมาณเดือนตุลาคมปีที่แล้ว แต่เรารู้เรื่องประมาณปลายๆปีเนื่องจากไปต่างประเทศมาค่ะ
ดังนั้นจึงทำให้ไม่ได้ขึ้นศาล เลยได้ติดต่อกลับไปทางเบอร์ที่เค้าลงไว้ในจดหมาย เค้าแจ้งว่าติดต่อเจ้าของบัตรไม่ได้ เลยต้องฟ้องเราร่วมด้วยเนื่องจากมียอดใช้ โดยยอดทั้งหมดที่ติดหนี้ประมาณสองแสนบาทค่ะ โดยเค้าให้พยายามติดต่อเจ้าของบัตรให้มาจัดการ
แต่เราย้ายออกมาแล้ว แล้วก็ไม่ได้ติดต่อกันมานานมากแล้วค่ะ เราเลยฝากญาติไปแจ้งเค้าแทน แล้วเห็นว่าทางเจ้าหนี้ไม่ได้ติดต่อเรามาอีก
เลยเข้าใจว่าเค้าตกลงกันเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อสองวันที่ผ่านมาเค้าติดต่อมาค่ะว่าพิพากษาแล้ว
โดยเราต้องใช้หนี้ร่วมกับเจ้าของบัตรเป็นจำนวนเงินสองแสนกว่าบาท
เราก็เลยถามว่าเราจ่ายหนี้ส่วนที่เป็นในบัตรเสริมไม่ได้หรอ เค้าก็แจ้งว่าไม่ได้ เราเลยถามว่าถ้าอยากให้เรื่องจบไม่ต้องยุ่งกับเราอีกจะทำยังไง
เค้าก็แจ้งว่าต้องใช้หนี้ทั้งหมด หรือหากไม่ใช้หนี้จะหักเงินเดือน โดยถ้าหักจากคนแรกไม่ได้ ก็จะมาหักจากจำเลยที่ 2 ซึ่งก็คือเราแทน
เราเลยอยากสอบถามค่ะว่ามีใครพอจะให้คำปรึกษาได้มั้ยคะว่าเราควรจะต้องทำอย่างไร เพราะเราก็ไม่ได้ใช้บัตรของเค้าเลย โดยยอดที่เคยรูด 1 ครั้งก็เป็นยอดที่เค้าให้เราซื้อของไปให้โดยใช้บัตรนี้ค่ะ เราก็ไม่อยากจ่าย เพราะพึ่งทำงานมา แล้วโดยปกติเรามักจะพยายามทำทุกทางเพื่อไม่ให้มีหนี้เลย
เราเลยเครียดมากค่ะ ว่าสุดท้ายแล้วเค้าจะสามารถมาหักเงินเดือนของเราได้จริงมั้ยคะ เพราะเท่าที่เรารู้มาคือจำเลยที่ 1 ไม่ได้ทำงานมานานแล้วค่ะ ดังนั้นอาจจะไม่มีให้หัก แล้วเราควรจะทำยังไงให้เรื่องจบโดยมีผลกระทบกับตัวเราน้อยที่สุดคะ เพราะยอดก็ไม่ใช้น้อยๆ หากยอดหลักหมื่นหรือสองหมื่น เราอาจจะยอมๆจ่ายให้ได้เพื่อให้จบ แต่ยอดตั้งสองแสน แถมเป็นหนี้ที่เราไม่ได้ก่อ เราก็ไม่อยากชดใช้ แล้วก็ไม่ไหวด้วยค่ะ
รบกวนขอคำปรึกษาด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ